ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตื่นเถอะองค์หญิง...
                    กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว.....มีเจ้าหญิงและเจ้าชาย อาศัยอยู่ ในอาณาจักรแห่งหนึ่ง เจ้าหญิงนิ้วก้อยเป็นเจ้าหญิงตัวเล็กๆ หัวหยิกๆ ฟู แถมยังเอาแต่ใจตัวเองอีกตังหาก รอคอยอยู่บนหอคอยปราสาทที่มีมังกรสีดำตัวมหึมาที่พ่นไฟได้พิทักษ์อยู่ ป้องกันไม่ให้ใครมาชิงตัวเจ้าหญิงงี่เง่าคนนี้ไปได้
   
   
แต่ยังดีที่มีเจ้าชายนิ้วโป้งรูปงามองค์หนึ่ง  จากเมืองข้างๆได้เดินทาง ข้ามเมืองมาเฉยๆ เพื่อมาช่วยเจ้าหญิง แสนงี่เง่า ที่ถูก พระบิดา ของเทอจับไปขังอยู่บนยอดหอคอย เพื่อที่จะพิสูจณ์ ฝีมือเจ้าชายจากเมืองต่างๆ ว่าใครที่คู่ควรจะครอบครองเทอ
   
   
แล้ววันหนึ่ง....เจ้าชายนิ้วโป้งผู้มีนัยน์ตาคมเข้มส่อประกายอาจหาญเยี่ยงนักสู้ ใส่ชุดเกราะสีเงินพร้อมสะพายดาบคู่เล่มใหญ่อยู่ที่กลางหลังได้มาปรากฏกายอยู่เบื้องหน้าหอคอยพร้อมม้าขาวมีปีกคู่ใจ เจ้าชายทะยานตัวขึ้นไปพร้อมปีกาซัส ชักดาบคู่หมายที่จะฟาดฟันเจ้ามังกรดำ การต่อสู้ที่ดุเดือดจึงได้เริ่มขึ้น
   
เจ้ามังกรดำมีแววตาดุดันกำลังโกรธจัด มันบินวนไปรอบๆหอคอยปราสาท“ฟู่ ฟู่” เสียงหายใจอย่างรุนแรงของเจ้ามังกร ที่กำลังพ่นไฟสีแดงเพลิง ประทะกับเจ้าชายนิ้วโป้ง เจ้าชายใช้ดาบต้านพลังไฟนั้นไว้ พร้อมตะโกนลั่นสั่งม้าขาวคู่ใจให้พุ่งไปข้างหน้า ด้วยด้วยความเร็วสูง หวังพิชิตเจ้าอสูรร้ายที่อยู่ตรงหน้า ภายในดาบเดียว
   
มันคงไม่ง่ายอย่างที่เจ้าชายคิด เจ้ามังกรยักษ์ เบี่ยงตัวหลบด้วยความว่องไว หลังจากที่ ผ่านศึกมามากมาย จากเจ้าชายที่พยายามมาครอบครองเจ้าหญิงงี่เง่า คนนี้
   
เจ้าชายเลือดฉีดพล่านขึ้นหน้าจนถึงขีดสุด ท่าไม้ตายที่อุตส่าห์ฝึกฝน มาเป็นปีปี ผ่านความอดกลั้นอดทนมามากมาย เจ้ามังกรกลับหลบไปได้อย่างหน้าตาเฉย
ท้องฟ้ากำลังมืดครึ้ม หยาดฝนเริ่มไหลรินลงมาจากท้องฟ้า อย่างจงใจ บาดแผลที่เกิดจากการสู้รบของเจ้าชาย เมื่อโดนน้ำฝนเข้าจึงแสบไปทั้งตัว เจ้ามังกรก็เช่นกันบาดแผลของมันที่มีร่องรอยผ่านการต่อสู้จากเมื่อวานมา จากเจ้าชายองค์หนึ่งที่โดนย่างสด โดยฝีมือของมัน ก็ปวดแสบปวดร้อนขึ้นมาทันที มันตะโกนร้องออกมา ด้วยความเจ็บแค้น
มันกำลังคลั่งพ่นไฟไปทุกทิศทุกทาง เจ้าชายนิ้วโป้ง ได้แต่หลบไปหลบมาไม่สามารถ เข้าไปใกล้มังกรร้ายได้ สายฟ้าสายหนึ่งฟาดลงมาจากฟากฟ้าประทะกับยอดหอคอยที่สูงตระหง่าน ทำให้เกิดเสียงดังเปรี้ยง!!!
 
สายตาหนึ่งบนหน้าต่างหอคอยที่อยู่เหนือสุดของปราสาท เจ้าหญิงแสนงี่เง่าก็ค่อยๆ ชำเลืองตาอย่างตื่นเต้น มองผ่านสายฝนที่กำลังโหมกระหน่ำาลงมาจาก บานหน้าต่าง เทอมองไปที่เจ้าชาย นิ้วโป้งคุงที่ตอนนี้ดูสะบักสะบอม ไม่ทิ้งมาดเจ้าชายให้เห็นอีก
และแล้วเจ้าชายก็พลาดท่าเสียที!!!..............
แง็ก!.........
“ง่า....เจ้าชายพลาดท่าเสียที พลาดท่าเสียที งึม งำ.....” สาวน้อยหน้าใสกำลังบ่นพึมพำ  อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ “แต่งต่อไม่ได้ซักที ชั้นนี่ไม่มีหัวทางด้านนี้จิงๆเน้อ...”แล้วเจ้าชายนิ้วโป้งคุงของฉาน จะทำยังไงต่อไปดีน๊า.....นี่ฉันคิดอะไรไม่ออกแล้ว เวงกำจิงๆนี่ฉานต้องมานั่งเขียนนิยายที่ยังไม่จบอีกนานแค่ไหนเงี่ย
ยิ่งคิดยิ่งคิดเท่าไหร่สาวน้อยหน้าตาเริ่มแหยขึ้น ทำไมมันน่าเศร้าใจอย่างนี้ ไม่เห็นมีครายมาเม้นให้กำลังใจ ฉานซ๊าก...คน สำหรับนักเขียนหน้าใหม่อย่างฉาน โลกนี้มันช่างโหดร้ายเกินไปเจงๆ สำหรับสาวน้อยหน้าใสคนนี้ การเรียนของชั้นก็ดีเลิศ นี่ก็ใกล้จะสอบเข้ามหาลัยละ หนังสือหนังหาก็อ่านท่องจำได้จนขึ้นใจ
อ๊ะ อันนี้มันก็แน่นอน ก็ฉันมันอฉริยะหน้าใสอยู่แล้วหนิ
   
ว่าแล้วสาวน้อยหน้าใส ตาตี่ หุ่นเรียวบาง ตัวเล็กจะว่าเตี้ยก็ได้ ก็ลุกจากเก้าอี้ เทอทำหน้างัวเงียเหมือนคนเพิ่งตื่น เทอใส่เสื้อยืดที่ดูตัวใหญ่กว่าตัวมากนัก ยืนโงนเงนอยู่ข้างหน้าจอคอมพิวเตอร์
   
“นอนดีกว่า” ฉันไม่ไหวแล้วชั้นไม่ได้นอนมาหนึ่งคืนเต็มๆแล้ว มัวแต่นั่งเล่าการเดินทาง ของเจ้านิ้วโป้งที่มันไม่มีอะไรเลย แค่เดินทางข้ามเมืองมาช่วยเจ้าหญิงแค่เนี๊ย ก็ฉันคิดอะไรไม่ออกแล้วจริงๆนี่นา เรื่องแรกก็เลยอยากให้เจ้าชายเจออันตรายน้อยๆหน่อยน่ะ
   
คิดไปก็เท่านั้น สาวน้อยทิ้งร่างบางๆลงบนฟูก ที่เต็มไปด้วยตุ๊กตา ดวงตาดวงเล็กๆของเทอกำลังหรี่ลงอย่างช้าๆ ภายใต้แสงสว่างจากหลอดไฟนีออน ที่อยู่กลางห้อง
   
เสียงของพิณอันไพเราะ กำลังขับกล่อมลำเนาอยู่ในโสดประสาทของสาวน้อย เทอค่อยๆเคลิบเคลิ้มตาม เสียงพิณ เสียงพิณที่สัมผัสได้ถึงพลังลึกลับบางอย่าง แต่ก็แฝงไปด้วยความอบอุ่น ที่ทำให้จิตใจของเทอ ล่องลอยไปไกลแสนไกล............ 
“องค์หญิง องค์หญิง ตื่นจากบรรทมได้แล้วกระหม่อม”เสียงกระหึ่มดังขึ้น มากระทบสาวน้อยที่คิดว่าตัวเองกำลังฝันดี
   
“ง่า...ใครน่ะ ใครเป็งองค์หญิงกันน่ะ ชั้นยังไม่อยากตื่นเลยนี่มันกี่โมงกี่ยามเอง” เสียงสาวน้อยขี้เซา กำลังบิดตัว ไปมาหวังจะหลีกเลี่ยงเสียงคนพูด
   
“องค์หญิง เจ้าชายมาแล้ว!!” เสียงเดิมดังขึ้นอีก
   
“แง่งๆ! จาอารัยกานนักกันหนานะ ก็ชั้นยังไม่อยากตื่นหนิ” เทอทำหน้าขึงขังโวยวาย สายตาเทอกำลังค้นหา เสียงที่ปลุกเทอขึ้นจากการนอนหลับใหล
เทอตกใจสุดขีด!! เทอพบมังกรดำเพศผู้ตัวหนึ่ง มันกำลังยื่นหน้าเข้ามาทางหน้าต่าง นี่ฉานกำลังฝันไปแน่ๆ! ชั้นคงเขียนเรื่องเจ้านิ้วโป้งมากไปหน่อย เทอยกมือที่เรียวบางขึ้น
“เพลี๊ย! เพลี๊ย!”โอ๊ยยยยยยยย!เจ็บนะเนี่ย
“แงแงเจ็บ เจ็บ ฉานกามลังทำอารัยอยู่ ทำไมมันเถิงไม่ตื่นล่ะ นี่มันไม่ใช่ความฝันหรือไงกัน นี่ก็ไม่ใช่ห้องนอนของฉัน แถมฉานยังใส่ชุดบ้าอะไรอยู่ซักอย่าง”
มันเป็นชุดราตรีสีขาวแบบเปิดไหล่มีไข่มุก ประดับล้อมรอบไปด้วยเพชรพลอยสีต่างๆ ที่ถูกจัดเรียงกันอย่างมีระเบียบ
“ทำไมบนหัวของชั้นถึงหนักอย่างนี้”มีบางอย่างสวมอยู่บนหัว!! ฉันเอามือขึ้นไปสัมผัส วัตถุที่อยู่บนหัวมันคืออะไรกันแน่
“ง่ะมงกุฎ!” มันมาอยู่บนหัวฉานได้งัย?  สาวน้อยหน้าใสหรี่ตาทำหน้างงๆ เทอคาดการณ์ไม่ได้กับ เรื่องราวที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้เรื่องรู้ราวกับเค้า อะไร ด้วยเลย
“องค์หญิง....มีเจ้าชายต่างเมืองมาอีกแล้ว จะให้หม่อมฉัน กำจัดเลยหรือไม่” เสียงจากเจ้ามังกรดำ ถามเพื่อรอรับคำสั่งจากผู้เป็นนาย
“เจ้าชาย.....ใคร! เจ้าชายที่ไหนเค้ามา มาทำไม” ตอนนี้ชั้นควบคุมสติตัวเองไม่อยู่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น ฉันเป็นเจ้าหญิง เจ้าหญิงที่ไหน! แล้วเจ้ามังกรมันเกี่ยวอะไรกับฉาน งงจะแย่อยู่แล้ว
“ทรงทอดพระเนตร ดูเองเถอะกระหม่อม”เจ้ามังกรพูดอย่างเซ็งๆ แล้วหดหน้ากลับไปนอกหน้าต่าง
สาวน้อยเริ่มรู้สึกสบายใจมากขึ้น อย่างน้อยตอนนี้เทอก็ได้รู้แล้วว่า เจ้ามังกรดำ มันญาติดีด้วย เทอลุกขึ้นจากเตียงไม้ผุผุ แล้วเดินตรงออกไปที่ขอบหน้าต่าง
“โห!! นี่มันอะไรกัน สูงจังทำไมมันถึงสูงขนาดนี้” นี่ฉานกำลังอยู่ บนยอดปราสาท  ทิวทัศน์ข้างนอก ท้องฟ้า มีก้อนเมฆที่สดใสสีขาวนวล มองไปไกลสุดลูกหูลูกตาก็มีแต่ป่า กับเจ้ามังกรดำหนึ่งตัว เทอเหลือบสายตาเพ่งลงไปข้างล่าง ดวงตาดวงเล็กๆกำลังหรี่ลง หวังเพียงจะมองบุรุษที่อยู่ ข้างล่างให้ชัด
บุรุษข้างล่างเดินทางมากับ นกยักษ์ตัวหนึ่งสีน้ำาตาลที่เจ้าตัวกำลังขี่มันอยู่ และมีพลธนูที่ติดตามบุรุษผู้นั้นมาด้วย หนึ่งกองทัพ   
“นั่นคือเจ้าชาย วิดเลอร์” เสียงเจ้ามังกรพูดอย่างเอื่อยๆ
“อะไรกันตาลุงพุงโย้ที่ขี่นกยักษ์นั่นอ่ะนะเจ้าชาย” เทอไม่เคยคิดเคยฝันมาก่อนว่า เจ้าชายของเทอจะเป็นตาลุงหน้าตาค่อนข้างโรคจิต ที่ยกกองทัพทั้งกองทัพหวังเพื่อจะมาชิงเทอ
“ฉานไม่เล่นด้วยคนอ่ะ” สาวน้อยส่ายหน้าพึมพำปฎิเสธ ก็ฉานรับตาลุงนั่นมาเป็งสามีไม่ได้จิงๆนี่นา เรื่องอายุก็ต่างกันแล้ว ไหนจะเรื่องช่องว่างความห่างระหว่างอายุ ช่องว่างระหว่างวัย .............
สาวน้อยยืนบ่นอยู่ที่ขอบหน้าต่าง ทันใดนั้น!
“องค์หญิงหลบเข้าไปข้างใน!!”เจ้ามังกรดำตะโกนอย่างสุดเสียง ลูกธนูห่าใหญ่ถูกส่งขึ้นมาจากบนพื้นดิน เจ้ามังกรบินอ้อมลูกธนูอย่างรวดเร็ว มันกำลังถลาโฉบ ลงไปข้างล่าง หลบลูกธนู พร้อมปล่อยเปลวไฟสีแดงสด ออกมาเผาทำลายศัตรูที่อยู่เบื้องหน้า
เจ้าชายวิดเลอร์ ไม่รอช้า ทะยานตัวพร้อมร่างกายอันหนักหน่วงไปด้วยไขมัน ที่พยายามทรงตัวอยู่บนนกยักษ์ ไปพร้อมกับลูกธนูที่กำลังส่งขึ้นไปหาเจ้ามังกรในระลอกที่สอง ทวนเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นในมือของวิดเลอร์
พุ่งไปหาเจ้ามังกรดำ
   
เจ้ามังกรดำหลบได้อย่างเฉียดฉิว ไม่ทันไรทวนอีกเล่มก็พุ่งมา เป็นครั้งที่สอง คราวนี้เจ้ามังกรดำ พลาดท่าเสียที โดนทวนปักอยู่ที่กลางหน้าอก เจ้ามังกรลอยนิ่งอยู่กลางอากาศ
   
“ตายเสียเถอะเจ้าปีศาจ” เสียงจากเจ้าชายที่กำลังฮึกเหิมในการสู้รบครั้งนี้ ตะโกนอย่างกึกก้องไปทั่วทั้งสนามรบ
พลธนูที่อยู่เบื้องล่างกำลัง เตรียมตัวง้างคันธนู ที่จะเตรียมยิงในระลอกต่อไป ควบคุมโดยแม่ทัพ ที่ใส่หน้ากากเหล็กร่างกายมหึมา
“เตรียมยิง”.................
“ยิงได้!!!” เสียงคำรามของแม่ทัพใหญ่แห่งกองทัพ กำลังสั่งการ แต่ก็ต้องหยุดชงักด้วยเสียงๆหนึ่ง
“กี๊ด!!!ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”เสียงองค์หญิง ที่ทุกคนแสนจะปรารถนา ดังลั่นออกมาจากห้อง  สายตาทุกคู่กำลังจับจ้องมาที่ ต้นตอของเสียงนั้น
ในระหว่างที่ทุกคนกำลังตกตะลึง เจ้ามังกรก็ได้โอกาสดึงทวนที่ปักอยู่กลางหน้าอก ออก แล้วบินไปเกาะอยู่ที่ยอดหอคอย
เจ้าชายวิดเลอร์ได้ทะยานตัวพร้อมเจ้านกยักษ์ ตามเจ้ามังกรขึ้นมา  ตอนนี้เจ้าชาย ได้มาหยุดอยู่ข้างหน้าองค์หญิง
“โอ้โห! องค์หญิงของข้าทำไมน่าหม่ำขนาดนี้ ข้าจะสถาปณาท่านเป็นอนุ คนที่ยี่สิบแปดของข้า”เสียงของเจ้าชาย พูดออกมาตามประสาของคนไม่กลัวตาย ที่ไม่รู้ว่าชะตาตัวเองกำลังจะขาด
“ไปตายซะเถอะแก เจ้าโรลิคอน! อย่ามาพูดจาน่าเกรียจใส่ชั้นนะ” เสียงใสใสที่ปนไปด้วย ความโกรธแค้น ที่อยากจะกระโดดต่อยเจ้าชายปากเสียที่ อยู่ตรงหน้าเหลือเกิน
ไม่มีใครได้ทันสังเกต ตอนนี้เจ้ามังกรดำ ที่เกาะอยู่บนยอดหอคอยได้หายไปเสียแล้ว เจ้าชายกำลังร้อนรน ทั้งความโกรธที่ถูกสาวน้อย ดุด่าว่าอะไรก็ไม่รู้ ที่แปลไม่ออก แถมทั้งยังศัตรูที่เพิ่งขับเขี้ยวกันมาเมื่อกี๊ ยังหายไปอีก
ทันใดนั้น! ชายหนุ่มรูปงามหน้าตาคมเข้มแววตาดุดันที่ดูดูแล้วยังไง อายุก็ไม่น่าจะห่างกับเทอมากนัก ตัวใหญ่กว่าเทอนิดหน่อย ในเสื้อคลุมสีดำ
กระโดดลงมาใช้หมัดรุ่นๆซัดเจ้าชาย พุงโตที่อยู่บนนกยักษ์ เจ้าชายกำลังโงนเงนทรงตัวไม่อยู่ ด้วยน้ำหนักตัวที่มาก ตอนนี้เจ้าชายกำลังจะเสียหลัก กำลังลื่นไถลลงไปตามปีกของเจ้านกยักษ์ บุรุษในชุดคลุมสีดำ ใช้เท้ากระโดดถีบเจ้าชาย ใช้เป็นฐานเพื่อลอยตัวสูงขึ้นไปเกาะขอบริมหน้าต่างของหอคอย
เจ้าชายกำลังล่วงลงไปยังพื้นเบื้องล่าง เจ้านกยักษ์เห็น ผู้เป็นนายกำลังล่วง มันจึงโฉบตัวลงไปอย่างรวดเร็ว ไปรองรับเจ้าชายที่กำลังลอยตัวอยู่ในอากาศ “ปั๊ก!” เสียงกระแทกอย่างแรงที่กลางหลังของเจ้านกยักษ์
เจ้าชาย ตัวอ้วนกำลังสลบอยู่บนหลังเจ้านกยักษ์
   
   
“แกว๊ก แกว๊ก!!” เจ้านกยักษ์ร้องเสียงดังลั่น ทั้งคนทั้งนกล่วงไปข้างล่างตกลงสู่กลางกองทัพ โดยที่มี พลทหารผู้โชคร้าย ที่หลบไม่ทันถูกเจ้านกยักษ์ หล่นลงมาทับแบนติดกับพื้นดิน
   
ชายในชุดผ้าคลุมดำ ที่กำลังดูภาพความโกลาหลข้างล่าง ได้เหลือบสายตาที่ดุดัน มองมาทางองค์หญิงปากร้าย เขากระโจนตัวขึ้นจากขอบหน้าต่าง เข้าไปในห้อง ขององค์หญิง!   
“แล้วนายเป็นใครกันโผล่มาจากไหนอีกล่ะทีนี้!!” เสียงโหวกเหวก จากองค์หญิงที่จะพยายามปลงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ก็ปลงไม่ได้ซักที
“องค์หญิง ไปกับหม่อมฉัน!” ชายหนุ่มที่ตัวไม่ใหญ่กว่ามากนัก กระชากร่างสาวน้อย มาอยู่ในกำมือ แล้วพากระโดดออกนอกหน้าต่าง ที่สูงลิ๊บ
“กี๊ด!!ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” เสียงแหลมๆของสาวน้อยดังลั่นขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เทอกอด บุรุษที่โอบเอวเทออย่าง หนาแน่น เทอทำได้เพียงหลับตาปี๋ คิดในใจอย่างเดียว “ช้านตายแน่!!”
ทันใดนั้น ปีกสีดำสนิทที่ใหญ่มหึมา ก็กางพรึ๊บ! ขึ้นมากลางหลังบุรุษลึกลับเส้นผมสีดำสนิทกำลังพลัดพลิ้วอยู่บนใบหน้าของชายหนุ่มตามลม ตอนนี้ความเสียววาบได้หายไปจากใจแล้ว องค์หญิงตัวน้อย กำลัง นิ่งเงียบสงบทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใหม่ทั้งหมดตั้งแต่ต้น ในอ้อมกอดของชายแปลกหน้า ที่กำลังพาเทอบิน ไกลออกมาจากปราสาท
   
“นายเป็นใครกันน่ะ? แล้วเรากำลังจะไปที่ไหนกัน” เสียงใสๆดังขึ้น เป็นเรื่องแปลกที่ฉานไม่รู้สึก หวาดกลัวบุรุษที่อยู่ตรงหน้าเลยแม้แต่น้อยนิด กลับสัมผัสได้ถึง ความรู้สึกที่รู้สึกอบอุ่น
   
“ขออภัยด้วยองค์หญิง หม่อมฉันคือเจ้ามังกรดำ ที่เป็นองค์รักษ์ของท่าน และตอนนี้เรากำลังเดินทางไป ที่ประตู ซีโฮเนีย ดูเหมือนว่าองค์หญิงกำลังสับสนกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น” เจ้ามังกรดำในร่างชายหนุ่มมีปีกสีดำ อายุไร่เรี่ยไม่น่าจะห่างกับเทอมากนักพูดขึ้นก่อนอย่างรู้ทัน
.
“ไว้ไปถึงประตูแห่ง ซีโฮเนียเมื่อไหร่แล้วท่านจะเข้าใจเอง ที่นั่นมีใครบางคนกำลังคอยท่านอยู่”           
“แล้วช้านทำไมต้องไปพบคน แปลกหน้าที่ชั้นไม่รู้จักด้วยล่ะ” เสียงสาวน้อยบ่นพึมพำ แต่ก็ดีเหมือนกัน อาจะมีอะไรกระจ่างขึ้นมาบ้าง
“แง่ง....แง่ง...แต่ตอนนี้ช้านไม่อยาก ห้อยโตงเตง อยู่อย่างนี้นี่นา ชั้นลงไปได้เมื่อไหร่นะคอยดู” สาวน้อยหน้าใส ส่งเสียงคาดโทด โหวกเหวกอยู่ ข้างๆหูหนุ่มน้อยหน้าดุที่ไม่มีทีท่า ว่าจะชี้แจงอะไร
   
และแล้วเวลาก็ดำเนินผ่านไปอย่างช้าๆ โดยไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า เหตุการณ์ข้างหน้าจะเป็งอย่างไร ตะวันสีแดงๆ ตรงขอบฟ้า กำลังจะลาลับ และอีกไม่นานนัก ท้องฟ้าคงจะมืดสนิทลง
แล้วช้านจะทำอย่างไรต่อไปดี....................................   
   
 
       
       
 
   
   
   
   
   
   
   
   
   
   
   
แต่ยังดีที่มีเจ้าชายนิ้วโป้งรูปงามองค์หนึ่ง  จากเมืองข้างๆได้เดินทาง ข้ามเมืองมาเฉยๆ เพื่อมาช่วยเจ้าหญิง แสนงี่เง่า ที่ถูก พระบิดา ของเทอจับไปขังอยู่บนยอดหอคอย เพื่อที่จะพิสูจณ์ ฝีมือเจ้าชายจากเมืองต่างๆ ว่าใครที่คู่ควรจะครอบครองเทอ
   
   
แล้ววันหนึ่ง....เจ้าชายนิ้วโป้งผู้มีนัยน์ตาคมเข้มส่อประกายอาจหาญเยี่ยงนักสู้ ใส่ชุดเกราะสีเงินพร้อมสะพายดาบคู่เล่มใหญ่อยู่ที่กลางหลังได้มาปรากฏกายอยู่เบื้องหน้าหอคอยพร้อมม้าขาวมีปีกคู่ใจ เจ้าชายทะยานตัวขึ้นไปพร้อมปีกาซัส ชักดาบคู่หมายที่จะฟาดฟันเจ้ามังกรดำ การต่อสู้ที่ดุเดือดจึงได้เริ่มขึ้น
   
เจ้ามังกรดำมีแววตาดุดันกำลังโกรธจัด มันบินวนไปรอบๆหอคอยปราสาท“ฟู่ ฟู่” เสียงหายใจอย่างรุนแรงของเจ้ามังกร ที่กำลังพ่นไฟสีแดงเพลิง ประทะกับเจ้าชายนิ้วโป้ง เจ้าชายใช้ดาบต้านพลังไฟนั้นไว้ พร้อมตะโกนลั่นสั่งม้าขาวคู่ใจให้พุ่งไปข้างหน้า ด้วยด้วยความเร็วสูง หวังพิชิตเจ้าอสูรร้ายที่อยู่ตรงหน้า ภายในดาบเดียว
   
มันคงไม่ง่ายอย่างที่เจ้าชายคิด เจ้ามังกรยักษ์ เบี่ยงตัวหลบด้วยความว่องไว หลังจากที่ ผ่านศึกมามากมาย จากเจ้าชายที่พยายามมาครอบครองเจ้าหญิงงี่เง่า คนนี้
   
เจ้าชายเลือดฉีดพล่านขึ้นหน้าจนถึงขีดสุด ท่าไม้ตายที่อุตส่าห์ฝึกฝน มาเป็นปีปี ผ่านความอดกลั้นอดทนมามากมาย เจ้ามังกรกลับหลบไปได้อย่างหน้าตาเฉย
ท้องฟ้ากำลังมืดครึ้ม หยาดฝนเริ่มไหลรินลงมาจากท้องฟ้า อย่างจงใจ บาดแผลที่เกิดจากการสู้รบของเจ้าชาย เมื่อโดนน้ำฝนเข้าจึงแสบไปทั้งตัว เจ้ามังกรก็เช่นกันบาดแผลของมันที่มีร่องรอยผ่านการต่อสู้จากเมื่อวานมา จากเจ้าชายองค์หนึ่งที่โดนย่างสด โดยฝีมือของมัน ก็ปวดแสบปวดร้อนขึ้นมาทันที มันตะโกนร้องออกมา ด้วยความเจ็บแค้น
มันกำลังคลั่งพ่นไฟไปทุกทิศทุกทาง เจ้าชายนิ้วโป้ง ได้แต่หลบไปหลบมาไม่สามารถ เข้าไปใกล้มังกรร้ายได้ สายฟ้าสายหนึ่งฟาดลงมาจากฟากฟ้าประทะกับยอดหอคอยที่สูงตระหง่าน ทำให้เกิดเสียงดังเปรี้ยง!!!
 
สายตาหนึ่งบนหน้าต่างหอคอยที่อยู่เหนือสุดของปราสาท เจ้าหญิงแสนงี่เง่าก็ค่อยๆ ชำเลืองตาอย่างตื่นเต้น มองผ่านสายฝนที่กำลังโหมกระหน่ำาลงมาจาก บานหน้าต่าง เทอมองไปที่เจ้าชาย นิ้วโป้งคุงที่ตอนนี้ดูสะบักสะบอม ไม่ทิ้งมาดเจ้าชายให้เห็นอีก
และแล้วเจ้าชายก็พลาดท่าเสียที!!!..............
แง็ก!.........
“ง่า....เจ้าชายพลาดท่าเสียที พลาดท่าเสียที งึม งำ.....” สาวน้อยหน้าใสกำลังบ่นพึมพำ  อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ “แต่งต่อไม่ได้ซักที ชั้นนี่ไม่มีหัวทางด้านนี้จิงๆเน้อ...”แล้วเจ้าชายนิ้วโป้งคุงของฉาน จะทำยังไงต่อไปดีน๊า.....นี่ฉันคิดอะไรไม่ออกแล้ว เวงกำจิงๆนี่ฉานต้องมานั่งเขียนนิยายที่ยังไม่จบอีกนานแค่ไหนเงี่ย
ยิ่งคิดยิ่งคิดเท่าไหร่สาวน้อยหน้าตาเริ่มแหยขึ้น ทำไมมันน่าเศร้าใจอย่างนี้ ไม่เห็นมีครายมาเม้นให้กำลังใจ ฉานซ๊าก...คน สำหรับนักเขียนหน้าใหม่อย่างฉาน โลกนี้มันช่างโหดร้ายเกินไปเจงๆ สำหรับสาวน้อยหน้าใสคนนี้ การเรียนของชั้นก็ดีเลิศ นี่ก็ใกล้จะสอบเข้ามหาลัยละ หนังสือหนังหาก็อ่านท่องจำได้จนขึ้นใจ
อ๊ะ อันนี้มันก็แน่นอน ก็ฉันมันอฉริยะหน้าใสอยู่แล้วหนิ
   
ว่าแล้วสาวน้อยหน้าใส ตาตี่ หุ่นเรียวบาง ตัวเล็กจะว่าเตี้ยก็ได้ ก็ลุกจากเก้าอี้ เทอทำหน้างัวเงียเหมือนคนเพิ่งตื่น เทอใส่เสื้อยืดที่ดูตัวใหญ่กว่าตัวมากนัก ยืนโงนเงนอยู่ข้างหน้าจอคอมพิวเตอร์
   
“นอนดีกว่า” ฉันไม่ไหวแล้วชั้นไม่ได้นอนมาหนึ่งคืนเต็มๆแล้ว มัวแต่นั่งเล่าการเดินทาง ของเจ้านิ้วโป้งที่มันไม่มีอะไรเลย แค่เดินทางข้ามเมืองมาช่วยเจ้าหญิงแค่เนี๊ย ก็ฉันคิดอะไรไม่ออกแล้วจริงๆนี่นา เรื่องแรกก็เลยอยากให้เจ้าชายเจออันตรายน้อยๆหน่อยน่ะ
   
คิดไปก็เท่านั้น สาวน้อยทิ้งร่างบางๆลงบนฟูก ที่เต็มไปด้วยตุ๊กตา ดวงตาดวงเล็กๆของเทอกำลังหรี่ลงอย่างช้าๆ ภายใต้แสงสว่างจากหลอดไฟนีออน ที่อยู่กลางห้อง
   
เสียงของพิณอันไพเราะ กำลังขับกล่อมลำเนาอยู่ในโสดประสาทของสาวน้อย เทอค่อยๆเคลิบเคลิ้มตาม เสียงพิณ เสียงพิณที่สัมผัสได้ถึงพลังลึกลับบางอย่าง แต่ก็แฝงไปด้วยความอบอุ่น ที่ทำให้จิตใจของเทอ ล่องลอยไปไกลแสนไกล............ 
“องค์หญิง องค์หญิง ตื่นจากบรรทมได้แล้วกระหม่อม”เสียงกระหึ่มดังขึ้น มากระทบสาวน้อยที่คิดว่าตัวเองกำลังฝันดี
   
“ง่า...ใครน่ะ ใครเป็งองค์หญิงกันน่ะ ชั้นยังไม่อยากตื่นเลยนี่มันกี่โมงกี่ยามเอง” เสียงสาวน้อยขี้เซา กำลังบิดตัว ไปมาหวังจะหลีกเลี่ยงเสียงคนพูด
   
“องค์หญิง เจ้าชายมาแล้ว!!” เสียงเดิมดังขึ้นอีก
   
“แง่งๆ! จาอารัยกานนักกันหนานะ ก็ชั้นยังไม่อยากตื่นหนิ” เทอทำหน้าขึงขังโวยวาย สายตาเทอกำลังค้นหา เสียงที่ปลุกเทอขึ้นจากการนอนหลับใหล
เทอตกใจสุดขีด!! เทอพบมังกรดำเพศผู้ตัวหนึ่ง มันกำลังยื่นหน้าเข้ามาทางหน้าต่าง นี่ฉานกำลังฝันไปแน่ๆ! ชั้นคงเขียนเรื่องเจ้านิ้วโป้งมากไปหน่อย เทอยกมือที่เรียวบางขึ้น
“เพลี๊ย! เพลี๊ย!”โอ๊ยยยยยยยย!เจ็บนะเนี่ย
“แงแงเจ็บ เจ็บ ฉานกามลังทำอารัยอยู่ ทำไมมันเถิงไม่ตื่นล่ะ นี่มันไม่ใช่ความฝันหรือไงกัน นี่ก็ไม่ใช่ห้องนอนของฉัน แถมฉานยังใส่ชุดบ้าอะไรอยู่ซักอย่าง”
มันเป็นชุดราตรีสีขาวแบบเปิดไหล่มีไข่มุก ประดับล้อมรอบไปด้วยเพชรพลอยสีต่างๆ ที่ถูกจัดเรียงกันอย่างมีระเบียบ
“ทำไมบนหัวของชั้นถึงหนักอย่างนี้”มีบางอย่างสวมอยู่บนหัว!! ฉันเอามือขึ้นไปสัมผัส วัตถุที่อยู่บนหัวมันคืออะไรกันแน่
“ง่ะมงกุฎ!” มันมาอยู่บนหัวฉานได้งัย?  สาวน้อยหน้าใสหรี่ตาทำหน้างงๆ เทอคาดการณ์ไม่ได้กับ เรื่องราวที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้เรื่องรู้ราวกับเค้า อะไร ด้วยเลย
“องค์หญิง....มีเจ้าชายต่างเมืองมาอีกแล้ว จะให้หม่อมฉัน กำจัดเลยหรือไม่” เสียงจากเจ้ามังกรดำ ถามเพื่อรอรับคำสั่งจากผู้เป็นนาย
“เจ้าชาย.....ใคร! เจ้าชายที่ไหนเค้ามา มาทำไม” ตอนนี้ชั้นควบคุมสติตัวเองไม่อยู่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น ฉันเป็นเจ้าหญิง เจ้าหญิงที่ไหน! แล้วเจ้ามังกรมันเกี่ยวอะไรกับฉาน งงจะแย่อยู่แล้ว
“ทรงทอดพระเนตร ดูเองเถอะกระหม่อม”เจ้ามังกรพูดอย่างเซ็งๆ แล้วหดหน้ากลับไปนอกหน้าต่าง
สาวน้อยเริ่มรู้สึกสบายใจมากขึ้น อย่างน้อยตอนนี้เทอก็ได้รู้แล้วว่า เจ้ามังกรดำ มันญาติดีด้วย เทอลุกขึ้นจากเตียงไม้ผุผุ แล้วเดินตรงออกไปที่ขอบหน้าต่าง
“โห!! นี่มันอะไรกัน สูงจังทำไมมันถึงสูงขนาดนี้” นี่ฉานกำลังอยู่ บนยอดปราสาท  ทิวทัศน์ข้างนอก ท้องฟ้า มีก้อนเมฆที่สดใสสีขาวนวล มองไปไกลสุดลูกหูลูกตาก็มีแต่ป่า กับเจ้ามังกรดำหนึ่งตัว เทอเหลือบสายตาเพ่งลงไปข้างล่าง ดวงตาดวงเล็กๆกำลังหรี่ลง หวังเพียงจะมองบุรุษที่อยู่ ข้างล่างให้ชัด
บุรุษข้างล่างเดินทางมากับ นกยักษ์ตัวหนึ่งสีน้ำาตาลที่เจ้าตัวกำลังขี่มันอยู่ และมีพลธนูที่ติดตามบุรุษผู้นั้นมาด้วย หนึ่งกองทัพ   
“นั่นคือเจ้าชาย วิดเลอร์” เสียงเจ้ามังกรพูดอย่างเอื่อยๆ
“อะไรกันตาลุงพุงโย้ที่ขี่นกยักษ์นั่นอ่ะนะเจ้าชาย” เทอไม่เคยคิดเคยฝันมาก่อนว่า เจ้าชายของเทอจะเป็นตาลุงหน้าตาค่อนข้างโรคจิต ที่ยกกองทัพทั้งกองทัพหวังเพื่อจะมาชิงเทอ
“ฉานไม่เล่นด้วยคนอ่ะ” สาวน้อยส่ายหน้าพึมพำปฎิเสธ ก็ฉานรับตาลุงนั่นมาเป็งสามีไม่ได้จิงๆนี่นา เรื่องอายุก็ต่างกันแล้ว ไหนจะเรื่องช่องว่างความห่างระหว่างอายุ ช่องว่างระหว่างวัย .............
สาวน้อยยืนบ่นอยู่ที่ขอบหน้าต่าง ทันใดนั้น!
“องค์หญิงหลบเข้าไปข้างใน!!”เจ้ามังกรดำตะโกนอย่างสุดเสียง ลูกธนูห่าใหญ่ถูกส่งขึ้นมาจากบนพื้นดิน เจ้ามังกรบินอ้อมลูกธนูอย่างรวดเร็ว มันกำลังถลาโฉบ ลงไปข้างล่าง หลบลูกธนู พร้อมปล่อยเปลวไฟสีแดงสด ออกมาเผาทำลายศัตรูที่อยู่เบื้องหน้า
เจ้าชายวิดเลอร์ ไม่รอช้า ทะยานตัวพร้อมร่างกายอันหนักหน่วงไปด้วยไขมัน ที่พยายามทรงตัวอยู่บนนกยักษ์ ไปพร้อมกับลูกธนูที่กำลังส่งขึ้นไปหาเจ้ามังกรในระลอกที่สอง ทวนเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นในมือของวิดเลอร์
พุ่งไปหาเจ้ามังกรดำ
   
เจ้ามังกรดำหลบได้อย่างเฉียดฉิว ไม่ทันไรทวนอีกเล่มก็พุ่งมา เป็นครั้งที่สอง คราวนี้เจ้ามังกรดำ พลาดท่าเสียที โดนทวนปักอยู่ที่กลางหน้าอก เจ้ามังกรลอยนิ่งอยู่กลางอากาศ
   
“ตายเสียเถอะเจ้าปีศาจ” เสียงจากเจ้าชายที่กำลังฮึกเหิมในการสู้รบครั้งนี้ ตะโกนอย่างกึกก้องไปทั่วทั้งสนามรบ
พลธนูที่อยู่เบื้องล่างกำลัง เตรียมตัวง้างคันธนู ที่จะเตรียมยิงในระลอกต่อไป ควบคุมโดยแม่ทัพ ที่ใส่หน้ากากเหล็กร่างกายมหึมา
“เตรียมยิง”.................
“ยิงได้!!!” เสียงคำรามของแม่ทัพใหญ่แห่งกองทัพ กำลังสั่งการ แต่ก็ต้องหยุดชงักด้วยเสียงๆหนึ่ง
“กี๊ด!!!ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”เสียงองค์หญิง ที่ทุกคนแสนจะปรารถนา ดังลั่นออกมาจากห้อง  สายตาทุกคู่กำลังจับจ้องมาที่ ต้นตอของเสียงนั้น
ในระหว่างที่ทุกคนกำลังตกตะลึง เจ้ามังกรก็ได้โอกาสดึงทวนที่ปักอยู่กลางหน้าอก ออก แล้วบินไปเกาะอยู่ที่ยอดหอคอย
เจ้าชายวิดเลอร์ได้ทะยานตัวพร้อมเจ้านกยักษ์ ตามเจ้ามังกรขึ้นมา  ตอนนี้เจ้าชาย ได้มาหยุดอยู่ข้างหน้าองค์หญิง
“โอ้โห! องค์หญิงของข้าทำไมน่าหม่ำขนาดนี้ ข้าจะสถาปณาท่านเป็นอนุ คนที่ยี่สิบแปดของข้า”เสียงของเจ้าชาย พูดออกมาตามประสาของคนไม่กลัวตาย ที่ไม่รู้ว่าชะตาตัวเองกำลังจะขาด
“ไปตายซะเถอะแก เจ้าโรลิคอน! อย่ามาพูดจาน่าเกรียจใส่ชั้นนะ” เสียงใสใสที่ปนไปด้วย ความโกรธแค้น ที่อยากจะกระโดดต่อยเจ้าชายปากเสียที่ อยู่ตรงหน้าเหลือเกิน
ไม่มีใครได้ทันสังเกต ตอนนี้เจ้ามังกรดำ ที่เกาะอยู่บนยอดหอคอยได้หายไปเสียแล้ว เจ้าชายกำลังร้อนรน ทั้งความโกรธที่ถูกสาวน้อย ดุด่าว่าอะไรก็ไม่รู้ ที่แปลไม่ออก แถมทั้งยังศัตรูที่เพิ่งขับเขี้ยวกันมาเมื่อกี๊ ยังหายไปอีก
ทันใดนั้น! ชายหนุ่มรูปงามหน้าตาคมเข้มแววตาดุดันที่ดูดูแล้วยังไง อายุก็ไม่น่าจะห่างกับเทอมากนัก ตัวใหญ่กว่าเทอนิดหน่อย ในเสื้อคลุมสีดำ
กระโดดลงมาใช้หมัดรุ่นๆซัดเจ้าชาย พุงโตที่อยู่บนนกยักษ์ เจ้าชายกำลังโงนเงนทรงตัวไม่อยู่ ด้วยน้ำหนักตัวที่มาก ตอนนี้เจ้าชายกำลังจะเสียหลัก กำลังลื่นไถลลงไปตามปีกของเจ้านกยักษ์ บุรุษในชุดคลุมสีดำ ใช้เท้ากระโดดถีบเจ้าชาย ใช้เป็นฐานเพื่อลอยตัวสูงขึ้นไปเกาะขอบริมหน้าต่างของหอคอย
เจ้าชายกำลังล่วงลงไปยังพื้นเบื้องล่าง เจ้านกยักษ์เห็น ผู้เป็นนายกำลังล่วง มันจึงโฉบตัวลงไปอย่างรวดเร็ว ไปรองรับเจ้าชายที่กำลังลอยตัวอยู่ในอากาศ “ปั๊ก!” เสียงกระแทกอย่างแรงที่กลางหลังของเจ้านกยักษ์
เจ้าชาย ตัวอ้วนกำลังสลบอยู่บนหลังเจ้านกยักษ์
   
   
“แกว๊ก แกว๊ก!!” เจ้านกยักษ์ร้องเสียงดังลั่น ทั้งคนทั้งนกล่วงไปข้างล่างตกลงสู่กลางกองทัพ โดยที่มี พลทหารผู้โชคร้าย ที่หลบไม่ทันถูกเจ้านกยักษ์ หล่นลงมาทับแบนติดกับพื้นดิน
   
ชายในชุดผ้าคลุมดำ ที่กำลังดูภาพความโกลาหลข้างล่าง ได้เหลือบสายตาที่ดุดัน มองมาทางองค์หญิงปากร้าย เขากระโจนตัวขึ้นจากขอบหน้าต่าง เข้าไปในห้อง ขององค์หญิง!   
“แล้วนายเป็นใครกันโผล่มาจากไหนอีกล่ะทีนี้!!” เสียงโหวกเหวก จากองค์หญิงที่จะพยายามปลงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ก็ปลงไม่ได้ซักที
“องค์หญิง ไปกับหม่อมฉัน!” ชายหนุ่มที่ตัวไม่ใหญ่กว่ามากนัก กระชากร่างสาวน้อย มาอยู่ในกำมือ แล้วพากระโดดออกนอกหน้าต่าง ที่สูงลิ๊บ
“กี๊ด!!ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” เสียงแหลมๆของสาวน้อยดังลั่นขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เทอกอด บุรุษที่โอบเอวเทออย่าง หนาแน่น เทอทำได้เพียงหลับตาปี๋ คิดในใจอย่างเดียว “ช้านตายแน่!!”
ทันใดนั้น ปีกสีดำสนิทที่ใหญ่มหึมา ก็กางพรึ๊บ! ขึ้นมากลางหลังบุรุษลึกลับเส้นผมสีดำสนิทกำลังพลัดพลิ้วอยู่บนใบหน้าของชายหนุ่มตามลม ตอนนี้ความเสียววาบได้หายไปจากใจแล้ว องค์หญิงตัวน้อย กำลัง นิ่งเงียบสงบทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใหม่ทั้งหมดตั้งแต่ต้น ในอ้อมกอดของชายแปลกหน้า ที่กำลังพาเทอบิน ไกลออกมาจากปราสาท
   
“นายเป็นใครกันน่ะ? แล้วเรากำลังจะไปที่ไหนกัน” เสียงใสๆดังขึ้น เป็นเรื่องแปลกที่ฉานไม่รู้สึก หวาดกลัวบุรุษที่อยู่ตรงหน้าเลยแม้แต่น้อยนิด กลับสัมผัสได้ถึง ความรู้สึกที่รู้สึกอบอุ่น
   
“ขออภัยด้วยองค์หญิง หม่อมฉันคือเจ้ามังกรดำ ที่เป็นองค์รักษ์ของท่าน และตอนนี้เรากำลังเดินทางไป ที่ประตู ซีโฮเนีย ดูเหมือนว่าองค์หญิงกำลังสับสนกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น” เจ้ามังกรดำในร่างชายหนุ่มมีปีกสีดำ อายุไร่เรี่ยไม่น่าจะห่างกับเทอมากนักพูดขึ้นก่อนอย่างรู้ทัน
.
“ไว้ไปถึงประตูแห่ง ซีโฮเนียเมื่อไหร่แล้วท่านจะเข้าใจเอง ที่นั่นมีใครบางคนกำลังคอยท่านอยู่”           
“แล้วช้านทำไมต้องไปพบคน แปลกหน้าที่ชั้นไม่รู้จักด้วยล่ะ” เสียงสาวน้อยบ่นพึมพำ แต่ก็ดีเหมือนกัน อาจะมีอะไรกระจ่างขึ้นมาบ้าง
“แง่ง....แง่ง...แต่ตอนนี้ช้านไม่อยาก ห้อยโตงเตง อยู่อย่างนี้นี่นา ชั้นลงไปได้เมื่อไหร่นะคอยดู” สาวน้อยหน้าใส ส่งเสียงคาดโทด โหวกเหวกอยู่ ข้างๆหูหนุ่มน้อยหน้าดุที่ไม่มีทีท่า ว่าจะชี้แจงอะไร
   
และแล้วเวลาก็ดำเนินผ่านไปอย่างช้าๆ โดยไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า เหตุการณ์ข้างหน้าจะเป็งอย่างไร ตะวันสีแดงๆ ตรงขอบฟ้า กำลังจะลาลับ และอีกไม่นานนัก ท้องฟ้าคงจะมืดสนิทลง
แล้วช้านจะทำอย่างไรต่อไปดี....................................   
   
 
       
       
 
   
   
   
   
   
   
   
   
   
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น