ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เหนือพื้น ใต้ขา นั่นแหละหน้าข้า เก่งที่สุด

    ลำดับตอนที่ #3 : อย่าไปไหนไกล...มัน(ตาม)

    • อัปเดตล่าสุด 6 พ.ค. 50


    ตอนที่3


    ...ต่อจากตอนที่แล้ว


    "รถพ่อซ่อมอยู่ลูก"
    "โห พ่อ ผมจะไปร.ร.สายแล้วนะ"
    "ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่ไปส่ง!"

            ยามเช้ากับชีวิตของคนที่ใช้รถใช้ถนน
    ชีวิตเมืองกรุงหน่ะมันเต็มด้วยความวุ่นวาย
    ยามเช้ากับการจราจรที่ติดแน่น ไฟแดงแทบไม่ขยับ แต่ถึงกระนั้น
    มันก็มีเลนที่สามให้ตีนผีทั้งหลายได้เสี่ยงชีวิตกับนรกอยู่

            การแข่งขันกะรังปรี(กรังปรีซ์)รอบเช้าเริ่มขึ้นแล้ว!

            บรึ้นนนน!!เสียงไนตรัสถูกเผาไหม้ในเครื่องยนตร์รถเมล์นรกสีเขียว
     ลุงคนขับคนหนึ่งกำลังเพิ่มความเร็วรถประจำทางสีเขียว โฉบเฉี่ยวกับรถคันอื่นๆที่สัญจรอยู่สวนทางกัน ...

               ด้วยความเร็วโฉบเฉี่ยว และความปราดเปรียวของรถประจำทางสีเขียวคันเล็กทำให้มันเล็ดรอดผ่านช่องว่างของรถที่หลีกทางให้ได้อย่างปราดเปรียว ...จะมีใครจะอยากชนด้วย
     คงไม่มีไอ้บ้าที่ไหนอยากเที่ยวนรกหรอกใช่ไม๊
    ...ป้าแก่ๆที่นั่งโดยสารรถเมล์คันนั้นอยู่แทบจะหัวใจวาย...


    แต่แล้วสายตาของคุณลุงคนขับตีนอำมหิตก็เหลียวเห็นวัตถุดำที่กระจกหลังรถ!!


            มันกำลังเคลื่อนที่ตามหลัง รถเมล์สีเขียวที่วิ่งผิดเลนมาอย่างกระชั้นชิด
     ด้วยความเร่งที่มากกว่า  ใช่แล้ว มันคือซาเล้งสีดำในตำนาน !!!

            ว่ากันว่า... ทุกๆเช้าจะมีแชมป์ของสุดยอดความเร็วสีดำมาปรากฏกายให้ผู้ลองดีได้เห็น
    และแล้วมันก็ปรากฏตัวออกมา!!
    ซาเล้งสีดำ!!!
       

            ผู้ที่นั่งซ้อนท้ายอยู่เบื้องหลังซาเล้งคันนั้นคือ 
    ชายหนุ่มอายุ16ในชุดนักเรียน
    เขามีใบหน้าที่สวยเรียวงามเหมือนกับลูกมะม่วง
    ขนจมูกสีแดงเพลิงที่แลบออกมาจากจมูก
    ราวกับเปลวไฟที่พุ่งออกมาจากไฟแช็ก
    ง่ามผมทั้งสี่บนหัวของเขาเผยอออกเล็กน้อยเหมือนกับร่องนิ้วที่หยิกเกร็ง                  ...เขาคือโมทีนนั่นเอง

            แข้งสองข้างของคนขับที่ดูเหมือนมนุษย์ปกติเริ่มปั่นไวขึ้น..
    ชายคนนี้คือพี่ชายคนหนึ่งของโมทีน เขาเป็นนักแข่งรถซาเล้งทีมชื่อดังทีมหนึ่งของประเทศไทย
     มีชื่อทีมว่าออสซูปั้ม(Ossupum)

            นอกจากเงาสีดำสนิทที่กำลังเร่งความเร็วขึ้น
    ใกล้จะแซงรถเมล์เขียวนรกคันนั้นแล้ว
     ยังมีสิ่งหนึ่งส่องประกายออกมาจากกันชนหน้า
    นั่นคือสัญลักษณ์ของยี่ห้อ"นิสสรันน"!

        "เห้ย มันตามมาจะทันแล้วลูกพี่" พนักงานเก็บค่าโดยหันมองท้ายรถแล้วสารตะโกน
     เขาไม่สังเกตคนลุงที่นั่งข้างๆเลยว่าคุณลุงคนนั้นกำลังน้ำลายฟูมปาก

        "เราจะแพ้มันไม่ได้!!!"ฉับพลันสายเลือดนักซิ่งของลุงคนขับก็ดุเดือดประทุขึ้น
    เกียร์รถในมือซ้ายถูกซับลงกลไกลับถัดจากเกียร์ถอยหลัง
         มันคือเกียร์ผีที่ถูกเสริมเติมแต่งขึ้นมาเพื่อตีนผีรุ่นTheโดยเฉพาะ
    "เกียร์ที่6"
         รอบเครื่องพิเศษแต่งมาโดยคนแต่งรถไร้นามกำลังจะถูกใช้!!
    ลุงคนขับยกเท้าซ้ายที่เหยียบคันเร่งหยอดน้ำมันเครื่องขึ้น
    แล้วลงเหยียบไปยังคันเร่งแต่งพิเศษที่ถูกต่อเติมขึ้นมาเอง 

    คันเร่งจุลภาพมรณานั้นอยู่ถัดจากเบรกกับคันเร่งรถ  !!

            เชื่อเพลิงเหลวที่ถูกเรียกกันว่าไนตรัส กำลังไหลจากหม้อเก็บพิเศษร่วมไปกับทางเดินน้ำมันเครื่องรถ
     ...แล้วท่อไอเสียท้ายรถก็มีเปลวเพลิงสีเหลืองสว่างพวยพุ่งออกมา!!

    บรึ้นนนนนนนนนนนนนนนน!!! โฟ่วววว!!

            รถเมล์เขียวใช้ในตรัสเร่งเครื่องเพื่อทำระยะห่างหนีซาเล้งดำไปแล้ว ยิ่งเร่งยิ่งห่าง

    โมทีนเห็นดังนั้นจึงนึกถึงสูตรฟิสิกส์ม.4 เรื่องการเคลื่อนที่เพื่อคำนวนหาความเร่ง ความเร็ว
    ระยะทาง เวลา แต่เขานึกยังไงก็นึกไม่ออก
    แต่เขานึกได้เพียงสิ่งเดียวว่า
    "เราว่าเราเรียนมาแล้วนะ แต่เราจำไม่ได้"

        พี่ชายขาซิ่งของโมทีนเร่งเครื่องขึ้นอย่างบ้าคลั่งพร้อมกับเสียงขู่คำรามที่ต้องการเอาชนะเมล์เขียวนรกคันนั้น

    "กุเก่งที่สุด ซาเล้งกุแรง เร็วสุดแล้ว ไม่มีใครที่กุแซงไม่ด้ายยยยย...ว๊ากกกกก!!"

            คนขับเมล์เขียวได้ยินดังนั้นถึงกับน้ำลายฟูมปาก มือทั้ง2ข้างเกิดอาการเกร็งตามข้อพับที่แขนและขา
    ตากำลังเหลือกขึ้นเพดานรถ ตอนนี้เขารู้แล้วว่าโมทีนน่ากลัวเพียงใด
    เพียงแค่ซาเล้งคันเดียว ซาเล้งไม่ติดเครื่องยนตร์ แค่ล้อปั่นกับโซ่เหล็กเพียวๆเท่านั้น!! มันจะตามมาทันแล้ว!

    "แพ้แล้ว!!!"ลุงคนขับรถกระอักเลือด...

            และนี่ก็ถึงจุดวิกฤต เครื่องยนตร์ที่ใช้งานมานานหลายปีมันกำลังจะถึงจุดจบ หัวเทียนจะบอดแล้วววว!!!
    คุณลุงคนขับเลี้ยวหักพวกมาลัยรถกลับเข้าเลนปกติอย่างรวดเร็ว

            เขายังมีสามัญสำนึกเกี่ยวกับผู้ให้บริการในฐานะรถร่วมบริการ เขารวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดที่เหลือสู่จุดตานเถียน(เอ่อ...ผมก็ไม่รุ้ว่าอยู่ไหนเหมือนกัน สงสัยเป็นจุดที่ขงเบ้งยึดมาทำค่ายทหารมั้ง)
    เหยียบเบรก ดึงเบรกมือ พยายามหยุดรถให้ตรงป้ายรถเมล์เป็นครั้งแรกในชีวิต คุณลุงคนขับพึ่งนึกขึ้นได้ว่ามีผู้โดยสารคนหนึ่งพึ่งกดกริ่งไปเมื่อประมาณสามป้ายก่อนหน้านี้

    แต่ก็ไม่สำเร็จ ยังขาดอีกแค่ 2 cm

    คนขับก็สิ้นลมเสียแล้วพร้อมกับเครื่องยนตร์รถที่ไหม้จนเกรียม

    ทันใดนั้นเองพี่ของโมทีนที่กำลังเร่งเครื่องขึ้นมาสุดชีวิตได้ประสานงานกับรถเมล์เขียวเข้าอย่างจัง!!!

    โป้งงงง!!!

            ทว่ามวลของซาเล้งสีดำนั้นได้ปรับแต่งให้มวลเบา แต่รถเมล์เขียวที่บรรจุผู้โดยสารล้นคันรถ
    มีมวลมากกว่าซาเล้งดำในตำนานมากนักดังนั้นจากกฎของโมเมนตัม P  =  mv
    สรุปได้ว่าซาเล้งดำมีโมเมนตัมน้อย ส่วนรถเมล์เขียวมีโมเมนตัมมาก เพราะมวลต่างกันมาก แต่ความเร็วไม่ต่างกันมาก

    แต่!!! สังเกตจากสูตรพบว่าการชนของซาเล้งดำทำให้รถเมล์เขียวมีความเร็วเพิ่มขึ้น
     ทำให้รถเมล์เขียวนรกขยับขึ้นไปอีก2cm.พอดี

            รถเมล์เขียวจอดตรงป้ายแล้ว.....

            ตำรวจจราจรรุดมาถึงที่เกิดเหตุ ขณะที่กำลังรื้อเศษซาเล้งอยู่นั่นเอง ตำรวจนายหนึ่งเห็นเศษเหล็กซาเล้งกองหนึ่งที่ขยับได้
     เขาจึงไปรื้อกองเหล็กนี้ แล้วเขาก็ได้พบ....

    to be continued...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×