ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    CHANYEOL X YOU Just because she's my bestfriend

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter1

    • อัปเดตล่าสุด 22 เม.ย. 58


    ตอนที่หนึ่ง

    chanyeol’s part

    ผมรู้สึกตัวตื่นในตอนเช้า  เมื่อคืนผมช่วยเซยูแต่งเพลงจนเกือบตีสามถึงเสร็จ ผมเผลอหลับคาโต๊ะ เซยูก็เหมือนกัน ผมกดดูเวลาที่โทรศัพท์

    “เฮ้ย เซยูตื่นโว้ยตื่น แปดโมงครึ่งละโว้ยยย”ผมพูดและรีบเขย่าตัวผู้หญิงข้างๆให้ตื่น

    “......”ไม่มีเสียงตอบรับจากเรียกหมายที่คุณเรียก

    “ยัยขี้เซาเอ้ย แกมีคลาสตอนเก้าโมงไม่ใช่อ่อวะ” ทำไมผมจะไม่รู้ว่ายัยนี่ตื่นยากขนาดไหน ผมเลยวิ่งไปหยิบน้ำแข็งในตู้เย็นมสองสามก้อนก่อนจะวางมันให้ติดกับจมูกมัน

    “ฮ่าๆๆๆ คอยดูละกัน” ผมมั่นใจว่ามันต้องตื่นแน่นอน ผมเลยไปอาบน้ำที่ห้องของตัวเอง หลังจากนั้นผมก็ได้ยินเสียงแสบแก้วหู

    “ไอหูกางงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง”

    โอ้ว ผมนี้ได้ผลจริงๆแฮะ ผมรีบแต่งตัว หยิบกีต้าร์คู่ใจโดยไม่ลืมหยิบนมสองกล่องกับขนมปังสองชิ้น ล็อกห้อง พอดีกับเซยูที่ออกมาจากห้องพอดี ยัยนั่นใส่ผ้าปิดปากที่คลุมตั้งแต่จมูกถึงคางด้วย เธอมองผมแบบแค้นๆ

    “จ้องอยู่ได้ รู้น่าว่าหล่อ”

    “แกอยากตายมากใช่มั้ย”

    “พูดมากน่า เดี๋ยวก็สายอีก” ผมฉุดมือเธอวิ่งเข้าลิฟต์ก่อนจะรีบตรงดิ่งไปที่รถของผม ผมรีบยัดกีต้าร์กับกระเป๋าของผมกับเซยูเข้ารถ ก่อนจะรีบสตาร์ทรถ นี่แหละครับชีวิตเรา ผมกับเซยูไปมหาลัยด้วยกันทุกวัน ถึงเราจะอยู่คนละเอก แต่ก็อยู่คณะเดียวกัน ก็มีบางคลาสที่ต้องเรียนด้วยกันแบบทฤษฎีดนตรี ประวัติศาสตร์ดนตรีไรงี้ อย่างวันนี้มันมีคลาสประพันธ์เพลงตอนเช้า แล้วก็ประวัติศาสตร์ดนตรีกับผมตอนภาคบ่าย จริงๆตอนเช้าผมมีคลาสตอนสิบโมง แค่ชั่วโมงนึงช้ากว่าเซยูเอง รอได้อยู่ละ

    “นี่แกใส่ผ้าปิดปากทำไม”

    “คิดว่าทำไมล่ะ”

    ผมไม่ตอบแต่กระชากผ้าปิดปากออก

    “ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ หน้าแกตลกเป็นบ้า” ก็ไม่ให้ผมขำได้ไง จมูกเซยูแดงอย่างกับเรนเดียร์

    “ไอชานยอล เพราะแกนั่นแหละ” มันพูดก่อนจะหยิกหูผม

    “โอ๊ยเจ็บๆๆๆๆ ก็แกไม่ตื่นนี่หว่า ฉันอุตส่าห์หวังดีว่าแกจะไปสาย”

    “เออ ยกโทษก็ได้ ไปละ เจอกันภาคบ่าย” มันพูดก่อนจะลงจากรถ

    “เดี๋ยว อย่าลืมกิน”ผมยัดนมหนึ่งกล่องกับขนมปังใส่มือของเซยู

    “อืม ขอบคุณ ไปละ”

    “เค เจอกัน ยัยเรนเดียร์”

    “ไอโยดา จะไปไหนก็ไป” มันหันมาค้อนใส่ผม 

    ผมมองเซยูเดินเข้าคณะไปแล้วถึงจะเอนพนักพิง งีบซักพักละกัน อีกตั้งชั่วโมงนึงถึงจะเริ่มเรียน

    Seyou’s part

    หลังจากส่งงานที่ฉันกับชานยอลทำจนดึกดื่นเสร็จ ฉันก็ตั้งใจหลับยาวทั้งคาบ เพราะอาจารย์ไม่มีให้ทำ ก็วันนี้มันวันศุกร์นี่ ใครจะไปอยากเริ่มเนื้อหาบทใหม่ พอฉันเริ่มฟุบเท่านั้นแหละ พวกผู้หญิงในคลาสก็เริ่มซุบซิบทันที

    “นี่แกเห็นพี่ชานยอลมาส่งพี่เซยูเมื่อเช้าป่ะ โคตรอิจฉาเลยแก” 

    ยัยเด็กปีหนึ่งพูด เอิ่ม เด็กนี่ช่วยฉลาดบ้างฉันเพิ่งจะฟุบไปไม่ถึงนาที เริ่มละอ่อคะ

    “เขาก็มาด้วยกันแบบนี้ทุกวันแหละแก” เด็กอีกคนตอบ

    แล้วไงคะน้อง

    “พี่ชานยอลนะพี่ชานยอล ไม่เห็นจะเคยสนใจผู้หญิงคนไหนเลย วันๆก็ตัวติดกับพี่เซยูทั้งวัน ฉันละเซ็ง”

    เฮ้ยๆๆ มันมาตัวติดฉันเอง ไม่ได้ขอโว้ย

    “ใช่ๆ คู่นี้แปลกจะตาย ทะเลาะกันตลอดทั้งๆที่สนิทกัน มามหาลัยด้วยกันทุกวัน แล้วก็กลับด้วยกันทุกวัน ทั้งๆที่ก็ไม่ใช่แฟน”

    สนใจชีวิตพี่มากเกินไปรึเปล่าคะน้อง

    “นั่นน่ะสิ อย่างนี้ผู้หญิงคนอื่นจะมีโอกาสได้ไงละ พี่เซยูไม่เปิดโอกาส กันท่าตลอด”

    อะไรวะ มาโทษกันได้ไง 

    “นี่ฉันสงสัยนะ ถ้าวันหนึ่งเค้ากลายเป็นแฟนกันขึ้นมาจะเป็นไง”

    โห อ้วกกกกกกก ชาตินี้ก็ไม่มีวัน ชาติหน้ายิ่งเป็นไปไม่ได้

    “ฉันคงจะรับไม่ได้อ่ะแก”

    รับไม่ได้ใช่มั้ย เดี๋ยวเจอๆๆ แล้วฉันก็ส่งข้อความไปหาชานยอล

    -แก มารับฉันด้วยหลังจากเลิกคาบนี้ ไปกินข้าวกัน ฉันเลี้ยงเอง-

    -อะไรของแกวะ กินยาผิด หรือเป็นไข้ป่ะเนี่ยจะเลี้ยงข้าวฉัน-

    -พูดมากว่ะ จะกินข้าวเที่ยงฟรีม้ะ-

    -แน่นอนคร้าบบบ-

    -ดี มารับหน้าห้องเลยนะแก-

    -ทำไมวะ-

    -ไม่ต้องถาม มาเหอะ-

    -เคครับคุณหญิง เจอกัน-

    ยัยพวกนั้นควรจะรู้จักหุบปากบ้าง เบื่อจริงคลาสที่ต้องเรียนกับเด็กเนี่ย หลีบดีกว่า

    หลังจากเลิกคลาส.......

    ฉันแกล้งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา และจงใจพูดดังๆให้เด็กปีหนึ่งข้างหลังได้ยิน

    “ฮัลโหลลลลล ยอลลี่มารับเค้าหรอ จะพาเค้าไปกินข้าวด้วยอ่อออ น่ารักที่สุดเลยยย โอเคๆๆๆ เจอกัน จุ๊บๆ” ฉันพูดไปจะอ้วกแตกไป แต่พอเห็นหน้าเด็กผู้หญิงพวกนั้นอิจฉาตาร้อนแล้วสะใจชะมัด แล้วยิ่งเห็นชานยอลเพิ่งเดินมาถึงหน้าห้องแล้ว ฉันเลยเดินเข้าไป

    “มาแล้วหรอยอลลี่” ชานยอลมองหน้าฉันแบบ ไรของแกวะ

    “ยอลลี่ เค้าง่วงมากเลยอ่า ยอลลี่ง่วงเหมือนกันมั้ย เมื่อคืนเหนื่อยมากกก”

    ชานยอลเหมือนกำลังจะพูดอะไรแต่ฉันรีบแตะปากเค้า

    “ยอลลี่อ่ะน่ารักที่ฉุดเลยนะรู้ตัวเปล่า”แล้วฉันก็หยิกแก้มเค้าไปมา

    “ถือกระเป๋าให้เค้าด้วย ไปกันเหอะยอลลี่ เค้าหิวแล้ว”แล้วฉันก็ส่งกระเป๋าให้ชานยอลถือก่อนจะควงเขาเดินออกนอกตึก โอ้มายกอดดด ไม่คิดว่าตัวเองจะทำอะไรแบบนี้ได้ลง แต่เซยูยอมได้ค่ะ ต้องทำให้พวกนั้นหุบปากซักที แล้วฉันก็ปล่อยชานยอลทันทีที่ออกนอกตึก

    “นี่แกกินยาไม่เขย่าขวดป่าววะ ทำอะไรแปลกๆ”

    “แค่สั่งสอนคนพวกเด็กปีหนึ่งปากมาก นินทาหาว่าฉันกันท่านาย ถ้าฉันเป็นแฟนนายขึ้นมาจะรับไม่ได้อย่างนู้นอย่างนี้”

    “แล้วไง เค้าจะพูดก็พูดไปดิ หึงฉันรึไง”

    “หึงบ้าดิ”

    “แหม ยอลลี่อ่ะน่ารักที่ฉุดเลยน้า”

    “ชานยอลหุบปาก”

    “ยอลลี่เค้าหิวอ่า”

    “หยุดๆๆๆๆ”ฉันจะบ้าตาย

    “ชอบฉันก็บอก”

    “แกก็รู้ว่าฉันไม่เชื่อเรื่องความรัก” ฉันพูดกับเขาแบบจริงจัง เขารู้ ว่าฉันไม่เคยเชื่อเรื่องความรัก

    “ครับๆ เลิกก็ได้ ไปกินข้าวเหอะ นี่ฉันหิวจริงจังละ”

    Chanyeol’s part

    เซยูเกิดเป็นบ้าอะไรก็ไม่รู้วันนี้ ยัยนี่ชอบเล่นแปลกๆตลอดเวลา อยู่ดีๆมาเรียกผมยอลลี่ มาบีบแก้มผมอีก ผมไม่เคยเห็นเธอทำแบบนั้นกับผมเลย มัน...แปลก แต่มันทำแบบนี้ก็น่ารักดี ตอนนี้เราก็มานั่งในคลาสประวัติศาสตร์ดนตรีกันแล้ว หลังจากไปกินข้าวเที่ยงที่เซยูเลี้ยง ผมมองไปข้างๆ เซยูกำลังตั้งใจฟังอาจารย์พร้อมจดเลกเชอร์อย่างตั้งใจ โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมมองอยู่ เห็นเซยูเกรียนๆแบบนี้ แต่จริงๆแล้วเซยูเป็นคนที่ทุ่มเทแล้วก็จริงจังกับทุกๆอย่างมาก สำหรับเซยูแล้วทุกอย่างต้องมีเหตุมีผล มีระเบียบและแผนการ ทุกอย่างต้องอยู่ใต้การควบคุม เซยูไม่เคยส่งงานช้า ไม่เคยทำอะไรห่วยๆ ทุกอย่างต้องเพอร์เฟค เซยูไม่เคยเป็นรองใคร เซยูสอบได้ที่หนึ่งตลอดทั้งชีวิต เพราะเซยูฉลาดแล้วก็มีความรับผิดชอบ เซยูเป็นคนหยิ่ง เซยูมักจะมีกำแพงที่กั้นคนรอบข้างออกไป เซยูไม่ชอบคนงี่เง่า ไม่ชอบให้คนมายุ่ง ไม่ชอบการผูกมัด เซยูคิดก่อนทำ แต่ไม่คิดก่อนพูด เซยูไม่เชื่อเรื่องความรัก เพราะหาเหตุผลไม่ได้ เซยูเชื่อว่าความเข้าใจต่างหากที่ทำให้คนอยู่ด้วยกันได้ เซยูเป็นคนผิวขาวตั้งแต่เกิด แต่ไม่ชอบเลยทำจนผิวแทน  เซยูไม่ได้ผอมแห้งแต่มีน้ำมีนวล เซยูชอบกินที่สุดแต่ก็ชอบออกกำลังกายที่สุด ถึงเซยูกับผมจะทะเลาะกันตลอดเวลา แต่เราก็รู้ว่าไม่มีใครที่จะรู้จักเราเท่าอีกคนแล้ว เราเถียงกันทั้งๆที่รู้ว่าสุดท้ายก็จะต้องเห็นด้วยเหมือนกัน และสุดท้าย เรารู้ว่าไม่มีใครที่จะแทนที่อีกคนได้...ไม่มีทาง นี่แหละโอเซยูของปาร์คชานยอล

     

     

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×