NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ชะตากรรมของผู้ทรศ

    ลำดับตอนที่ #2 : ราตรีเทพเจ้าแห่งความเกียจคร้าน

    • อัปเดตล่าสุด 1 ม.ค. 67


    ตอนที่ 2 ราตรีเทพเจ้าแห่งความเกียจคร้าน

    1 ปีต่อมา 

    ณ ดินแดนมนุษย์

    “นี่มึงเป็นบ้าอะไรกันดื่มเมาอะไรขนาดนี้”

    “เมาต่อไหนกันมึงตาถั่วแล้ว”

    “เดี๋ยวก็จะปล่อยทิ้งไว้ตรงนี้นี่แหละ”ทันใดนั้นผู้ชายคนนั้นก็ได้ปล่อยร่างของผู้ชายคนหนึ่ง แล้วชายคนนั้นก็ ก็เดินเซไปเซมาสุดท้ายก็ล้มลงแล้วก็ได้สลบไปในทันทีเเละเหมือนได้พูดเพ้อถึงอะไรบางอย่าง

    “ไอเนื่ยมึงตายยังวะ”ชายคนนั้นได้รีบวิ่งไปดูแล้วพร้อมกับส่ายหัวไปมาก่อนจะถอนหายใจ“ภาระกูอีกละ”ชายคนนั้นได้ลาภร่างกายอีกคนหนึ่งขึ้นรถด้วยความทุลักทุเล

    “เงินก็ไม่คืน แถมยังเป็นภาระอีกถ้าไม่ใช่เพราะหลับอยู่จะด่าให้”เขาได้มองตรงกระจกมองหลังรถและเห็นกลุ่มคนทำท่าทีแปลกๆเขาก็ไม่ได้สมใจอะไร ได้บิดคันเร่งและออกรถในที่สุด

    แต่ทว่าเมื่อเขาขับรถได้สักระยะเขาเริ่มจะรู้สึกแปลกๆเหมือนมีคนขับรถตามเขาได้มองกระจกหลังรถและร้องเลี้ยวข้างหน้าดูผลปรากฏว่ารถคันนั้นก็ยังขับตามอยู่ดีและรถคันนั้นก็เริ่มปิดคันเร่งมากขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายรถคันนั้นก็ได้ขับขนาดคู่กับรถของเขาและก็ได้ครับกระแทกชนเข้ามา เขาได้พยายามควบคุมรถและเริ่มเร่งคันเร่น

    “สามัญชนคิดจะสู้กับอำนาจเงินงั้นหรอ”เขาได้กดปุ่มบางอย่างบนตัวรถและทันใดนั้นรถของเขาตรงด้านหลังก็ได้มีเหมือนไนโตร 2 อังก็ปรากฏขึ้นมาได้บิดคันเร่งอย่างรวดเร็วและได้แซงรถก่อนหน้านี้ยังขาดลอย

    “เล่นกันใครไม่เล่นมาเล่นกันคนรวย”

    แต่ทว่าเขาก็มีความสุขได้ไม่นานเขาได้ยินเหมือนเสียงของปืนเเล้วอยู่ๆกระจกด้านข้างเขาก็แตกเขาเรื่องรู้ตัวแล้วว่ามันไม่น่าง่ายอย่างที่เขาคิด

    “นี่มันกะฆ่ากันเลยหรือไง กูไปทำอะไรพวกมึงวะ”เขานั้นบ่นได้ไม่นานอยู่ๆก็มีรถอีกคันได้ทำการชนรถของเขารถของเขาได้หมุนรอบตัวเองรอบ 2 รอบ เเละได้ที่มีรถอีกหลายคันขับตามมาและพากันปิดรอบรถของเขาเพราะคนที่ได้ขับรถเดินตามมาได้เดินลงมาจากรถ

    “ส่งตรามหาเทพมาซะถ้ายังไม่อยากตาย”

    เขานั้นไม่ได้เข้าใจที่พวกเขากำลังพูดกันเลยและกลุ่มคนพวกนั้นก็ได้เดินเข้ามาและพยายามหาอะไรบางอย่างและพยายามที่จะรื้อรถของเขา

    “นี่พวกเเก้ทำแบบนี้กลางวันแสกๆไม่กลัวกฎหมายเลยหรือไง”เขานั้นพูดได้ไม่นานก็ได้มีชายอีกคนหนึ่งว่าต่อยท้องของเขา จนทำให้เขานอนลงกองกับพื้น

    “ถ้าไม่อย่าตายหุบปากไปสะ”

    “พี่มีชายอีกคนหนึ่งอยู่บนรถ ใช้คนนี่ไหมที่เราตามหา”ได้มีคนที่เขาเรียกว่าลูกพี่เดินเข้ามาและได้จับหัวของชายที่อยู่ในรถและดูแบบเต็มหน้าเต็มตาเขาได้หยิบใบที่อยู่ในกางเกงออกมาเพื่อเช็คให้แน่ใจ

    “นี่นะหรอเทพเเห่งพรถ้าไมมันอ่อนแอขนาดนี้วะเนี่ย ไม่เห็นใกล้ๆไม่อยากเชื่อเลยนะเนีย”

    “ข้าก็บอกเเล้วต่อให้มันเป็นเทพเเต่ก็เป็นเทพที่ใกล้ร่วงหล่น”

    “ใช่พวกเราก็แค่กังวลไปเอง”

    “งานนี้ง่ายจังวัดแถมยังได้กำไรดีด้วย”

    “แล้วพวกเราจะเอายังไงกับไอ้หมูอ้วนนี่ดิ”

    “นี่พวกแกเป็นเราเทวทูตหรอก”ไอ้คนพวกนี้ตามหาพรและรู้ว่าพรคือเทพพวกมันต้องเป็นเทวทูตเเน่

    “ใช้ ข่าที่สงสัยในการว่าที่เพทองค์ไหนที่ให้ปิศาญอย่างพวกเจ้าอาศัยอยู่กัน”

    “ต้องเป็นเทพที่เสื่อมทรามไปแล้วแน่ๆเลย555”

    เพราะเขายังหัวเราะยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กันได้ไม่นาน ได้มีร่างยักษ์มหึมาปรากฏตัวขึ้นได้เหยียบร่างของชายคนหนึ่งจะแหลก เขานั้นล้วนงงว่ายักษ์ตนนี่มาจากไหนพวกเขาก็ได้สติหลังจากมีชายคนหนึ่งตะโกน

    “ไอเทพบ้านี่ทำตื่มเเล้ว”

    “ไอ้ยักษ์นั่นต้องมาจากเทพป็นแน่ เราต้องรีบจัดการมันเพื่อให้ยักษ์นั่นหายไป”เพราะเขาได้พยายามโจมตีใส่พรด้วยหลากหลายวิธีไม่ว่าจะเป็นทั้งปืนธนูระเบิดหรือแม้ทำมีดก็ตาม

    “ตายสะไอเทพที่ร่วงหล่น”

    ผ่อนได้หักมือคนที่พยายามแทงพรก่อนที่จะหยิบมีดของคนนั้น ยักษ์ได้ยกขาขึ้นเเละยักษ์มหึมาได้เหยียบพื้นทำให้พวกเขานั้นเป็นไขว้แควเเล้วพรก็ใช้โอกาสนี้ในการสังหารพวกเขา

    “มันฆ่าพี่น้องของเราอย่าปล่อยมันไว้”

    ยักษ์ได้ใช้ไม้กระบองขนาดยักษ์ทุบเขากระเด็นเป็นเศษเนื้อทำให้พวกเขาเริ่มหวาดกลัวพรแล้วพวกเขาก็เริ่มตระหนักได้ว่าเทวทูตกับเทพมันมีความห่างชั้นกันมากหัวเข่าเริ่มเดินถอยหลังทุกครั้งที่พรก้าวโดยที่พวกเขาไม่รู้สึกตัว

    “ไม่อยู่เเล้วเว่ย ใครอยากสู้ก็สู้เถอะ”

    พวกเขาเริ่มหวานกว่าแต่ทว่าอยู่ดีๆเขาก็เจ็บแผลขึ้นมา“บัดซบแพ้ที่เกิดขึ้นจากสิ่งของที่ทำมาจากผนึกสังหารเทพนี่มันจะทรมานเกินไปแล้ว”1 ปีที่ผ่านมาเขาพยายามที่จะรักษามันแต่ทำยังไงก็ไม่ได้ผลเรากับพรที่เขาใช้วันนั้นสูญเปล่า

    เกร็ดความรู้:ผนึกสังหารเทพ มันคือแร่ชนิดหนึ่งที่สามารถกดพลังของเทพเอาไว้ได้และเมื่อใดที่เทพเจ้าได้สัมผัสจะรู้สึกปวดแสบตัวร้อนและทุกข์ทรมานและก็ไม่มีพลังเทพใดๆสามารถทำอันใดมันได้กล่าวมัรคือรร่ที่ถูกสร้างมาเพื่อสังหารเทพโดยเฉพาะ สีของมันจะเป็นสีม่วงมีความแวววาวเหมือนกับเพชรแต่ทว่าความแข็งของมันแทบจะเรียกได้ว่าเป็นอนันต์

    “ใครก็ตามที่มันใช้โซ่นั้นเพื่อทำร้ายเราต้องไม่ต้องการให้เรามีชีวิตอยู่เป็นแน่”พร ได้คิดถึงตรามหาเทพบ้านั้นขึ้งมาเเละเขาจำได้ว่ามันได้ช้วยเขาเอาไว้

    “สิ่งนั้นมันคืออะไรกันแน่”ทำไมมันทำให้ชีวิตเราชิบหายได้มากขนาดนี้ ทันใดนั้นตอนที่พรกำลังคิดหลายสิ่งหรือยังไม่ได้มสใจอะไรได้มีบางคนใช้โอกาสรอบโจมตีพร เเล้วเขาก็ได้โจมตีด้วยมีดแทงโดนแผลของพร 

    “บัดซบเถอะ”เขาได้ฆ่าผู้ชายคนนั้น แต่ถ้าว่าเขานั้นก็รู้สึกเจ็บปวดจนถึงขั้นแทบจะยืนไม่ได้และยักษ์ของเขาที่ได้เรียกออกมามาก็ได้หายไปแล้วเนื่องจากเจานั้นไม่มีสมาธิด้วยความเจ็บปวดทำให้สติของเขาเริ่มที่จะหลุด

    “ไอ้อ้วนมึงหนีไปซะเดี๋ยวจะเปิดทางให้” แต่เพื่อนของเขาก็ไม่ได้หนีแล้วกำลังพูดอะไรบางอย่างด้วยภาษาแปลกๆพรรู้ได้ทันทีว่านั่นคือการอัญเชิญเทพ

    ทันใดนั้นท้องฟ้าก็มืดครึ้มกะทันดวงอาทิตย์ก็ตกแทนพี่ด้วยดวงจันทร์ได้ปรากฏหญิงสาวอายุไม่น่าเกิน 17 ปีใส่ชุดเหมือนชุดนอนและทำท่าทางเหมือนคนเพิ่งจะตื่น

    “เทพเจ้าแห่งราตรี ข้าพเจ้าขอโทษที่รบกวนการนอนของท่านแต่ทว่าตอนนี้สาวกนี้กำลังอยู่ในสภาวะที่ลำบากอยู่ได้โปรดช่วยข้าพเจ้าด้วยไม่ว่าแลกด้วยสิ่งใดข้าพเจ้าก็ยอม”

    หลังจากที่อ้วนได้พูดจบผู้หญิงคนนั้นก็ได้ลืมตาขึ้นดวงตาสีดำที่ดูไร้มลทินได้จ้องมองมายังผู้ที่พูดกันเธอเบื้องหน้า พรได้ต้องจ้องมองเรื่องความตกใจแรงในความงามยังแฝงไปด้วยความน่ารักกลุ่มคนที่เหลืออยู่แค่ 10 กว่าคนจากความกล้า พวกเขาเริ่มไม่แน่ใจต่อเอาไงต่อ

    “พวกเราจะเอาไงต่อดี ”

    “กลับสิจะอยู่ทำไงสิ่งพวกนี้เป็นสิ่งที่เรารับมือไม่ได้คงได้แค่ไปรายงานท่านผู้นั้น”พูดเสร็จพวกเขาอะไรก็ได้รีบขับรถหนี อีก 9 คนที่เหลือก็ได้วิ่งหรือขับรถตามไป

    “เจ้าคือ”เธอพูดด้วยน้ำแข็งที่แสนอ่อนโยนไม่มีความกดดันหรือความหยิ่งในน้ำเสียงเลยแม้แต่น้อยมีความโปร่งใสเหมือนกับสายน้ำ

    “นี่คือเพื่อนของข้าพเจ้าเอง”

    “เทพหรอ”น้ำเสียนของเธอเต็มไปด้วยความสงสัย

    “ใช้ครับท่านเขาเป็นเทพที่ได้ตกสวรรค์และได้รับบาดเจ็บท่านพอจะช่วยเขาได้ไหมไม่ว่าข้าพเจ้าต้องแลกด้วยสิ่งใดก็ตาม”

    ผู้หญิงคนนั้นได้บินลงมาดูอาการของพรก่อนที่ตาของเธอจะเปิดกว้างเธอแสดงสีหน้าเศร้าเล็กน้อยก่อนจะตอบว่า

    “แค่ท่านผู้นี่ยังมีชีวิตอยู่มันก็คือปาฏิหาริย์มากแล้ว”

    วันนั้นได้พยายามที่จะพูดมาอย่างแต่เขานั้นไม่มีแรงพอที่จะพูดด้วยซ้ำเขาเลยพยายามที่จะหยิบตราบ้านั่นออกมาเมื่อผู้หญิงคนนั้นได้เห็นตานั้นเสนาของเธอก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยและก็ได้เข้ามาดูใกล้ๆ

    “เจ้าได้มาได้ไงกัน”น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความสงสัยและความประหลาดใจ

    “ข้าได้ มาจากพ้น ก่ ที่เขาะตาย” พรได้พยายามที่จะพูดแต่ก็พูดจาไม่ค่อยรู้เรื่องเขาก็ได้รู้แล้วว่าคนที่เขาต้องตามหาอยู่ตรงนี้

    …เธอได้นิ่งเงียบไม่ได้ตอบอะไรเลยขนาดคุณคิดอะไรบางอย่างอยู่ก่อนที่เธอจะได้พูดว่างานออกมา“ด้วยตาผนึกมหาเทพนี่ข้าสามารถช่วยเจ้าได้แต่มันทรมานยิ่งกว่าตาย ข้าจะยอมไหม”

    “ข้ายอม รับ”

    ณ ดินแดนสวรรค์ 

    “งานที่ข้าให้พวกเจ้าไปทำมันเสร็จเเล้วรึ”

    “พวกมันแค่ 4 คนก็ได้รายงานสิ่งที่เกิดขึ้นนะดินแดนมนุษย์ให้ผู้เป็นนายฟัง”

    “ใครกันที่กล่ามาขัดแผนการของข้าต่อให้เป็นเทพหน้าหน่อยข้าก็จะไม่สนใจทั้งนั้น”ไม่ช้ามากนั้นเรื่องที่พรยังมีชีวิตอยู่ก็ได้แพร่กระจายไปทั่วดินแดนสวรรค์

    ณ ดินแดนมนุษย์  ณ วัดแห่งหนึ่ง 

    พรนั่งสมาธิอยู่ข้างเจดีย์โดยมีพระอยู่รอบๆที่คอยสวดมนต์อะไรบางอย่าง ราตรีได้เธอถือตาผนึกมหาเทพเเล้วปล่อยให้มันลอยอยู่บนร่างของพรที่กำลังนั่งสมาธิอยู่บนโต๊ะพิธีเมื่อตราบ้านั้นได้ตรงบนหัวของพรทันใดนั้นก็ได้เกิดแสงที่ส่องสว่างคอมร่างของพรเอาไว้ขึ้นร่างกายของเพื่อนเริ่มกระตุกด้วยความทุกข์ทรมานสีหน้าของเขาดูไม่ดีนัก

    “การให้พรดูดกลืนผนึกมหาเทพ แค่มันติดตามอยู่ในร่างกายก็ทำให้เทพเจ็บปวดทุกข์ทรมานทว่าการที่ต้องดูดควันเข้าไปข้างในมันต้องทรมานขนาดไหนกัน” เเก้วได้รู้สึกเป็นห่วงพรเล็กน้อย มึงต้องรอให้ได้นะเพื่อน”

    “เป็นห่วงหรอ”

    “มันไม่ขนาดนั้นหรอกครับมันไม่ใช่คนตายง่ายๆ”

    “สนิทกันจังนะ”พูดด้วยน้ำเสียที่เศร้านิดหน่อย

    เพราะเขาเป็นห่วงพอได้ไม่นานหลังจากนั้นก็ได้มีคนเรียกให้พรออกมาเ ราตรีคุ้นชินดันเสียงพวกนี้ดีราตรีรู้ได้ทันทีว่าคนพวกนี้คือเราเทพและเทวทูต

    “ฝากฟังนี้ด้วย”ก่อนที่เธอจะได้บินออกไป เธอได้เห็นเรือรบขนาดใหญ่อยู่บนท้องฟ้าเป็นเรือที่ทำมาจากเหล็กพร้อมกับป้อมปืนใหญ่เเละป้อมปืนกลที่ประจำการลักษณะของมันคล้ายกับเรือรบที่มีปีกเหล็กขนาดยักษ์เพียงแค่ความยาวของมันก็ทำให้เมืองทั้งเมืองมืดครึ้มราตรีได้บินไปยังเรือรบคันนั้นเเล้วก็ได้มีชายคนหนึ่งที่อยู่บนเรือรบบินมาหาเธอเขาใส่ชุดเกราะเต็มยศพร้อมกับอาวุธครบมือ

    “ท่านได้เห็นปิศาจแถวนี้บ้างไหม”คนที่อยู่ในเรือรบใส่ชุดเกราะเต็มยศพร้อมกับอาวุธครบมือมีทั้งเทพและเทวทูต ได้มีคนที่บินมาเป็นเหมือนหัวหน้ากองทัพนี้บินมาถามเธอ

    “มันคือปีศาจผู้ชั่วร้ายที่ได้สังหารท่านพ้ง”เขานั้นรู้จักประหลาดใจเล็กน้อยที่เด็กที่เหมือนหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้านั้นเป็นเทพ

    ราตรีได้ส่ายหัวเล็กน้อย“ข้าก็ไม่เห็น”พอเราเทพเจ้าได้ยินคำตอบแบบผู้ชายคนนั้นก็ได้บินกลับไปยังเรือรบเพื่อพยายามจะเดินไปยังสถานที่ต่อไปแต่ทว่าได้มีเสียงตะโกนออกมาจากเรือ“ท่านเองนั่นแหละที่เป็นคนซ่อนพวกปีศาจไว”ชายผู้นั้นเทพเจ้าหันหน้ากลับมา

    “ข้าขอตรวจสอบดินแดนของเจ้าได้หรือไม่มันใช้เวลาไม่นาน”

    ทันใดนั้นท้องฟ้าดูดีๆก็มืดครึ้มพร้อมกับร่างของราตรีที่อยู่ดีๆก็มีหลายร่างที่ได้ปิดล้อมร่างเขาเอาไว้

    ปืนใหญ่ที่อยู่บนเรือ 3 กระบอกได้หันหัวขึ้งมายังผู้หญิงคนนั้นหัวของพวดเขานั้นจะได้ยกมือเพื่อให้ปืนใหญ่ 3 กระบอกหันหัวลงเอาลง

    “พวกข้าไม่ได้คิดที่จะสู้กันท่านเเค่ต้องการตรวจสอบแค่นั้น”

    “พวกท่านจะไปหรือพวกท่างจะสู้”

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×