ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : story-ชายผู้ตกท่อ
วันพุธที่ 3 พฤษภาคม 2016 เวลา 13 : 02 น.
“เออ...ฉันก็อยากจะเชื่ออยู่หรอกนะเพื่อน แต่...”
“ฉันรู้น่า ว่ามันเชื่อยาก แต่ฉันเห็นมากลับตาเชียวนะ” เสียงถกเถียงของสองคู่หูดังขึ้นขณะเดินอยู่บนระเบียงต้อนรับของสถานีตำรวจ สายลมอ่อนยามบายเริ่มที่จะมีการพัดโบกตามฤดูกาล เสียงพูดคุยกันระหว่างเจ้าหน้าที่แต่ละนายดังจ้อยแจ้วถึงเรื่องเมื่อกลางวันของเมื่อวานพร้อมกับประชาชนที่พยายามเรียกร้องความเป็นธรรมที่ตำรวจช่วยเหลือครอบครัวตนเองไว้ไม่ได้ บรรยากาศของทั้งสถานีก็เริ่มที่จะหมองหม่นไปด้วยภาพการระเบิดพลีชีพกลางวงตัวประกัน คนตาย 6 ศพ คนบาดเจ็บ 18 คน จับโจรไม่ได้เลยเสียสักคน อาจจะเป็นเพราะ ออกมาพร้อมกับการวิ่งเอาชีวิตรอดของพวกตัวประกันไปเสียแล้ว
“เฟริส ช่วยฉันหน่อยสิ” ดีฟเรียกเสียงหวานใส่คนตรงหน้าที่กำลังรับประทานกาแฟอย่างปวดใจ
“สวัสดีตอนเช้า ดีฟ แล้วก็...ดาฟ ด้วย” เสียงตอบกลับด้วยการยิ้มที่มุมปากสร้างความหดหู่แก่คู่สนทนาเป็นอย่างมาก ผมยาวสีเขียวแก่กับดวงตาสีดำสนิทของ
เฟริสเริ่มคล้อยหลับตาลงเพิ่มความหดหู่ไปอีกเท่าตัว
“เป็นอะไรไป เฟริสผู้บ้าบิ่น เริ่มที่จะมีน้ำตาแล้วหรือนี่” คำพูดหยอกล้อของดาฟดังใส่หน้าของผู้ที่อยากจะให้ช่วยเหลือเข้าอย่างเต็มเป้า และเป็นที่ได้ผล ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหดหู่ของเฟรัสเริ่มที่จะเปลี่ยนไปเป็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มพร้อมที่จะหาเรื่องดาฟ ได้ทุกเมื่อ
“พูดแบบนี้แสดงว่านายอยากโดนซัดหน้าสินะ” ครั้งนี้เฟรัสตอบด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มกว่าเดิม แต่ก็ต้องหน้าแดงขึ้นหลังจากความพูดที่แสนจะอมเปรี้ยวของดาฟทันที
“แบบนี้ละ ฉันชอบเธอตรงตอนยิ้มมากกว่าอีก”
“ไอ้บ้า...มีอะไรก็ว่ามา”
“ช่วยหาคนหน่อยสิ” ดีฟตอบทันที
“ได้สิ ว่าแต่...”
“แต่อะไร?” ดาฟพูดแทรกขึ้น
“พวกนายช่วยดูอะไรให้ฉันก่อนสิ” การสนทนาจบลง เฟรัสหันหน้าไปมองบนจอคอมริมโต๊ะของตนเอง ก่อนจะใช้นิ้วกดลงไปบนเมาส์หลังจากเจอสิ่งที่ตนตามหา
ภาพของกล้องวงจรปิดในมุมหนึ่งของซอย ทำให้ดาฟมีใบหน้าอันซีดเผือกยิ่งกว่าภาพการระเบิดพลีชีพนั้นเสียอีก ใช่ นั้นคือภาพที่ดีฟวิ่งไล่ตามสุดชีวิตจนไปหยุดอยู่ตรงซอยในเมืองที่หนึ่ง
“นายเห็นใช่ไหม ดีฟ ” เสียงเรียกถามของเฟรัสทำเอาใหน้าแล้ว จะบอกว่านี้เป็นการตัดต่อก็ไม่ใช่ เพราะท่าทางดีฟเองก็พึ่งจะรู้ว่ามีวีดิโอนี้อยู่เช่นกัน
“นี้แหละคือสิ่งฉันอยากให้เธอช่วย หาคนในภาพนะ” ดีฟพูดขึ้น
“ฉันพยายามอยู่ แต่ไม่มีใครที่เหมือนในภาพเลยนี่สิ” เฟรัสพูดขึ้นอย่างเหนื่อยใจพลางค่อยๆกดภาพไปทีละภาพผ่านคอมพิวเตอร์จอแบน ก่อนที่จะพูดต่อไปว่า
“ทำไมนายไม่ลองไปตรวจสอบที่นั้นดูก่อนละ”
“อา...นั้นสินะ ไปไหมดาฟ” ดีฟถามขึ้นเชิงหาพวก
“อ่า ฉัน...”
“นายนะมาช่วยฉันดีกว่า ทางนั้นให้ดีฟไปคนเดียวก็ได้ ไปแค่ตรวจเอง”ดาฟพูดจะตอบตกลงยังไม่ทันจบ เสียงแทรกของเฟรัสก็ดังขึ้นทันที
“แล้วทำไมฉันต้องอยู่กับเธอด้วยมิทราบ” ดาฟเริ่มเถียง
“ถ้าอยากให้งานนี้มันจบเร็วก็มาช่วยกันเลย ท่าไม่อย่างนั้นงานการตามคนคงใช้เวลาเป็นอาทิตย์” เฟรัสเริ่มอธิบายพลางยืนมือโบกกวาดไปสู่เก้าอี้ด้านขวาของเธอ
“ดาฟ นายอยู่นี้แหละ ฉันไปคนเดียวไหวอยู่” ดีฟพูดเพื่อขจัดปัญหาของทั้งสองท่านที่เหมือนจะมีความสุขที่ได้ถกเถียงกันไปมาของทั้งคู่สนทนา
“ก็ได้ ระวังตัวด้วยละกัน” ดาฟตอบพลางยิ้มให้เพื่อเป็นกำลังใจ ก่อนที่จะลงไปถกเถียงต่อกับเฟรัส
วันพุธที่ 3 พฤษภาคม 2016 เวลา 15.12 น.
แสงแดดแรงจ้าจากวงกลมโตบนฟากฟ้าได้สาดโหมกระหน่ำจนแสบผิวไปทั้งตัว ครั้งนี้ดีฟมาในรูปของชุดแต่งกายธรรมดา เสื้อสีน้ำเงินกางเกงดำ เหมาะกับชายชาตรีเสียซะไม่มี
“ไหนนะ ไหนนะ เบาะแสมันจะมีให้ไหมนะ” ดีฟเริ่มบ่นกับตนเองหลังจากหามาเกินหนึ่งชั่วโมงเสียงพร้อมเหงื่อของ เพลเชอร์ ดีฟ ก็เริ่มที่ไหลออกมา
“ตึกๆๆ” สิ้นเสียงได้ไม่ถึงนาทีเสียงการเคลื่อนไหวก็ดังขึ้น พร้อมกับเสียงกระแทกถังขยะจนล้มลงจากแรงกระทำ
“ใคร!!!” คำพูดเพียงคำเดียวของดีฟพร้อมกับการดีดตัวไปข้างหน้า ‘แต่’ ไม่ทันไรเท้าเจ้ากรรมของดีฟก็ได้พาร่างทั้งร่างลงสู่ท่อน้ำใต้พื้นถนนทันที หัวที่เริ่มจะโน้มไปตามแรงโน้มถ่วงกระแทกตรงพื้นน้ำทันที หัวของดีฟเริ่มที่จะมีโลหิตสีแดงสดไหลไปตามกระแสน้ำ สายตาที่แสนภาคภูมิใจของดีฟก็เริ่มที่จะเลือนรางและมืดไปในที่สุด
อากาศเริ่มอุ่นขึ้นมาหลังจากอาการไร้สติของดีฟที่เริ่มจะฟื้นตัว แสงไฟจากโคมไฟเริ่มที่จะเห็นรางๆส่องเข้าตาของดีฟทันที
“ตื่นแล้วหรอ” เสียงของชายหนุ่มดังขึ้นหลังจากเห็นอาการสรึมสรือของชายที่เปียกซกไปทั้งตัว
“เอ๋…นาย…” ยังไม่ทันที่จะพูดจบความพยายามที่จะลุกขึ้นก็เริ่มที่จะเสียเปล่า ร่างกายที่ไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรง เริ่มลดระดับลงจนไปติดอยู่บนโชฟาขนาดใหญ่สีน้ำตาล ถึงแม้จะได้สติจะกลับมาแต่ร่างกายยังไม่ฟื้นตัวดี ซึ่งดีฟเองยังจำเป็นต้องหยุดขยับร่างกายไปเสียสักพัก
“นอนไปเหอะ” ชายหนุ่มพูดคำสั้นหลังจากที่เห็นสภาพของหนุ่มที่ตัวเองได้ช่วยมา
และปล่อยให้ดีฟที่ยังนอนอยู่ที่โซฟาให้ได้พักต่อไป ส่วนตัวเองก็เดินเข้าไปในห้องด้านข้างแทน
“โอ้ย!!!” เสียงร้องอุทานของชายหนุ่มดังขึ้น ทำให้ดีฟที่กำลังนอนอยู่รีบดีดตัวออกจากโซฟาทันที พร้อมกับการบิดลูกบิดของประตูห้องออกเผยให้เห็นสภาพของชายหนุ่มที่กำลังเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง สายตาสีน้ำตาลอ่อนที่เคยได้เห็นช่วงวินาทีนี้อีกครั้งของดีฟทำให้อาการอ่อนแรงเริ่มเกิดอาการ ร่างกายที่ทรุดตัวเอียงไปทางทิศด้านหน้าจนกระแทกคนที่ส่งเสียงอุทานเมื่อครู่ แต่เพียงไม่กี่วินาทีนั้นมือทั้งสองข้างของชายหนุ่มก็ได้อยู่ในที่ที่ไม่อาจเรียกว่าเหมาะสมได้อีก มือทั้งสองข้างของเจ้าตัวได้เผลอไปจับข้อมือของผู้ช่วยชีวิตให้หงายขึ้น ร่างกายของทั้งสองก็แทบชนกันจมูกของทั้งสองคนอยู่ห่างกันไม่ถึงสองเซนติเมตรเหลือเพียงลมหายใจที่พัดแผ้วเบาลงบนหน้าของหญิงสาวผมดำยาว
“อะ...นะ...นาย!!”
“ผะ ผมขอโทษ” สิ้นสุดเสียงแฝงด้วยความตกใจของผู้กระทำดังขึ้นเพื่อปกปิดเสียงของผู้อยู่ด้านใต้ตัวของเองทันที พร้อมกับการยกตัวให้ห่างจากคนที่อยู่ตรงหน้าให้มากที่สุด
“คือ...ผมไม่ได้ตั้งใจ”
“ชังมันเถอะ” หลังเสียงสนทนาของทั้งคู่เริ่มที่จะเข้าสู่ความเงียบ สายลมบอกถึงอากาศที่ค่อนข้างจะเย็น แต่ทั้งคู่กลับเหงื่อออกเสียอย่างนั้น
“ออกไปรอด้านนอก” เจ้าของบ้านพูดขึ้นหลังจากเกิดความเงียบดั่งป่าช้าได้ไม่ถึงนาที
สายลมอ่อนๆที่พัดอยู่ทั่วห้องนั่งเล่น ทำเอาตัวของดีฟเย็นเยือกขึ้นมาทันที คนที่ตัวเองกำลังตามหาอยู่จะใช่หรือไม่ใช่ก็ไม่รู้กลับมาอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ควรอยู่ อีกทั้งยังได้รับความช่วยเหลืออีกต่างหาก แล้วจะให้ทำตัวอย่างไงได้ละทีนี้
“ชื่ออะไร” เสียงถามเย็นเยือกของเจ้าของบ้านดังขึ้นหลังจากประตูถูกแง้มออกมา
“เออ...ดีฟ เพลเชอร์ ครับ”
“ไปทำอะไรในท่อละนั้น” สิ้นเสียงเจ้าของบ้าน สีหน้าของผู้ที่ตกอยู่ในฐานะแขกก็เปลี่ยนจากสีหน้าทำอะไรไม่ถูกกลายเป็นใบหน้าที่เขินอายขึ้นมาทันที ก็แน่ละใครจะบอกว่า มาตามจำคนร้ายแต่ดันไปตกท่อเสียแทนละ
“ก็...ไป...เก็บของนะ” ดีฟตอบอย่างตะกุกตะกัก ขณะที่กำลังกั้นใจถามสิ่งตัวเองอยากรู้มากที่สุด
“เธอนะ คือคนที่อยู่ในเหตุการณ์เมื่อวานใช่ไหม” คำถามแบบกั้นใจอย่างเป็นตายได้ถูกเปล่งเสียงออกมาจนได้
“เมื่อวาน...อ๋อ ไม่อยู่หรอก แต่เห็นข่าว” เจ้าของบ้านพูดขึ้นในขณะที่กำลังมัดผมสีดำยาวจนถึงหลังออกมาเป็นหางม้า แต่ก็ต้องหยุดลงเพราะคำพูดของแขกที่ทำให้เด็กสาวเริ่มเหนื่อยใจ
“โกหก!! เมื่อวานชั้นเห็นคนที่เปลี่ยนเป็นแบบ...นี้นะ กับตาเลยนะ ไม่ใช่เธอแล้วจะเป็นใครอีกได้”
“คิดว่ามีแค่ฉันคนเดียวงั้นหรอ ที่เปลี่ยนเป็นแบบนี้ได้นะ” เจ้าของบ้านตอบกลับ
“เอ๋?”
“ก็บอกว่าไม่ใช่ฉันคนเดียวหรอกที่ทำแบบนี้ได้นะ อีกทั้งเมื่อวานฉันก็เพิ่งไป
‘ฟรีแกรน’ มาด้วย ดูสิ” สิ่งที่ยื่นออกมาจากมือเจ้าของบ้านคือ‘เดร็กทิป’การเดินทางเป็นสิ่งที่จะบ่งบอกได้ว่าไปประเทศอะไรมาบ้าง ทวีปอะไร อีกทั้งยังมีวันที่และตราประทับพิเศษของสถานทูตที่ส่องประกายสีสันรุ้งอ่อนๆออกมา
“งั้น...จะบอกว่า มีอีกหลายคนงั้นหรอ” ดีฟเริ่มถามอย่างตะกุกตะกัก
“มีทั่วโลกเลยละ เบื่อคนที่ไม่รู้เรื่องทางโลกจัง” เสียงบ่นของเจ้าของบ้านทำให้ชายหนุ่มผู้ตกท่อเกิดอาการจ๋อยออกมาทันที
“ขอโทษครับ” คำขอโทษที่แสนจะนอบน้อมของแขกที่ทำการถามอย่าเป็นจริงเป็นจังดังขึ้น
“ไม่เป็นไร ฉันไม่ถือหรอก…ว่าแต่ ตำรวจงั้นหรอ”
“ครับ”
“หาคนร้ายหรอ?”
“ครับ”
“โชคดี”
“ครับ?” คำตอบแบบงงๆของเจ้าของบ้านได้หยุดชะงักลงทันที ดีฟเองเองก็ไม่ใช่คนที่จะโง่จนคิดอะไรไม่ทัน ‘ถ้ามีเธอช่วยต้องจับตัวพวกนี้ได้แน่’ และเป็นอีกครั้งที่ดีฟเองต้องกั้นใจถามอีกฝ่ายเพื่อขอความช่วยเหลือ
“จะต้องไปไหนอีกรึป่าวครับ”
“...”
“ขอร้องละครับ ช่วยผมหน่อยเถอะ” ท่าทางการโน้มตัวลงเก้าสิบองศาบวกกับคำพูดที่ดีฟพูดออกมา ทำเอาเจ้าของบ้านใจหายกันไปข้างหนึ่ง
“ช่วย...ช่วยอะไรละนั้น”
“จับคนร้ายไงครับ” คำพูดแสนเรียบง่ายเข้าเต็มหูเจ้าของบ้าน แต่คนที่พูดออกมาไม่ใช่เรียบง่ายแบบนั้นเลย สีหน้าที่เป็นทุกข์กับสมองที่คิดถึงการระเบิดต่อหน้า ทำเอาหัวของดีฟแทบจะบ้าตาย
“ไม่ไหวหรอก แค่สภาพร่างกายตัวเองก็...”
“สภาพร่างกาย?”
“ไม่ใช่ ไม่ใช่ หมายถึงเวลานะ” อาการรีบร้อนที่จะแก้คำพูดของตัวเองทำเอาดีฟตงิดใจได้ไม่น้อย
“ขอร้องละครับ ถ้าคุณได้ดูเรื่องของเมื่อวานจริงๆละก็...”
ภาพเมื่อวาน ใช่ ภาพการระเบิดพลีชีพที่ถูกแพร่ไปอย่างรวดเร็ว ข่าวทุกช่องออกภาพเหตุการณ์นั้นทั้งหมด ‘โศกนาฏกรรมแห่ง ‘แบงก์ลีดอร์’’ ชื่อที่ตั้งขึ้นหลังจากข่าวนี้ได้เผยแพร่ออกไปได้ไม่นานดั่งความเร็วแสงผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
“ก็ได้ ก็ได้ ถ้าให้บอกข้อมูลเรื่องแบบนี้ก็พอไหวละนะ” เจ้าของบ้านตอบไปอย่างจะเหนื่อยใจกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยภาพการระเบิดนั้น
“แค่นั้นก็พอแล้วครับ” ดีฟพูดอย่างโล่งใจเหมือนเด็กที่เพิ่งได้ขนมคืนจากผู้เป็นแม่ก่อนทีจะพูดด้วยลอยยิ้มฉีกกว้างไปว่า
“ยินดีที่ได้รวมงานครับ คุณ...”
“เซฟารี เรย์ฟา ยินดีเช่นกัน”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น