คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : หนังสือของฉัน
อาณาเขตบ้านตระกูล เบลอง ตั้งตระหง่านกลางเมืองฟรีแกรนซิตี้และเป็นที่รู้จักกันดีในกลุ่มชาวเมืองมาแสนนาน แสงสว่างได้สาดส่องกระทบกำแพงสีขาวสะอาดตาอย่างเป็นธรรมชาติ สวนหน้าบ้านมีการประดับด้วยต้นไม้เล็กๆเป็นหย่อมๆกระจายทั่วพื้นที่
“หญิงน้อย จะหลับแต่เช้าเลยหรอคะ”เสียงทักหวานจากคีต้าถึงเด็กสาวที่กำลังอิ่มเปรมกับการฟุบนอนบนหมอนจำเป็น โดยใช้หนังสือเล่มหนาขนาดเท่าฝ่ามือเป็นที่กั้นระหว่างใบหน้ากับโต๊ะหินอ่อน
“งืม” เสียงสะลึมสะลือของผู้ที่ยังอยากจะนอนต่อดังขึ้นพร้อมกับการฟุบตัวหลับไปอีกครั้งข้างกองหนังสือที่วางเกะกะเป็นสิบเล่มใกล้ตัว
“ดูทำเข้าสิคะ หญิงน้อย” เสียงเรียกอีกครั้งอย่างไม่ยอมแพ้ของคีต้า ซึ่งได้ผล ใบหน้าที่สงบนิ่งได้เปลี่ยนเป็นใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความอยากนอนอย่างไม่มีสิ้นสุด
“สวัสดีคะ พี่คีต้า”
“ดูทำเข้าสิคะ” คีต้าพูดในขณะที่มองเฟลด้วยสายตาที่บอกว่า ‘อย่าทำนะ’ ใส่ใบหน้าที่กำลังจะอาปากหาว ทำให้เฟลที่พยายามบิดขี้เกียจอยู่นั้นหันกับเป็นท่านั่งตรง
“มีอะไรหรอคีต้า”เสียงหวานไม่แพ้กันดังออกมาจากด้านหลังของคีต้า ใบหน้าสงบนิ่งขณะเคลื่อนตัวเข้ามาบ่งบอกได้เลยว่าได้รับการฝึกมาอย่างดีเป็นแน่
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ พี่แซน”เสียงทักตอบอันอ่อนโยนของคีต้าดังขึ้นในขณะมองหญิงน้อยของตนกำลังนั่งหยิบหนังสือมาวางเรียงกันไว้อีกครั้งอย่างน่าเอ็นดู
“หญิงน้อยกำลังอ่านอะไรอยู่หรอคะ” แซน คาเมล์ คนใช้ที่น่าจะอาวุโสสุดในกลุ่มแม่บ้านได้ถามขึ้นพร้อมกับการย่อกายทำความเคารพ ผมสีเขียวแก่ของเธอก็ได้สะบัดขึ้นลงตามแรงกระทำรวมกับการดึงชายกระโปรงขึ้นอย่างเพียบพร้อมสร้างความนับถือได้อย่างดี ซึ่งเฟลเองก็ยืนทำความเคารพแบบเดียวกัน เสื้อสีฟ้าใสของน้าลีน่าที่ได้ถูกนำมาใส่อีกครั้งหลังจากไม่ได้ใส่มาเลยตั้งแต่กลับมาถึงบ้านเล็กของเธอ
“คะ อ่านข้อมูลที่พวกรุ่นพี่เขาเจอกันนะคะ” เฟลตอบในขณะที่มองหนังสือเป็นสิบเล่มวางอย่างมีระเบียบและหันกลับมามองคนที่ถามด้วยรอยยิ้มน่าเอ็นดู ซึ่งไม่น่าแปลกที่จะถูกพ่อบ้านแม่บ้านชอบใจกันนัก
“แล้วเจอสิ่งที่ต้องการไหมคะ” คราวนี้คีต้าเป็นคนถามบ้างแต่สายตาก็ไม่ได้มองที่หญิงน้อยของตนแต่อย่างใด แต่กำลังมองสาวๆนับสิบคนกำลังเดินกลับมาพร้อมกับชายหนุ่มที่ทำหน้าตาเหนื่อยหน่ายขั้นสูงสุด
“เจอคะ” เสียงตอบกลับของเฟลในขณะที่สายตากำลังมองรูปภาพที่แปะมากับหนังสือสีเทาที่ได้มาจากลุงเมารี
“คีต้า พี่คิดว่าอย่าไปกวนหญิงน้อยเลยดีกว่า”แซนพยายามลากคีต้าที่กำลังมองคุณหญิงอีกเป็นสิบที่คนเดินมาพร้อมเครื่องประดับหลากหลายราคาแพง
“โชคดีคะ” คีต้าพูดส่งท้ายก่อนที่จะเดินลับสายตาของเฟลไป
‘โชคดีคะ...หรอ’ เฟลคิดถึงคำพูดที่พี่คีต้าได้พูดทิ้งท้ายไว้ขณะที่อีกมือหนึ่งกำลังพลิกกระดาษหน้าต่อไปอ่าน
“เฟล ทำอะไรอยู่นะ” ผู้มาใหม่พูดขึ้นขณะยื่นหน้ามามองหนังสือเล่มพลางหันมามองหน้าคนที่กำลังอ่านอย่างใจจดใจจ่อ
“อ่านหนังสือไง” เฟลตอบเสียงเรียบพร้อมกับยื่นมือไปหยิบที่คั่นหนังสือทำเองมาคั่นหน้าที่อ่านไว้
“โอ๋โห้ ทำเองหรอ ทำให้ผมบ้างสิเฟล” คิวพูดพร้อมกับเดินเข้ามานั่งเก้าอี้หินอ่อนอีกตัวข้างๆ
“นั้นสิสวยจริงจริ๊ง ว่าไหมแนน” เสียงของหญิงสาวผมสีเหลืองอ่อนพูดขึ้นโดยเน้นคำว่าจริงให้สูงขึ้นในขณะกำลังเดินมายืนข้างๆเฟล
“นั้นสิเธอ ทำให้ฉันบ้างสิแคน”เสียงแหลมกวนประสาทของหญิงเจ้าของกระเป๋าใบใหญ่ที่คิดว่าคงซื้อมาไม่นานนี้แน่ๆพร้อมกับการปรากฏตัวข้างเฟลเช่นกัน
“ทำอะไร ฉันทำของแบบนี้ไม่เป็นหรอก ไปให้ยัยเด็กนี้ทำสิ” แคนตอบกลับ
“ของแบบนี้มันต้องซื้อสิถึงจะมีราคา” เสียงแหลมของอีกคนดังขึ้นจากนั้นก็เริ่มที่จะมีเสียงพูดคุยจากคนอื่นๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เบื่อหน่าย นี้คือสิ่งเดียวที่ทำให้ชายหนุ่มเจ้าของบ้านทำหน้าแบบบูดได้ตั้งแต่เช้า ไม่ยิ้มเหมือนคราวก่อนๆ ซึ่งเฟลก็พอจะรู้ความรู้สึกนั้นบ้างแล้ว
“แล้วรู้อะไรมาบ้างละ” คิวถามพลางยิ้มอ่อนๆให้กับคู่หูของตน
“ไม่มากหรอก…”
“ไม่มากหรือไม่บอก” เสียงกวนประสาตของแนนดังขึ้นแทรกขณะที่เอาอีกมือหนึ่งดึงหนังสือที่เฟลอ่านมาอย่างหน้าตาเฉย
“ชี...วะ...ประ...วัติ…เบน...ต้า”เสียงพูดชื่อหนังสือทีละคำของแนนทำให้คิวซึ่งมองภาพการจับหนังสือโดยใช้เพียงสองนิ้วในการจับ มือข้างขวาของคิวก็ได้ดึงหนังสือจากมือของอีกฝ่ายในทันที
“ว้ายๆ ระวังมือจะติดเชื้อนะคะ”เสียงร้องด้วยความซะใจของแนนดังขึ้นพร้อมกับการสะบัดมือท่าทางขยะแขยงออกมา
“โทษทีนะ” คิวพูดขึ้นขณะยื่นหนังสือกลับคืนให้เฟล
“ทำไมย่ะ แค่นี้อ่านไม่ได้รึไง เลขาเอามาให้อ่านเพื่อเอาข้อมูล ไม่ใช่ของเธอเสียหน่อย” คำพูดของแคนลั่นตามมาพร้อมกับเสียงหัวเราะดังลั่นของแนน
“สมุดนี้ถึงจะใช่สำหรับการหาข้อมูลก็เถอะคะ แต่นี้เป็นของฉันโดยสมบูรณ์”
เฟลพูดขึ้นขณะยื่นกระดาษห่อสีน้ำตาลที่ถูกฉีกออกมาแล้วพร้อมกับลายมือจริงของเลขาเขียนไว้ว่า ‘ถึงเฟลิต้า ทอเทนเซลต์’ไว้ตรงกลางกระดาษอย่าชัดเจน หน้าของแคนกับแนนก็เริ่มที่จะมีรอยร้าวกันเป็นคนๆไป
“เฟลขออ่านต่อได้ไหม” คิวขอหนังสือจากเฟลด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความซะใจของตน
“อืม” การตอบรับดังขึ้นพร้อมกับการยื่นหนังสือไปให้คิวที่ฉีกยิ้มให้อีกครั้ง
“คิว หน้านายเป็นอะไรไปรึป่าวเอาแต่ยิ้มอยู่ได้” พอเฟลเห็นการฉีกยิ้มของอีกฝ่ายแบบนั้นก็อดที่จะถามถึงเรื่องนี้ไม่ได้ พร้อมกับการดึงใบหน้าของฝ่ายชายด้วยความหมั่นไส้ไปด้านข้างอย่างเต็มแรง
“ก็ผมอารมณ์ดี จะให้ทำหน้าบึ้งรึไง” คิวตอบคำถามพร้อมกับจับแขนของฝ่ายหญิงเอาไว้ ก่อนที่จะถามต่อไปว่า
“แล้วเฟลละ ถึงมานั่งอ่านหนังสือตรงนี้ ร้อนจะตาย” คิวพูดขณะสะบัดคอเสื้อของตนเพื่อให้เกิดลม
“ก็ก่อนหน้านี้อากาศกำลังดี” เฟลพูดขณะนำหนังสือที่เหลือมาวางไว้หน้าตัว ก่อนที่จะไปลุกยืนขึ้น
“จะไปไหนนะ”
“เอาหนังสือไปเก็บที่ห้องไง”
“ผมช่วยนะ” คิวรีบเสนอตัวทันทีหลังจากที่เสียงตอบของเฟลจบ
“แต่...”เฟลพูดขณะมองไปหาหญิงสาวทั้งสิบ ที่กำลังมองการสนทนาของตน แต่ก็ไม่ทันจะพูดจบ ก็ถูกแทรกด้วยเสียงของคิวทันที
“เฟลเร็วสิ เดี๋ยวผมไปค้นห้องคุณ ไม่รู้ด้วยนะ” ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสกว่าตอนที่เดินกลับจนถึงบ้านของวันเช้าตรู่
“อย่าแม้แต่จะคิดทำเชียวนะ” เสียงของเฟลที่วิ่งไล่ตามดังห่างออกไปเรื่อยๆจากตรงหน้าหญิงสาวเกือบสิบคนที่ยืนมองการกระทำของทั้งสองฝ่าย
“เป็นอะไรกันไป ทุกคนยืนนิ่งเป็นก้อนหินเชียว”เสียงทักหวานของเด็กสาวผมสีม่วงลึกที่จัดทรงด้วยผ้าเส้นยาวบางๆและเปลี่ยนเป็นยางมัดผมประดับศีรษะดังขึ้นก่อนที่จะมองไปอีกด้านหนึ่งซึ่งเห็นชายหญิงอีกคู่กำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน แล้วหันมาพูดกับตัวเองอย่างเหนื่อยใจ
“หยุดทีเถอะเรื่องแบบนี้นะ”
ความคิดเห็น