ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    chapter save บทบันทึกความจริง

    ลำดับตอนที่ #5 : แม่ O.o

    • อัปเดตล่าสุด 26 เม.ย. 57


    แม่

            แม่หรอ? แม่ใคร? อย่าบอกนะว่าแม่ของนายนะ แย่แล้วสิเรา สิ้นสุดความคิดเด็กสาวที่ได้แต่เพียงกลืนน้ำลายเผชิญหน้ากับผู้ที่ใหญ่สุดในสถานการณ์แบบนี้

            เสียงฟ้าร้องดังแบบมโนเอาเองถึงความยิ่งใหญ่ของคนตรงหน้าเข้าถึงหูทั้งสองข้างของเด็กสาว จากเพียงคำเดียวของของชายหนุ่มที่เรียกหญิงตรงหน้าว่า แม่

            ในสังคมที่เธอเคยอยู่ก็เหมือนกับสังคมของชายหนุ่ม การมีเพศตรงข้ามอยู่กับลูกตนเองในขอบเขตบ้านของตน ซึ่งน่าจะเป็นสิ่งที่สมควรถูกจับตามองเป็นอย่างมากของคนเป็นบิดามารดา ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เฟลิต้าจะมองถึงความอันตรายในอนาคตของเธอออก

            สวัสดีจ๊ะ ดีใจนะที่ชุดของแม่ยังใส่ให้กับสาวน้อยคนนั้นได้ เสียงใสบ่งบอกถึงความอารมณ์ดีของผู้มีสรรพนามเรียกขานว่าแม่ของชายหนุ่ม ทำให้เด็กสาวที่บังเอิญตกสู่สถานการนี้ทำเอาใจของของเธอลงมาถึงตาตุ่มทันที ผิดกับชายหนุ่มที่นั่งยิ้มอยู่ตรงหน้าต่างอย่างสบายใจ

            อะ...อะ...คือ...เด็กสาวเริ่มพูดตะกุกตะกักหลังจากคนที่มีอำนาจมากที่สุดในตอนนี้ได้กล่าวถึงเด็กสาวชุดสีฟ้าใสบริสุทธิ์

            จ๊ะ?” เสียงใสบริสุทธิ์ดังมาอีกครั้งทำให้เด็กสาวทำอะไรไม่ถูกแต่สำหรับชายหนุ่มที่กำลังสบายใจเกี่ยวกับการสนทนาที่ดีของผู้เป็นแม่กับเด็กสาว แต่ในทางกลับกันคำพูดสั้นๆของฝ่ายนั้นเหมือนเป็นการตอกย้ำว่าควรจะทำอะไรสักอย่างโดยเร็วที่สุด แต่แล้วความเครียดของเด็กสาวก็สงบลงเมื่ออีกฝ่ายพูดแทนเธอให้

            แม่ครับ นี้เพื่อนผม เฟลิต้า ครับ ชายหนุ่มตอบพร้อมยิ้มนำเสนอผู้เป็นแม่อย่างเต็มใจถึงเรื่องของเด็กสาวที่ตนเองได้พามา

            อ๋อเพื่อนนี้เอง หญิงสาวตอบกลับพลางยิ้มหาเด็กสาวที่กำลังยืนนิ่งใกล้กับคุณพ่อบ้าน

            เชิญด้านในก่อนสิจ๊ะ หญิงสาวพูดพลางยิ้มให้ก่อนจะเดินออกจากประตูบ้านหลังเล็กไป

            ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีนะ ว่าไหมเฟล ชายหนุ่มพูดพร้อมกับการหันหน้ามามองเด็กสาวที่กำลังทำหน้าบูดใส่ลูกชายของคนที่เพิ่งจะเดินออกไปได้ไม่นาน

            ผมทำอะไรให้คุณไม่สบายใจรึไง ชายหนุ่มยังพูดต่อแบบไม่รู้เรื่องในสิ่งที่ตนได้ทำลงไป แต่สำหรับคุณพ่อบ้านกับเฟลรู้ดีว่าสิ่งที่ได้กระทำลงไปของชายหนุ่มกำลังจะจุดชนวนเหตุครั้งใหญ่ให้กับเด็กสาวที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวในครั้งนี้

            ไปกันเถอะ ชายหนุ่มยังพูดขณะที่กำลังลุกเดินออกไปจากบ้านอย่างอารมณ์ดี

            นาย เฟลเริ่มเปิดฉากเรียกหลังจากขาข้างหนึ่งของชายหนุ่มได้ก้าวออกพ้นประตูบ้านของพ่อบ้านชราคนนั้นนี้ไป แต่ดูเหมือนชายหนุ่มจะไม่สนใจและยังคงเดินต่อไปไร้ทีท่าที่จะหยุด

            นาย เฟลพูดอีกครั้งหลังจากที่อีกฝ่ายทำเป็นไม่สนใจ

            คุณคิวบิส สิ้นสุดคำพูดของเฟล ชายหนุ่มได้หยุดชะงักลง และกล่าวคำพูดที่จะทำให้พ่อบ้านชราจดจำไปตลอดชีวิต

            ผมอยากให้เรียกคิวเฉยๆซะมากกว่านะ คำพูดส่งท้ายหลังจากเดินพ้นประตูบ้านไปทำให้พ่อบ้านชราถึงกับอึ้งในคำพูดของคุณหนูของตน

    คิวบีส เบลองสัน ลูกชายคนโตของตระกูล เบลอง และเป็นคนที่เนื้อหอมมากมาตั้งแต่เกิด มีผู้หญิงหลายคนที่มาทำความรู้จักหวังอนาคตแต่ คิวบิสคนนั้นก็ยังไม่เคยที่จะให้ใครเรียกชื่อเล่นของเขาเลยแม่แต่คนเดียว คนที่เคยเรียกชื่อเล่นห้วนๆก็ไม่เคยได้เรียกอีกเนื่องจากเจ้าตัวจงใจที่จะหนีห่างคนๆนั้น แต่คิวบิสในครั้งนี้กลับขอให้เด็กสาวที่เพิ่งพบเจอกัน เรียกได้แบบห้วนๆโดยไร้สาเหตุ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าแปลกสำหรับคนที่เป็นพ่อบ้านรับใช้ตระกูลนี้เป็นเวลานานเช่นกัน

            ผมคิดว่าควรตามไปนะครับ พ่อบ้านชายชราเอ่ยพร้อมกับการเดินหันหลังกับและเดินเข้าไปในห้องครัว

            อยากจะบอกไว้ตรงนี้เลยว่าตอนนี้คงเป็นวินาทีแห่งชีวิตแน่ คนอย่างไอ้คิวบิสเอ่ยปากให้เธอเรียกเอง ฉันเป็นอะไรไปละเนี้ย ชายหนุ่มได้เพียงคิดกลุ้มอย่าในใจขณะที่เท้าสองเท้ายังขยับเดินลัดสวนเข้าประตูบ้านหลังใหญ่ที่สุดของสถานที่แห่งนี้

     

     

    หน้าบ้านที่งดงามจนไม่รู้จะเอาอะไรเทียบแล้ว แต่ข้างในกลับกว้างกว่าที่เห็นเสียอีก มีทั้งบันไดทั้งสองด้านที่มีเส้นทางปะจบกันอยู่ตรงกลางของบ้าน ด้านหน้าเหมือนมีการประกาศศักดินาด้วยรูปครอบครัวใหญ่ขนาดครึ่งหนึ่งของกำแพง บนพื้นปูด้วยพรมสีแดงสด ส่วนทางเดินก็มีแจกันนับร้อยวางเรียงราย ครอบครัวนี้รวมค่าทรัพย์สินทั้งหมดคงเกิน ล้านเดลแน่ๆ

    เฟล... คำเดียวจากปากของคนที่ใช้สรรพนามว่า แม่ของชายหนุ่มทำเอาใจของ

    เฟลิต้าหล่นลงอีกครั้ง ห้องนั่งเล่นที่มีสิ่งของประดับล้ำค่ามากมายทำให้คำพูดของเจ้าบ้านดูยิ่งใหญ่ขึ้นไปอีกหลายเท่า

            ตายแน่ฉัน คราวนี้ไม่รอดแน่ๆเฟลคิดในขณะที่พยายามหลบตาอีกฝ่าย แต่ก็ต้องหันกลับมามองหน้าอีกฝ่ายหลังจากคำพูดอันแสนอ่อนโยนได้ดังขึ้นจากคนผู้ทรงอำนาจในเวลานี้ได้พูดออกมา

            ขอเรียกแบบนี้ได้ไหมจ๊ะ เสียงใสๆที่ได้พูดต่อหลังจากเว้นระยะคำพูดไปช่วงหนึ่งของคนที่ใช้สรรพนามว่า แม่ของชายหนุ่มได้ดังขึ้นพร้อมใบหน้าที่ยิ้มแย้มเกินกว่าคำว่าสวยไปเสียแล้ว ใบหน้าอมยิ้มที่มีการแต่งเติมสีชมพูอ่อนเล็กๆน้อยๆตัดกับสีผมที่คล้ายกับลูกชายของตนเหมือนกับลอกแบบกันมาจากเครื่องพิมพ์ยาวถึงหลัง ทำเอาเฟลพูดอะไรไม่ออกกับความสวยของคนตรงหน้าเพียงแต่ได้พยักหน้ารับคำไป

            “ขอบใจจ๊ะเสียงหวานของเจ้าบ้านได้ดังขึ้นหลังจากได้รู้คำตอบของอีกฝ่าย

            ‘ใจเย็นๆไว้เฟล ใจเย็นไว้ แค่เรียกชื่อ เรียกชื่อเองไม่ใช่เอาขึ้นหิ้งเสียหน่อยเฟล

    พยายามปลอบใจตนเอง แต่อีกใจคงบอกว่า ตายแน่ๆ อยู่แน่นอนเพราะขาทั้งสองข้างของเฟลเริ่มอยู่ไม่เป็นสุขเสียแล้ว

            งั้นเรียกฉันว่า คุณน้า แทนนะจ๊ะ คราวนี้คำพูดนั้นเอาความคิดมโนว่าโหดร้าย ของเฟลทึ้งไปเสียทั้งหมด ไม่ใช่เพราะเสียงใสๆของคุณน้าหรอกนะ แต่เป็นการพูดแบบเป็นกันเองของเจ้าบ้านมากกว่า

            คะ เฟลรับคำอย่างเขินๆ ใบหน้าแดงก่ำของเฟล ทำให้ชายหนุ่มมองอย่างอดไม่ได้ แต่แล้วก็ต้องหยุดใบหน้าที่แสนจะอมยิ้มของชายหนุ่มหลังจากได้ยินคำถามจากผู้เป็นแม่ถึงลูกชายตนเอง

            คิว ถึงไหนแล้วละ เห็นกลับบ้านพาเด็กน้อยน่ารักแบบนี้มาได้ เสียงใสๆถามถึงเด็กน้อยที่ลูกของตนพามาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มกว่าเดิม เมื่อเห็นลูกชายของตนเอาแต่มองเด็กสาวอย่างไม่ละสายตา

            ก็ได้ข้อมูลมาบ้างแหละครับ แล้วอีกอย่างก็ได้เกินครึ่งแล้วด้วย

            “เกินครึ่ง แสดงว่ายังไม่เสร็จสินะเจ้าตัวดี อีกทั้งให้คนอื่นไปเองก็ได้ไม่ใช่หรอคุณน้าพยายามสักเกตการกระทำของลูกชายของตน ถึงจะเป็นคนที่ชอบทำงานด้วยตนเอง แต่ถึงขั้นต้องออกไปตากลมตากฝนเพื่องานแบบนั้น ใครๆก็ต้องถามกันบ้างทั้งนั้นแหละ

            ก็นะ ให้คนอื่นไปเองมันนานนี่ครับ คิวตอบอย่างอารมณ์ดีพลางฉีกยิ้มให้คนเป็นแม่อย่างน่ารักน่าชัง

            แล้ว หญิงน้อยคนนี้มาจากไหนหรอจ๊ะ ฝ่ายคุณน้าเริ่มเปลี่ยนเรื่องบ้างแล้ว แต่ก็มีอยู่เพียงคำหนึ่งที่เฟลคิดยังไงก็คิดไม่ตก

             หญิงน้อย อีกแล้ว มันคืออะไรกันนะสองคนแล้วเนี้ย หรือว่าอาจจะเป็นคำพูดของคนที่เรียกเวลามีแขกผู้หญิงมาละมั้ง เฟลคิดหลังจากนึกถึงคำว่า หญิงน้อย ที่ถูกเรียกใช้มาตั้งแต่เข้ามารั่วประตูของบ้านนี้

            แถวๆซอยเล็กๆตรงข้ามถนนใหญ่ที่มีกังหันลมใหญ่ตั้งอยู่นะคะ เฟลตอบอย่างไม่ปิดบังเรื่องที่อยู่ในตอนนี้ของตน เพราะไม่รู้จะโกหกไปทำไมอีกฝ่ายคงไม่มาบุกบ้านกันหรอกมั่ง ถึงบุกก็หาไม่เจอ คุณหน้าที่อยู่ตรงหน้าพยายามนึกคิดถึงสถานที่อยู่ของเด็กสาวและดูเหมือนจะนึกออก

            อยู่ไกลเหมือนกันนี่จ๊ะ ฝ่ายคนที่พยายามนึกถึงที่อยู่ก่อนหน้านี้พูดขึ้น

            ผมก็ไปเจอเฟลตอนที่ไปดูเจ้าพวกนั้นมานั้นแหละครับคิวตอบเสริมพร้อมฉีกกว้างอีกครั้ง

            ปากเป็นอัมพาตรึไงนะเจ้าหมอนี้ ยิ้มอยู่ได้ไม่เมื่อยบ้างรึไง เฟลคิดพลางส่ายหน้าเบาๆแอบไม่ให้คนในวงสนทนารู้สึกตัว แต่ก็ต้องสะดุ้งอีกครั้งเมื่อคุณน้าพูดโพลงออกมาอย่างไม่ทันตั้งตัว

            โอ๊ะ! ลืมสนิทเลย น้าชื่อ ลีนเทล เบลองสัน ยินดีที่ได้รู้จักจ๊ะ คุณน้าเสียงใสแนะนำตัวอย่างกะทันหัน

            คะ เช่นกันคะ เฟลก็รับคำอย่างอ่อนน้อม ใบหน้าที่ไร้การปรุงแต่งยิ้มด้วยความน่ารักที่สุดที่เคยทำมาใส่ผู้ที่ใช้สรรพนามว่าแม่ของคิวทันที

            จะเรียกว่า น้าลีน่าก็ได้นะจ๊ะหญิงสาวที่เผชิญหน้ากับเฟลก่อนหน้านี้ เริ่มที่จะ   เปลี่ยนสรรพนามการเรียกชื่อของตนทันที เมื่อเห็นสีหน้าของการตอบกับด้วยความน่ารักของอีกฝ่าย

            เริ่มอีกแล้ว นิสัยกินเด็กคิวเริ่มล้อ

            รักเด็กจ๊ะ ไม่ใช่กิน น้าลีน่าก็ตอบมุกไม่แพ้กัน

            ครอบครัวเป็นสิ่งที่สงบสุขดีจังแหะเฟลคิดในใจและเริ่มมีอารมณ์คิดถึงบ้านของเธอหลังจากหายไปนานเกินจำเป็น ป่านนี้ คงหายโกรธแล้วละ เสียงความคิดที่เล็ดลอดออกจากปากของเฟลขณะคิดอยู่เข้าไปถึงหูของชายหนุ่มที่นั่งยิ้มไปมาเมื่อครู่

            “อะไรหรอที่หายโกรธนะ คิวถามขึ้นหลังจากที่เฟลนั่งพึมพำกับตนเอง

            “อ๋อคือ ป่านนี้คนทางบ้านคงเป็นห่วงกันแล้วละ เฟลตอบคำถาม

            ผมไปส่งไหม คิวถามในขณะที่ใบหน้าของชายหนุ่มได้เผยยิ้มออกมาอีกครั้ง

            ไม่เป็นไรคะ เดี๋ยวกลับเองได้คำพูดของเฟลทำให้ใบหน้าที่ยิ้มแย้มเกือบเปลี่ยนเป็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยราวบนหน้าตนเองทันที

            แต่พวกนั้นเห็นคุณเป็นศัตรูไปแล้วนะ คิวยังไม่ล้มเลิกความคิด

            นั้นสิ เพราะใครกันนะ ก็แน่อยู่แล้ว เพราะใครที่ไหนก็ไม่รู้จับข้อมือลากไปมาทั้งคืนแบบนี้คนไล่ตามเขาคงไม่เห็นกันหรอก เฟลพูดกับตัวเองหลังจากการถามตอบของทั้งคู่จะจบลง

            ผมก็จะช่วยคุณไว้ด้วยไง ไปด้วยกัน ภาพคุณในกล้องก็จะไม่มีปัญหา คิวเริ่มหาข้อแก้ตัว ในขณะที่อีกฝ่ายทำหน้าแบบคนที่เหนือกว่าก่อนที่เฟลจะถามต่อไปว่า

            แล้วสรุปว่า พวกนั้นเป็นใครกันละ ใบหน้าที่มองหน้าคิวอย่างใจจดใจจ่อกับคำตอบที่กำลังจะเผยออกมาในอนาคต

            ใครนะหรอ...คือโจรนั้นละคิวตอบ ในขณะที่มืออีกด้านกำลังจับน้ำชาอุ่นๆตรงหน้าขึ้นดื่ม

            แล้วพวกนั้นจะทำอะไรกันละนั้น ได้ยินคำสุดท้ายว่า ไปวางแผนกันในคุกละกันไม่ใช่หรอ เฟลถามขณะทำท่านั่งตั้งใจฟัง ขาทั้งสองข้างของเฟลเริ่มติดกัน แขนทั้งสองที่วางไว้ระหว่างขาทั้งสองข้างกับใบหน้าที่ต้องการคำตอบอย่างจริงจัง เกือบทำให้คิวหน้าแดงก่ำออกมาต่อหน้าเด็กสาว

            ก็...ช่วยคนที่อยู่ในคุกโดยการแหกคุกไงคิวตอบคำถามในขณะที่กำลังทนกับอาการหน้าแดงของตนเองอยู่

            “แหกคุก?” การพูดซ้ำของเฟลแฝงไปด้วยความตกใจก่อนจะถามขึ้นอีกครั้ง

            “แล้วนายจะทำอะไรกัน เห็นคุณน้าลีน่าก็ถามว่าถึงไหนแล้วไม่ใช่หรอ เฟลถามขึ้นหลังจากเห็นข้อสังเกตนี้เป็นเวลานาน ใบหน้าที่คุ่นคิดของเฟลทำให้คุณน้าลีน่าอดติดใจไม่ได้ แต่ก็ต้องยิ้มแก้มปลิ่มทันทีหลังจากคำตอบของลูกชายตนเองพูดออกมา

            ก็แหกคุกเหมือนกันนั้นแหละครับคิวพูดขึ้นอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวอีกทั้งยังยิ้มอย่างมีความสุขอีกด้วย แต่สำหรับเฟลคงเป็นสิ่งที่อาจจะอธิบายยากน่าดู เพราะอะไรนะหรอ ก็เพราะว่า จะมีใครที่ไหนมาบอกกับคนอื่นว่าจะไปพาคนที่ติดคุกออกมากันละ มีแต่คนบ้าเท่านั้นแหละ แต่อีกฝ่ายก็ยังยิ้มอยู่ได้ หรือว่าโรคจิต ใช่แน่ๆ โรคจิตชัดๆ เฟลคิดในใจขณะอึ้งในสิ่งที่ได้ยินจนถึงขั้นหยุดนิ่งเงียบได้ระยะหนึ่ง ก่อนที่จะพูดด้วยเสียงที่เบากว่าเสียงกระซิบกับตนเองว่า อะไรนะ?”แต่กลับถูกตัดบทความคิดด้วยคำพูดอันเหนื่อยใจของผู้เป็นแม่องชายหนุ่มไปว่าว่า อย่าไปเชื่อลูกของน้าเลยจ๊ะหญิงน้อยทันทีหลังจากคำพูดขี้เล่นของลูกชายจบลงพร้อมกับการลุกขึ้นของคุณน้าลีน่า

            “เอาเป็นว่ามาชมบ้านของเรากันหน่อยไหมละจ๊ะ สิ้นสุดเสียงของน้าลีน่า มือบางสีขาวนวลก็ยื่นออกมาสู่เด็กน้อยชุดสีฟ้าใสทันที ใบหน้าที่ฉีกยิ้มของคิวกับคุณน้าตรงหน้าที่ยื่นมือมาให้ถึงที่ แบบนี้จะบอกว่าไม่ไปได้อย่างไร

            พรมสีแดงไม่ได้ที่อยู่หน้าบ้านกับตรงบันไดเท่านั้นแต่ยังรวมถึงทุกเส้นทางของบ้าน

    แจกันเกือบร้อยชิ้นวางเรียงรายกันระหว่างทางเดิน สายตาของเฟลมองไปรอบๆบ้าน ผ่านห้องนั่งเล่นที่มีถึง 3 ห้องมาเรียบร้อยแต่ก็ต้องมาหยุดอยู่ที่ห้องครัวในบ้านหลังใหญ่ที่มีแม่บ้านประมาณ 3 คนใส่ชุดที่สีขาวสะอาดกับเสื้อกันเปื้อนเหมือนกันทั้งหมด กำลังคุยเล่นกันอย่างสนุกสนานพร้อมกับพ่อบ้านชราที่เจอหน้าประตูรั่วกำลังนั่งนิ่งอย่างอารมณ์ดีอารมณ์ดีก่อนที่จะมาหยุดมองเด็กสาวที่แวะมาใหม่หน้าห้องประตูห้องครัว   

    คุยกันท่าทางน่าสนุกนะคีต้าขอร่วมวงด้วยได้ไหมจ๊ะ เสียงใสๆข้างเด็กสาวหน้าประตูห้องครัวได้ดังขึ้น ทำให้เสียงพูดคุยอันแสนสนุกหยุดลงของแม่บ้านทั้งหลายหยุดลง

            คะ ท่านหญิง ว่าแต่เด็กคนนั้น...คีต้าตอบรับคำพูดของเจ้านายของตนพลางมองเด็กสาวชุดสีฟ้าใสสะอาดอย่างเอ็นดู

            “หนูเฟลจ๊ะ เพื่อนของคิวจ๊ะ เสียงที่บ่งบอกได้เลยว่ากำลังอารมณ์ดีและพร้อมแนะนำให้คนอื่นรู้จักได้ทุกสถานการณ์ สายตาโดยรู้กันของแม่บ้านฉายแววประกายออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่ผูกมิตรอย่างเป็นกันเองให้ทันทีหลังจากการแนะนำอย่างยิ้มแย้มของผู้เป็นเจ้าบ้าน

            ถึงทางนั้นจะบอกว่าเป็นการเยี่ยมชมบ้านของตระกูล แต่อีกนัยหนึ่งคือการเปิดตัวให้คนในบ้านของตนรู้จักโดยทั่วกัน ซึ่งเฟลเองก็รู้ดีว่าสายตาของแม่บ้านที่มองเฟลนั้นก็รับรู้ได้เลยว่าไม่ใช่สายตาที่มองเด็กสาวแบบปกติแน่

            ห้องครัวผ่านไปและอีกห้องต่างๆของบ้านใหญ่หลังนี้ทำให้เฟลรู้จักกับพ่อบ้านแม่บ้านเพิ่มขึ้นและทุกคนก็เริ่มที่จะเรียกโดยใช้สรรพนามเฉพาะของเฟลเท่านั้นว่า หญิงน้อย กันไปอย่างอัตโนมัติ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×