ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [End puzzle] ปริศนานักล่า

    ลำดับตอนที่ #3 : Story-ระเบิดครั้งที่สอง

    • อัปเดตล่าสุด 30 พ.ค. 57


            อากาศเย็นสบายภายใต้เครื่องปรับอากาศ ณ บ้านเรย์ฟา

    วันพุธที่ 3 พฤษภาคม 2016 เวลา 18.12 น.

            “พาราเรล...หรอครับ เสียงสนทนาด้วยความงุนงงทำเอาดีฟที่กำลังทานอาหารที่แสนอร่อยจากเจ้าของบ้านได้หยุดลง

            ก็อย่างที่บอกไป พาราเรล ชื่อของมิติทั้ง 4 รวมกันและมีจุดเชื่อมต่อ เรย์อธิบายยามขณะที่กำลังตักซุปร้อนเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย

            จะบอกว่า ไม่ใช่มีแค่พวกเราแบบนั้นนะหรอ

              จะว่าแบบนั้นก็ได้นะ เพราะคนที่ทำแบบฉันได้ก็มีอยู่หลายคน แต่ถูกมองว่าเป็นพวกปีศาจต่างๆนาๆไป

            แย่เลยนะครับ ดีฟยังพูดขณะที่ในปากยังมีหมูทอดชิ้นโตในปาก

            นั้นสินะ ก็คงแย่...สำหรับคนที่ยอมรับตัวเองไม่ได้ เสียงพูดที่เริ่มจะเบาลงของเรย์ ทำเอาดีฟที่กำลังเคี้ยวอาหารอย่างเมามันได้หยุดลงและกลืนลงท้องไปพลางมองหน้าคู่สนทนาด้วยสีหน้าความเป็นห่วง

            แล้วเราจะรู้ได้ยังไงครับว่าใครคนไหนมีพาราเรลอื่น ดีฟรีบถามเพื่อขจัดความเงียบที่กำลังจะเคลื่อนตัวเข้ามา

            “ไม่มีหรอก

            ไม่มี?”

            ก็เพราะสุดท้ายก็คือคนยังไงละ ยกเว้นพาราเรลที่สาม ที่น่าจะเป็นครึ่งสัตว์มากกว่า

    เรย์อธิบายต่อด้วยสีหน้ากลุ้มใจ

            เหมือนจำพวกที่มีหางมีปีกอะไรแบบนี้ใช่รึป่าว

            ใช่ ใช่ แบบนั้นแหละ

            “แฟนตาซี จังเลยนะครับ ดีฟพูดแบบขำๆขณะลุกไปช่วยเก็บจานชามไปวางไว้ในครัว

            นั้นสิ แฟนตาซีจังนะ เสียงตอบกลับแบบเล่นๆสร้างความครึกครื้นขึ้นมาบ้างหน่อย

            แล้วจะจับยังไงครับเนี้ย ดีฟยังถามต่อ

            วิ่งไล่ตามไง ถ้าเป็นพาราเรลที่สาม...ก็ลองมองดูลักษณะที่ไม่เหมือนมนุษย์เอาละกันเรย์พูดพลางยิ้มใส่หน้าของชายหนุ่มวัยร้อนแรง แต่ก็ต้องเปลี่ยนเป็นสีหน้างุนงงอีกครั้งจากคำถามของอีกฝ่าย

            พรุ่งนี้พอว่างไหมครับ

            ว่างไหม...ทำไมหรอเรย์เริ่มทำท่าทางคิดถีงเรื่องวันเวลา

            “ผมอยากให้เพื่อนของผมได้ฟังด้วยนะ

            แบบนั้นคงไม่ได้หรอกนะ เราแค่ช่วยในฐานะที่เป็นฐานข้อมูลแค่นั้น จะให้ไปยุ่งเรื่องของตำรวจ เราไม่เอาด้วยหรอก คำตอบพร้อมคำอธิบายมาถึงที่ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยอาการลุ้นก็ได้หายไปรวดเร็ว

            ถ้าแบบนั้น ผมขอตัวนะ ดีฟเริ่มที่จะทำการบอกลาสำหรับวันนี้ก่อนที่จะโค้งตัวและพูดออกไปว่า

            ผมยังต้องให้คุณช่วยอีกเยอะครับ คุณเรย์...เออ...เรียกเรย์ได้ไหมครับ

            เชิญเลยถ้าสะดวก โชคดี สิ้นสุดการสนทนา แสงแดดที่เริ่มจะลงระดับลงมาสู่พื้นดินทำเอาใบหน้าของคนที่กำลังคิดพูดกับตัวเองซึ่งกำลังโดนย้อมแสงสีส้มแดดไปครึ่งหน้า

            เป็นงานใหญ่ดีนะ ว่าไหมละ ดีฟ

    วันพฤหัสบดีที่ 4 พฤษภาคม 2016 เวลา 10 : 09 น.

            แสงแดดเจิดจรัสสาดส่องไปทั่วเมืองแห่งการค้า สายลมร้อนที่ค่อยๆพัดผ่านผิวหนังของทั้งสามคนที่กำลังจะเริ่มมีการสนทนาเหมือนนกแก้วขึ้น

            เอาจริงๆนะเพื่อนรัก ถึงวันนี้จะเป็นวันหยุดเพื่อรำลึก ด็อกเวลก็เถอะ ดาฟบ่นในขณะที่ยืนมองแสงแดดจ้าจากฟากๆฟ้า ก่อนที่จะมีอีกเสียงหนึ่งดังขึ้นเพื่อเสริมคำพูดต่อ

            แต่ก็ไม่น่าจะเรียกรวมตัวกันในวันหยุดอากาศร้อนแบบนี้นะ

            เอาน่า บ่นกันอยู่ได้ เดียวพวกนายได้หยุดบ่นแน่ ดีฟพูดทำนองว่าเดียวจะขำไม่ออก ใส่ทั้งสองคนที่มาด้วยกัน เพียงไม่กี่วินาทีเมล์ของดีฟก็เริ่มมีการแสดงผลออกมา ถึงแล้วนะ ครั้งนี้มาเป็นชายสิ้นประโยคข้อความ ดีฟหันซ้ายหันขวามองหาจุดที่อยู่ของแขกรับเชิญ

            เจอแล้ว พวก! ตามมาเร็ว ดีฟพูดขึ้นทันทีหลังจากหาเป้าหมายเจอ และทั้งหมดก็ตามไปด้วยอาการมึนงง

            อรุณสวัสดิ์ เรย์ฟา เสียงแสดงออกถึงความดีอกดีใจจากทางด้านขวาของเรย์ดังขึ้นพร้อมกับการเดินตามมาของคนแปลกหน้าอีกสอง

            นี่เรย์ จะแนะนำให้ ชายใส่แว่น นั้น ลอนเมล์ ดาฟ แล้วก็ เอลทอร่า เฟรัส ทั้งหมดเป็นเพื่อนของผมเอง การแนะนำตัวฝ่ายดีฟจบลงตามด้วยชื่อของทางเพื่อนใหม่

    นี่ เซเซนารี เรย์ฟา

    ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณเรย์ฟา/ยินดีที่ได้รู้จักค่ะคุณเรย์ เสียงของคู่ทั้งคู่ดังขึ้นพร้อมกันกับใบหน้าที่ยิ้มแย้มออกมาของเรย์ในร่างชายอายุราว 19 ปีเท่าๆกับทั้งสามคนที่มาใหม่ ผมสั้นสีดำสนิทกับดวงตาสีน้ำทะเลสดใส ทำให้เฟรัสกับดาฟอดตะลึกกับหน้าตาที่ไม่เท่าเทียมกันเลยระหว่างเพื่อนมนุษย์นี้ได้

            “เรามาต่อกันกับเรื่องเมื่อวานกันเถอะนะ คำพูดเรียบง่ายทำการเปิดฉากอธิบายเรื่องราวต่างๆทั้งเรื่องพาราเรล และอีกต่างๆไปมากมาย จนแสงอาทิตย์ก็เริ่มที่จะตั้งตรงบนหัวของทั้งสี่

            เอาแบบสรุปเลยนะครับ พวกคุณทำอะไรไม่ได้นอกจากการจับผิดเท่านั้น เรย์พูดปิดประเด็นทำให้อีกสามคนทำหน้าเคร่งเคียดเหมือนกับว่าจะเลือกกินอะไรก่อนดีในเวลาอาหารมือสุดท้าย

    วันพฤหัสบดีที่ 4 พฤษภาคม 2016 เวลา 15 : 12 น.

            แสงสีสนธยาสาดส่องไปทั่วพื้นที่ของเมืองแห่งการค้าขาย สายลมที่พัดโบกสะบัดยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง จนถึงเมื่อครู่แสงสีแดงแตกจ้าออกจากกลางเมืองต่อด้วยควันสีเทาทมิฬลอยขึ้นสู่น่านฟ้าหลังจากเสียงดังสนั่นเมือง

            ตูม!!” เสียงดังของระเบิดขนาดใหญ่ได้ดังออกมาจากริมด้านทิศตะวันออกของเรือนจำนักโทษ แสงประกายแวบหนึ่งที่ได้สะท้อนแว่นของดาฟ สายตาที่ไม่ค่อยดีนักก็เริ่มที่จะปิดลง

            อะไรละนั้น?” เสียงของดาฟหลังแสงที่ปรากฏดังขึ้นพร้อมกันกับอีกสามคนที่กำลังก้มหน้าก้มตาลงดูจุดแผนที่ตั้งของบ้านช่องต่างๆหันกลับมามองหาจุดกำเนิดเสียงแทบจะทันที

            ไปดูกันเถอะ เฟรัสแนะนำตามด้วยการพยักหน้าของอีกทั้งสาม

    วันพฤหัสบดีที่ 4 พฤษภาคม 2016 เวลา 15 : 38 น.

           ควันสีเทาที่ล่องลอยไปบนอากาศบวกกับไฟสีส้มแดง ทำให้รู้ได้เลยว่า จุดนี้แหละที่เป็นจุดระเบิด เรือนจำที่ตอนนี้มีรูช่องใหญ่เท่ากับคนจำนวนสองคนต่อตัวกันบนกำแพงสีขาวเก่าแก่อายุราว 200 ปี

            ทุกคน ฉันจะเข้าไปดูด้านใน ฝากทางนี้ด้วยนะ เสียงอันแน่วแน่ของดีฟดังขึ้น

            อะไรนะรู้ไหมเนี้ยว่าเป็นความคิดที่ ห่วยแตกมาก เฟรัสพูดขึ้นต่อหลังจากเห็นควัน

    โขมงออกมาจากรูขนาดใหญ่

            เด็ก...เด็กคนนั้นเข้าไปทำอะไร เดี๋ยว!!” เรย์พูดขึ้นทำให้สายตาของคนที่อยู่รอบๆหันมามองเด็กที่กำลังวิ่งเข้าไปในควันไฟ พร้อมกับการวิ่งเข้าไปด้านในรูยักษ์บนกำแพง

            เดี๋ยวเรย์!!” เสียงพูดไล่ตามของดีฟดังขึ้นก่อนที่จะดีดตัววิ่งไปตาม ปล่อยให้ทั้งสองคนอยู่ด้านนอก

            ตูม!!” เสียงระเบิดดังอีกครั้งหลังจากการเข้าไปของทั้งสองคน ทำให้ใจของผู้ชมรอบนอกลงไปถึงตาตุ้ม

            ลมร้อนบวกควันไฟจากภายในเรือนจำหลังจากแสงสว่างวาบครั้งที่สองได้เกิดขึ้น สายตาของดีฟที่พยายามมองหาเด็กสาวตัวน้อยที่วิ่งเข้าไปในควันไฟโดยไร้เหตุผลกับชายหนุ่มเจ้าของพาราเรลด้วยความเป็นห่วงป่นตกใจ

            อยู่ไหนนะ เสียงร้องตะโกนหาของดีฟที่พยายามมองสุดชีวิตผ่านควันไฟสีเทาดำจนเห็นร่างเลือนรางของคนบางคน

            เรย์ เรย์รึป่าว เสียงเรียกพร้อมกับการวิ่งไปยังจุดที่เห็น ร่างของเด็กสาวตัวน้อยที่อยู่ในอ้อมกอดของเรย์ที่ตอนนี้ร่างกายได้กลายเป็นหญิงสาวผมสีดำยาวไปเสียแล้ว

            เรย์ เรย์ ได้ยินไหม ฮันโหลดีฟพยายามเรียกสติอันหลับใหลของหญิงสาวกลับมาพร้อมกับมองทิศทางที่ถูกไฟคอกเกือบหมด

            ดีฟ...หรอเสียงที่บ่งบอกถึงร่างกายที่หมดเรี่ยวหมดแรงของหญิงสาวทำเอาชายหนุ่มที่พยายามหาทางออกยิ่งร้อนรนเข้าไปอีก

            ใจเย็น...สิ แหก แหก เสียงพูดปลอบโยนของเรย์พร้อมกับการสำลักควันดังขึ้นบวกกับมืออุ่นๆจนเกือบจะร้อนได้ค่อยๆลดลงจนไปสัมผัสแขนของดีฟแทบจะทันที สีหน้ากับใจที่ร้อนรนก็เริ่มที่เปลี่ยนเป็นสีหน้าตกใจ สมองที่รวมกับเส้นประสาทเอาไว้ให้ความรู้สึกที่ฉับไวต่อความร้อนภายในร่างกายผ่านมือที่ถูกอีกฝ่ายสัมผัส

            เรย์ ไหวไหมจะพาออกไปเดี๋ยวนี้แหละดีฟพูดขึ้นด้วยสีหน้าร้อนรนกว่าเดิม ทำยังไงดี จะทำยังไง ควันและไฟรอบด้าน ช่องทางที่มีจำกัด ดีฟคิดในขณะที่กำลังมองไปทั่วพื้นที่ของเรือนจำ

            มีอะไรงั้นหรอ...เรย์ เสียงพูดจากการที่ได้สติกลับมาของดีฟดังขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่แสนหวานที่สุดจนเหล่ามดตัวน้อยอดที่จะมาเชยชมดูใบหน้าตอนนี้ของเรย์ได้

            ใจ...แหก...เย็นสิ...ดีฟ เสียงหวานป่นเสียงไอของเรย์ทำให้ใจของดีฟเริ่มที่จะเต้นผิดจังหวะไปเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้นอย่างเต็มอกไปด้วยรอยยิ้มไปว่า

            วางใจได้ ฉันจะพาออกไปเอง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×