ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    chapter save บทบันทึกความจริง

    ลำดับตอนที่ #3 : วิ่งไล่จับ

    • อัปเดตล่าสุด 26 เม.ย. 57


             ฝนตกยามค่ำคืน อาจทำให้จิตใจดั่งเพชรเม็ดงามของคนหลายๆคนดูหมองได้ แต่สำหรับเด็กสาวที่ได้ทำสิ่งที่ตนเองคิดว่าดีที่สุดแล้วกลับทำให้รู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก

            เอาละ บอกไปว่าทำหายไปแล้วดีกว่าเด็กสาวพูดกับตัวเองพลางยิ้มออกมาอย่างชื้นบาน

            สายลมพัดแรงดั่งพายุเริ่มที่จะสงบลง แล้วแปลเปลี่ยนเป็นลมหนาวหลังเม็ดฝนที่ตกลงมาเป็นเวลานาน บ้านหลังเล็กของเธอยังอยู่ดี สมาชิกครอบครัวเธอยังอยู่ดี ทุกอย่างเหมือนปกติทุกอย่าง แต่แล้วทำไมสีหน้าของเด็กสาวถึงไม่ยิ้มเหมือนแต่ก่อน

            กลับมาแล้วหรอค่ะลูกแม่ เสียงไพเราะจากผู้เป็นแม่เปิดฉากขึ้นหลังจากที่เด็กสาวมุดเข้าช่องแคบสู่บ้านเล็กๆของครอบครัว

            กลับมาแล้วคะเด็กสาวยิ้มตอบอย่างเป็นมารยาท พร้อมกับการกลืนน้ำลายลงคอก่อนที่จะบอกสิ่งที่ตัวเองคิดมาตลอดทาง

            เออ...แม่ค่ะ คือ...เด็กสาวพยายามพูดให้เหมือนในความคิดตลอดการเดินทางของเธอ แต่กลับกล้าๆกลัวๆในการบอกเพราะขนมปังที่ถูกขโมยนั้นคืออาหารมื้อสำคัญ

            อะไรหรอจ๊ะ บอกมาเถอะคะ ผู้เป็นแม่พยายามปลอบโยนลูกน้อยของตนเองเหมือนกับเพชรเม็ดงามเพียงหนึ่งเดียว

            คือว่า ขนมปังหนูทำหายนะคะ ในที่สุดเด็กสาวก็แสดงความกล้าพูดออกมาในสภาพที่เหงื่อออกแทบทั้งตัว แต่แล้วทั้งครอบครัวก็ตกอยู่ในสภาวะตึงเครียดทันที

            ไอ้เด็กเลว แกรู้ไหมว่าฉันหิว ฉันหิวเสียงตะโกนคำรามดังออกมาจากริมในสุดของกำแพง พร้อมกับการขว้างก้อนหินเล็กใหญ่ใส่ลูกอย่างไม่ยั้งมือ

            “โอ๊ย!”เสียงร้องของคนที่พยายามไล่ตามคุณลุงหัวขโมยมาเป็นชั่วโมงอย่างเจ็บปวด พร้อมน้ำตาที่ค่อยๆเริ่มเอ่อล้นออกมาอีกครั้ง

            คุณค่ะหยุดเถอะ ลูกเจ็บนะ

            “หยุด หยุดอะไร ไอ้เด็กนี้ฉันเลี้ยงมาจนโต แล้วดูมันทำสายตาอันโกรธเกี้ยวของผู้เป็นพ่อได้แสดงออกมาเหมือนสัตว์ป่าที่ต้องการเนื้ออันหอมหวานจากสัตว์ไร้ทางสู้ออกมา

            ลูกรู้สำนึกแล้วนะค่ะ หยุดเถอะเสียงพูดของฝ่ายมารดา ได้แต่ภาวนาขอให้คนที่เฝ้าทำร้ายลูกของตนได้หยุดลง

     “แม่ค่ะ เดี๋ยวหนูออกไปอยู่ข้างนอกก่อนนะคะ สิ้นสุดเสียงบอกกล่าว ลูกคนเดียวของครอบครัวก็ได้ขอลาจากสถานการณ์ตึงเครียดตรงหน้าไป

            สาวลมแสนหนาวเย็นยังไม่สิ้นสุดลง ความมืดใต้ช่องตึกเล็กๆยังคงอยู่ เด็กสาวที่ตอนนี้ก็เหมือนกับไร้บ้าน ได้เดินหนีออกจากสถานการณ์อันเลวร้ายไป

            ฉัน...หลอก เสียงพูดที่ฟังไม่ได้ซับห่างจากตัวเด็กสาวไปประมาณเมตรกว่าๆ ได้ดังขึ้น

            มีอะไรกันนะ?” เด็กสาวได้เพียงแต่พูดกับตัวเองในขณะที่ขาสองข้างของตนได้เริ่มขยับไปหาต้นเสียง

            ไม่ได้...ตำรวจมัน...ได้นะ เสียงเด็กหนุ่มคนหนึ่งได้ดังขึ้น

            ตำรวจมันได้นะ...พูดอะไรละเนี้ยขาสองข้างของเด็กสาวได้ขยับจนถึงปากซอยพร้อมกับการยื่นหน้าออกบอกมองการสนทนาของสองหนุ่มข้างถังขยะ

            เอาเป็นว่าอย่าให้พวกนั้นจับได้ละกัน เด็กหนุ่มคนเดิมพูดขึ้น

            เดี๋ยวสิ วางแผนกันให้ดีก่อน เด็กหนุ่มวัยใกล้เคียงได้พูดต่อบทสนทนา

            แบบนั้น ไปวางแผนกันในคุกละกัน สิ้นสุดเสียงคำพูด เด็กหนุ่มผมสีดำแซมแดงซึ่งแอบอยู่หลังถังขยะข้างๆก็ได้กระโดดผ่านหน้าเด็กหนุ่มอีกสองคนที่กำลังวางแผนกันอย่างเมามัน

            “เฮ้ย!! ไอ้หมอนั้นมันมีกล้อง คำพูดของเด็กหนุ่มนักวางแผน ทั้งสามคนก็เริ่มวิ่งไล่กัน

            เส้นทางการวิ่งของทั้งสามคนอยู่กับระยะทางของเธอนับว่าอยู่ห่างกันเพียงไม่กี่เมตร สายตาของชายหนุ่มกับเด็กสาวก็ได้เผชิญหน้าเข้าอย่างจัง ปลายมุมปากของคนที่วิ่งนำหน้าก็ได้ยกสูงขึ้น ในขณะเดียวกันมือข้างซ้ายก็ได้ยืนออกมาหาเด็กสาวทันที

            เอ๋!!”เสียงอุทานด้วยความตกใจของเด็กสาวในขณะที่มือของคนถือกล้องยื่นไปจับข้อมือของเด็กสาวพร้อมกับการเร่งความเร็วของชายหนุ่ม เด็กสาวที่ทำได้หน้าที่เพียงวิ่งตามไปพลางหันหน้ามองหาคนที่ทำหน้าที่เป็นสุนัขล่าเหยื่อซึ่งในตอนนี้เด็กทั้งสองคนก็มีอาวุธเป็น ไม้ขนาดยาวเท่าแขนติดไม้ติดมือมาด้วย

            ตายละ ตายแน่ๆ แล้วนายจะวิ่งไปไหน เด็กสาวคิดในขณะที่หันกลับมามองหน้าอีกฝ่ายที่พยายามดึงข้อมือของเธอไปด้วยแถมยังฉีกยิ้มกว้างบนใบหน้า คนบ้าอะไรจะยิ้มออกตอนถูกวิ่งไล่ ยังไหวรึป่าวนายนะ เด็กสาวพยายามคิดอย่างไม่เข้าใจว่าถูกไล่ตามมันจะสนุกตรงไหน

            อีกไกลแหะ ชายหนุ่มผมดำแซมแดงได้กล่าวขึ้นหลังจากไม่พูดอะไรมาเป็นเวลานาน

            อะไร?”

            ก็สถานีตำรวจไงคุณ ชายหนุ่มยังตอบด้วยรอยยิ้ม

            เดียวสิ!!” เด็กสาวพูดขึ้นในขณะที่ดึงคนที่วิ่งนำหน้าไปอีกทางหนึ่งพลางหาที่หลบซ่อนตัว

            ‘เจอละ สิ้นสุดเสียงความคิด เด็กสาวจึงได้เหวี่ยงชายหนุ่มเข้าไปหลบข้างๆถังขยะใบใหญ่ตรงซอยด้านข้างก่อนที่ตัวเองจะวิ่งเข้าไปหลบเช่นกัน ถ้าจะรอให้ถึงสถานีละก็คงได้หอบตายกันแน่เด็กสาวคิดในขณะที่ชะเง้อมองคนที่ตามหลังมาตลอดทาง

            สายลมหนาวตอนนี้ได้หยุดลงแล้ว เหลือเพียงอาการเหนื่อยหอบจากการวิ่งไล่จับอีกครั้งของเด็กสาว ต่างเพียงแค่ครั้งนี้เธอเป็นฝ่ายถูกไล่แทน

            ฮ่า ฮ่า ฮ่า เสียงหัวเราะกวนอารมณ์สุดๆของชายหนุ่มผมสีดำแซมแดงทำให้เด็กสาวหันมามองอย่างอดไม่ได้

            ขำอะ...ไรของนาย เสียงพูดพร้อมอาการเหนื่อยหอบของเด็กสาวที่วิ่งไล่จับเป็นเวลานานถึง 2 ครั้งได้ถามออกมา

            นี่คุณ เหนื่อยแล้วหรอ แปบเดียวเองนะ ชายหนุ่มถามแทนคำตอบให้เด็กสาว ก่อนจะพูดต่อไปว่า แต่คุณก็เก่งดีนะหาที่แอบได้ในเวลาแบบนี้ชายหนุ่มพูดขึ้นขณะยังขำในลำคอพลางมองไปรอบๆ ถังขยะใบใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าของชายหนุ่ม

            ไม่หานี้สิแปลก เด็กสาวโต้กลับ

            ผม คิวบีส เบลองสัน แล้วคุณ...

            ต้องบอกด้วยหรอ

            เอ๊า!!คุณ มันเป็นมารยาทนะ

            เฟลิ...เฟลิต้า ทอเทนเซลต์ พอใจแล้วซินะ

            ครับ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×