คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : วิ่งไล่จับ
ฝนตกยามค่ำคืน อาจทำให้จิตใจดั่งเพชรเม็ดงามของคนหลายๆคนดูหมองได้ แต่สำหรับเด็กสาวที่ได้ทำสิ่งที่ตนเองคิดว่าดีที่สุดแล้วกลับทำให้รู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก
“เอาละ บอกไปว่าทำหายไปแล้วดีกว่า” เด็กสาวพูดกับตัวเองพลางยิ้มออกมาอย่างชื้นบาน
สายลมพัดแรงดั่งพายุเริ่มที่จะสงบลง แล้วแปลเปลี่ยนเป็นลมหนาวหลังเม็ดฝนที่ตกลงมาเป็นเวลานาน บ้านหลังเล็กของเธอยังอยู่ดี สมาชิกครอบครัวเธอยังอยู่ดี ทุกอย่างเหมือนปกติทุกอย่าง แต่แล้วทำไมสีหน้าของเด็กสาวถึงไม่ยิ้มเหมือนแต่ก่อน
“กลับมาแล้วหรอค่ะลูกแม่” เสียงไพเราะจากผู้เป็นแม่เปิดฉากขึ้นหลังจากที่เด็กสาวมุดเข้าช่องแคบสู่บ้านเล็กๆของครอบครัว
“กลับมาแล้วคะ”เด็กสาวยิ้มตอบอย่างเป็นมารยาท พร้อมกับการกลืนน้ำลายลงคอก่อนที่จะบอกสิ่งที่ตัวเองคิดมาตลอดทาง
“เออ...แม่ค่ะ คือ...”เด็กสาวพยายามพูดให้เหมือนในความคิดตลอดการเดินทางของเธอ แต่กลับกล้าๆกลัวๆในการบอกเพราะขนมปังที่ถูกขโมยนั้นคืออาหารมื้อสำคัญ
“อะไรหรอจ๊ะ บอกมาเถอะคะ” ผู้เป็นแม่พยายามปลอบโยนลูกน้อยของตนเองเหมือนกับเพชรเม็ดงามเพียงหนึ่งเดียว
“คือว่า ขนมปังหนูทำหายนะคะ” ในที่สุดเด็กสาวก็แสดงความกล้าพูดออกมาในสภาพที่เหงื่อออกแทบทั้งตัว แต่แล้วทั้งครอบครัวก็ตกอยู่ในสภาวะตึงเครียดทันที
“ไอ้เด็กเลว แกรู้ไหมว่าฉันหิว ฉันหิว”เสียงตะโกนคำรามดังออกมาจากริมในสุดของกำแพง พร้อมกับการขว้างก้อนหินเล็กใหญ่ใส่ลูกอย่างไม่ยั้งมือ
“โอ๊ย!”เสียงร้องของคนที่พยายามไล่ตามคุณลุงหัวขโมยมาเป็นชั่วโมงอย่างเจ็บปวด พร้อมน้ำตาที่ค่อยๆเริ่มเอ่อล้นออกมาอีกครั้ง
“คุณค่ะหยุดเถอะ ลูกเจ็บนะ”
“หยุด หยุดอะไร ไอ้เด็กนี้ฉันเลี้ยงมาจนโต แล้วดูมันทำ” สายตาอันโกรธเกี้ยวของผู้เป็นพ่อได้แสดงออกมาเหมือนสัตว์ป่าที่ต้องการเนื้ออันหอมหวานจากสัตว์ไร้ทางสู้ออกมา
“ลูกรู้สำนึกแล้วนะค่ะ หยุดเถอะ”เสียงพูดของฝ่ายมารดา ได้แต่ภาวนาขอให้คนที่เฝ้าทำร้ายลูกของตนได้หยุดลง
“แม่ค่ะ เดี๋ยวหนูออกไปอยู่ข้างนอกก่อนนะคะ” สิ้นสุดเสียงบอกกล่าว ลูกคนเดียวของครอบครัวก็ได้ขอลาจากสถานการณ์ตึงเครียดตรงหน้าไป
สาวลมแสนหนาวเย็นยังไม่สิ้นสุดลง ความมืดใต้ช่องตึกเล็กๆยังคงอยู่ เด็กสาวที่ตอนนี้ก็เหมือนกับไร้บ้าน ได้เดินหนีออกจากสถานการณ์อันเลวร้ายไป
“ฉัน...หลอก” เสียงพูดที่ฟังไม่ได้ซับห่างจากตัวเด็กสาวไปประมาณเมตรกว่าๆ ได้ดังขึ้น
“มีอะไรกันนะ?” เด็กสาวได้เพียงแต่พูดกับตัวเองในขณะที่ขาสองข้างของตนได้เริ่มขยับไปหาต้นเสียง
“ไม่ได้...ตำรวจมัน...ได้นะ” เสียงเด็กหนุ่มคนหนึ่งได้ดังขึ้น
‘ตำรวจมันได้นะ...พูดอะไรละเนี้ย’ ขาสองข้างของเด็กสาวได้ขยับจนถึงปากซอยพร้อมกับการยื่นหน้าออกบอกมองการสนทนาของสองหนุ่มข้างถังขยะ
“เอาเป็นว่าอย่าให้พวกนั้นจับได้ละกัน” เด็กหนุ่มคนเดิมพูดขึ้น
“เดี๋ยวสิ วางแผนกันให้ดีก่อน” เด็กหนุ่มวัยใกล้เคียงได้พูดต่อบทสนทนา
“แบบนั้น ไปวางแผนกันในคุกละกัน” สิ้นสุดเสียงคำพูด เด็กหนุ่มผมสีดำแซมแดงซึ่งแอบอยู่หลังถังขยะข้างๆก็ได้กระโดดผ่านหน้าเด็กหนุ่มอีกสองคนที่กำลังวางแผนกันอย่างเมามัน
“เฮ้ย!! ไอ้หมอนั้นมันมีกล้อง” คำพูดของเด็กหนุ่มนักวางแผน ทั้งสามคนก็เริ่มวิ่งไล่กัน
เส้นทางการวิ่งของทั้งสามคนอยู่กับระยะทางของเธอนับว่าอยู่ห่างกันเพียงไม่กี่เมตร สายตาของชายหนุ่มกับเด็กสาวก็ได้เผชิญหน้าเข้าอย่างจัง ปลายมุมปากของคนที่วิ่งนำหน้าก็ได้ยกสูงขึ้น ในขณะเดียวกันมือข้างซ้ายก็ได้ยืนออกมาหาเด็กสาวทันที
“เอ๋!!”เสียงอุทานด้วยความตกใจของเด็กสาวในขณะที่มือของคนถือกล้องยื่นไปจับข้อมือของเด็กสาวพร้อมกับการเร่งความเร็วของชายหนุ่ม เด็กสาวที่ทำได้หน้าที่เพียงวิ่งตามไปพลางหันหน้ามองหาคนที่ทำหน้าที่เป็นสุนัขล่าเหยื่อซึ่งในตอนนี้เด็กทั้งสองคนก็มีอาวุธเป็น ไม้ขนาดยาวเท่าแขนติดไม้ติดมือมาด้วย
‘ตายละ ตายแน่ๆ แล้วนายจะวิ่งไปไหน’ เด็กสาวคิดในขณะที่หันกลับมามองหน้าอีกฝ่ายที่พยายามดึงข้อมือของเธอไปด้วยแถมยังฉีกยิ้มกว้างบนใบหน้า ‘คนบ้าอะไรจะยิ้มออกตอนถูกวิ่งไล่ ยังไหวรึป่าวนายนะ’ เด็กสาวพยายามคิดอย่างไม่เข้าใจว่าถูกไล่ตามมันจะสนุกตรงไหน
“อีกไกลแหะ” ชายหนุ่มผมดำแซมแดงได้กล่าวขึ้นหลังจากไม่พูดอะไรมาเป็นเวลานาน
“อะไร?”
“ก็สถานีตำรวจไงคุณ” ชายหนุ่มยังตอบด้วยรอยยิ้ม
“เดียวสิ!!” เด็กสาวพูดขึ้นในขณะที่ดึงคนที่วิ่งนำหน้าไปอีกทางหนึ่งพลางหาที่หลบซ่อนตัว
‘เจอละ’ สิ้นสุดเสียงความคิด เด็กสาวจึงได้เหวี่ยงชายหนุ่มเข้าไปหลบข้างๆถังขยะใบใหญ่ตรงซอยด้านข้างก่อนที่ตัวเองจะวิ่งเข้าไปหลบเช่นกัน ‘ถ้าจะรอให้ถึงสถานีละก็คงได้หอบตายกันแน่’ เด็กสาวคิดในขณะที่ชะเง้อมองคนที่ตามหลังมาตลอดทาง
สายลมหนาวตอนนี้ได้หยุดลงแล้ว เหลือเพียงอาการเหนื่อยหอบจากการวิ่งไล่จับอีกครั้งของเด็กสาว ต่างเพียงแค่ครั้งนี้เธอเป็นฝ่ายถูกไล่แทน
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เสียงหัวเราะกวนอารมณ์สุดๆของชายหนุ่มผมสีดำแซมแดงทำให้เด็กสาวหันมามองอย่างอดไม่ได้
“ขำอะ...ไรของนาย” เสียงพูดพร้อมอาการเหนื่อยหอบของเด็กสาวที่วิ่งไล่จับเป็นเวลานานถึง 2 ครั้งได้ถามออกมา
“นี่คุณ เหนื่อยแล้วหรอ แปบเดียวเองนะ” ชายหนุ่มถามแทนคำตอบให้เด็กสาว ก่อนจะพูดต่อไปว่า “แต่คุณก็เก่งดีนะหาที่แอบได้ในเวลาแบบนี้” ชายหนุ่มพูดขึ้นขณะยังขำในลำคอพลางมองไปรอบๆ ถังขยะใบใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าของชายหนุ่ม
“ไม่หานี้สิแปลก” เด็กสาวโต้กลับ
“ผม คิวบีส เบลองสัน แล้วคุณ...”
“ต้องบอกด้วยหรอ”
“เอ๊า!!คุณ มันเป็นมารยาทนะ”
“เฟลิ...เฟลิต้า ทอเทนเซลต์ พอใจแล้วซินะ”
“ครับ”
ความคิดเห็น