ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [End puzzle] ปริศนานักล่า

    ลำดับตอนที่ #1 : บนนำ

    • อัปเดตล่าสุด 30 พ.ค. 57


            แสงแดดยามรุ่งอรุณสาดส่องแสงสีส้มอ่อนลงผ่านม่านตาของชายหนุ่มที่กำลังใช้นัยน์ตาที่แสนมั่นใจกวาดมองแสงสีสลับกันไปมาที่อยู่บนหลังคารถยนต์ ก่อนที่จะหันหน้าตามการขับเคลื่อน ผ่านสี่แยกไฟแดงแรกของเมืองไปอย่ารวดเร็ว ซึ่งเป็นเรื่องที่ ‘น่าแปลกรถยนต์ลายสลับ ดำ-ขาว ประมาณเจ็ดถึงแปดคัน กำลังวิ่งตรงไปที่หน้าธนาคาร แบงก์ลีดอร์ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของเมืองและเป็นสถานที่ที่มีคนอยู่เยอะมากที่สุด

            ถ้าเป็นโจรหรือขโมย พยายามไปปล้นสถานที่แห่งนั้น ก็ไม่ต่างอะไรกับหนูที่พยายามเดินทางไปหาชีสแสนอร่อยบนกับดักสุดแสนอันตรายทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่านี่คือ‘กับดัก เพราะธนาคารแห่งนี้ก็ไม่ต่างจากกับดักล่อหนู ที่พร้อมจะรับมือกับทุกสถานการณ์ บนฐานแห่งความปลอดภัยภายใต้การควบคุมอุปกรณ์สุดทันสมัยพร้อมการการันตีความเป็นมาตรฐานชั้นเยี่ยม ที่ทั่วโลกต่างยอมรับกันในเรื่องนั้น จนทางธนาคารชี้แจ้งอย่างเด็ดขาดว่า ‘จะไม่ขอการยื่นมือเรียกฝ่ายตำรวจหรืออะไรทั้งสิ้นเพื่อมาช่วยหลังจากการก่อตั้งธนาคารแบงก์ลีดอร์ได้ไม่ถึงสองวัน

            “ดีฟ ดีฟ ดีฟ ได้โปรดเพื่อนหันมาฟังฉันหน่อย เสียงเรียกปนความเหนื่อยใจของเพื่อนสนิทดังขึ้นพร้อมกับการยืดตัวบิดไปบิดมาต่อหน้าคนที่เพิ่งเหม่อมองดูรถยนต์ลายดำ-ขาว วิ่งผ่านไปด้วยความเร็วสูง

            “รู้แล้วน่า แค่มองนิดเดียวเอง ว่าแต่?ทำไมตำรวจอย่างพวกเราต้องไปที่นั้นด้วย ว่าไหม ดาฟ ชายหนุ่มผมสีดำสนิทถามขึ้น พลางหันมามองใบหน้าที่แสดงออกถึงความน่าเบื่อแบบสุดๆของเพื่อนสนิทได้อย่างชัดเจน

            “จะคิดไปทำไม สุดท้ายเราก็ต้องไปที่นั้นอยู่ดี เดี๋ยวก็รู้เองแหละ ไปเหอะเดี๋ยวโดนหาว่าอู้งานอีก หนุ่มเพื่อนสนิทกล่าวขึ้นก่อนที่จะหันหลังกลับและเดินไปยังรถลายสีดำ-ขาว ข้างร้านสะดวกซื้อประจำของทั้งสอง ก่อนจะหมุนตัวมาพร้อมกับการใช้นิ้วชี้ยกแว่นกรอบแดงของตนให้เข้าที่และตะโกนกลับมายังคนที่ไม่มีทีท่าจะขยับขาเดินมาทางนี้เลย เร็วสิ เดี๋ยวจะหาว่าทิ้งกันนะเพื่อน

            “รู้แล้ว รู้แล้ว รีบร้อนจังเลย
    วันอังคารที่ 2 พฤษภาคม 2016 เวลา 11 : 16 น.

            เสียงพูดผ่านเครื่องกระจายเสียงดังไปทั่วธนาคารที่ถูกปิดกั้นทางเข้าออกทั้งหมดโดยประตูเหล็กหนาจากอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยของธนาคาร พร้อมกับการตั้งค่ายรอบสถานที่ใหญ่ที่สุดของเมือง ด้วยจำนวนคนของตำรวจและประชาชนรอบด้าน

            ขอให้ปล่อยตัวประกันด้วย...เสียงพูดยาวต่อเนื่องจากผู้เป็นแม่ทัพใหญ่ของตำรวจและประชาชนนับร้อยดังขึ้นมาเป็นระยะๆหลังจากการมาถึงของชาวตำรวจประมาณยี่สิบนาที

            ดีฟ ดูสิ มีใครกำลังทำอะไรอยู่ที่หน้าประตูแนะ ดาฟพยายามเพ่งมองด้วยตาทั้งสองข้างผ่านเลนส์แว่น ก่อนที่จะหันกลับมามองเพื่อนที่ตนเองได้เรียกหาขึ้น

            “เพื่อนรัก ถ้าอยากจะรู้ละก็ ลองหันไปมองดูเอาเองสิ สิ้นสุดเสียงของดีฟ

    ผู้คนจำนวนมากก็ได้วิ่งออกมาจากประตูด้านหน้าที่ได้ถูกปลดผนึก พร้อมกับการระเบิดจากคนที่วิ่งอยู่กลางกลุ่มคน ภาพการระเบิดพร้อมกับสายน้ำสีแดงฉานจากคนหลายสิบคนพร้อมกับเศษเนื้อจำนวนมากของผู้เป็นระเบิดพลีชีพได้กระจายออกมาทั่วทิศทุกทางจนกลายเป็นโศกนาฏกรรมที่แสนจะแทงลึกเข้าสู่จิตใจของผู้เห็นโดยเฉพาะตำรวจที่ยืนรายล้อมสถานที่เกิดเหตุเอาไว้ ใบหน้าซีดเผือกของผู้คนซึ่งเห็นเหตุการณ์ได้เริ่มที่จะกระจายไปทั่วทุกทิศแล้ว

            “ทุกท่านโปรดอยู่ในความสงบ ขอให้ทุกท่านนั่งลงกับพื้นก่อน สมกับเป็นแม่ทัพใหญ่ การเข้าใจสถานการณ์และความแน่วแน่ทางจิตใจในสิ่งที่รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อไปได้ ดังขึ้นพร้อมกับการทำตามของคนที่วิ่งออกมาอย่างเอาเป็นเอาตาย

            มีคนวิ่งไปอีกด้าน ดีฟพูดขึ้นขณะที่สายตาของดีฟเพ่งมองเห็นชายหนุ่มที่วิ่งไปอีกด้านทันทีหลังเสียงแม่ทัพใหญ่ประกาศก้องดั่งการคำรามของราชสีห์ออกมา พร้อมกับการดีดตัวเพื่อวิ่งไล่ตาม

            จะไป...คำพูดที่ยังไม่จบดีของดาฟได้หยุดลงหลังจากที่เพื่อนของตนหายออกไปนอกสายตาของตน

    ฝีเท้าของทั้งคู่ยังคงวิ่งต่อไปเรื่อยๆ ผ่านบ้านเล็กบ้านน้อยของเมืองไปจนถึงซอยแห่งหนึ่ง ฝีเท้าของคนถูกไล่ตามได้ค่อยๆเบาความเร็วลงและวิ่งเข้าไปในซอยนั้นทันที

    ซึ่งแน่นอนว่าคนที่วิ่งตามหลังจะต้องรีบวิ่งตามเข้าไปทันทีแต่แล้วก็เป็นความจริง ดีฟ รีบเปลี่ยนทิศเลี้ยวตัวเข้าซอยทันที แต่การกระทำนั้นก็ต้องหยุดลงหลังจากที่สายตาแสนจะมั่นใจของตัวเองเบิกกว้างขึ้น ชายหนุ่มที่ตอนนี้ได้มีสีเส้นผมดำออกแดงเริ่มยาวขึ้นพร้อมกับสิ่งที่นู่นออกจากหน้าอก ใช่ ชายหนุ่มที่ตอนนี้ได้กลายเป็นสาวน้อยผมดำออกแดงไปต่อหน้าต่อตาชายหนุ่มที่ไล่ตามมาติดๆ

            ฮะ...ฮะ...ถ้าจะล้อกันเล่น...อันนี้คงจะแรงไปนะชายหนุ่มหน้าเหวอ ถึงกับขาทรุดลงทันที ใบหน้าอันซีดเผือกที่เริ่มจะเข้าใจสถานการณ์ที่ว่า ทำไมตำรวจถึงจับขโมยกันไม่ครบเสียสักทีพลางพูดขึ้นเล่นๆกับตัวเองขณะใช้มือขวากุมขมับ

            ความรู้ใหม่แหะ ฮะ...ฮะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×