คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Ascertain
บทที่4 >>>Ascertain
กรี๊ด
"เกิดอะไรขึ้น"ต่างคนต่างสวมวิญญาณนักมุมทันที เหตุการณ์วุ่นวายภายในปราสาทเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง คราวที่แล้วเป็นระเบิด คราวนี้มีคนโดนสังหารอีก โรงเรียนนี้มันยังไงกันแน่น่ะ...
"ทำใจดีๆไว้"บางคนถึงกับเป็นลมเป็นแร้งเป็นเหยี่ยว (เฮ้ย! อันหลังไม่ใช่เฟ้ย)
ศพนอนคว่ำในท่าที่เลือดนอนอาบพื้นมือหนึ่งยื่นออกมาข้างหน้าเหมือนพยายามร้องขอชีวิต และตายจากไปด้วยใบหน้าอันทุกข์ทรมานเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว บนตัวศพมีดอกไม้ชนิดหนึ่งโปรยไว้จำนวนมาก
"ดอกไม้นี้มัน...."บางคนตัวแข็งทื่อ หน้าถอดสีราวกับเผือกต้มจนเละ ถอยหลังกลับไปสองสามก้าวเหมือนพยายามหนีความจริง เธอกำเศษกระดาษบางอย่างไว้ด้วยมืออันสั่นเทา
"หลีก"หลังการตายไม่นานทหารเข้ามาตรวจสอบทันที ไล่ให้พวกมุมๆทั้งหลายแตกกระเจิงไปตามระเบียบ
"มันต้องการอะไรกันแน่ นักเรียนเป็นเหยื่อไปสองรายแล้ว ถ้ายังจับตัวไม่ได้อาจจะมีเหตุเศร้าสลดไม่จบสิ้น ปราสาทแห่งนี้ก็ถึงคราววิบัติแน่"องครักษ์ฝ่ายซ้ายเอ่ยขณะคว้านสำรวจสิ่งปกติ ในกระเป๋าเสื้อและกางเกง
"กระดาษ"เขาเจอเศษกระดาษชิ้นหนึ่งทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ซึ่งเขียนเป็นสัญลักษณ์ว่า...... I] ส่วนที่เหลือก็ไม่มีอะไรเป็นที่น่าแปลกใจนัก น้ำหอม แว่นตา กระเป๋าใส่เงิน นามบัตร? ที่บ้านเป็นนักธุรกิจหรือไง กระเป๋าตุงไปด้วยบัตรชนิดต่างๆ อาวุธเป็นมีดสั้นหรือ น่าจะถนัดในระยะประชิด ดูจากรอยแผลลึกน่าจะเป็นดาบ แสดงคู่ต่อสู้ต้องเป็นเพื่อนที่สนิทหรือไม่ก็ต้องมีฝีมือเหนือกว่า อาจจะเป็นมือสังหารที่จ้างมาสังหารเหยื่อโดยเฉพาะ หรือว่ามันจะมีเป้าหมายอื่นกันแน่ ? แต่คมดาบมีอะไรที่แปลกไป....
"แกรนเจอร์ พบอะไรบ้าง"องครักษ์ฝ่ายขวาตามเข้าสมทบ พร้อมหน่วยชันสูตร ส่วนพวกที่เหลือ(ผู้ไม่เกี่ยวข้อง)ต่างโดนไล่ไปตามระเบียบ รวมถึงเอเลซ่าและอาร์จีสที่อยู่ในสถานที่แห่งนั้นด้วย
'I]?'อาร์จีสเหลือบเห็นกระดาษ ตีสีหน้าครุ่นคิดทันที มือสังหารอีกแล้วหรือแล้วสิ่งนั้นมีความหมายว่าอะไร หรือจริงๆแล้วอาจไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลย เทียบกับการสังหารที่เกิดขึ้นคราวที่แล้ว มีจุดต่างอยู่มาก มือสังหารต้องการสื่ออะไรหรือว่ามือสังหารมีหลายคนกันแน่
"หืม?"ผู้ชายสมัยนี้นิยมฉีดน้ำหอมด้วยหรือ เดซี่ ข้างขวดเขียนไว้เช่นนั้นทำให้เขาฉุดคิดได้ทันที ดอกไม้ที่อยู่รอบๆศพนั่นมันคือ 'เดซี่'
"เอเลซ่า"เขาเอ่ยถามคนข้างๆทันทีเหมือนคนข้างๆจะรู้ทัน คำถามยังไม่ได้ถูกเอ่ยออกไปเจ้าตัวก็ชิงตอบก่อน
"ข้ามีหน้าที่แค่สังหารผู้คน ไม่ได้มีหน้าที่ในการตอบคำถามเจ้า"
"งั้นเจ้าก็คงไม่ใช่คนร้าย"
"เรื่องนั่นสุดแต่เจ้าจะคิด แต่จงจำสัญญาของท่านไว้สิ้นสุดเมื่อไรเราถือว่าเป็นศัตรูกันเมื่อนั้น"
"เจ้าคิดว่าข้าจะยอมปล่อยให้เจ้าฆ่าได้ง่ายๆหรือไงกัน"
"หึ"มือสังหารเพียงสงเสียงอย่างยโสเป็นการตัดบทสนทนา
องครักษ์ทั้งสองหลังจากตรวจสอบคร่าวๆก็เดินตามทางอย่างครุ่นคิดปล่อยให้หน่วยชันสูตรทำหน้าที่ต่อไปอย่างละเอียดเท่าที่จะทำได้
"เป็นไงบ้างวิท"องครักษ์ฝ่ายขวายังคงแสดงความครุ่นคิดอยู่ไม่ได้ฟังเสียคนถามเลยแม้แต่น้อย
"วิท!"องค์รักษ์ฝ่ายซ้ายรีบตะโกนขึ้นทันทีการใช้ปัญญาอย่างหนักของเขาไม่ได้สนใจข้างหน้าเลย
"โทษทีเพื่อน แค่คิดว่ามันแปลก"เขาหยุดเดินหันหลังให้บ่อน้ำขนาดยักษ์ที่ตกแต่งอย่างสวยงาม ด้วยไม้นานาพันธุ์ รวมถึงปลาหลายหลายสี แสงจากลูกแก้วใต้น้ำทำหน้าที่ต่างไฟทำให้น้ำนั้นเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆตามเวลา
"อะไร"ผู้ถามเป็นฝ่ายนั่งที่โขดหินตกแต่ง
"คดีแรกที่เราพบนอกวัง ศพมีสิ่งปกติสองอย่างใบเมเปิ้ลที่ไม่รู้ว่าพกมาทำไม ถ้าเป็นของดูต่างหน้าน่าจะเก็บรักษาให้ดีกว่านี้ ประการสองคือไม่มีบัตรผ่านประตูทั้งที่ พบศพพร้อมสัมภาระใกล้ปราสาท คาดว่าจะเป็นนักเรียนของที่นี่ ไม่ทราบอุปนิสัยส่วนตัว จึงยังตัดสินไม่ได้ แต่ถ้าเป็นนักเรียนที่นี่คาดว่าคนร้ายคงหวังใบผ่านทาง"
"แล้วตรวจสอบประวัติหรือยัง"
"รายชื่อผู้เข้าแข่งจะส่งมาอีก1-2อาทิตย์ถ้าไม่มีเหตุขัดข้อง ตอนนั้นเราถึงจะตรวจสอบได้ว่าผู้ใดไม่มีรายชื่อแล้วแอบแฝงเข้ามา"
"ส่วนรายที่สองซึ่งไม่รู้ว่าเป็นคนร้ายคนเดียวกันหรือเปล่า รู้สึกจะชื่อเซริง คนร้ายใช้ระเบิดจึงคิดว่าไม่น่าใช่คนเดียวกัน แต่ถ้าใช่อาจเป็นพยานปากสำคัญในการดำเนินคดี"
"แต่เรายังไม่รู้ว่าการแฝงเข้ามาครั้งนี้มันต้องการอะไรกันแน่ คดีแรกดูเหมือนมันต้องการฆ่าเพื่อใบผ่านทาง ไม่แน่ว่าคดีที่สองอาจไว้เพื่ออำพราง "
"แต่มันก็ทำพลาด"
"มันก็ไม่แน่
"หมายความว่ายังไง....มันจงใจพลาดหรือ"
"ไม่รู้เหมือนกันเรายังหาความเชื่อมโยงไม่ได้ ไม่รู้ว่าคนร้ายต้องการอะไร ใช่คนเดียวกันหรือเปล่า แล้วมันต้องการสื่ออะไรกันแน่"
"แต่ถ้าคดีมันเกิดขึ้นอย่าต่อเนื่องย่อมต้องมีการป้องกันที่แน่นหนาขึ้น การจะสังหารเหยื่อตัวจริงย่อมลำบาก"
"แต่เราก็ยังไม่รู้ว่าเป้าหมายจริงคือการสังหารเหยื่อ ทำโรงเรียนวุ่นวาย หรือการต้องการท้าทายเรากันแน่"
"หรือไม่ก็ต้องการสังหารหมู่"
"ถ้าเช่นนั้นอันตรายแน่ แค่เรื่องวุ่นวายในโรงเรียนก็สื่อได้แล้วว่าประเทศโครนัสไร้ประสิทธิภาพ ถ้าเกิดการสังหารหมู่เกิดขึ้นย่อมไม่จบแค่การประณาม แต่อาจเกี่ยวพันถึงความมั่นคงประเทศ มีเหล่าเจ้าหญิงเจ้าชายขุนนางสูงศักดิ์.....ต้องรีบลงมือแล้ว ไม่เช่นนั้นอาจต้องมีการหลั่งเลือดเพิ่มโดยไม่จำเป็น"
"พิษภัยแห่งสงคราม....ความบ้าในอำนาจ....."
"เป็นไรไปแกรนเจอร์"
"เปล่า แค่คิดว่าเจ้าหญิงก็ตกเป็นเหยื่อของสิ่งเหล่านี้เช่นกัน"
"สงครามและการสูญเสียย่อมมาคู่กันเสมอ ยิ่งมีอำนาจมากเท่าไรก็กลัวจะถูกแย่งชิงไปมากเท่านั้น"
"จึงต้องรักษามันไว้ด้วยการคร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์หรือ"
"นั่นเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ แกรนเจอร์ เรามีหน้าที่แค่ปกป้องราชวงศ์ไม่ให้เสื่อมสลายเท่านั้น เรื่องอื่นปล่อยให้องค์ราชาเป็นผู้ตัดสิน"องครักษ์ทั้งสองตีหน้าสลดเล็กน้อยก่อนที่ชายผู้สามารถด้านปัญญาจะเอ๊ะใจอะไรบ้างอย่าง
คมดาบ.....ใช่แล้ว!แผลของคนแรกกับคนที่สามต่างกัน คนร้ายต้องมีสองคน คนหนึ่งถนัดซ้าย อีกคนถนัดขวา เพราะดาบหนึ่งทแยงซ้ายอีกดาบทแยงขวาความลึกที่ลากจากบนลงล่างก็ไม่เท่ากัน แต่ทั้งสองครั้งตายในดาบเดียวแสดงว่าเป็นมือสังหาารฝีมือเฉียบทั้งคู่ ส่วนเซริงนั้นยังไม่มีอะไรเชื่อมโยงเลยจริงๆ แต่สายตาขององครักษ์ฝ่ายขวานั้นยังคงมุ่งมั่นที่จะขจัดปัญหานั้นไปให้ได้
"อ้าวๆ! ไม่ทันไรจู้จี้กันซะแล้ว"เจ้าตัวปากดีเอ่ยขึ้น ทักอาร์จีส ทอริดเห็นว่าทั้งสองพักนี้มักจะไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยขึ้นและเมื่อครู่ก็เช่นกัน พึ่งส่งเอเลซ่าขึ้นหอพัก
"อิจฉาวุ้ย คนกำลังตกห้วงแห่งรัก คนมีเสน่ห์ก็ดีแบบนี้ล่ะว้า"อยู่ดีๆมันก็ขึ้นประโยคเสียเฉยๆ ให้อาณาบริเวณรอบๆได้ยินกันทั่วหันกันมาให้ควับ
"ว่าแต่นายรักเอเลซ่าหรือว่าอาซาเลียมากกว่ากันล่ะ(มันยังไม่จบอุตส่าห์ลากนักฆ่าจากคราวที่แล้วมาเอี่ยวด้วย)"อาร์จีสไม่ใส่ใจในคำพูดไร้สาระเพราะยังมีเรื่องคิดไม่ตกอยู่
"แหม! ทำหน้าเครียดเชียวอะไรกันล่ะนี่ เลือกยากขนาดนั้นเลยหรือ"ในใจเขาก็เริ่มหวั่นๆ ผู้ชายที่ชอบผู้หญิงน่ะปรกติดีหรอก แต่ว่าผู้ชายที่ชอบผู้ชายน่ะมันวิปริต แล้วหน้าแบบมันด้วยน่ะ (ไม่อยากจะคิด)
"หรือกะควบสอง"เขาเอ่ยที่เล่นทีจริงต่อ อาร์จีสออกสีหน้ารำคาญเล็กน้อยกับเสียงที่เซ้าซี้เป็นระยะๆ เขาเริ่มไม่พอใจถ้ามีคนมาขัดความคิดเขา เพราะมันจะทำให้ความคิดอื่นตีเข้ามาปนกันมั่วไปหมด ตอนนี้เขาเองก็เริ่มมีสมาธิลดลงเช่นกัน
"ใช่แล้ว"เขาเอ่ยพึมพำเบาๆ เขาลืมไปได้อย่างไรในเมื่อบุคคลคนนี้ยังอยู่เจ้าพ่อมายากล ผู้เสกดอกไม้ได้นับชนิดไม่ถ้วน แต่เจ้าตัวและคนอื่นๆ (เพื่อนต่างกลุ่ม) อ้าปากค้างในคำตอบไปแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าคนขรึมแบบมันจะเป็นไบ (bisexual) ~ ตามความคิดทอริด ส่วนคนอื่นคงคิดว่าอาร์จีสผู้เงียบขรึมเจ้าชู้กว่าที่คิดจากคำว่าควบสอง
อาร์จีสเหมือนฉุดคิดบางอย่างได้ทันที ดอกไม้! จะว่าไปแล้วทุกคดีมีเรื่องเกี่ยวกับดอกไม้หมด แฟ้มคดีเก่าที่เขาค้นพบ บางก็มี บางก็ไม่มีแต่รอยแผลแบบเดียวกันมักจะมีสิ่งของอะไรที่คล้ายๆกัน เหมือนเป็นตัวแทนของมือสังหารแต่ละคน เขากำลังเรียบเรียงความคิดที่กระจัดกระจาย เพราะคดีมากมายซ่อนทับกันจนเหมือนหาความเกี่ยวพันไม่ได้เลย
ดอกเดซี่กับใบเมเปิ้ลอาจไม่ใช่การบอกใบ้แต่เป็นสัญลักษณ์ประจำตัวเหมือนอย่างอาซาเลียที่มีกลิ่นกุหลาบ แต่คนส่วนใหญ่มักไม่ใส่ใจกับกลิ่นอยู่แล้ว พวกเขามักสนใจแต่จุดที่มันสังเกตง่ายกว่า อินทรีย์ยักษ์!
"แสดงว่าองค์กรนี้แทนชื่อด้วยโค้ดเกี่ยวกับพันธุ์พืชงั้นสิ"
"ดอกไม้ที่เซริงได้รับน่ะชื่อว่าอะไร"
"นายอยากรู้ไปทำไมอ่ะ"ทอริดยังอึ้งไม่หายหรี่ตาลงด้วยความสงสัยปนรอยยิ้มกระหยิ่มบางอย่าง
"บอกมาเถอะน่า"แต่ทอริดก็ยังเซ้าซี้อยู่เจ้าตัวแกล้งขยับดาบขู่ เหมือนเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาคำตอบหลุดออกมาในบัดดล ไม่ต้องผ่านกระบวนการคิดด้วยซ้ำ
"ไลแลค ว่าแต่นายจะรู้ไปทำไม"
"ไลแลค?"
"ก็ชื่อดอกไม้นั่นไง"อาร์จีสออกวิ่งไปโดยไม่สนใจจะแก้ข่าว ปานนี้เจ้าตัวปากมากคงจิ้น (จิตนาการ) ไปตามภาษาบวกกระจายข่าวเพื่อเพิ่มกระแส ดอกไม้ปริศนากับศึกสามเศร้าที่ไม่ธรรมดาจะธรรมดาได้ไง อาร์จีสผู้เงียบขรึมจนสาวติดตรึมกลายเป็นไบ คู่ขาก็ธรรมดาซะที่ไหนอีกฝ่ายเป็นถึงมือสังหารกับสาวป๊อบที่ผู้ชายต่างแย่งชิง หรือว่าคนหนึ่งจะเป็นแฟนอีกคนเป็นกิ๊ก แล้วค่อยลุ้นว่าใครจะเป็นเมียหลวงเมีย แค่คิดก็สนุกปากแล้ว
อาร์จีสอยากยืนยันกับเจ้าหล่อนเอง ถ้าข้อสันนิฐานเป็นจริงมือสังหารมีถึง 4 คนเป็นอย่างต่ำ ไม่รู้ว่าเป้าหมายในการมาครั้งนี้คืออะไรกันแน่ แต่เรื่องนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่ ?
"รู้ไหมเอเลซ่าอยู่ห้องไหน"หญิงสาวยืนแข็งตัวเกร็ง ด้วยอาการตื่นเต้นจนควบคุมไม่ได้ คนที่ไม่คาดคิดว่าจะได้พบกลับมายืนคุยอยู่กับเธอ
"ต้องขึ้นไปอีกชั้นค่ะนับจากบันไดถัดไปทางขวามืออีกสามห้องค่ะ ห้อง...."
"ขอบใจน่ะ"เพียงคำขอบคุณใจก็แทบละลาย แต่เดี๋ยว! เธอกะจะหันหลังกลับไปตะโกนบอกแต่ชายตรงหน้าก็หายไปซะแล้วเขาจะรู้ไหมเนี่ยว่าห้องหนึ่งมีประตูสองบานไม่เหมือนหอชาย ช่างเถอะแต่น่าอิจฉาเอเลซ่าจัง...เธอเข้าโหมดเพ้อฝันต่อ
ความคิดเห็น