คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : วันแห่งการเริ่มต้น(3)
เส้นทางถนนหลักที่รถผ่านอย่างไม่ขาดสายเนื่องจากทางลัดตัดผ่านเมื่อเร็วๆนี้ทำให้การค้าขายในย่านนี้เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว
"ไม่คิดว่าน้ำหน้าอย่างนายจะมาทำงานพิเศษด้วย"ทีโอกระโดดเข้าล็อคคอเจ้าเพื่อนขี้เซาหลังจากผลักประตูกระจกหน้าร้านเข้ามา
"นั่นสิ"ลีนาต่อยแก้มอีกฝ่ายเบาๆ
"นายช้านะ"เบลตรงเข้าขยี้หัวให้กระเซิงหนักกว่าเดิม แต่อีกฝ่ายตอบโต้เพียงแค่คำว่า 'อืม'
"ว่าแต่เธอนวดแป้งเป็นหรือเปล่า"ทีโอเล็งสายตาไปยังลีนา ที่กำลังยกแป้งมาทำท่าจะผสม
"ไม่เห็นยากแค่ผสมตามสูตรแล้วก็นวดตามเวลาที่บอกปั้นเป็นรูป"
"มันง่ายขนาดนั้นทีไหนเล่า"
"ว่าไงนะแล้วนายทำเป็นหรือไง"
"ฉันมันแชมป์ขนมปังเก่าเชียว"
"แชมป์กินขนมปังจุน่ะสิ"
"ว่าไงนะแล้วเธอล่ะ"
"จะเถียงกันระหว่างงานก็ไม่มีใครว่าหรอกนะเด็กๆ"หญิงสาวในชุดกระโปรงยางเดินออกมาด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ท้องที่ยื่นออกมาทำให้รู้ว่าเธอกำลังท้องอยู่
"แต่ระวังเรื่องน้ำลายแล้วกัน"เสียงนั้นเอ่ยขนาดลูบท้องตัวเองอย่างเบามือด้วยใบหน้าทะนุถนอม
"แต่ยังไงก็ต้องขอบใจที่มาช่วย"
"ไม่ต้องเกรงใจครับเมื่อก่อนผมชอบมากินขนมปังบ่อยๆ"ทีโอกล่าวเขิน
"นายตกคำว่าฟรีไป"เบลต่อท้าย
"รู้แล้วน่า"ใบหน้าแดงหนักด้วยความอาย
กริ๊ง!
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นมาจากคนในกลุ่ม ทุกคนต่างมองเป็นตาเดียวยังโซที่ปกติไม่เคยให้เบอร์ใครเลย เจ้าตัวเองก็ยังทำหน้างงเหมือนกัน ประมาณว่าโทรศัพท์เครื่องนี้เป็นของใครกัน
"ทำไมนายไม่รับล่ะ"ทีโอเอ่ยขณะนวดแป้ง
"ของฉันหรือ"
"เออดิแล้วจะเป็นของใครล่ะก็เสียงมาจากทางนายนี่"เขาก้มลงคว้านหาต้นกำเนิดเสียงอย่างไม่ค่อยจะใส่ใจนัก แค่เสียงและท่าทีก็รู้แล้วว่าอย่าว่าแต่การตั้งค่าต่างๆเลยแค่มีโทรศัพท์ติดตัวหรือเปล่าก็ยังไม่รู้
"สวัสดีครับ ขอสายใครครับ"เสียงนั้นยังไม่ทันจะได้กล่าวอะไรมาก อีกฝ่ายก็ส่งเสียงพึมพำไม่ได้ศัพท์ดังจนทุกคนได้ยินทั่วแม้ไม่รู้ความหมายแต่ก็รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังมีปัญหาเดือดร้อนอยู่ จากเสียงรำไห้ครวญครางที่ดังขึ้น
"คุณหนูอยู่ไหนครับ อย่าต้องให้ผมตกใจสิครับ ถ้าสมมุติว่าคุณหนูเป็นอะไรขึ้นมาแล้วผมจะบอกนายท่านยังไง แล้วการที่คุณหนูหัวยังไม่แห้งดีแล้วออกไปเดินข้างนอกจะทำให้ท่านเป็นหวัดน่ะขอรับ อาจจะปอดบวม....."
ตู๊ดๆๆๆๆ
เขาปิดสายทิ้งทันทีหลังจากตอบคำถามว่า 'เออ' คำเดียว เหมือนบ่งบอกว่ารู้แล้ว สายตาต่างจับจ้องมายังเพื่อนจอมเอ๋อด้วยความงุนงง โทรศัพท์มือถือส่วนใหญ่เป็นโทนศัพท์ส่วนตัว รับแล้วยังถามว่าขอสายใครก็แปลกแล้วแต่การที่เจ้าตัวทำท่าเหมือนโทรศัพท์มันสามารถปรากฏขึ้นในกระเป๋าโดยเจ้าตัวไม่รู้ว่าเป็นของใครยิ่งเป็นเรื่องแปลกเข้าไปใหญ่
"เพื่อนบางครั้งก็คบกันด้วยผลประโยชน์ แต่เพื่อนบางคนก็คบด้วยความจริงใจ ยิ่งคนมีฐานะสูงส่งเท่าไรความสูงค่าก็จะยิ่งลดน้อยลง ขุนนางบางคนก็สวมหน้ากากไว้แกล้งเป็นตีสนิทหวังกำไรจากผู้อื่น ช่างเป็นสังคมที่น่าเบื่อหน่าย"คาริเน็ตเอ่ยงึมงำอยู่คนเดียวในรถคันหรู
"แสดงว่าการประชุมวันนี้มีปัญหาหรือครับ"คนขับรถเอ่ยเหมือนรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่
"ก็เปล่าหรอก เพียงแต่ลมปากหวานๆพูดเหมือนได้ผลประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่ายแต่ลับหลังสั่งลูกน้องให้มากดบริษัทเราก็แค่นั้น เรื่องนั้น โซก็น่าจะรู้และคงกลายเป็นหัวข้อประชุมในวันนี้ เจ้าน้องเลิฟก็คงโดดประชุมในบริษัทเช่นเคย"
"แล้วจะแวะเข้าไปดูที่บริษัทไหมครับ"
"ไม่ล่ะ เจ้าน้องชายคงจัดการไปเรียบร้อยแล้ว บริษัทที่ริอาจเป็นคู่แข่งน่ะ การโตคงยากแต่บริษัทที่วางแผนลอบกัดโดนการประจบสอพลอลับหลังเอาข้อมูลไปให้ฝ่ายคู่แข่งน่ะ คงไม่จบเพียงล้มละลายแน่"เขามองทอดสายตาไปบนถนนอย่างไร้จุดหมาย
"ทั้งหมดสามร้อยสี่สิบค่ะ"เบลเอ่ยตอบรับลูกค้าด้วยรอยยิ้มส่วนโซกำลังแพ็คขนมปังด้วยอาการน่าเป็นห่วง
"จะติดเชื้อเอ๋อไหมเนี่ย"ทีโอเอ่ยขณะเปิดอีกเคาท์เตอร์คิดเงินอีกหนึ่งซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
"แต่อาจดีกว่าติดเชื้อบ้าก็ได้"เขาเบนสายตามาทางลีอาเล็กน้อย เธอเองก็รู้ความหมายนั้นดี
"จะว่าฉันงั้นหรือ"
"เขาว่ายิ่งทะเลาะกันยิ่งรักกันนะ"เบลเอ่ยด้วยรอยยิ้มขณะส่งถุงขณะขนมปังให้ลูกค้าที่กำลังจะเดินออกจากร้าน
"เชิญค้า"ทุกครั้งที่มีคนเข้าร้านแม่สองสาว จะกล่าวขึ้นด้วยเสียงสดใสทุกครั้ง แต่ลูกค้ารายนี้เข้ามากลับไม่ได้มองหาขนมปัง
"รับอะไรดีค่ะ ชอบสไตล์ไหนฉันพอแนะนำได้นะค่ะ"เบลกล่าวกับลูกค้าด้วยเสียงนุ่มนวล ออกจากเคาร์เตอร์ตัวเองเพราะว่าคนเริ่มน้อยลงแล้ว ส่วนโซก็ดันเข้าห้องน้ำพอดี
"คุณโซอยู่ไหนครับ"
"มาหาโซหรือค่ะ อยู่ในห้องน้ำค่ะเดี๋ยวคงออกมา"สองสาวต่างมองชายหนุ่มผู้มาใหม่ด้วยอาการเพ้อ ตาสีเขียวคู่นั้นเป็นประกายราวกับมรกต ผมสีอำพันประกายสวย
"โซมีคน...."เธอยังไม่ทันเอ่ยจบประโยค ชายที่พึ่งจะก้าวออกมาหลังประตูภายในบ้านปิดประตูเข้าไปข้างในอีกครั้ง ด้วยใบหน้าเฉยชา
"ที่นี่มีประตูหลังไหมครับ"เขาเอ่ยเหมือนอ่านทางอีกฝ่ายออกด้วยเสียงอันดัง
"มีค่ะ อยู่ด้านข้างทางซ้ายน่ะค่ะ"
"ขอบคุณครับ"ฮาร์ปกล่าวจบปิดประตูเสียงดัง เมื่อเวลาผ่านไปครู่หนึ่งโซถึงเปิดประตูแง้มออกมาดูเหมือนเห็นว่าไม่มีชายคนดังกล่าวจึงค่อยๆก้าวออกมา แต่แล้วก็โดนคว้าข้อมือไว้ ฮาร์ปแกล้งปิดประตูอย่างรู้นิสัยแล้วซ่อนตัวอยู่ด้านหลังบานประตูที่พึ่งถูกเปิดออก
"สายแล้วนะขอรับ"กล่าวจบก็ลากชายคนดังกล่าวออกไป
"เมื่อกี๊ได้ยินคำว่าขอรับหรือเปล่า"ทีโอเอ่ยก่อนที่ทั้งสามจะกลับเข้าสู่ความสงบ ทั้งสามส่ายหน้าและตีสีหน้าบอกไม่ถูก บรรยากาศแปลกๆ
"วันนี้สวยเป็นพิเศษเลยนะขอรับคุณหนู"คนขับรถเอ่ยขึ้นขณะมองกระจกหลัง
"ถึงชมว่าสวยฉันก็ไม่ดีใจหรอกน่ะ แล้วก็เลิกเรียกคุณหนูสักที่ ฉันโตแล้วนะ รู้สึกกระเดียดยังไงไม่รู้"ริซ่าปล่อยผมที่ยาวเรียบตรงให้สยายมีเสน่ห์ ชุดราตรีสีแดงแนบตัวจนเลยเกือบถึงพื้นเป็นชุดกระโปรงยาวเรียบที่ไม่ตกแต่งอะไรเลย ยิ่งเพิ่มเสน่ห์บนใบหน้ามากกว่าจุดอื่น
"มาช้าน่ะ"คาริเน็ตเปิดประตูรถให้หญิงสาวก้าวออกมาอย่างช้าๆจนทุกคนต้องตื่นตะลึกในความงามทั้งที่ในงานมีแต่เชื้อพระวงศ์และขุนนางด้วยกันเอง ซึ่งเห็นเธอออกงานอยู่บ่อยครั้ง
"ยังสวยเหมือนเดิมนะค่ะ"
"กลับมาตั้งแต่เมื่อไรน่ะ"เสียงเหล่านั้นพยายามชวนคุยแต่ชายหนุ่มที่อยู่ด้วยกันกลับมองด้วยความห่วง เมื่อสายตาชายหนุ่มต่างมองอย่างแทะเล็ม
"แล้วโซยังไม่มาอีกหรือ"เธอมองซ้ายขวามองชายเจ้าของชื่อ
"ก็รู้ว่าเจ้านั่นไม่ถนัดงานแบบนี้ แต่เดี๋ยวคงมาเพราะฉันอุตส่าห์หาเหตุผลดึงให้ออกงานอยู่นานสองนาน"
"แล้วก็ไม่คิดสนใจจะฟังเช่นเคย คงโกรธน่าดู ถ้าพบว่าพี่ที่ตัวเองบอกว่ายุ่งหนักยุ่งหนามาอยู่นี่ด้วย"
"โซคงรู้อยู่แล้ว แต่ถึงยังไงก็คงไม่พูดหรอก"เขาเอ่ยราวกับรู้นิสัยน้องดี
"แต่ฉันคงต้องเป็นหนึ่งในเจ้าภาพเปิดงานแล้วมั้งเนี่ย"คาริเน็ตถอนหายใจ 'ก็เป็นเสียยังงี้ไง ไม่เคยรักษาเวลา เอาแต่ใจตัวเองอีกแล้ว'
"ยังไม่ได้เตรียมบทพูดเลยนิ"
"นายมันแถเก่งอยู่แล้วนิ ไม่รู้เรื่องยังพูดได้เป็นเรื่องเป็นราวแค่สามนาทีเองกระจอกจะตาย"หญิงสาวมองอย่างรู้ทัน
"กะไม่ให้ฉันเตรียมใจเลยใช่ไหมเนี่ย"
"แค่วินาทีก่อนขึ้นเวทีก็พอแล้วนิ"
ในขณะที่คาริเน็ตกล่าวเปิดงานด้วยอารมณ์ที่ประทับใจกับงานเป็นอย่างมาก (แน่นอนว่าต้องแสสร้างเป็นบางส่วนให้ดูดี) เป้าสายตาส่วนใหญ่กลับสนใจกับบุรุษผู้มาใหม่ กลุ่มหญิงสาวชุลมุนวุ่นวาย พยายามเบียดเสียดพร้อยเสียงคล้ายแมลงรำคาญ ปรากฏการณ์นี้ทำให้คนกล่าวทราบได้ทันทีว่าเกิดสิ่งใดขึ้น
"ท่านเพอ์โซนาร์มาด้วยหรือค่ะ"
"น่ารักจังเลย ไม่ได้เจอกันตั้งนานน่ารักขึ้นเยอะเลย"อีกฝ่ายเพียงแต่ตีหน้าขรึมตอบ
"กรี๊ด!~ เท่ห์จัง"โซเพียงแหวกฝูงชนตรงไปยังริซ่า เครื่องแต่งกายของเขาเป็นชุดที่ประณีตงดงามเสริมบารมีจนน่าดึงดูด โดยเฉพาะเสื้อด้านหน้าและข้อมือถูกจัดให้เป็นกลีบอย่างเรียบร้อย สายสะพายก็ถูกเลือกให้เข้ากับสีชุดยิ่งถ้ามีดาบคู่กาย คงไม่ต่างไปจากเจ้าชายผู้สูงศักดิ์หรือองครักษ์ข้างกายเลยแม้แต่น้อย ผมที่ถูกทำให้ยาวปะบ่าขึ้นด้วยวิธีบางอย่างมัดรวมด้านหลังไว้คล้ายหางหนู ดวงตาสีแดงประกายใสไม่แสดงอารมณ์ใดๆทั้งสิ้น
"ในที่สุดก็มา"ริซ่าเอ่ยเสียงใส
"กี่ทีที่มานายต้องโดนรุมแบบนี้พอจะเข้าใจเลยว่าทำไมถึงไม่อยากมา แต่ถ้าไม่อยากโดนล้อมแบบนี้ก็รีบๆหมั้นซะที่สิ"เธอเอ่ยปนเล่นปนจริงหยิบกล้องขึ้น
"ก่อนอื่นก็ต้องถ่ายรูปก่อน"
"มาได้ก็ดีน่ะเจ้าน้องชาย"คาริเน็ตตรงเข้าขยี้หัวเบาๆอย่างเอ็นดูแต่มันก็กลับเป็นทรงอีกครั้งผิดจากหัวที่กระเซิงในโรงเรียน
"ยอมรับเลยน่ะเนี่ยว่าช่างแต่งหน้าฝีมือเยี่ยม"คาริเน็ตเอ่ยพิจารณา
"ถ้าไม่สังเกตจริงๆแล้วก็ไม่รู้เลยว่านายเป็นคนเดียวกับพ่อนักร้องนายแบบคนดัง"ทั้งที่ดาราที่สร้างขึ้นกับตัวจริงก็ไปสไตล์เดียวกัน
"ตอนนี้ดูเด็กกว่าน่ารักกว่าใช่ไหมล่ะ"ริซ่ากอดโซด้วยเสียงรื่นเริง
"คงงั้นมั้ง"เขาตอบไม่ใส่ใจ
หลังงานจบ ภาพก็ถูกส่งไปรายงานพ่อพร้อมข้อความอะไรบางอย่าง
'ปล่อยให้ทำตามใจบางเถอะครับ ไม่งั้นจะกลายเป็นเด็กไม่รู้จักโตต้องคอยโอ้ตลอดเวลา พ่อไม่มีทางอยู่ดูแลโซตลอดไปหรอกนะครับ ผมไม่ได้แช่งน่ะครับ แต่ถ้าพ่อเข้มงวดกับเขามากเกินไปอาจจะกลายเป็นคนคิดเองไม่เป็นเวลาทำผิดก็จะปัดความรับผิดชอบว่าไม่ใช่ความผิดตัวเอง แต่เป็นการถูกบังคับให้ทำ'ข้อความนี้ถูกลบทิ้งเกือบจะทันทีเมื่ออ่านจบ พร้อมเสียสบถอย่างไม่สบอารมณ์ 'เจ้าลูกบ้า'
ความคิดเห็น