คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : exchange
บทที่ 3 >>Exchange
"ขอปฎิเสธ!"มือสังหารเอ่ยอย่างไม่ต้องใช้เวลาตริตรอง
"หึ"ชายผู้วางมาดขรึมส่งเสียงยโสออกมาเหมือนรู้อยู่แล้วว่าบุคคลผู้นี้จะตอบเช่นไร ดาบทั้งสองยังกดดันกันกลางอากาศก่อนจะผละออกอีกครั้ง
"ถ้าเป็นข้าจะรอฟังข้อเสนอนั้นให้จบก่อน จริงอยู่ที่มือสังหารเสี่ยงต่อความตายจนเป็นเรื่องธรรมดาเสียแล้วแต่เจ้าจะได้รับประโยชน์สองข้อ ข้อแรกข้าไม่ใช่อาร์จีสหรอกแต่ข้ารู้ว่าเขาอยู่ไหน ส่วนข้อที่สองข้ายินดีมอบทุกสิ่งที่เจ้าขอ ข้าบอกไว้ก่อนถ้าเป็นข้าข้อเสนอมันก็ไม่เลว ไม่เพียงแต่เจ้าไม่ต้องตายแล้วยังได้สิ่งที่เจ้าปรารถนาด้วย แน่นอนว่าความลับเรื่องตัวตนของเจ้าข้าจะปิดเป็นความลับด้วยหรือถ้าเจ้าไม่มั่นใจจะสังหารข้าก็ได้แต่ต้องรอให้ข้าบรรลุวัตถุประสงค์เสียก่อน และใช่ว่าข้าจะยินยอมให้เจ้าฆ่าง่ายๆน่ะถึงตอนนั้นค่อยว่ากัน"
"เจ้าต้องการอะไร"เสียงนั้นเอ่ยเน้นหนัก ถึงจะยอมฟังข้อเสนอแต่ก็มือสังหารก็ไม่ยอมเปิดช่องว่างให้
"แค่ช่วยฉันเพียงเรื่องเดียว"เขาหลีตาลงเล็กน้อย
"การเป็นคู่หมั้น"มือสังหารส่งสายตาดุๆมาทันทีเริ่มลงมือต่อ ถึงบุคคลผู้นี้จะไม่ใช่เป้าหมายแต่ต้องตกเป็นเหยื่อเพราะต้องสอนให้รู้ว่าอย่าเล่นกับไฟ สำหรับมือสังหารการเปิดเผยหน้าตาไม่ได้มีอยู่ในกฎแต่มันเป็นสิ่งที่ขัดขวางต่อภารกิจ
"ท่านเคยได้ยินเรื่ององค์กรมือสังหารหรือไม่"เสียงปริศนาเอ่ยต่อ
"ข้าเคยได้ยินเรื่องเช่นนั้นมาก่อนและกำลังสืบหาเบาะแสเช่นกัน"
"ข้าจะบอกชื่อผู้จ้างวานและสาขาหลักขององค์กรให้แลกกับการที่ท่านช่วยข้าอย่างหนึ่ง"
"ว่ามา"
"ต้องฆ่าล้างมันให้หมด ยกเว้นอาคีละท่านจับเป็นมาให้ข้า ข้าจะเป็นผู้ลงมือสังหารมันเองกับมือ"ราชาทำท่าครุ่นคิดมันเป็นข้อเสนอที่เขาไม่ต้องเสียอะไรเลยจนแทบได้เปล่าด้วยซ้ำ หญิงผู้นี้ต้องการเพียงเพื่อล้างแค้นงั้นหรือ
ก๊อก!ก๊อก!
ราชายังไม่ทันตอบรับข้อเสนอเสียงเคาะประตูขัดจังหวะการสนทนา องค์รักษาฝ่ายขวารีบพรวดเปิดประตูตรงดิ่งเข้ามาทันทีพร้อมในท่าระแวงเต็มที่
"ขออภัยที่เสียมารยาทขอรับ แต่ข้าได้ยินเสียงดังมาจากห้องนี้ข้าจึงนึกว่าท่านอาจเป็นอันตราย"เขามองเห็นผ้าคลุมสีแดงไวๆจึงรีบรุดเข้าไปทันที แต่ว่ากลับไม่พบผู้ใดเลยเว้นแต่ใบเมเปิ้ลสีส้มอมแดงสด เขาอาจตาฝาดไปก็ได้ แต่เพื่อความแน่ใจจึงเดินสำรวจอีกครั้ง ในห้องนี้คงมีแต่ราชาเพียงเท่านั้นจริงๆเพราะมันไม่มีทางอื่นแล้วนอกจากประตูบานเดียว
ปัง!
เสียงปิดประตูดังสนั่นจนทั้งสองเสียงหันไปมอง อาร์จีสยังคงอยู่ในท่าคร่อมมือสังหารไว้ เนื่องจากเมื่อครู่เขาตรงดิ่งไปยังมือสังหารที่ชะงักอยู่เหมือนสนใจอะไรบางอย่าง เป็นเหตุให้หยุดมือไม่ทัน เขายังต้องการใช้ประโยชน์จากมือสังหารคนนี้อยู่
"ว้าว! ไฟแรงจังครับวันแรกก็กะเอาบทลงโทษสถานหนักเลยหรือครับ"ลีออนเปิดประตูเขามาด้วยรอยยิ้ม
"มีอะไรเหรอ"ทอริดตามเข้ามาด้วยความอยากรู้อยากเห็น มือสังหารรีบคว้านหาระเบิดแสง กระโดดลงจากหน้าต่างทันที อาร์จีสรีบตามไปดู ทอริดตามไปแส่ เจ้านั่นยังไม่ตายนกอินทรย์ยักษ์รองรับมือสังหารไว้
"เกิดไรขึ้นเหรอ"ทอริดเห็นเพียงผ้าคลุมแดงแวบๆบินร่อนลงพื้นแล้วหายเข้าป่าไป
"ไม่รู้สิครับ"ลีออนเอ่ยปฏิเสธ ส่วนทอริดแสยะยิ้ม
"นั่นไงเป็นดังคาดแอบพาชายอื่นเข้าห้องล่ะสิ แถมเป็นถึงมือสังหารเสียด้วยใจถึงไม่เบานี่ไอ้น้อง ถึงฉันจะช่ำชองเรื่องความรักแต่ก็ไม่ได้มีรสนิยมแบบแกหรอกน่ะ เพราะฉะนั้นเวลาจะจู้จี้กับใครอย่าพาเข้าห้องล่ะ"เขาทำหน้าแหยงทันที
"การที่พูดอะไรออกมาแสดงว่าคุณต้องมีความรู้ระดับหนี่ง ไม่เช่นนั้นคงไม่มั่นใจที่จะกล่าวออกมาหรอกใช่ไหมครับ"ลีออนล้วงเข้าไปในกระเป๋าหยิบสมุดเล่มเล็กออกมา
"ก็เปล่าดูจากเวรยามตอนกลางคืนแน่นหนา การจะเข้ามาได้ก็ต้องคนในหอนี่แหละ บินมาน่ะต้องมีคนรู้อยู่แล้ว"ทั้งสามมองลงไปเบื้องล่างเพียงไม่นานนัก ทหารก็รวมตัวกันคว้านหาบริเวณป่าทันทีเขายักคิ้วอย่างอวดดี "เห็นป่ะ ?"
"แต่ฉันว่ามันไม่ได้มาฆ่าคนหรอกมาหาคู่รักมากกว่ามั้ง"ทอริดเอ่ยต่ออย่างขำๆ
"แล้วคุณรู้ได้ไงว่าเป็นยังงั้นล่ะครับ"
"ก็เจ้านี่ยังมีชีวิตอยู่เห็นป่ะ เราเข้ามามันก็รีบชิ่งไปแล้วกลัวคนเห็นหน้าแน่ๆเลย"บุรุษยียวนทำท่าแบ่งอีกครั้งหลักจากตั้งตัวเป็น เชอล็อคโฮมสมมุติ หยิบหน้ากากที่ตรงไว้โชว์
"ฉันว่าเจ้านั่นต้องเป็นแต้ว หรือคุณชายสุดเนียบชัวร์"เขาเอ่ยเค้นจากเพื่อนร่วมห้อง
"ทำไมครับ"
"กลิ่นที่แรงขนาดนี้ ไม่มีผู้ชายเขาใส่กันหรอก"ว่าไปก็ดมไปกลิ่นกุหลาบหอมงั้นหรือคล้ายใครบางคน.....เอเลซ่า!
"เดี๋ยวนี้ผู้คนนิยมกลิ่นนี้กันหรือไง"เขาเอ่ยขึ้นลอยๆแต่ไม่พ้นเจ้าคนบื้อ(หรือแกล้งกันแน่)เอ่ยถามขึ้นอีก
"ก็เปล่านี่"
"แล้วคุณทราบได้ไงว่าคนๆนั้นเป็นมือสังหาร"ลีออนเอ่ยอีกครั้ง เจ้านี่มันแกล้งยั่วหรือไงกัน(กลายเป็นทอริดเบอร์สองเสียแล้วแต่ว่ามีสาระกว่าเยอะมั้ง?)
"เรดคิลเล่อร์ผู้มาพร้อมความตาย เป็นยมทูตแดงที่มันมาพร้อมอินทรีย์ยักษ์ กล่าวกันว่าเขาไม่เคยทำงานพลาดเลยสักครั้ง จนเป็นที่กล่าวขานกัน นามของเขาคืออาซาเลีย"
"แล้วคุณรู้ได้ไงครับว่าไม่เคยงานพลาดเลย เขาอาจเคยทำงานพลาดก็ได้นี่ครับก็เหยื่อที่หมายปองยังไม่ทราบว่าเป็นใครจนเสียชีวิตไปแล้ว"
"ก็เพราะมันมีอินทรีย์บินในละแวกนั้น"เขาตอบไปยิ้มไป คำถามอนุบาลง่ายๆแบบนี้ใครก็ตอบได้ ปกติอาศัยอยู่แถวไฟฟ้าเข้าไม่ถึงหรือไง หลังเขาลูกไหนเนี่ย
"อาจมีคดีเลียนแบบก็ได้นี่ครับ บังเอิญวันนั้นมือสังหารฆ่าไม่สำเร็จ แต่มีคนอื่นที่แต่งตัวเลียนแบบฆ่าอีกคน บางครั้งจึงเกิดเป็นคดีฆ่าสองสามเหยื่อภายในวันเดียว แต่มันก็ไม่เป็นที่แปลกใจ"จริงของมัน ทอริดเริ่มขึ้น ว่าแต่มันขี้สงสัยจริงโว๊ย!
"แล้วคุณมั่นใจได้ไงครับว่าเขาเป็นผู้ชาย ในเมื่อเหยื่อที่เห็นเหตุการณ์คนเดียวตายหมด"การที่จะบอกได้ว่าอาซาเลียเป็นหญิงหรือชาย การที่เข้าห้องพวกเขาได้ ไม่ใช่สิ่งพิสูจน์แต่ต้องรู้มาก่อนหน้านั้นแล้วถึงจะมีความมั่นใจในการระบุได้
"นั่นเป็นเพราะ....."เขาเริ่มพูดไม่ออกปกติเคยแค่ฟังข่าวหรือนี่นา
"ถ้ายังงั้นการเกิดคดีเลียนแบบมันไม่ยากเลยก็ในเมื่อไม่รู้อีกฝ่ายเป็นใครก็สามารถแอบอ้างชื่อได้โดยง่าย"ลีออนยิ้มอย่างอารมณ์ดี แต่ทอริดอ้าปากค้างไปแล้วเจ้าบ้านี่มันรู้นี่หว่า! แต่แกล้งถาม
'อะไรของมันตั้งแต่เมื่อกี๊แหละวกไปมาแล้ว ฉันพูดแค่สองสามคำมันรู้ได้ไงฟ่ะว่าเกิดสองสามคดีในวันเดียวกันไม่เป็นที่แปลกใจ แล้วไอ้คำที่ว่าเหยื่อที่เห็นเหตุการณ์คนเดียวตายหมดกับ เหยื่อที่หมายปองยังไม่ทราบว่าเป็นใครจนเสียชีวิตไปแล้วฉันพูดไปตอนไหน"
"เป็นไรไปครับ"เจ้าเสียงใสแต่เอาเรื่องถามขึ้น
"อ้อ!คงงงสิน่ะว่าทำไมผมถามได้ดีขนาดนี้ ที่จริงผมอยากพูดประโยคนี้มานานแล้ว" ทอริดรีบดึงสมุดเล่มเล็กจากมือคนอ่านทันที ไรฟ่ะเนี่ย!
รวมประโยคยอดฮิตและกฎของนักสืบ
1.ควรถามความเห็นแบบประโยคเปิด (การไม่ตั้งคำถามที่ลงว่าใช่ไหม)เช่น คุณคิดยังไงครับกับคดีนี้(การสืบสวนของ........เล่ม1)
2.คนร้ายต้องมีคนเดียวนั้นก็คือ......(ยอดนักสืบ......เล่ม2)
3.แล้วคุณรู้ได้ไงครับว่าไม่เคยงานพลาดเลย เขาอาจเคยทำงานพลาดก็ได้นี่ครับก็เหยื่อที่หมายปองยังไม่ทราบว่าเป็นใครจนเสียชีวิตไปแล้วอาจมีคดีเลียนแบบก็ได้นี่ครับ บังเอิญวันนั้นมือสังหารฆ่าไม่สำเร็จ แต่มีคนอื่นที่แต่งตัวเลียนแบบฆ่าอีกคน บางครั้งจึงเกิดเป็นคดีฆ่าสองสามเหยื่อภายในวันเดียว แต่มันก็ไม่เป็นที่แปลกใจ(สืบสาวความเท็จ......บทที่37)
4...แล้วคุณมั่นใจได้ไงว่าคนร้ายเป็นใคร ในเมื่อ.....
.
"อะไรเนี่ย"ทอริดอุทานเจ้านี่เพี้ยนเปล่า คำที่มันถามเมื่อกี๊อยู่ในหนังสือหมดเลย แล้วไอ้ที่ถามเมื่อกี๊นี่มันเดาๆขึ้นมาถูก ถามตามรูปแบบหรือว่าความสามารถในการวิเคราะห์สันนิฐานรูปคดีกันแน่ แต่ถ้ามันเดาถูกก็อภิมหาดวงดีเลย เจ้าเด็กท่าทางซื่อๆนี่อ่ะน่ะ
"นี่เจ้าน่ะที่จริงแล้ว.....!"แต่พอหันกลับไปจะหาเจ้าของเรื่องที่วันแรกก็มีนักฆ่ามาเยือนห้องเสียแล้ว ชายคนนั้นกลับหลับไปแล้วอย่าไม่ใส่ใจ อะไรของหมอนี่....นักฆ่าจะมาสังหารตนไม่กลัวเลยสักนิดหรือว่าไอ้ที่เป็นเกย์จะเดาถูก คิดไปเจ้าตัวก็อุ๊บหัวเราะไป
การเรียนในภาคทฤษฎีและปฏิบัติส่วนใหญ่จะแยกเรียนเป็นศิษย์7-8คนต่ออาจารย์หนึ่งคน เพื่อจะได้ดูแลนักเรียนทั่วถึงยกเว้นเนื้อหาบางอย่างที่เหมือนๆกันก็จะเรียนรวม บางครั้งอาจมีการเรียนรวมกับนักเวทย์ด้วยถ้าเนื้อหานั้นธรรมดาทั่วไปสุดๆ
"วันนี้อยากให้ทุกคนแสดงความสามารถออกมาหน่อย"อาจารย์สอนประจำกลุ่มเอ่ยขึ้นอย่างเซ้งๆมองหน้าเหล่าผู้เชี่ยวชาญอาวุธอย่างอนาถใจ เจ้าพวกนี้จะได้เรื่องเหรอ เขาแต่งกายในชุดดำกันเลอะคราบต่างๆ ดวงตาสีส้มซึ่งอีกข้างซ่อนไว้ภายใต้ผมสีแสดเรียบ
เจ้าชายมิเกร่าอารมณ์ร้อน ชอบแยกตัวโดดเดี่ยวพักอยู่ปราสาทเคออส ดูถ้าเอาแต่ใจน่าดู ไม่สนเพื่อนหรืออะไรเลย แบบนี้เวลาแบ่งย่อยฝึกกันสงสัยได้เห็นว่ามีทั้งศัตรูภายใน ภายนอกไล่กันมั่วเลยมั้ง แต่อาจจะสนุกก็ได้
ลีออน หน้าใสซื่อก็แล้วแถม เปิ่นๆพอตัว ใส่แว่นก็ใหญ่เกินพอดี ยิ้มร่าเริงตลอดเวลาอีก ซุ่มซ่ามก็ที่หนึ่งดูไม่น่าพึ่งได้เลย อาจารย์ประจำกลุ่มทำหน้ากลุ้ม
ทอริด เหมือนแมวเซาแต่พอเห็นหญิงสวยๆกลายเป็นเสือตื่นวิ่งไล่จีบไปทั่ว คุมตัวก็ลำบากชอบยิงปัญหาไร้สาระให้ตอบอีก ได้ข่าวว่าผู้คุมหอหมายหัวไว้ในบัญชีดำ(หนังสุนัข)เรียบร้อยแล้ว
อาร์จีส ตื่นก็ยากแต่ก็รักษาเวลาดี เหมือนชอบสร้างโลกส่วนตัว ตีใบหน้าก็ขรึม เวลาไหนพอใจจะพูดก็พูด ไม่พอใจในคำถามก็ไม่ตอบ ไม่ค่อยฟังคำสั่งใคร ประเภทดื้อเงียบ แต่สาวๆก็ติดใจจนหน้ามืดตามัว ชอบโดนมาแอบดูบ่อยๆ รบกวนสมาธิคนอื่น
อาจารย์ประจำกลุ่มมองไปก็ถอนหายใจไป.....แล้วเราจะคุมพวกนี้อยู่ไหมนี่
ไฮยาซินธ์ พ่อแม่เป็นคนยังไงเนี่ยถึงตั้งชื่อลูกสาวให้น่าหมดหวังขนาดนี้(ดอกไฮยาซินธ์ ดอกไม้แห่งความผิดหวัง) แล้วถูกเลี้ยงดูมายังไงกันสายตายังกับเพชฌฆาตเตรียมฆ่าล้าบางทั้งตระกูล ไม่รู้ไปเก็บความเคียดแค้นจากไหนมา ถ้าเดินอยู่ดีๆไม่ระวังตัวคงโดนมีดเสียบเข้าให้อย่างไม่ต้องพึ่งเหตุผล สงสัยต้องอย่าทำให้ผิดใจเป็นดีที่สุด
เอเลซ่านี่ก็อีกคนเหมือนกับเป็นพี่น้องคลานตามกันมา หน้าตาก็ไม่ได้คล้ายคลึงจะมีพ่อแม่คนเดียวกันเลย แต่สายตาคอยแต่จะแว้งกัดชาวบ้านตลอดจนผู้ชายที่หลงได้แต่คอยมองห่างๆไม่กล้าเข้าใกล้ แล้วก็ไอ้กลิ่นดอกกุหลาบมลภาวะทางอากาศที่รุนแรงขนาดนี้ก็ฉีดมาได้ จะไว้เป็นฟีโรโมนล่อผู้ชายล่ะก็ลดความโหดบนใบหน้าลงหน้าก็ดีหรอก เวลาหลบซ่อนศัตรูก็ลำบากแต่สงสัยไว้ขู่ให้ศัตรูในระยะประชิดกลัวไม่กล้าเข้าใกล้มากกว่า โดยเฉพาะผู้ชายหลงในเสน่ห์ความหอมก็จริงแต่สบตาถึงกับชะงักไม่ใช่เพราะความงามแต่กลัวในสายตาต่างหาก ผู้ชายคนไหนกล้าเข้าใกล้ก็ใจกล้าเต็มทนแล้ว
จนไม่รู้มองไปมองมาสองคนนี้ใช่ผู้หญิงแท้หรือเปล่าเนี่ย.....และที่แย่ที่สุดเขามองไปยังหญิงคนสุดท้าย
เดซี่(ความไร้เดียงสา บริสุทธิ์) ชื่อเป็นดอกไม้อีกแล้วแต่ต่างกันสุดขั้วทั้งบุคลิกและความหมายเลย ดูเป็นแม่สีเรือนชอบเย็บปักถักร้อย แอบมองอาร์จีสอยู่บ่อยครั้งแล้วหน้าแดงแต่ไม่เคยพูดความในใจสักครั้ง เป็นผู้หญิงที่ดูเจ้าน้ำตา ขี้อ้อน ขี้แย แถมยังขี้อายอยู่เรื่อย เวลาไม่สนใจก็ทำท่าจะร้องไห้ แต่เวลาถามคำถามขึ้นถ้าตอบไม่ได้ก็ร้องไห้อีก เจ้าพระคุณฉันจะเอาใจเจ้าหล่อนถูกไหมเนี่ย ทำตัวเหมือนคุณหนูในชุดตุ๊กตาฟูฟ่องแล้วเธอผ่านเข้ามาได้ไงเนี่ย ไม่รู้มาตรฐานมันตกหรือเธอมีความสามารถจริงๆกันแน่
เขาเอามือกุมขมับไม่มีใครดูเอาการเอางานได้สักคน ถ้าทุกคนเรียกตกฉันก็ต้องรับดูแลเรื่องซ่อมอีก พูดได้คำเดียวเหนื่อยใจ ที่จริงอยากคุมตัวต่อตัวเสียมากกว่าถ้าไม่ติดว่าอาจารย์มีน้อยกว่านักเรียนที่จริงก็เล่นไม่ยากลดเกณฑ์ผู้ผ่านก็สิ้นเรื่อง
"อาจารย์ว่าไงน่ะครับ"ทอริดนักเรียนเจ้าปัญหาถามขึ้นทันทีที่อาจารย์พูดจบ ยังไม่ทันถึงนาทีเริ่มหาเรื่องเลยเหรอเนี่ย
"ทำไมฉันต้องมาเรียนกับพวกชั้นต่ำอย่างพวกแกด้วยฟ่ะ"มิเกร่าส่งสายตาหาเรื่องไปยังลีออน กับอาร์จีสทันที เจ้าสองคนที่เคยยั่วประสาทเขาตอนนั้น ไอ้คนหนึ่งใจกล้าไม่ลุกไปไหนอีกคนก็ดันขัดการต่อสู้เสียอีก
"สันติครับ"ลีออนเอ่ยขึ้น อาร์จีสแค่เปรยตาแล้วหันไปสนใจทางอื่น ส่วนเดซี่ก็ทำท่าจะร้องไห้เพราะเสียงตวาด อีกสองสาวที่เหลือก็ทำสายตาดุๆใส่
"พวกเธอมองอะไร หรือคิดจะมีเรื่องอีก"เจ้าชายหนอเจ้าชายทำตัวเป็นสุภาพบุรุษหน่อย ผู้หญิงก็ไม่เว้นเลยหรือ ถ้าเป็นเด็กไม่จับกินเลยหรือไง
กลุ่มนี้จะไปรอดไหมเนี่ยนับเวลาผ่านไปความหวังเริ่มริบหรี่สงสัยจะได้แต่ฟังคำต่อว่าเสียมากกว่า ดูยังไงก็เป็นการฟอร์มทีมเด็กมีปัญหาโยนมาให้เขาชัดๆ
"ฝีมืออย่างนี้ไม่คู่ควรที่จะลงมือหรอก"เอเลซ่าเอ่ยขึ้นอย่างจองหอง ส่วนไฮยาซินธ์ส่งเสียง 'หึ' ออกมาเบาๆแล้วเมินหน้านี่ เจ้าชายเลือดบ้ากำเริบทันทีทำท่าจะดึงดาบออกจากฝัก
"พอ!"เสียงอาจารย์ประจำกลุ่มเอ่ยห้ามทันที ก่อนที่เรื่องมันจะไปมากกว่านี่....วันแรกก็เปิดศึกกันเลยหรือ
"วันแรกที่สดใส เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีครับ"ลีออนเอ่ยขึ้นอีกครั้งด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
"แกน่ะหุบปากไป!"อาจารย์ทำหน้ากลุ้มอีกครั้ง ที่จริงก็ไม่อยากจะห้ามหรอกแต่คนที่จะโดนมันพ่วงมาถึงฉันด้วยน่ะสิ คนหนึ่งก็อารมณ์ร้อนสุดขั้ว อีกคนก็เย็นจริงๆเหมือนคนไม่รู้เรื่องรู้ราว เอากันเข้าไป
"หัก 10 คะแนน!"ทุกเสียงนิ่งเงียบทันทีมองยังเสียงที่แทรกเข้ามาใหม่ ผมสีทองรวงข้าว ตาสีฟ้าไพลิน ตีจากใบหน้าอายุคงต่างจากพวกเขาเพียงไม่กี่ปี หล่อเหลา ดูดี สไตล์ครูมาดเซอๆแต่แอบหน้าตาดี
"ในที่สุดก็เงียบกันสักที ขอโทษที่ขัดจังหวะน่ะครับแต่ผมเห็นครูกำลังลำบากเลยอยากช่วย"
"เซริง?"
"ครับ สวัสดียามเช้าครับ"
"นี่มันจะเที่ยงแล้วน่ะ"แต่เขาก็ได้แต่ถอดหายใจ จะเอาอะไรมากกับคนพึ่งบรรจุใหม่ ยังไม่ได้ประกาศคะแนนการทดสอบความสามารถเลยไม่รู้ว่าจะให้เขาทำงานหน่วยอะไร ตอนนี้นั่งๆนอนสบายใจเฉิบ เห็นแล้วอิจฉา
"ถ้ามาก็ดีแล้ว ช่วยครูเรื่องหนึ่งสิ"
"ครับ"
"ดูแลนักเรียนพวกนี้หน่อยถือว่าเป็นการฝึกงานไปในตัว"
"ไม่ครับ"เสียงเจ้าแมวเซาแทรกเข้ามาอีกครั้ง
"อาจารย์สมควรสอนเองสิครับ แม้แต่ชื่อก็ยังไม่ได้แนะนำเลย"
"เหรอ? แค่เจอหน้าก็ดีแล้วนี่"อาจารย์พูดอย่างหน่ายๆ
"ถ้าแนะนำชื่อจะยิ่งดีใหญ่มั้งครับ"ลีออนเอ่ยแทรกขึ้น
"แค่แนะนำชื่อก็จบสิน่ะ"
"เฮ้ย!"มิเกร่าขัดอย่างอารมณ์เสีย
"จะทำอะไรก็รีบทำสิฟ่ะ"
"เหรอ งั้นไว้คราวหน้าแล้วกันน่ะ"
"จะรีบไปนอนหรือไงกัน"เจ้าตัวปัญหามากเอ่ยอีกครั้ง จนอาจารย์ประจำกลุ่มต้องหันไปมอง
"เกลียดนักคนรู้ทัน"แต่เมื่อเอ่ยจบเขาเดินหายไปแล้ว
"แล้วเรียนกันถึงไหนแล้วล่ะ"เสียงนุ่มหูเอ่ยขึ้น
"ยัง"มิเกร่าเอ่ยตะโกนยิ่งอายุไล่เลี่ยกันเท่าไรความเกรงใจก็น้อยลง ก็เขาเป็นถึงเจ้าชายนี่นา เดซี่ทำท่าจะร้องไห้อีกครั้ง เซริงจึงตรงเข้าลูบหัวเบาๆ
"ก็แค่บอกให้แสดงความสามารถครับ แต่ยังไม่รู้ว่าจะทดสอบอะไร"ลีออนเอ่ยอย่างสุภาพ
"เหรอ...."เซริงทำท่าครุ่นคิด
"งั้นก็แสดงให้ดูหน่อยสิ"เขาเดินหาเก้าอี้นั่งใต้ต้นไม้
"ใครจะเริ่มก่อน"เจ้าตัวปัญหายกมืออีกครั้งตามหน้าที่เดิม
"เธอจะเริ่มก่อนหรือ"เซริงมองด้วยใบหน้าเฉยชา ภายใต้ใบหน้านั้นไม่ทราบว่าซ่อนความคิดใดอยู่เป็นแน่
"เปล่าผมแค่มีคำถาม"
"ว่ามาสิ"
"แล้วครูจะทดสอบอะไรล่ะครับ"
"ก็ความสามารถไง"
"ครับ เรื่องนั้นทราบครับ"เขาตีหน้าแมวเซาขี้สงสัย
"ทราบก็ดีแล้วเธอเริ่มก่อนเลยแล้วกัน"
"เดี๋ยวครับ! ทดสอบความสามารถอะไรก็ได้หรือครับ"
"คงงั้น ทำๆไปเถอะ"เซริงเผยรอยยิ้มให้เห็นเล็กน้อย เหตุผลที่อาจารย์จอมอู้ทิ้งคลาสไปก็ด้วยสาเหตุนี้นี่เอง ถึงจะดูมีปัญหา แต่ก็เอาเรื่องเหมือนกัน คงมีความสามารถอะไรแอบแฝงเป็นแน่
"งั้นผมจะแสดงกระบวนท่าวิชาลับซึ่งตกทอดมาตั้งแต่ต้นตระกูล......ย้าก! สุดยอดกระบวนท่าลับ ปั้นดินให้เป็นควาย"
"เห! น่าสนใจดีนี่"เขามองยังศิษย์คนแรกที่กำลังรวมสมาธิอยู่ ก่อนกวาดสายตาไปรอบๆ ลีออนเลิกคิ้ว สองพี่น้องสมมุติส่งสายตาดุๆให้ อาร์จีสนั่งเหม่อมองฟ้า เดซี่ทำท่าลุกลี้ลุกลน
"เธอมีอะไรจะพูดหรือเปล่าเดซี่"หญิงสาวรีบหลบสายตาทันที เสียงนั้นทำให้เจ้าตัวปัญหาหันมามอง
"เอ่อ...คือว่า....."เธออ้ำอึ้ง
"จะถามหรืออะไรก็รีบเถอะ เดี๋ยวผมเสียสมาธิ"
"สมาธิบ้าบออะไรของแก การปั้นดินให้เป็นควายน่ะไม่จำเป็นหรอกเพราะแกน่ะชั้นต่ำยิ่งกว่ามันเสียอีก"มิเกร่าเอ่ยอย่างหงุดหงิด
"ใจเย็นครับ"ลีออนเอ่ยห้าม
"แกน่ะ หุบปากไป"
"ขอรับเจ้าชาย"ลีออนโค้งคำนับ จนแว่นที่หลวมๆเกือบหลุด
"เหอะ!"เขามองท่าทีเงอะงะชวนขบขันของลีออน คว้าแว่นที่เกือบตกพื้นด้วยท่าทีงุ่มง่ามน่าสมเพศ จะแข่งกันมันยังเร็วไปอีกร้อยปีเฟ้ยท่าทางแบบนั้นน่ะ
"ดูเหมือนทุกคนจะเบื่อคลาสนี้จังเลยนี่"เซริงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
"เปล่านี่ครับ"ลีออนเอ่ยตอบ
"ฉันบอกให้พวกแกหุบปาก!!"มิเกร่าสงสายตาราวกับสัตว์ป่าบ้าคลั่ง
"สันติครับ"เขาเองมือเกาจมูกเล็กน้อย มิเกร่าถึงกับเลือดขึ้นหน้ายกตัวดาบพร้อมฝักขึ้นขู่ ลีออนรีบเปลี่ยนเป็นท่ายกมือยอมแพ้ทันที ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
"ไอ้หมอนี่ ทำหน้ายังงี้คิดว่าฉันไม่เอาจริงใช่ไหม"เจ้าชายเลือดเดือด รีบดึงดาบออกจากฝังแต่แล้วก็มีบุคคลที่สามแทรกเข้ามากดหัวดาบจับให้มันกลับไปนอนสงบในฝักดังเดิม มิเกร่าถึงกับค้าง เจ้าคนที่อยู่ไกลจากเขาที่สุดกลับเข้ามาในรัศมีการจู่โจมโดยที่เขาไม่รู้สึกตัวเลย
"เอาล่ะเรามารีบๆเริ่ม รีบๆเลิกดีกว่า"เซริงเอ่ยจบก็กลับไปนั่งยังเก้าอี้ตัวเดิมตีใบหน้าเฉยชาอีกครั้ง
"แต่ก่อนอื่นเธอมีอะไรจะบอกหรือเปล่าเดซี่"
"เอ่อ.....หนูเคยได้ยินแต่ปั้นดินให้เป็นดาวค่ะ"เธอเอ่ยจบรีบก้มหน้าลงมากกว่าเดิมด้วยความอาย
"นั่นสิน่ะ ขอบใจน่ะ"เซริงลูบหัวเดซี่อีกครั้งจนเธอเผลอส่งยิ้มให้เล็กน้อย
"งั้นผมต่อได้หรือยังครับ"
"เชิญ"เมื่อเอ่ยจบ เจ้าตัวปัญหาก็รวบรวมสมาธิอีกครั้ง ต่อยหมัดลงพื้น จนเศษดินกระเด็นขึ้นมาเล็กน้อย เหมือนคนปกติเขาเป็นกัน
"สุดยอดวิชาปั้นดินให้เป็นควาย!"เขาตะโกนเสียงดังจนคนหันมามองด้วยความอยากรู้อยากเห็น
โอ้ช่างเป็นสุดยอดวิชาเทพเจ้าแห่งกระบือจริงๆเร็วจนแทบมองไม่ทันด้วยตาเปล่า ตั้งแต่การจ้วงดินด้วยมือ มาปั้นอย่างชำนิชำนาญไม่มีที่ติ เพียงเสี้ยวน่าที่ควายตัวเท่าหน้ามนุษย์ก็สำเร็จ
แปะ!แปะ!
"สวยดีน่ะ ประณีตด้วย"อาจารย์เซริงตบมือให้เพียงคนเดียวหลังงานสำเร็จ เดซี่มองด้วยความหวาดกลัว สองสาวยังไม่เลิกทำตาดุ มิเกร่ามองอย่างอยากจะทำลายมันออกเป็นเสี่ยง ลีออนส่งยิ้มให้ อาร์จีสมองด้วยสายตาเหม่อลอยราวกับมีเรื่องคิดในใจ
สัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าเป็นควายนั่นคือเขานั่นเองส่วนอื่นๆนั้น..... ปากหยีฟันกว้างยื่นยาวมากกว่าส่วนหัว เรียบติดกันเป็นระเบียบทั้งใหญ่ทั้งโต มีฟันเหยินเพียงซีดเดียวและฟันกระต่ายสองซีก จมูกบานราวกับแบล็คโฮล เขาโง้งยาวแต่คว่ำลง พิจารณาดูมันก็เป็นควายอ่ะน่ะ แล้วก็ไม่มีรอยต่อหรือรอยนิ้วมือเลย
"ยังครับมันยังไม่สมบูรณ์"ทอริดเอ่ยต่อ
'วงกลมอีกวงหนึ่ง ที่มันวกวน'เขาฮัมเพลงไปติดเจ้าลูกตากลมใหญ่พอๆกับฟันที่ยื่นออกมา สองลูก มองไปมองมาเหมือนควายตาถล่นจนเกือบตกแตก
"ควายหมายเลข 378 สมบูรณ์"มิเกร่ามองด้วยความหัวเสีย เจ้าบ้านี่อยู่บ้านปั้นควายเล่นทุกวันหรือไง 378 ตัว แสดงว่าเคยปั้นมาแล้ว 377 ตัวงั้นสิ ชั้นต่ำก็ยังเป็นพวกชั้นต่ำ คิดอะไรไม่ค่อยมีสมองเอาซะเลย
"ว้าว!สวยจังแม่น้องสาว นี่ครับดอกกัสมาเนีย หมายถึง ความงามที่เป็นอมตะ"ยังไม่ทันไรแมวหลับตรงตระครุบเหยื่ออีกแล้ว เขานำดอกไม้มาจากไหนไม่รู้ยื่นให้หญิงสาวเป็นช่อๆ เลิกสนใจคลาสเรียนตรงหน้าทันที
"อ่ะ!แม่คนสวยนี่ครับ ดอกฟอเก็ตมีน๊อต หมายถึง รักแท้ ความทรงจำแห่งความรัก คุณยังจำผมได้หรือเปล่า"เสือตื่นเริ่มหวานเสน่ห์จีบหญิงไปทั่ว
"เดี๋ยวครับพี่สาว! โบตั๋นแคระ หมายถึง หญิงที่มีความสง่างาม คุณช่างดูดีในสายตาผมเสียนี่กระไร"ทอริดกระแอมไอแกล้งทำเสียงหล่อ
"ผมว่าสงสัยมีวิชาอีกอย่างด้วยแล้วมั้งครับ"ลีออนเอ่ยมองอย่างขำๆ
"อะไรจ๊ะ"เดซี่เอ่ยด้วยความอยากรู้
"ความสามารถในการเสกดอกไม้ออกมาไม่ซ้ำชนิดไงครับ"ลีออนส่งยิ้มให้เดซี่อย่างอ่อนโยน
"คนต่อไป!"เซริงเอ่ยต่อ แต่ว่าก็ไม่มีใครคิดที่จะแสดงตนเลยสักคนอย่างนี้มีทางเดียวต้องจี้
"เดซี่เธอแล้วกัน"
"หนูเหรอค่ะ"เธอเอ่ยเสียงสั่น
"หนูอายอ่ะค่ะ"เธอเอ่ยพร้อมยื่นผ้าปักครอสติกยังไม่เสร็จอวด
"สวยน่ะ พยายามต่อไปแล้วกัน"เซริงเอ่ยชม
"ลีออน!"
"ครับ ความสามมารถเหรอครับเอ......สะดุดขาตัวเองล้มมั้งครับ"ลีออนเอ่ยอย่างครุ่นคิด
"เฮ้ย!จะมาประกวดดาวตลกหรือไง ไอ้ความสามารถแบบนี้มันใช้ได้กับการต่อสู้ด้วยเหรอ"มิเกร่าเอ่ยตะคอกทันทีอย่างอดทนรอไม่ไหว ไอ้พวกนี่มันอะไรของมันฟ่ะ ศิษย์ก็เห่ยอาจารย์พาลบ้าไปอีก มาฝึกบ้าอะไรกันเนี่ยไร้สาระจริงเลย
"แหม!สะดุดขาตัวเองอาจรอดพ้นดาบศัตรูไงครับ"
"แกบ้าไปแล้วหรือไง"มิเกร่าคว้าดาบฟันลีออนที่อยู่เบื้องหน้าอย่างรวดเร็วก่อนเก็บเข้าฝัก ใบไม้แหลกเป็นเสี่ยง ลีออนยังคงยิ้มหน้าบานทั้งที่พึ่งฟังเสียงลมวืดผ่านหน้าเขาห่างไม่ถึง 3 มิล"
"เก่งจัง!"ลีออนตบมือให้คนที่กำลังจะจากไป ไอ้หมอนี่ มันมองทางดาบเราไม่เห็นหรือว่ากะระยะถูกกันแน่ ไม่มีความเกรงกลัวเลยสักนิด แต่ช่างมันเถอะ.....
คนหายไปสองคนแล้ว.....
"คนต่อไป!"
"ขอโทษน่ะครับมีคนส่งดอกไม้มาให้"ทหารในเครื่องแบบส่งดอกLilac(ความรู้สึกเมื่อแรกรัก)ช่อหนึ่งให้ ทุกคนต่างมองด้วยความสนใจ
"ขอบคุณครับ"เซริงเอ่ย มองหน้านั่งเรียนทุกคนอย่างนิ่งเฉย
"ว้าวเจ๋ง! มีคนแอบชอบด้วย ใครอ่ะ"เจ้าตัวปัญหากลับมาอีกครั้งพร้อมรื้อเอาเองตามใจชอบ กระดาษที่แนบมาด้วยเขียนว่า แด่คุณ พริมโรส รักคุณนิรันดร์
"ส่งผิดคนหรือเปล่า? หรือตีความหมายจากชื่อ"ทอริดอ่านด้วยความงุนงง (พริมโรส ความรักนิรันดร์)
สามในหกคนรีบขยับทันที แต่อาร์จีสเร็วสุดรีบคว้าดอกไม้โยนทิ้งทันที
ตู้ม!!
ระเบิดดังสนั่นจนเป็นที่สนใจของคนเกือบทั่วโรงเรียน เซริงส่งยิ้มให้กล่าวขอบคุณเหมือนพอใจอะไรบางอย่าง
"ดอกไม้นั้นมาจากไหน"อาร์จีสเอ่ยถามในทันที
"มีคนบอกว่าให้ส่งกับอาจารย์ที่สอนนักเรียนแถวนี้ ซึ่งก็มีแต่กลุ่มพวกคุณเท่านั้นแหละ"
"งั้นก็น่าแปลกเวรยามหนาแน่นขนาดนี้ ดอกไม้ก่อนจะเข้ามาก็ต้องมีการตรวจอยู่แล้ว"อาร์จีสเอ่ยพึมพำกับตนเอง
"นายไปทำอะไรให้ใครหมางใจหรือเปล่า"ทอริดศอกกระทุ้ง เบาๆถามราวกับชายคนนี้เป็นเพื่อนเล่น
"เมื่อไรหรือ"
"ก็สักครู่ใหญ่แล้วครับ"
"ขอบคุณครับ"อาร์จีสเอ่ยจบทหารต่างรุมมาดูที่เกิดเหตุทันทีและไล่ให้พวกเขาไปกันที่อื่นเรื่องนี้ต้องเก็บไว้กันคนแตกตื่น
"แสดงว่าเขาไม่รู้งั้นสิว่าอาจารย์เปลี่ยนคน หรือเป็นการส่งอย่างไม่เจาะจงตัวกันแน่"อาร์จีสเอ่ยอย่างครุ่นคิดมองไปยังเอเลซ่า ไม่น่าจะเป็นเธอไปได้ ในเมื่อปฏิกิริยาเมื่อครู่ เหมือนเธอพึ่งรู้เหมือนกัน มันเกิดอะไรกันแน่?มีมือสังหารแฝงเข้ามาอีกหรือไง....หรือว่าเป้าหมายจะเป็นใครในกลุ่มพวกเรา แต่ก็ไม่น่าเอาคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องเลย
"อาจารย์คนนั้นชื่อพริมโรสหรือไงชื่อยังกับผู้หญิงแน่ะ"ทอริดเอ่ยอย่างขำ ส่วนเดซี่ทำท่าจะร้องไห้อีกแล้ว
***************
กว่าจะได้อัพ ฮือๆๆๆๆ งานยุ่งมากๆเลย พักนี้เลยไม่มีเวลาแม้แต่จะเปิดคอม(เว่อร์ไป แล้วจะพิมพ์งานส่งยังไงล่ะเนี่ย)
ขอโทษน่ะค่ะ....ว่าแต่จะขอโทษใครล่ะเนี่ยไม่เห็นมีคนอ่านสักคน -_-; ยังไงก็ฝากเม้นท์กันบ้างน่ะค่ะ (เศร้าอ่ะไม่มีใครสนใจเราเลยสักคน แต่ช่างมันเถอะ ไม่ต้องสนใจเราก็ได้)
เหมือนคนบ้าเลยเลยเนอะ พูดเองตอบเอง แต่เราไม่ได้บ้าน่ะ แค่ว่าไม่มีคนคุยด้วยเท่านั้นเอง(คุยกับตัวเองเสียเลย)
ความคิดเห็น