คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : วันแห่งการเริ่มต้น(ต่อ)
"คุณหนูขอรับ เปลี่ยนชุดได้แล้วล่ะขอรับ"เสียงคนรับใช้ผู้ใกล้ชิดเอ่ยขึ้นในขณะขับรถ มันมีลักษณะคล้ายรถบรรทุกของธรรมดาเวลาย้ายบ้าน แต่ตู้คอนเทรนเนอร์สี่เหลื่ยมทึบภายในถูกจัดแต่งด้วยโซฟานุ่มสบายหันหน้าเข้ากระจก ราวเสื้อผ้าจำนวนหนึ่ง และถุงใส่เครื่องสำองค์แขวนอยู่บนราวแขวนข้างกระจก
โซคว้านหาอะไรบางอย่างในถุง พร้อมดึงโต๊ะพับด้านล่างกระจกให้ออกมาด้วยมือข้างที่เหลือ เขาเอาของที่จำเป็นในถุงวางไว้บนโต๊ะ ลุกเปลี่ยนเสื้อเป็นในแบบสบายๆก่อนกลับมานั่งที่โต๊ะอีกครั้ง มือหนึ่งถือสำลีอีกมือลอกสิ่งที่ตกแต่งบนหน้าออก จนริ้วรอยน่าเกลียดหายไปจนสิ้น และยิ่งใช้สำลีเช็คเครื่องสำอางแต่งสีให้ดูคล้ายผิวช็อคโกแลตยิ่งเพิ่มเสน่ห์เขาเข้าไปใหญ่ ผิวสีขาวราวกับหิมะฤดูหนาวน่าดึงดูดจนไม่สามารถละสายตาไปได้ ผ้าพันคอลายสวยผืนใหม่ถูกพันไว้ที่คออีกครั้งกันอากาศเย็นด้านนอก หวีถูกหวีให้ตรงเข้ารูป
"ถึงแล้วล่ะขอรับ"เสียงจากคนขับเอ่ยขึ้นหลังมันจอดสนิท
"ขอบใจ นายไปได้แล้ว"เขาเอ่ยในขณะถอนแว่นและคอนเท็คเลนส์สีออกเปลี่ยนเป็นแว่นสีชาแทน บุคลิกแม้ใบหน้าจะยังคงแสดงความเรียบเฉยแต่ก็ดูสง่าและสูงส่ง สลัดคราบนักเรียนมาดเซอจน หมดสิ้น
"ไม่ได้ขอรับ เมื่อเช้าพึ่งโดนนายท่านติเตียนและกำชับให้ดูแลท่านให้ดี"อีกฝ่ายเพียงลอบถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย
"อย่าบอกน่ะว่าพรุ่งนี้นายจะเข้าเรียนเหมือนพี่น่ะ"
"โรงเรียนมาแน่ขอรับแต่คงไม่ใช่ในฐานะนักเรียน อายุผมเลยเกณฑ์มาใกล้แล้ว"อีกฝ่ายเอ่ยเสียงขึ้นอย่างถ่มตัวเพราะใบหน้าของเขาก็ยังดูอ่อนวัยอย่างมากไม่พ้น 20 ปี ผมสีเหลืองทองอำพัน ดวงตาสีเขียวอ่อนๆประกายใส ดูดีไปอีกแบบ
"เบื่อหรือขอรับ"
"นิดหน่อย"เขาตอบเสียงคล้ายบ่น ลูกชายคนเล็กยังขนาดนี้แล้วถ้าเป็นลูกสาวนี้ไม่ต้องกลายเป้นเจ้าหญิงบนหอคอยสูงเลยหรือไง
"คุณหนูขอรับได้เวลาเรียนเปียโนแล้ว"เสียงหนึ่งในสามเอ่ยขึ้นเป็นเสียงใสของหญิงสาวที่อ่อนที่สุด
"ฉันไม่เรียนไงล่ะ แล้วก็เรียกฉันว่าท่านริซ่าด้วยไม่ใช้คุณหนู เรียกยังกับเด็กๆ"เธอเอ่ยโวยวายปนบ่นเล็กน้อยอย่างหงุดหงิดพร้อมปิดประตูรถเสียงดัง
"ไม่ได้น่ะขอรับนายท่านคงเอาผมตาย"เสียงชายขับรถดังลอดออกมาจากบานหน้าต่างรถที่ถูกเปิดครึ่งหนึ่ง
"ไม่ต้องตามด้วย"เสียงนั้นไม่ฟังคำตักเตือนแม้แต่น้อย ทำให้คนขับรถต้องรีบออกมาอย่างรวดเร็ว ยื่นกุญแจรถให้พนักงานในอาคารขับไปเก็บ เดินตามเด็กรับใช้อีกสามคนไป
"โซจัง"หญิงสาวผู้เอาแต่ใจเปลี่ยนท่าทีในทันทีกระโดดโผกอดเจ้าของชื่อจนเซไปข้างหลัง
"กลับมาเมื่อไรครับ"เสียงนั้นเอ่ยทุ้มต่ำนุ่มนวลราวกับบุคลิกได้เปลี่ยนไป
"เมื่อกี๊เองได้ข่าวว่านายเรื่องโรงเรียนรัฐบาลเรอะ"
"ก็ครับ"เสียงนั้นไม่แสดงความง่วงเหมือนเมื่อครู่
"โดนพอกระฟัดกระเฟียดหัวเสียใหญ่เลยนิ"
"ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ"เขาแย้มยิ้มตอบ
"ผมสายแล้ว เดี๋ยวมาน่ะครับ"เขาขผงกหัวเล็กน้อยแสดงความเคารพ
"โซข้างหน้า!!"หญิงสาวรีบเอ่ยเตือนทันทีแต่ช้าไปเสียแล้ว
โครม!
เขาก้าวพลาดสะดุดขั้นบันไดอย่างจังหัวเกือบกระแทกของที่วางกองอยู่ตรงหน้า ถ้าเพียงเขาบิดตัวไม่ทันแล้วล่ะก็คงเจ็บตัวมากกว่าที่เป็นอยู่
"เป็นไงบ้างน่ะ"หญิงสาวเดินตรงเข้าไปดูอาการ มือที่ยัดพื้นดูเหมือนจะยอกเล็กน้อย
"นายนี่ยังซุ่มซ่ามไม่เปลี่ยนเลยน่ะ"
"ก็..."เขาหัวเราะกลบเกลื่อน
"คุณหนูขอรับเป็นอะไรหรือเปล่า"คนรับใช้ใกล้ชิดแสดงสีหน้าเป็นกังวล
"ผมสมควรตายครับ ทั้งที่อยู่ใกล้คุณหนูแค่นี้กลับปกป้องคุณหนูไม่ได้ ไม่สามารถทำตามเจตนารมณ์ของนายท่านได้ ผมจะขอชดใช้ด้วยชีวิต"ว่าแล้วเจ้าตัวก็คว้ามือสั้นจากที่ไหนไม่รู้ทำท่าจะแทงคอตัวเอง
"เฮ้ย ! อย่ามาตายตรงหน้าฉันน่ะเดี๋ยวตกเป็นผู้ต้องสงสัยข้อหาฆ่าคนตาย"โซรีบห้ามปามทันที คนขับรถของริซ่าก็ตรงเข้าล็อคแขนไว้ หญิงสาวอีกสามคนมองตื่นตกใจ ส่วนริซ่ามองด้วยความชินชาเหมือนเป็นเรื่องปกติ
"สายแล้วเดี๋ยวมาน่ะ"โซรีบดูนาฬิกาตรงเข้าอาคารไป
"ผมทำให้คุณหนูสายผมไม่ควรมีชีวิตอยู่"และแล้วเสียงเอะอะก็ดังอีกระรอกหนึ่ง
"มาแล้วหรือเพอร์โซน่าร์คราวนี่เตรียมตัวมาพร้อมอย่างเคยหรือเปล่าล่ะ"สตาฟ์เอ่ยทัก
"ครับ รับความหนาวเต็มที่"โซเอ่ยเหมือนเป็นเรื่องปกติก่อนจะตรงดิ่งเข้าแต่งหน้าเพิ่มอีกเล็กน้อยและเปลี่ยนเป็นเสื้อแบบบางซึ่งไม่เข้ากับบรรยากาศที่หนาวสะท้านรอบนอก
"เสื้อผ้ารับลมร้อน ทนหนาวหน่อยแล้วกัน"
"ครับ"เขาเอ่ยเสร็จเอาน้ำราดหัวจนความเย็นเข้าร่างสั่นสะท้านไปทั้งตัว แต่เมื่อทุกอย่างถูกเตรียมพร้อม เข้ากล้องสีหน้ากลับเปลี่ยนเป็นคนละคน ใบหน้าแสดงอารมณ์สบายๆราวกับว่ากำลังเดินอยู่แถวชายทะเล พัดลมตัวใหญ่ถูกใช้พัดให้ผมปลิวเป็นธรรมชาติ เข้ากับฉากท้องฟ้าสีครามโปร่งด้านหลัง หัวที่ชุ่มไปด้วยน้ำและมีหยดน้ำอยู่ปะปลายเสริมเสน่ห์ให้กับชายคนนี้เป็นอย่างมากจนไม่สามารถละสายตาไปได้
"คุณหนู!!!"คนใช้แทบช็อคอยากจะเข้าไปดึงเด็กหนุ่มออกมาจากที่ตรงนั้นทันที ทั้งเสื้อผ้าที่บาง หัวที่ชุ่มน้ำ และพัดลมที่ตีเข้าหน้าตลอดเวลาล้วนส่งผมเสียต่อร่างกายทั้งสิ้น ถ้านายท่านรู้ล่ะก็ตายแน่!!
"ขอบคุณสำหรับวันนี้"
"ขอบคุณมากครับ"เสียงจากช่างกล้องและสตาฟ์ดังขึ้นตลอดทางที่ไปยังห้องเปลี่ยนเสื้อ
"เช่นกันครับ"โซตอบรับด้วยใบหน้าแย้มยิ้ม
"คุณหนูขอรับ เลิกเถอะขอรับการทำเช่นนี้ไม่ดีต่อสุขภาพ..."
"เอาน่า"โซเอ่ยให้ใจเย็น
"นายท่านเอาผมตายน่ะสิ"
"ฉันบอกพ่อเอง"
"คงไม่ง่ายหรอกมั้งขอรับ นายท่านยังไม่ทราบว่าคุณหนูเป็นนายแบบน่ะขอรับ"การแต่งหน้าบางครั้งก็ทำให้คนเปลี่ยนไปได้และยิ่งคนที่ไม่สนใจวงการแฟชั่นอย่างพ่อตัวเองแล้วการที่จะรู้ความจริงบอกได้คำเดียวว่ายาก ยกเว้นจะมีคนคาบข่าวไปบอก
โป๊ก!
โซกำลังเดินเข้าไปในห้องแต่ก็ไม่พ้นกระแทกประตูหน้าห้องก่อนอยู่ดี ถึงจะอยู่ในมาดนักเรียนหรืออยู่ในมาดคุณชาย แม้แต่อยู่ในมาดนายแบบก็ไม่พ้นซุ่มซ่ามอยู่ดี ถึงภายนอกจะเปลี่ยนบุคลิกแต่ภายในก็ยังคงเหมือนเช่นเดิม
"วันนี้นายไปประชุมแทนฉันหน่อยแล้วกัน"เสียงนั้นดังรอดมากจากหลังม่านที่ไว้เปลี่ยนชุด
"แต่คุณหนูขอรับวันนี้...."
"ไม่เห็นเป็นไรก็ฟังแค่ยอดพุ่งขึ้นพุ่งลงกับวิธีแก้ไข เรื่องพวกนั้นนายก็รู้อยู่แล้ว"
"แต่!"ผู้รับใช้เอ่ยขัด
"เอาน่า วันนี้ผมนัดเพื่อนไว้"หลังเอ่ยจบบรรยากาศก็ราวกับเปลี่ยนกลับมาเป็นสภาพเดิม มาดของนักเรียนเซอผู้ไม่สนใจโลกผิดแต่ชุดเป็นชุดเสื้อยืด กางเกงยีนส์หลวมๆท่านั้น
"ชุดนั้น"คนรับใช้เลิกคิ้ว จำได้ว่าชุดที่เมื่อเช้าเอามามีแค่สามตัวคือชุดที่ใส่เมื่อครู่ ชุดทำงานและชุดงานเลี้ยงแบบขุนนางหรู แต่ไอ้ชุดที่ใส่อยู่นี้ร้อยทั้งร้อยไม่เคยมีอยู่ในตู้เสื้อผ้า แสดงว่าต้องพึ่งซื้อมาใหม่
"ถ้านายท่านเห็นในสภาพนี้ต้องแทบลมจับแน่ขอรับ"
"อย่าบอก พ่อก็ไม่รู้หรอกที่เหลือฝากด้วยน่ะ ฮาร์ป"แต่ยังไม่ทันอีกฝ่ายจะอ้าปากโซก็ตรงไปที่ประตูด้วยใบหน้างัวเงีย
โป๊ก!
ประตูถูกเปิดออกก็ที่เขาจะได้จับลูกปิดเป็นผลทำให้ศีรษะถูกกระแทกเข้าอย่างจังจนแดงปูด คนรับใช้ตกใจจะอ้าปากพูดบ้างคำออกมาแต่เมื่อเห็นผู้มาใหม่ก็ต้องติดขัดหยุดประโยคลงแล้วตรงเข้ามาดูอาการ
"คุณหะ.......เป็นอะไรไหมครับ"โซเอามือคลึงหน้าผากตัวเองเล็กน้อยพร้อมสะบัดหัวไล่ความงุนงง
"นายมาอยู่ที่นี่ได้ไง"เสียงหญิงสาวที่คุ้นเคยดังขึ้น
"อ้อรู้แล้ว นายเป็นพวกโรคจิตใช้ไหม"
"?"
"พวกชอบแอบเข้ามาทำอะไรลับๆล่อๆในห้องคนอื่นเพื่อจะเอาของคนที่ชื่นชอบไปสะสม"
"......"
"คุณมาทำอะไรที่นี่ครับ"ฮาร์ปเอ่ยขึ้นด้วยความงุนงงป้ายก็เขียนห้ามผู้เกี่ยวข้องเข้า
"ฉันเรอะ ไม่มีมารยาทเสียเลยก่อนที่จะถามฉันน่าจะแนะนำชื่อตัวเองก่อนน่ะ"คริตตี้เอ่ยเสียงมั่นใจในตัวเอง
"ผมฮาร์ปครับเป็น...."ในขณะที่เอ่ยในใจก็คิดไปด้วย 'ปกติคนที่เป็นผู้มาเยือนอย่างไม่ได้รับเชิญน่าจะเป็นฝ่ายแนะนำตัวก่อนไม่ใช่หรือ ไม่ใช่มาย้อนถามแบบนี้'
"ช่างเถอะ เพอร์โซน่าร์ไม่อยู่หรือ นายมานี่สิ"ว่าแล้วเธอก็เอ่ยตัดบทลากโซออกไป
"รอเดี๋ยวครับ"คนรับใช้ไล่ตาม หญิงสาวลากโซออกวิ่งอย่างไม่รู้จุดหมาย
คุณเชื่อเรื่องบุพเพอาละวาดไหม เฮ้ย! ชะตาบางครั้งดวงมันจะดีก็ดี ดวงจะร้ายก็ร้าย บางครั้งคนที่มีชะตากรรมร่วมกัน แม้ชาตินี้จะขอสาบานว่าอย่าเจอกันอีกเลย แต่ถ้าลิขิตชักนำ มีบุพเพสันนิวาสต่อกันสุดท้ายลงเอ่ยก็ต้องเจอกันอยู่ดี
หญิงสาวชนเข้ากับผู้กำกับชื่อดัง จนโซต้องพลอยล้มไปด้วยเพราะแรงดึงลงของอีกฝ่าย
"อ้าว โซ"เสียงหญิงสาวที่มาด้วยกันเอ่ยทัก
"นึกว่ากลับไปแล้วเสียอีก"คริตตี้มองอย่างไม่เชื่อสายตา ริซ่าดาราดังระดับโลกจะรู้จักชายที่ชื่อโซคนซื่อบื้อ เอ๋อๆนี่ด้วยหรือ แต่รู้จักก็ดีเรื่องมันจะได้ง่ายขึ้น
"อยู่นั้นไงจับไว้เร็ว"เสียงร.ป.ภตรงเข้ารวบตัวตริตตี้กะจะลากออกไปข้างนอกทันที ผู้กำกับรายใหญ่จึงเอ่ยถามสาเหตุความไม่สงบ
"ผู้หญิงคนนี้บอกว่าจะเข้ามาพบเพอร์โซน่าร์ครับ ผมถามว่ารู้จักเป็นการส่วนตัวหรือเปล่า เดี๋ยวจะลองติดต่อให้แต่ยังไม่ทันไรเธอก็วิ่งเข้าตอนพวกผมเผลอ"
"เรอะไม่มีอะไรแล้วปล่อยเธอเถอะ"
"ครับ" ร.ป.ภเอ่ยรับก่อนจะล่าถอยกลับไป
"เธอชื่อะไรน่ะ"
"คริตตี้ค่ะ"
"หน้าเธอเหมาะเป็นนักแสดงน่ะ"ผู้กำกับเอ่ยเห็นแววของเด็กสาว
"ไม่ค่ะ หนูชอบอยู่เบื้องหลังมากกว่าการเป็นดาราหรืออะไรที่มีชื่อเสียงก็แล้วแต่พาลแต่จะให้อึดอัดเพราะเหมือนมีคนคอยจับผิดตลอดเวลา แต่ถ้าหนูจะขอให้ปั้นโซเป็นแสดงแทนได้ไหมค่ะ"ทั้งสองเลิกคิ้วด้วยความฉงน นายแบบคนนี้ก็เคยเป็นนักแสดงมาสองสามเรื่องแล้วเหมือนกัน แล้วยังต้องปั้นให้เป็นนักแสดงอีกหรือ ออกจะดังปานนี้ใครบ้างจะไม่รู้จักเพอร์โซน่าร์ หรือว่ามีความหมายอะไรแอบแฝงอยู่
"หนูอยากเป็นผู้จัดการให้เขาน่ะค่ะ อันนี้หนูไม่ได้เว่อร์น่ะค่ะแต่หนูรับรองได้ว่าเขาน่ะมีความสามารถมาก อาจมากกว่าเพอร์โซน่าร์ด้วยซ้ำ"เสียงนั้นทำให้ทั้งสองเลิกคิ้วหนักกว่าเดิม
"น่าสนุกดีนี่"ผู้กำกับเอ่ยตัดบท เก่งเหนือกว่าตัวเองที่เป็นงั้นหรือ
"ได้ฉันตกลง"เขาลั่นวาจาอย่างนึกสนุก
"ขอบคุณค่ะ"เธอผงกศีรษะแสดงความขอบคุณ ดวงมันจะดีทำอะไรก็ดีไปหมด ใช้ระบบเส้นสายกับคนไม่รู้จัก แบบนี้ก็มีด้วยแฮะ
"แต่ฉันไม่เห็นด้วย"หญิงสาวดาราดังเอ่ยขัด ลากโซออกจากอาคาร
"นายแต่งตัวแบบนั้นจะไปไหนน่ะโซ และหน้าผากนั้นไปโดนอะไรมา"ริซ่าเอ่ยในขณะที่คว้านหาอะไรบางอย่างในกระเป๋า
"ผมขอตัวน่ะ"เด็กหนุ่มเอ่ยเหมือนไม่รู้ไม่ชี้ เขาไม่ได้มีความรู้สึกขัดแย้งอะไรแม้แต่น้อยกับเรื่องเมื่อครู่
"เดี๋ยว"ริซ่าทายาแดงก่อนจะแปะพลาสเตอร์ให้
"วันนี้ฉันก็ไปงานเลี้ยงด้วยเพราะฉะนั้นห้ามสายล่ะ ฉันจะส่งรูปไปให้พ่อดูเป็นการรายงานพฤติกรรมนายไปในตัว"
"อืม"
"ว่าแต่ฮาร์ปไปไหนซะล่ะ"เขาเพียงแต่มองเข้าไปในอาคารก็จะสะบัดหน้าไปทางอื่นด้วยความเบื่อหน่าย ก่อนจะเดินจากไป
ความคิดเห็น