ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คุณชายหน้ากาก ปะทะ สาวน้อยจอมปด

    ลำดับตอนที่ #2 : วันแห่งการเริ่มต้น(ต่อ)

    • อัปเดตล่าสุด 6 ธ.ค. 49



             "คุณหนูขอรับ เปลี่ยนชุดได้แล้วล่ะขอรับ"เสียงคนรับใช้ผู้ใกล้ชิดเอ่ยขึ้นในขณะขับรถ  มันมีลักษณะคล้ายรถบรรทุกของธรรมดาเวลาย้ายบ้าน  แต่ตู้คอนเทรนเนอร์สี่เหลื่ยมทึบภายในถูกจัดแต่งด้วยโซฟานุ่มสบายหันหน้าเข้ากระจก ราวเสื้อผ้าจำนวนหนึ่ง  และถุงใส่เครื่องสำองค์แขวนอยู่บนราวแขวนข้างกระจก

    โซคว้านหาอะไรบางอย่างในถุง พร้อมดึงโต๊ะพับด้านล่างกระจกให้ออกมาด้วยมือข้างที่เหลือ  เขาเอาของที่จำเป็นในถุงวางไว้บนโต๊ะ ลุกเปลี่ยนเสื้อเป็นในแบบสบายๆก่อนกลับมานั่งที่โต๊ะอีกครั้ง มือหนึ่งถือสำลีอีกมือลอกสิ่งที่ตกแต่งบนหน้าออก จนริ้วรอยน่าเกลียดหายไปจนสิ้น  และยิ่งใช้สำลีเช็คเครื่องสำอางแต่งสีให้ดูคล้ายผิวช็อคโกแลตยิ่งเพิ่มเสน่ห์เขาเข้าไปใหญ่  ผิวสีขาวราวกับหิมะฤดูหนาวน่าดึงดูดจนไม่สามารถละสายตาไปได้ ผ้าพันคอลายสวยผืนใหม่ถูกพันไว้ที่คออีกครั้งกันอากาศเย็นด้านนอก หวีถูกหวีให้ตรงเข้ารูป

    "ถึงแล้วล่ะขอรับ"เสียงจากคนขับเอ่ยขึ้นหลังมันจอดสนิท

    "ขอบใจ นายไปได้แล้ว"เขาเอ่ยในขณะถอนแว่นและคอนเท็คเลนส์สีออกเปลี่ยนเป็นแว่นสีชาแทน บุคลิกแม้ใบหน้าจะยังคงแสดงความเรียบเฉยแต่ก็ดูสง่าและสูงส่ง สลัดคราบนักเรียนมาดเซอจน หมดสิ้น

    "ไม่ได้ขอรับ เมื่อเช้าพึ่งโดนนายท่านติเตียนและกำชับให้ดูแลท่านให้ดี"อีกฝ่ายเพียงลอบถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย

    "อย่าบอกน่ะว่าพรุ่งนี้นายจะเข้าเรียนเหมือนพี่น่ะ"

    "โรงเรียนมาแน่ขอรับแต่คงไม่ใช่ในฐานะนักเรียน อายุผมเลยเกณฑ์มาใกล้แล้ว"อีกฝ่ายเอ่ยเสียงขึ้นอย่างถ่มตัวเพราะใบหน้าของเขาก็ยังดูอ่อนวัยอย่างมากไม่พ้น 20 ปี ผมสีเหลืองทองอำพัน ดวงตาสีเขียวอ่อนๆประกายใส  ดูดีไปอีกแบบ

    "เบื่อหรือขอรับ"

    "นิดหน่อย"เขาตอบเสียงคล้ายบ่น  ลูกชายคนเล็กยังขนาดนี้แล้วถ้าเป็นลูกสาวนี้ไม่ต้องกลายเป้นเจ้าหญิงบนหอคอยสูงเลยหรือไง
     

    "คุณหนูขอรับได้เวลาเรียนเปียโนแล้ว"เสียงหนึ่งในสามเอ่ยขึ้นเป็นเสียงใสของหญิงสาวที่อ่อนที่สุด


              "ฉันไม่เรียนไงล่ะ แล้วก็เรียกฉันว่าท่านริซ่าด้วยไม่ใช้คุณหนู  เรียกยังกับเด็กๆ"เธอเอ่ยโวยวายปนบ่นเล็กน้อยอย่างหงุดหงิดพร้อมปิดประตูรถเสียงดัง

    "ไม่ได้น่ะขอรับนายท่านคงเอาผมตาย"เสียงชายขับรถดังลอดออกมาจากบานหน้าต่างรถที่ถูกเปิดครึ่งหนึ่ง

    "ไม่ต้องตามด้วย"เสียงนั้นไม่ฟังคำตักเตือนแม้แต่น้อย ทำให้คนขับรถต้องรีบออกมาอย่างรวดเร็ว ยื่นกุญแจรถให้พนักงานในอาคารขับไปเก็บ เดินตามเด็กรับใช้อีกสามคนไป

    "โซจัง"หญิงสาวผู้เอาแต่ใจเปลี่ยนท่าทีในทันทีกระโดดโผกอดเจ้าของชื่อจนเซไปข้างหลัง

    "กลับมาเมื่อไรครับ"เสียงนั้นเอ่ยทุ้มต่ำนุ่มนวลราวกับบุคลิกได้เปลี่ยนไป

    "เมื่อกี๊เองได้ข่าวว่านายเรื่องโรงเรียนรัฐบาลเรอะ"

    "ก็ครับ"เสียงนั้นไม่แสดงความง่วงเหมือนเมื่อครู่

    "โดนพอกระฟัดกระเฟียดหัวเสียใหญ่เลยนิ"

    "ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ"เขาแย้มยิ้มตอบ


              "ผมสายแล้ว เดี๋ยวมาน่ะครับ"เขาขผงกหัวเล็กน้อยแสดงความเคารพ

    "โซข้างหน้า!!"หญิงสาวรีบเอ่ยเตือนทันทีแต่ช้าไปเสียแล้ว

    โครม!

    เขาก้าวพลาดสะดุดขั้นบันไดอย่างจังหัวเกือบกระแทกของที่วางกองอยู่ตรงหน้า ถ้าเพียงเขาบิดตัวไม่ทันแล้วล่ะก็คงเจ็บตัวมากกว่าที่เป็นอยู่

    "เป็นไงบ้างน่ะ"หญิงสาวเดินตรงเข้าไปดูอาการ มือที่ยัดพื้นดูเหมือนจะยอกเล็กน้อย

    "นายนี่ยังซุ่มซ่ามไม่เปลี่ยนเลยน่ะ"

    "ก็..."เขาหัวเราะกลบเกลื่อน

    "คุณหนูขอรับเป็นอะไรหรือเปล่า"คนรับใช้ใกล้ชิดแสดงสีหน้าเป็นกังวล

    "ผมสมควรตายครับ ทั้งที่อยู่ใกล้คุณหนูแค่นี้กลับปกป้องคุณหนูไม่ได้ ไม่สามารถทำตามเจตนารมณ์ของนายท่านได้ ผมจะขอชดใช้ด้วยชีวิต"ว่าแล้วเจ้าตัวก็คว้ามือสั้นจากที่ไหนไม่รู้ทำท่าจะแทงคอตัวเอง

    "เฮ้ย ! อย่ามาตายตรงหน้าฉันน่ะเดี๋ยวตกเป็นผู้ต้องสงสัยข้อหาฆ่าคนตาย"โซรีบห้ามปามทันที  คนขับรถของริซ่าก็ตรงเข้าล็อคแขนไว้ หญิงสาวอีกสามคนมองตื่นตกใจ ส่วนริซ่ามองด้วยความชินชาเหมือนเป็นเรื่องปกติ

    "สายแล้วเดี๋ยวมาน่ะ"โซรีบดูนาฬิกาตรงเข้าอาคารไป

    "ผมทำให้คุณหนูสายผมไม่ควรมีชีวิตอยู่"และแล้วเสียงเอะอะก็ดังอีกระรอกหนึ่ง

    "มาแล้วหรือเพอร์โซน่าร์คราวนี่เตรียมตัวมาพร้อมอย่างเคยหรือเปล่าล่ะ"สตาฟ์เอ่ยทัก

    "ครับ รับความหนาวเต็มที่"โซเอ่ยเหมือนเป็นเรื่องปกติก่อนจะตรงดิ่งเข้าแต่งหน้าเพิ่มอีกเล็กน้อยและเปลี่ยนเป็นเสื้อแบบบางซึ่งไม่เข้ากับบรรยากาศที่หนาวสะท้านรอบนอก

    "เสื้อผ้ารับลมร้อน ทนหนาวหน่อยแล้วกัน"

    "ครับ"เขาเอ่ยเสร็จเอาน้ำราดหัวจนความเย็นเข้าร่างสั่นสะท้านไปทั้งตัว แต่เมื่อทุกอย่างถูกเตรียมพร้อม เข้ากล้องสีหน้ากลับเปลี่ยนเป็นคนละคน  ใบหน้าแสดงอารมณ์สบายๆราวกับว่ากำลังเดินอยู่แถวชายทะเล  พัดลมตัวใหญ่ถูกใช้พัดให้ผมปลิวเป็นธรรมชาติ เข้ากับฉากท้องฟ้าสีครามโปร่งด้านหลัง หัวที่ชุ่มไปด้วยน้ำและมีหยดน้ำอยู่ปะปลายเสริมเสน่ห์ให้กับชายคนนี้เป็นอย่างมากจนไม่สามารถละสายตาไปได้

    "คุณหนู!!!"คนใช้แทบช็อคอยากจะเข้าไปดึงเด็กหนุ่มออกมาจากที่ตรงนั้นทันที  ทั้งเสื้อผ้าที่บาง  หัวที่ชุ่มน้ำ และพัดลมที่ตีเข้าหน้าตลอดเวลาล้วนส่งผมเสียต่อร่างกายทั้งสิ้น ถ้านายท่านรู้ล่ะก็ตายแน่!!

    "ขอบคุณสำหรับวันนี้"

    "ขอบคุณมากครับ"เสียงจากช่างกล้องและสตาฟ์ดังขึ้นตลอดทางที่ไปยังห้องเปลี่ยนเสื้อ

    "เช่นกันครับ"โซตอบรับด้วยใบหน้าแย้มยิ้ม

    "คุณหนูขอรับ เลิกเถอะขอรับการทำเช่นนี้ไม่ดีต่อสุขภาพ..."

    "เอาน่า"โซเอ่ยให้ใจเย็น

    "นายท่านเอาผมตายน่ะสิ"

    "ฉันบอกพ่อเอง"

    "คงไม่ง่ายหรอกมั้งขอรับ  นายท่านยังไม่ทราบว่าคุณหนูเป็นนายแบบน่ะขอรับ"การแต่งหน้าบางครั้งก็ทำให้คนเปลี่ยนไปได้และยิ่งคนที่ไม่สนใจวงการแฟชั่นอย่างพ่อตัวเองแล้วการที่จะรู้ความจริงบอกได้คำเดียวว่ายาก  ยกเว้นจะมีคนคาบข่าวไปบอก

    โป๊ก!

    โซกำลังเดินเข้าไปในห้องแต่ก็ไม่พ้นกระแทกประตูหน้าห้องก่อนอยู่ดี ถึงจะอยู่ในมาดนักเรียนหรืออยู่ในมาดคุณชาย แม้แต่อยู่ในมาดนายแบบก็ไม่พ้นซุ่มซ่ามอยู่ดี ถึงภายนอกจะเปลี่ยนบุคลิกแต่ภายในก็ยังคงเหมือนเช่นเดิม

    "วันนี้นายไปประชุมแทนฉันหน่อยแล้วกัน"เสียงนั้นดังรอดมากจากหลังม่านที่ไว้เปลี่ยนชุด

    "แต่คุณหนูขอรับวันนี้...."

    "ไม่เห็นเป็นไรก็ฟังแค่ยอดพุ่งขึ้นพุ่งลงกับวิธีแก้ไข  เรื่องพวกนั้นนายก็รู้อยู่แล้ว"

    "แต่!"ผู้รับใช้เอ่ยขัด

    "เอาน่า วันนี้ผมนัดเพื่อนไว้"หลังเอ่ยจบบรรยากาศก็ราวกับเปลี่ยนกลับมาเป็นสภาพเดิม  มาดของนักเรียนเซอผู้ไม่สนใจโลกผิดแต่ชุดเป็นชุดเสื้อยืด กางเกงยีนส์หลวมๆท่านั้น

    "ชุดนั้น"คนรับใช้เลิกคิ้ว  จำได้ว่าชุดที่เมื่อเช้าเอามามีแค่สามตัวคือชุดที่ใส่เมื่อครู่ ชุดทำงานและชุดงานเลี้ยงแบบขุนนางหรู  แต่ไอ้ชุดที่ใส่อยู่นี้ร้อยทั้งร้อยไม่เคยมีอยู่ในตู้เสื้อผ้า  แสดงว่าต้องพึ่งซื้อมาใหม่

    "ถ้านายท่านเห็นในสภาพนี้ต้องแทบลมจับแน่ขอรับ"

    "อย่าบอก พ่อก็ไม่รู้หรอกที่เหลือฝากด้วยน่ะ ฮาร์ป"แต่ยังไม่ทันอีกฝ่ายจะอ้าปากโซก็ตรงไปที่ประตูด้วยใบหน้างัวเงีย

    โป๊ก!

    ประตูถูกเปิดออกก็ที่เขาจะได้จับลูกปิดเป็นผลทำให้ศีรษะถูกกระแทกเข้าอย่างจังจนแดงปูด  คนรับใช้ตกใจจะอ้าปากพูดบ้างคำออกมาแต่เมื่อเห็นผู้มาใหม่ก็ต้องติดขัดหยุดประโยคลงแล้วตรงเข้ามาดูอาการ

    "คุณหะ.......เป็นอะไรไหมครับ"โซเอามือคลึงหน้าผากตัวเองเล็กน้อยพร้อมสะบัดหัวไล่ความงุนงง

    "นายมาอยู่ที่นี่ได้ไง"เสียงหญิงสาวที่คุ้นเคยดังขึ้น 

    "อ้อรู้แล้ว นายเป็นพวกโรคจิตใช้ไหม"

    "?"

    "พวกชอบแอบเข้ามาทำอะไรลับๆล่อๆในห้องคนอื่นเพื่อจะเอาของคนที่ชื่นชอบไปสะสม"

    "......"

    "คุณมาทำอะไรที่นี่ครับ"ฮาร์ปเอ่ยขึ้นด้วยความงุนงงป้ายก็เขียนห้ามผู้เกี่ยวข้องเข้า


              "ฉันเรอะ  ไม่มีมารยาทเสียเลยก่อนที่จะถามฉันน่าจะแนะนำชื่อตัวเองก่อนน่ะ"คริตตี้เอ่ยเสียงมั่นใจในตัวเอง

    "ผมฮาร์ปครับเป็น...."ในขณะที่เอ่ยในใจก็คิดไปด้วย 'ปกติคนที่เป็นผู้มาเยือนอย่างไม่ได้รับเชิญน่าจะเป็นฝ่ายแนะนำตัวก่อนไม่ใช่หรือ  ไม่ใช่มาย้อนถามแบบนี้'

    "ช่างเถอะ  เพอร์โซน่าร์ไม่อยู่หรือ  นายมานี่สิ"ว่าแล้วเธอก็เอ่ยตัดบทลากโซออกไป

    "รอเดี๋ยวครับ"คนรับใช้ไล่ตาม หญิงสาวลากโซออกวิ่งอย่างไม่รู้จุดหมาย

    คุณเชื่อเรื่องบุพเพอาละวาดไหม เฮ้ย!  ชะตาบางครั้งดวงมันจะดีก็ดี  ดวงจะร้ายก็ร้าย  บางครั้งคนที่มีชะตากรรมร่วมกัน  แม้ชาตินี้จะขอสาบานว่าอย่าเจอกันอีกเลย แต่ถ้าลิขิตชักนำ มีบุพเพสันนิวาสต่อกันสุดท้ายลงเอ่ยก็ต้องเจอกันอยู่ดี

    หญิงสาวชนเข้ากับผู้กำกับชื่อดัง  จนโซต้องพลอยล้มไปด้วยเพราะแรงดึงลงของอีกฝ่าย

    "อ้าว โซ"เสียงหญิงสาวที่มาด้วยกันเอ่ยทัก

    "นึกว่ากลับไปแล้วเสียอีก"คริตตี้มองอย่างไม่เชื่อสายตา  ริซ่าดาราดังระดับโลกจะรู้จักชายที่ชื่อโซคนซื่อบื้อ  เอ๋อๆนี่ด้วยหรือ  แต่รู้จักก็ดีเรื่องมันจะได้ง่ายขึ้น

    "อยู่นั้นไงจับไว้เร็ว"เสียงร.ป.ภตรงเข้ารวบตัวตริตตี้กะจะลากออกไปข้างนอกทันที  ผู้กำกับรายใหญ่จึงเอ่ยถามสาเหตุความไม่สงบ

    "ผู้หญิงคนนี้บอกว่าจะเข้ามาพบเพอร์โซน่าร์ครับ  ผมถามว่ารู้จักเป็นการส่วนตัวหรือเปล่า เดี๋ยวจะลองติดต่อให้แต่ยังไม่ทันไรเธอก็วิ่งเข้าตอนพวกผมเผลอ"

    "เรอะไม่มีอะไรแล้วปล่อยเธอเถอะ"

    "ครับ" ร.ป.ภเอ่ยรับก่อนจะล่าถอยกลับไป

    "เธอชื่อะไรน่ะ"

    "คริตตี้ค่ะ"

    "หน้าเธอเหมาะเป็นนักแสดงน่ะ"ผู้กำกับเอ่ยเห็นแววของเด็กสาว

    "ไม่ค่ะ หนูชอบอยู่เบื้องหลังมากกว่าการเป็นดาราหรืออะไรที่มีชื่อเสียงก็แล้วแต่พาลแต่จะให้อึดอัดเพราะเหมือนมีคนคอยจับผิดตลอดเวลา  แต่ถ้าหนูจะขอให้ปั้นโซเป็นแสดงแทนได้ไหมค่ะ"ทั้งสองเลิกคิ้วด้วยความฉงน  นายแบบคนนี้ก็เคยเป็นนักแสดงมาสองสามเรื่องแล้วเหมือนกัน แล้วยังต้องปั้นให้เป็นนักแสดงอีกหรือ ออกจะดังปานนี้ใครบ้างจะไม่รู้จักเพอร์โซน่าร์ หรือว่ามีความหมายอะไรแอบแฝงอยู่

    "หนูอยากเป็นผู้จัดการให้เขาน่ะค่ะ อันนี้หนูไม่ได้เว่อร์น่ะค่ะแต่หนูรับรองได้ว่าเขาน่ะมีความสามารถมาก  อาจมากกว่าเพอร์โซน่าร์ด้วยซ้ำ"เสียงนั้นทำให้ทั้งสองเลิกคิ้วหนักกว่าเดิม

    "น่าสนุกดีนี่"ผู้กำกับเอ่ยตัดบท เก่งเหนือกว่าตัวเองที่เป็นงั้นหรือ

    "ได้ฉันตกลง"เขาลั่นวาจาอย่างนึกสนุก

    "ขอบคุณค่ะ"เธอผงกศีรษะแสดงความขอบคุณ  ดวงมันจะดีทำอะไรก็ดีไปหมด ใช้ระบบเส้นสายกับคนไม่รู้จัก แบบนี้ก็มีด้วยแฮะ

    "แต่ฉันไม่เห็นด้วย"หญิงสาวดาราดังเอ่ยขัด ลากโซออกจากอาคาร

    "นายแต่งตัวแบบนั้นจะไปไหนน่ะโซ  และหน้าผากนั้นไปโดนอะไรมา"ริซ่าเอ่ยในขณะที่คว้านหาอะไรบางอย่างในกระเป๋า

    "ผมขอตัวน่ะ"เด็กหนุ่มเอ่ยเหมือนไม่รู้ไม่ชี้  เขาไม่ได้มีความรู้สึกขัดแย้งอะไรแม้แต่น้อยกับเรื่องเมื่อครู่

    "เดี๋ยว"ริซ่าทายาแดงก่อนจะแปะพลาสเตอร์ให้

    "วันนี้ฉันก็ไปงานเลี้ยงด้วยเพราะฉะนั้นห้ามสายล่ะ  ฉันจะส่งรูปไปให้พ่อดูเป็นการรายงานพฤติกรรมนายไปในตัว"

    "อืม"

    "ว่าแต่ฮาร์ปไปไหนซะล่ะ"เขาเพียงแต่มองเข้าไปในอาคารก็จะสะบัดหน้าไปทางอื่นด้วยความเบื่อหน่าย ก่อนจะเดินจากไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×