ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เมื่อไร(หัวใจ)จะสื่อถึงกัน

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1(ด้วยขี้เกียจคิดชื่อตอน)

    • อัปเดตล่าสุด 29 เม.ย. 50



              เสียงซุบซิบดังขึ้นเป็นบริเวณกว้างต่างคนต่างสวมรอยเป็นนักมุม มองดูเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายไม่วางตา ถึงสายตาจากฝ่ายที่เป็นผู้เสียหายจะเว้าวอนขอความช่วยเหลือสักแค่ไหน คนดูต่างก็ทำได้เพียงแต่ไม่สบตา ด้วยความโหดเหี้ยมทั้งใบหน้ารอยแผล รูปร่างหรือแม้แต่พละกำลังทำให้ต่างไม่มีใครคิดจะเข้าไปห้ามเลย

    "ว่าไงคุณพี่วันหลัง ขอตังค์ก็ต้องได้เข้าใจไหม"เท้ากระทืบซ้ำเข้ากลางอีกฝ่ายและขยี้อีกเล็กน้อยจนอีกฝ่ายคางออกมาด้วยความเจ็บปวด ลูกน้องอีกสองคนที่พึ่งตรวจค้นร่างกายยื่นกระเป๋าให้ลูกพี่ด้วยใบหน้ายิ้มกริ่ม

    "น้อยจังเลยนะ"เสียงเย็นชาเอ่ยขึ้น

    "พรุ่งนี้ฉันต้องได้มากกว่านี้"เจ้าชีวิตจอมเอาแต่ใจเริ่มเรียกร้องสิ่งที่ตนต้องการ

    "ได้โปรด วันนี้ฉันต้องเอาตังค์ไปคืนเพื่อน"

    "มันก็ไม่ใช่เรื่องของฉันนี่"เจ้าของเสียงเปลี่ยนเป็นกระชากคอเสื้อ อีกฝ่ายขาลอยเหนือพื้นสูดอากาศไม่สะดวกนัก

    "แกหูหนวก หรือว่ายังเจ็บตัวไม่พอ"เสียงขู่ดังเข้าไปถึงทรวงอีกฝ่ายที่คล้ายลูกไก่ในกำมือสั่นหงิงๆ

    "ฉันมีทางเลือกให้แกสองทางส่งเงินมาดีๆหรือว่าจะให้ฉันเป็นคนเอามันมาเอง ฉันขอเตือนถ้าหากแกยังรักชีวิตอยู่ล่ะก็"แต่เสียงนั้นก็ต้องสงบลงพักหนึ่งสายตาเบนไปให้ความสนใจกับผู้มาเยือนคนใหม่

    "แกเป็นปาก้อนหินมาใช่ไหม"เขารับมันได้อย่าง่ายได้และปามันกลับคืนเจ้าของ อีกฝ่ายแทนที่จะหลบกลับพุ่งตัวไปข้างหน้าเอนคอไปด้านซ้ายเล็กน้อยหินเพียงก้อนเล็กก้อนเดียวก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป

    "ฉันในนามของประธานและหัวหน้าสารวัตรนักเรียน ขอสั่งให้พวกนายเข้าห้องเรียนซะ"เสียงมาจากบุรุษชุดนักเรียนชาย พร้อมหมวกปิดหน้า

    "นายพูดเรื่องบ้าอะไร"หมัดเสยเข้าปลายคางแต่อีกฝ่ายเงยคอขึ้นพร้อมเขาเข้ากระทุ้งท้องเจ้าของหมัดกระโดดหลังกาหลังหลบ

    "ฉันขอเตือน"เจ้าของหมัดแรกเอ่ยขึ้นอีกครั้ง คนที่ขาดบ่อยโดยไม่ม่สาเหตุจะถูกลงโทษไล่ออก"

    "ไล่ออกก็ออกสิ ฉันก็ไม่ได้อยากจะเรียนอยู่แล้ว"

    "แล้วฉันจะแจ้งตำรวจขอหาทำร้ายร่างกาย"

    "หนอย!"เขาชูมือมีขึ้นสะบัดไปข้างหน้าเป็นสัญญาณให้ลูกน้องอีกสองคนลุย แต่อีกฝ่ายกลับโต้ด้วยกระป๋องที่ไม่รู้ไปเอามาจากไหนฉีดเข้าเต็มหน้าลงไปนอนน้ำลายยืดกับพื้น

    "ถึงพวกนายจะไม่เรียนแต่ก็ต้องเข้า นั่นเป็นกฎห้ามขาดโดยไม่มีความจำเป็น"ระเบิดควันถูกปาเข้ากลบร่างทั้งห้า เมื่อเวลาผ่านไปครู่หนึ่ง ควันจางหายไปปรากฏเพียงนักเรียนผู้โชคร้ายนอนบาดเจ็บร่อแร่คนเดียว เสียงรถพยาบาลดังมาเกือบติดๆ

    "ทำดีมากๆ"เสียงทุ้มต่ำนั้นหัวเราะดังลั่น กางพัดเคลื่อนไหวข้อมือสองสามทีเป็นการวางฟอร์ม


              "
    ว่าแต่ไปกินข้าวดีกว่าไหมเย็นนี้ แม่กระต่ายน้อย"บุรุษเจ้าของผลงานมองดูเหยื่อที่ตนจัดการมัดด้วยเชือกลากมาจนถึงห้องประธานนักเรียนก็เริ่มออกอาการถอนหายใจเล็กน้อย

    "ถ้านายมีเวลาว่างมากนักก็จัดการบ้างสิ"ชายผู้มีผมสีทองยาวรวมไว้ด้านหลัง ดวงตาสีเขียวรวบพัดเก็บจับคางเจ้าของเสียงเชิดขึ้น

    "หลังจากทำงานเหนื่อยก็ควรได้รับค่าตอบแทนบ้างจริงไหม"บุรุษผู้ปกปิดใบหน้าตนด้วยหมวกรีบปัดมือคนเสียมารยาทออก แต่อีกฝ่ายกลับคว้าข้อมือนั้นไว้ทั้งสองข้าง

    "วันนี้ฉันอารมณ์ไม่ดี"อารมณ์เคืองเริ่มแสดงออกมาทางน้ำเสียง

    "ดูสิมือแดงเป็นรอยเชือกทาบเลย"

    "รู้ก็ดีย่ะ วันหลังก็หัดเดินงานเองบ้าง"

    "ฉันก็เป็นแค่เงาประธานทำหน้าที่ช่วงที่ตัวจริงไม่อยู่เท่านั้นเอง"

    "เรอะ! เลยให้สมาชิกผีอย่างฉันมาทำแทนสินะ ฉันลงชื่อให้คนเต็มๆไปเท่านั้น แค่กิจกรรมชมรมฉันงานก็ล้นมือแล้ว"

    "พูดอะไรท่านรองประธานไอริส"อีกฝ่ายเมินหน้าหนีไม่พอใจกับตำแหน่งตนเท่าไรนัก

    "เมื่อประธานไม่อยู่รองประธานก็ควรทำหน้าที่แทน"สมาชิกเงารีบหันควับกลับมาแสดงสีหน้าพร้อมน้ำเสียงคล้ายนักเลงกำลังหาเรื่อง

    "หา?"อีกฝ่ายได้ทีเผลอเข้าหอมแก้มได้ของแถมกลับมาเป็นรอยแดงเต็มแก้มชายผู้เสียมารยาท

    "ฉันจะเปลี่ยนเสือผ้า แล้วห้ามแอบดูด้วยเจ้าคนฉวยโอกาส"เสียงปิดประตูห้องน้ำดังขึ้นอีกระลอกหลังเสียงผัวะครั้งใหญ่ ประธานเงาลูบแก้มแสบๆร้อนๆของตัวเองพร้อมเผยยิ้มพอใจเล็กน้อยบอกได้คำเดียว 'อีกฝ่ายน่ารักน่าแกล้งเป็นที่สุด' หันกลับมาสนใจสามตัวปัญหาจับส่งทั้งมัดเชือกเข้าห้องเรียนก่อนเสียงกริ๊งดังขึ้น

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×