ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คุณชายหน้ากาก ปะทะ สาวน้อยจอมปด

    ลำดับตอนที่ #1 : วันแห่งการเริ่มต้น

    • อัปเดตล่าสุด 24 พ.ย. 49



    ขอโทษค้าตอนแรกก็ว่าอัพเพิ่มแล้วน่ะไปๆมาทั้งที่อัพและไม่ได้อัพหายเกลี้ยง  อัพใหม่แล้วกันค้า....

    ********

    หน้ากากเป็นสิ่งที่สวมไว้เพื่อปกปิดใบหน้า ปกปิดบุคลิกที่แท้จริงของคนๆนั้น เมื่อขึ้นเวที บุคคลผู้นั้นก็จะเปลี่ยนเป็นตัวละครในเรื่อง ทั้งสีหน้า ทั้งอารมณ์สื่อออกมาได้อย่างชัดเจน จนสามารถดึงดูดผู้ชมเสมือนเข้าไปอยู่ในเรื่องนั้นๆด้วย  แต่มันไม่ได้ใช้เฉพาะบนเวทีเท่านั้นยังสามารถใช้กับ......


    กริ๊ง!กริ๊ง!

     

    เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นพร้อมการเริ่มต้นของเช้าวันใหม่ เด็กหนุ่มปรือตาขึ้น ก่อนหยันตัวลุกเหยียดแขนขึ้นฟ้าจนสุดมือ เขาแง้มผ้าม่านออกเล็กน้อยเพื่อสังเกตแสงยามเช้า  แสงอาทิตย์อ่อนๆต้องผมสีดำขลับตัดซอยสั้นสะท้อนเป็นเงางาม เข้ากับรูปหน้าที่คล้ายกับงานประติมากรรมชิ้นเอก ถึงมันจะดูยุ่งเหยิงไปบ้างก็ตามที ตาสีแดงราวกับทับทิมใสบริสุทธิ์   คิ้วและริมฝีปากเรียวได้รูป  ร่างผอมบางสมส่วนไม่คล้ายผู้หญิงมากเกินไป ใบหน้ามีราศีจับแม้ในยามนี้

     

    ก๊อก!ก๊อก!

     

    คุณหนูขอรับ......ชายผู้อยู่หลังประตูเคาะเป็นมารยาทก่อนจะเปิดเข้ามาอย่างไม่รอเสียงตอบรับ

     

    ตื่นแล้วหรือขอรับเด็กหนุ่มตระกูลลูกขุนนางสูงศักดิ์เพียงเอ่ยตอบคำเดียวอย่างงัวเงียก่อนจะหยิบแปรงเดินเข้าห้องน้ำไป

     

    อืม

     

    วันนี้มีเรียนน่ะขอรับในขณะเอ่ยเสียงรอดผ่านประตู คนรับใช้ส่วนตัวก็สาวเท้าตรงไปยังตู้เสื้อผ้าเพื่อเลือกชุดที่ต้องใส่ในวันนี้ เขาหยิบออกมาสี่ตัว ก่อนจะแขวนตัวหนึ่งไว้นอกตู้บริเวณที่จัดไว้ให้แขวนโดยเฉพาะ

     

    กรุณารักษาเวลาด้วยน่ะขอรับหลังจากเจ้าของเสียงผู้หอบหิ้วเสื้อผ้าเอ่ยจบเสียงประตูก็ดังขึ้นอีกครั้ง

     

    ชายผู้สูงศักดิ์เดินลงจากบันไดในชุดนักเรียนแขนยาวถุงมือและผ้าพันคอสีแดง  ผมยังคงแสดงความยุ่งเหยิงอยู่ อาจจะมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ ราวกับว่ามันเป็นทรงผมของเจ้าตัวอยู่แล้ว ใบหน้าแม้จะผ่านน้ำแล้วก็ยังคงแสดงความงัวเงียอย่างชัดเจน

     

    ผมจะบอกตารางนัดหมายในวันนี้น่ะครับคนรับใช้ผู้ใกล้ชิดเอ่ยขึ้นมองสมุดจดบันทึกในมือ ส่วนเด็กหนุ่มกำลังทานอาหารเช้าที่ถูกเตรียมไว้อยู่ก่อนแล้ว ด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ใดๆทั้งสิ้น

     

    ตอนบ่ายมีนัดถ่ายแบบนะขอรับ ผมจะให้รถไปรับ

     

    อืมงั้นหรือเขาเอ่ยเสียงเรียบราวกับมันเป็นเรื่องที่ปกติ

     

    สี่โมงเย็นมีการประชุมบริษัทครับ

     

    แล้วคาริเน็ตล่ะ

     

    ไม่ได้ขอรับ ท่านคาริเน็ตวันนี้ติดประชุมกับบริษัทอื่นครับผู้ทำประดุจเลขาส่วนตัวเอ่ยตอบเสียงเรียบ

     

    และทุ่มครึ่งมีงานราตรีขอรับ

     

    ไม่ไปไม่ได้หรือ

     

    ไม่ได้ขอรับ  การที่ตระกูลซีรีริส1ในสามตระกูลขุนนางใหญ่ไม่ร่วมงานเป็นการเสียมารยาทอย่างยิ่งครับ

     

    งั้นนายก็ไม่แทนสิ

     

     ถ้าเป็นงานเลี้ยงหน้ากากก็พอแอบอ้างได้หรอกขอรับ 

     

    ทำไมไม่เปลี่ยนเป็นงานเลี้ยงหน้ากากล่ะเจ้าของเสียงเอ่ยขึ้นขณะยกนมขึ้นดื่ม

     

    ทางนั้นเป็นฝ่ายจัดขอรับ ทุกอย่างก็ต้องขึ้นกับฝ่ายนั้น ผมเตรียมชุดไว้หมดแล้วเรื่องขอลาเรียนก็เรียบร้อยแล้วขอรับ คอนแท็กเลนส์อยู่นี่ขอรับ ส่วนแว่นตาอยู่ในกระเป๋าน่ะขอรับผู้รับใช้ส่วนตัวเอ่ยพร้อมยื่นกล้องใส่คอนแท็กเลนนส์ให้

     

    อืม

     

    รถมารออยู่แล้วน่ะขอรับ

     

    ไม่ต้องฉันจะเดินไปเองเสียงนั่นฟังดูไร้อารมณ์แต่รู้สึกต้องทำตามในทันที

     

    แต่ว่า....คนรับใช้เอ่ยตะกุกตะกัก

     

    ทำเช่นนั้นไม่ได้น่ะขอรับ  แค่การที่คุณหนูเลือกโรงเรียนเองนายท่านก็โกรธจนผมจะหัวหลุดจากบ่าแล้วถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณหนู....

     

    ก็ให้มันหลุดไปเลยสิเสียงตอบเอาแต่ใจตัวเองดังขึ้นในขณะเดินออกนอกประตูรั้ว ผ่านทางเดินที่มีแต่คนใช้โค้งอย่างน้อมนอบพร้อมเสียงอรุณสวัสดิ์อย่างพร้อมเพียง

     

    คุณหนูขอรับ เดินออกไปแบบนั้นสุขภาพ....คนรับใช้ใกล้ชิดรีบวิ่งไล่ตามไปในทันที อากาศที่เริ่มเย็นลงทำให้คนรับใช้ตีหน้าเป็นห่วงมากขึ้น แต่ก็ต้องหยุดความคิดนั้นเพราะการไล่ตามอย่างไร้ประโยชน์จะมีแต่จะทำให้ตารางรวน  ถึงตามตัวได้ถ้าอีกฝ่ายยืนยันว่าจะไม่ก็คือ  ไม่!

     

    คอยดูแลคุณหนูด้วย ตามไปดูว่าคุณหนูเข้าไปโรงเรียนหรือยังเสียงคนรับใช้ใกล้ชิดเอ่ยสั่งกับหนึ่งในหลายคนที่ยืนอยู่หน้าประตู

     

    อย่าให้คุณหนูรู้ตัวล่ะ ยังไม่อยากโดนโกรธเขาเอ่ยกำชับก่อนจะแยกย้ายไปตามหน้าที่ตน

     

    นี่เธอรู้เปล่าเพอร์โซน่าร์น่ะได้ขึ้นปกนิตยสารของสัปดาห์นี่ด้วยน่ะเสียงเจี้ยวจ้าวดังขึ้นแต่เช้า มันเป็นบรรยากาศปกติของโรงเรียน สห  ทั่วๆไป

     

    ก็แค่นายแบบทำไมต้องตื่นเต้นด้วยเสียงชายในกลุ่มเอ่ยขึ้นอย่างเซ้งๆ 

     

    ก็อีแค่นักร้องคนเดียว   ไม่รู้ทำไมถึงดังนักหนาก็แค่หน้าตาดีเท่านั้นเอง  เสียงก็แค่เพราะนิดหน่อยเอง  แต่ก็น่ะ  หล่อนมีปัญญาเป็นแฟนเขาหรือ  หรือว่ารู้จักเขา  เขาก็ไม่รู้จักเธอ  จะพูดถึงทำไมนักหนามองความจริงซะบ้าง  เหมือนกับผู้ชายในโรงเรียนไม่มีคนไหนดี

     

    ที่แท้ก็อิจฉา

     

    ไม่ได้อิจฉา

     

    อิจฉาๆๆ

     

    ไม่ได้อิจฉา!1”เขาตระโกนเสียงดัง เกือบทันทีที่เสียงประตูถูกเปิดออกสร้างความตื่นตระหนกแก่เจ้าของเสียงอย่างมาก  แต่เมื่อหันไปมองผู้มาใหม่ก็ต้องลอบถอนหายใจเสียงดัง  เพราะคนผู้นั้นไม่ใช่อาจารย์

     

    อย่าทำให้ตกใจอย่างนี้สิโซชายผู้ไม่รู้เรื่องรู้ราวตรงไปยังโต๊ะของตัวเองอย่างไม่ใส่ใจ 

     

    เมื่อคืนเล่นเกมส์ดึกหรือไงเจ้าของเสียงกล่าวเอ่ยอย่างสนิทสนมพร้อมตรงเข้าล็อคคอหลวมๆ

     

    ดูสิงัวเงียเชียวหญิงสาวเมื่อครู่หันกลับมาสนใจเพื่อนผู้เดินเข้ามาใหม่เช่นกัน 

     

    อย่าบอกว่านายยังไม่ได้นอน หรือว่านายไม่สบาย!”เพื่อนที่ล็อคคอตั้งข้อสมมุติฐาน ทรงผมสีดำขลับกระเซิงไม่เข้ารูป ชี้บ้าง งอบ้างแต่ก็ดูไม่เป็นก้อนพันกัน  แว่นบดบังดวงตาสีดำนิลประกายสวยแต่แฝงไม่ใส่ใจโลกไว้  เสื้อผ้าหลวมเกินพอดีจนเหมือนไม่ใช่เสื้อของตัวเอง  มือเท้ารองหัวที่จะฝุบกับโต๊ะทุกเมื่อ สายตาจะปิดลงในไม่ช้า  ถ้าไม่โดนเพื่อนสนิทล็อคอยู่ล่ะก็คงเข้าสู่ห้วงนิทราไปแล้ว

     

    ก็เปล่า

     

    นายนี่เมื่อไรจะออกอาการกระตือรือร้นหรือรู้สึกรู้สากับเขาบ้างน้าเพื่อชายเอ่ยอย่างเหนื่อยหน่าย แต่ก็ชินแล้วที่เจ้านี่เป็นแบบนี้

     

    นี่ๆโซคิดว่าเพอร์โซน่าร์เท่ห์ม่ะ  หน้าตาดูคมแล้วก็เท่ห์มากๆ  ดวงตามีเสน่ห์ราวกับดึงดูดใจให้ละลาย  ถึงยังงั้นก็ยังสวยเหมือนผู้หญิงด้วย

     

    ฟังแล้วงงแฮะ

     

    ก็มันจริงนี่นาสองคู่กัดเริ่มทะเลาะกันอีกครั้งดังเช่นทุกวัน

     

    อิลเธอน่ะเงียบไปเลยฉันขี้เกียจเถียงขี้เกียจฟัง

     

    นายนั่นแหละผิดทีโอเธอเอ่ยเสียงหงุดหงิด

     

    ทำไมทุกครั้งนายต้องขัดฉันทุกที

     

    ช่างหวานเหลือเกิน มดเดินเป็นสายเลยเสียงที่สามดังขึ้นหลังเดินเข้าไปเก็บของบริเวณโต๊ะตัวเอง

     

    หวานกับผีสิทั้งสองเสียงพร้อมใจกันตะโกนกลับทั้งที่เพื่อนสาวที่มาใหม่ห่างจากพวกเขาไม่ถึงครึ่งไม่บรรทัดมาตรฐาน

     

    ยังคิดตรงกันเสียอีกหญิงสาวเอ่ยแซว

     

    เงียบไปเถอะทั้งสองเอ่ยพร้อมกันอีกครั้งทำให้เจ้าของคำพูดเมื่อครู่หัวเราะคิกคัก จนทั้งห้องได้ยินแต่ไม่ใช่เพราะเสียงหัวเราะนั้นดังสนั่นแต่เป็นเพราะเสียงตะโกนเมื่อครู่ และเสียงเลื่อนประตูที่ทั้งสามเจ้าของเสียงไม่ทันสังเกต

     

    ไปยืนนอกห้องอาจารย์สั่งทำโทษทันที

     

    ไม่ยุติธรรม โซนายต้องไปด้วยเพื่อนชายเอ่ยเสียงน้อยใจ

     

    ทำไมล่ะเขาเอ่ยเสียงงัวเงียอีกครั้ง

     

    ก็นายเป็นเพื่อนเรานิ

     

    นี่เงียบได้แล้ว! อาจารย์เอ็ด

     

    โซเธอก็ต้องไปด้วย

     

    ทำไมล่ะครับ

     

    ก็เสียงคุยเมื่อกี๊นี่

     

    งั้นทำไมอาจารย์ไม่ไปยืนด้วยกันล่ะครับ

     

    ก็เพราะ.....อาจารย์เงียบไปครู่หนึ่ง เพื่อหาเหตุผลที่เหมาะสม

     

    เพราะอาจารย์เป็นอาจารย์ทีโอดัดเสียงหญิงก่อนจะเปลี่ยนเป็นเสียงเข้มราวกับกำลังเล่นละครอยู่

     

    แน่นอนครับอาจารย์จะเป็นคนอื่นไปได้ยังไงเสียงนั้นทำให้เพื่อนแอบหัวเราะคิกคักออกมา

     

    หัวเราะอะไร หรืออยากจะไปยืนเป็นเพื่อนเจ้าพวกนี้

     

    งั้นผมว่าวันนี้อาจารย์คงต้องสอนโต๊ะกับเก้าอี้แล้วมั้งทีโอเอ่ยปนขำก่อนจะชิงออกนอกห้องกลัวโทษจะเพิ่มมากขึ้นแต่มันก็สายไปซะแล้ว

     

    เอาไม้บรรทัดไปคนละอันด้วยอาจารย์เอ่ยสั่ง

     

    จะให้พวกผมลองสอนอาการข้างนอกหรือครับเขาส่งคำถามกวนประสาทอีกครั้งราวกับเด็กมีปัญหา

     

    แล้วถ้าหนูไม่มีจะขอยืมอาจารย์ได้ไหมค่ะอิลเอ่ยถามเหมือนเด็กไร้เดียงสา

     

    แหมเธอแล้วอาจารย์จะสอนด้วยอะไรล่ะจ๊ะเขาดัดเสียงล้ออีกครั้งด้วยท่าทางมีความสุข

     

    นั่นสิเนอะหญิงสาวเอ่ยเสียงสนับสนุน

     

    ฮิๆๆอีกหนึ่งสาวก็ยังคงหัวเราะไม่หยุดตั้งแต่เมื่อครู่

     

    ดีแล้วที่ออกมา น่าเบื่อออกอาจารย์อะไรแต่งหน้าซะหนาเตอะ  วันๆเอาแต่งส่องกระจก สอนก็ไม่สอนชอบว่านักเรียนโง่ สอนแล้วไม่จำโดนซะบ้างก็ดีทีโอเอ่ยเสียงงึมงำด้วยใบหน้ายิ้มพอใจที่ได้ตอกกลับเป็นบางครั้งบางคราว

     

    ใช่สองสาวเอ่ยสนับสนุน

     

    งั้นมั้งอีกเสียงตอบงัวเงียไม่แสดงความเห็น

     

    คาบสองก็เป็นคาบที่สุดแสนจะน่าเบื่อไม่แพ้กันเพราะอาจารย์เป็นประมาณ น้ำท่วมทุ่ง  อธิบายอะไรก็ไม่รู้ไม่ได้เข้าท่าสักนิดยิ่งฟังยิ่งงงไปๆมาๆก็วกกลับเข้าคำพูดเดิม  แค่เนื้อหาแบบน้ำธรรมดาก็เบื่อจะแย่อยากรีบๆเลิกซะที

     

    วันนี้มีเพื่อนใหม่เข้ามาสองคนอาจารย์เจ้าของคาบเดินเข้ามาด้วยใบหน้าเคร่งขรึมพร้อมกับนักเรียนอีกสองคน เสียงกรี๊ดกร้าวก็ดังขึ้นเพราะหนึ่งในนั้นเป็นชายผมดำขลับยาวมัดไว้อย่างเรียบร้อย ดวงตาสีแดงราวกับทับทิมล้ำค่าซ่อนความคิดบางอย่างไว้ในใจ รูปร่างสมส่วน  ใบหน้าคม คิ้วเรียวได้รูป  พร้อมทำให้ใจละลายได้ทุกเมื่อ

     

    คล้ายเพอร์โซน่าร์เลย

     

    หล่อจัง!”เสียงจากหญิงสาวส่วนใหญ่ซุบซิบเสียงดัง มองชายที่มีสีดวงตาและใบหน้าคล้ายใครคนหนึ่งที่พวกเขาชื่นชอบ

     

    เงียบๆด้วย!!”อาจารย์ตะโกนเสียงไม่พอใจ  ไม่อยากกินเวลาเรียนมากเกินกว่านี้

     

    สวัสดีครับผมชื่อคาริเน็ตเสียงกรี๊ดจากหญิงสาวดังขึ้นก่อนจะเงียบลง

     

    คาริเน็ตจะมาเรียนกับเราตั้งแต่วันนี้  ที่จริงเขาจบจากมหาลัยชื่อดังในต่างประเทศแล้วเพราะฉะนั้นบางเรื่องที่ไม่เข้าใจก็ถามเขาได้ เขาลองมาใช้ชีวิตมัธยมเป็นกรณีศึกษาเพื่อนำไปใช้ในการทำงานน่ะ

     

    ฝากตัวด้วยครับ

     

    ไม่จริงน่ะอายุเท่าไรแล้วเนี่ยดูอายุใกล้เคียงกับพวกเราเลย

     

    ความลับครับเขาเผยยิ้มแสดงความเป็นมิตร

     

    ฉัน คริตตี้เรื่อง.....อีกหนึ่งสาวก็สวยราวกับนางฟ้าแต่ประชากรหญิงในห้องมากกว่า จุดสนใจจึงพุ่งไปหาคาริเน็ตเสียส่วนใหญ่จนไม่สนใจอีกหนึ่งชีวิตที่ยืนอยู่

     

    ก็แค่หน้าเหมือนดาราอย่าทำเป็นตื่นเต้นไป ฉันน่ะเป็นคนปั้นเพอร์โซนาร์มากับมือ  ไม่เชื่อเธอชี้ไปยังชายหนุ่มขี้เซา  โซเพียงมองด้วยตาไม่สนใจโลกกลับ

     

    ฉันจะปั้นเขาให้เป็นดาราถึงโซจะเป็นคนที่รูปร่างดีจนเกือบจะคล้ายผู้หญิง แต่หน้าตาและผ้าเผ้ากลับเป็นตัวผลักดันบุคลิกเขาไปในทางลบ  ตัวค่อยข้างดำและเป็นรอยแผลเป็นอยู่หลายจุด  จนหาจุดที่งดงามไม่ได้เลย การที่เอ่ยนั้นเป็นการยากยิ่งไม่รู้ว่าเป็นแค่การชี้มั่วๆหรือเปล่า

     

    แน่ใจเหรอที่พูดแบบนั้นทีโอขัดทันที

     

    เจ้าหมอนี่น่ะแค่การบ้านมันยังไม่อยากจะส่งเลย  ขนาดมีงานให้ลอกชนิดประเคนถึงที่มันยังไม่ค่อยอยากจะทำเลย ไอ้ปั้นเป็นดาราน่ะเรื่องความพยายามปรับปรุงตัวก็เป็นศูนย์แล้ว

     

    ได้ยินคำว่าตื้อเท่านั้นที่ครองโลกไหม สักวันหนึ่งแหละเธอเอ่ยด้วยความมั่นใจในตัวเองสูง

     

    ขอให้จริงเถอะอิลเอ่ยเสริม

     

    นั้นสิเบลอีกหนึ่งเพื่อนสนิทเอ่ยสนับสนุน

     

    พอๆๆเริ่มเข้าเรียนเลยดีกว่าอาจารย์เอ่ยแทรก

     

    คริตตี้ถ้าเธอมีอะไรไม่เข้าใจก็ถามเพื่อนได้น่ะ

     

    ค่ะเธอเอ่ยด้วยเสียงยิ่งผยอง ราวกับว่าเพื่อนน่ะไม่จำเป็นต้องถามหรอกเพื่อนต่างหากที่เป็นฝ่ายต้องมาถาม

     

    การโกหกเป็นสิ่งไม่ดีน่ะแม่สาวน้อยถึงหน้าจะส่วนก็เถอะคาริเน็ตเอ่ยกระซิบข้างหูก่อนจะเดินตรงไปเลือกที่นั่งว่างตามใจชอบ

     

    มาทำไมครับโซซึ่งนั่งอยู่ด้านข้างเอ่ยขึ้นเสียงปนหงุดหงิดเล็กน้อย

     

    น้องชายสุดที่รักมาเรียนโรงเรียนสามัญทั่วไปทั้งที่ พี่ก็แค่อยากตามาดูเท่านั้นเอง

     

    พ่อสั่งมาล่ะสิ

     

    เปล่าสักหน่อยน่ะเขาตีสีหน้าหงอนๆเล็กน้อย

     

    แค่เมื่อเช้านายเดินมาเท่านั้นแหละ

     

    ผมไม่ใช่คนร้ายที่ต้องคอยโดนจับผิดตลอดเวลาน่ะครับ

     

    แค่ลูกชายสุดรักสุดหวงเอ่ยปากจะมาเองพ่อก็แทบคลั่งแล้ว ฉันเลยต้องคอยมาคุมความประพฤตินายสักพัก

     

    ฮาร์ปรายงานเรื่องนี้เรอะ

     

    แค่นายเดินออกมาคนใช้ก็เห็นกันหมดแล้ว

     

    แต่ถ้าไม่รายงานพ่อก็ไม่มีทางรู้หรอกยังไม่กลับมาสักหน่อย

     

    นั่นสิน่ะ ถือว่าเป็นวันดวงซวยที่พ่อโทรมาเช็ควันนี้แล้วกันการสอนดำเนินไปจนเกือบจะพักเที่ยงเสียงประกาศก็ดังก้องเรียกตัวชายที่ชื่อโซออกมาระหว่างเรียนกะทันหัน

     

    โชคดีน่ะไอ้น้องเลิฟคาริเน็ตเอ่ยเสียงกระชิบ

     

    นายนี่โรคเยอะจริงๆ เมื่อวานตรวจโลหิตจางไม่ใช่หรือ  เมื่อวันก่อนลาป่วย แล้วนี่จะไปไหนอีกล่ะทีโอเอ่ยถามตรงอย่างไร้มารยาท อีกฝ่ายได้แต่ตอบ อือ ก่อนเดินจากไป  ซึ่งแน่นอนนั่นไม่ใช้คำตอบของปัญหาแต่มันเป็นคำตอบในแบบฉบับของเพื่อนที่ชื่อโซ

     

    อะไรน่ะเพื่อนสาวผู้มาใหม่เอ่ยถามเพื่อนข้างๆอย่างอยากรู้อยากเห็น

     

    โซเขาป่วยบ่อยน่ะ บางทีเลยต้องขออนุญาตกลับก่อน  บางทีก็ต้องไปตรวจสุขภาพ ขาดเรียนบ่อยจนการบ้านไม่ค่อยจะทันเขาเบลเอ่ยอธิบายก่อนจะกล่าวต่อท้าย

     

    ล้มเลิกความคิดจะปั้นโซซะเถอะโดยล่ะคำที่จะพูดบางคำไว้ ถึงจะพูดด้วยอารมณ์  พูดจริงกล่าวโกหกหรืออะไรก็ตามแต่  แต่บอกได้คำเดียวล้มเลิกไปซะก่อนจะต้องผิดหวัง

     

    มิน่าถึงชอบทำหน้าขี้เซาเหมือนพวกขาดเลือดคริตตี้เอ่ยงึมงำต่อคนเดียว


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×