คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : RETURN | PT.1
รอยยิ้มของเธอ แม้จะเป็นเพียงยิ้มบางๆ มันก็ดูสวยงามสำหรับผมเสมอ♥
กลิ่นทะเลอ่อนๆพร้อมสายลมที่พัดอย่างแผ่วเบา ก็สามารถแต่งแต้มรอยยิ้มหวานให้กับเจ้าของใบหน้าสวยที่เหมือนกับผู้หญิงได้อย่างง่ายดาย แสงแดดอ่อนๆกระทบกับผิวสีขาวอมชมพูของซอกจิน มันทำให้นัมจุนรู้สึกหวง ถึงแม้ซอกจินจะเป็นผู้ชาย แต่เรื่องหน้าตาก็ไม่ได้ต่างอะไรกับพวกผู้หญิงเลย
“นี่นัมจุน” ซอกจินเอ่ยขึ้นมาด้วยเสียงที่แผ่วเบา
“หือ?”
“ถ้าเรามีลูกด้วยกัน นายว่ามันจะโอเคมั้ย?” นัมจุนเลิกคิ้วขึ้นมาเล็กน้อยก่อนมองใบหน้าของซอกจินที่ตอนนี้เห่อร้อนจนหน้าแดงไปหมด “พี่กำลังหมายความว่า?...”
“อือ ฉันท้องได้ 5 เดือนแล้วนะ” ซอกจินลูบท้องของตัวเองเบาๆ
นี่นัมจุนไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย? เขากำลังจะมีลูก เขากำลังจะเป็นพ่อคน...
เขาอยากจะอุ้มซอกจินใจจะขาด แต่ถ้าเขาทำแบบนั้นมีหวังลูกของเขาได้หลุดออกมาก่อนกำหนดแน่ๆ นัมจุนทำได้เพียงกุมมือของซอกจินเอาไว้ รอยยิ้มที่นานๆครั้งจะผุดออกมาจากใบหน้าของเขาก็ปรากฏขึ้น ความจริงซอกจินอยากจะบอกเขาตั้งแต่ 3 เดือนแรกแล้ว แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นเขาคงจะเห่อลูกจนไม่ทำการทำงานแน่ กว่าจะได้มาเที่ยวพักร้อนแบบนี้ได้ก็ปาไปตั้ง 5 เดือน เขาเลยมีโอกาสได้มาพูดเรื่องนี้
นัมจุนค่อยๆยกมือข้างซ้ายของซอกจินขึ้น พร้อมกับล้วงของบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมา แม้เขาจะไม่ใช่คนโรแมนติกอะไร แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำ มันก็ล้วนออกมาจากใจเขาทั้งนั้น
“คิมซอกจิน”
“หือ?”
“แต่งงานกับผมได้มั้ย”
“...” ไม่มีคำพูดใดๆออกมาจากปากของซอกจิน มีเพียงน้ำตาที่เอ่อล้นออกมาเท่านั้น
“แม่ของผมพูดกับผมเสมอ ว่าถ้าเรารักใครซักคนมากๆ เราไม่ควรที่จะปล่อยเขาคนนั้นหลุดออกไปจากเราได้ ผมไม่อยากให้พี่เป็นของใครนอกจากของผมคนเดียว แหวนวงนี้จะเป็นเครื่องแทนคำสัญญาว่าผมจะดูแลพี่ รักพี่และลูกของเรา” นัมจุนยิ้มอบอุ่นให้กับซอกจิน น้ำตาไม่มีทีท่าว่าจะหยุดง่ายๆ ซอกจินเอื้อมมือไปแตะแก้มของนัมจุนเบาๆแล้วส่งยิ้มหวานให้กับนัมจุนบางๆ
“นายจะไม่ทิ้งพี่ใช่มั้ยนัมจุน...นายจะอยู่กับพี่ตลอดไปใช่มั้ย”
“ครับ ผมจะอยู่กับพี่ ผมไม่ทางทิ้งพี่แน่นอน ผมสัญญา”
“จะ...จิน ซอกจิน!”
นี่เราฝันไปอีกแล้วงั้นเหรอ...
นัมจุนตื่นขึ้นกลางดึกเหมือนเช่นทุกๆครั้ง จนเหมือนกับเป็นโรคอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้ ความฝันในสมัยก่อนยังคงตามวนเวียนอยู่ในหัว ถึงขนาดใช้ยากล่อมประสาทแล้วก็ตาม นัมจุนเดินออกจากห้องนอนของตัวเอง เพื่อมุ่งไปยังห้องนอนของลูกชาย
จีมินลูกชายที่น่ารักของพ่อ...
ไม่ใช่ว่าเค้าไม่อยากให้จีมินรู้เรื่องที่ว่าซอกจินเป็นคนให้กำเนิดเขามาหรอกนะ แต่เพราะอะไรก็ยังไม่ลงตัว พูดออกไปแล้วจีมินจะรับได้มั้ย? จีมินอยู่ในสภาพที่ไร้แม่มาเกือบสิบปีแล้ว ถึงแม้พ่อของเขาจะพยายามหาผู้หญิงมาหมั้นหมายกับเขาก็ตาม ไม่ใช่ว่าไม่อยากมีใคร แต่เพราะเขาก็ซอกจินยังอยู่ในสถานะสามีภรรยากันอยู่ และจีมินเองก็ไม่ต้องการให้ใครมาเป็นแม่ด้วย
“ลูกคิดว่าพ่อควรทำยังไงดีจีมิน...” นัมจุนยกมือขึ้นลูบหัวจีมินช้าๆ ก่อนที่จะโน้มตัวลงบนเตียงนอนของลูกชายแล้วหลับใหลไปตามเวลาที่กำลังหมุนไปอย่างช้าๆ...
++++++++++++++++++++++++++++++++
“พ่อครับ แล้วเรื่องนัดทานข้าวเที่ยงกับครูซอกจินจะให้น้องมินไปด้วยมั้ย?”
“แล้วลูกอยากไปมั้ยล่ะครับ ถ้าอยากไปพ่อก็จะพาไป”
“ไม่เอาดีกว่า น้องมินไม่อยากขัดพ่อกับครูซอกจินเขา น้องมินอยากอยู่บ้านมากกว่า น้องมินไม่ชอบอากาศหนาวๆข้างนอก” จีมินพูดไปพลางซดโกโก้ร้อนด้วยท่าทางสุขุมเกินเด็ก...
“เอาอย่างนั้นก็ได้ ตอนนี้พ่อต้องเคลียงานของบริษัทก่อนมีอะไรเรียกพ่อนะ” นัมจุนพูดกับลูกชายก่อนที่จะเดินยกแก้วกาแฟของตัวเองไปที่ห้องทำงาน จีมินยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะกินข้าวแบบญี่ปุ่น แต่สายตาของเจ้าตัวกลับมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยแววตาที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
“การได้นั่งมองหิมะแรกกับคนที่ตัวเองรักมันรู้สึกดีหรือเปล่าครับพ่อ”
“...”
“คุณแม่ของน้องมินเค้าเป็นคนแบบไหนกันนะ? เค้าต้องน่ารักมากแน่ๆเลย น้องมินถึงได้ออกมาน่ารักแบบนี้” จีมินหันมาพูดกับนัมจุนด้วยน้ำเสียงสดใส “ตาโตๆ แก้มป่องๆ อาจจะตัวเล็กหรือไม่ก็ตัวสูงเหมือนคุณพ่อ อ่า...อยากเจอหน้าคุณแม่จังเลย”
ท่าทางที่น่ารักของจีมินเป็นใครก็คงอดไม่ได้ที่จะเข้าไปฟัด แต่สำหรับนัมจุนแล้ว นัมจุนคิดว่าเขาต้องการเจอหน้าแม่ของเขาจริงๆนั่นแหล่ะ แต่ถ้าเขาเป็นจีมิน ก็คงไม่เชื่อว่าแม่ของเขาอยู่ใกล้แค่เอื้อม แต่เขาก็อดไม่ได้ที่เห็นท่าทางของลูกชายแบบนี้ เขาเดินเข้าไปหาจีมินก่อนที่จะหอมแก้มลูกชายของเขา 1 ทีแล้วเดินหายเข้าไปในห้องทำงาน
นึกไปนึกมาก็ขำ การที่เขาได้มาเป็นประธานบริษัทสินค้าปลอดภาษีในฝั่งเอเชียและฝั่งยุโรปได้ก็เพราะซอกจิน คนที่เป็นเหมือนแรงกระตุ้นให้เขาตั้งใจเรียนและทำงานจนได้ตำแหน่งนี้มา แต่ตอนนี้ตำแหน่งนี้มันจะมีความหมายอะไรถ้าไม่มีซอกจิน? นึกแล้วก็ยังขำ
‘…KSJin เป็นเพื่อนกับคุณจากหมายเลขโทรศัพท์…’
จริงสิ...เขาได้เบอร์ซอกจินในวันประชุมผู้ปกครองนี่ ทำไมเขาโง่แบบนี้นะ...ว่าแล้วก็ไลน์ไปหาคนๆนั้นทันที ส่วนเขาจะตอบหรือไม่ตอบก็อีกเรื่องหนึ่ง...
RapmonsterNJ: วันนี้หิมะตกไม่เยอะ สนใจไปเดินเล่นกันมั้ย?
เงียบดีจริง...
ตื้อดึง! เสียงไลน์ดังมาแล้วโว้ยๆ!
KSJin: ไหนว่าตอนเที่ยงไปกินข้าว? แล้วอีกอย่าง เบอร์ของฉันเอาไว้ติดต่อเรื่องงานไม่ใช่เอามาพูดเรื่องไร้สาระแบบนี้ เข้าใจมั้ยคิมนัมจุน
RapmonsterNJ: ยกเลิกทานข้าวเที่ยงแล้วไปเดินเล่นกัน
KSJin: นี่นัมจุน พูดไม่รู้เรื่องหรือยังไงกันเนี่ย…
RapmonsterNJ: ตกลงตามนี้นะครับ เจอกันที่ห้าง XXX ตอนเที่ยง รักนะจุ๊บๆ
เรื่องราวต่อไปนี้ ไม่ใช่เป็นเพียงแค่เรื่องราวของนัมจุนหรือเรื่องราวของซอกจิน แต่มันเป็นเรื่องราวของเขาทั้งสองคน รักแรกของทั้งสองคน และอาจจะเป็นรักสุดท้ายของเขาทั้งสองก็เป็นได้...
++++++++++++++++++++++++++++++++
ซอกจินมานั่งรอนัมจุนที่ร้านกาแฟในห้างดังกล่าวด้ายท่าทางที่หัวเสียพอสมควร ก็แหงล่ะสิ...เป็นนักธุรกิจประสาอะไรที่นัดอีกคนตอนเที่ยงแต่ตอนนี้จะเที่ยงครึ่งอยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นเงาหัวของอีกคนเลย ดีที่ตอนนี้งานเตรียมการสอนในช่วงเปิดภาคเรียนได้เสร็จแล้ว ก็ถือซะว่ามาพักผ่อนให้หายเครียดก็แล้วกัน...(หรืออาจจะเครียดกว่าเดิม)
“ไม่นึกว่าพี่จะมาเร็วขนาดนี้นะซอกจิน” เสียงทุ้มต่ำอันเป็นเอกลักษณ์ที่ดังใกล้หู ทำให้รู้เลยว่าอีกคนมาแล้วแน่ๆ ซอกจินปั้นหน้าโหดก่อนที่จะหันไปหานัมจุน
“นายคิดว่าคนอย่างฉันมีเวลาว่างมากพอที่จะมานั่งรอคนๆเดียวได้ถึงครึ่งชั่วโมงเลยเหรอ? ฉันเคยสอนแล้วใช่มั้ยว่าการเป็นนักธุรกิจที่ดีต้องมาก่อนเวลา 10-15 นาที แล้วนี่มัน...”
“...” นัมจุนมองหน้าเขา บ้าจริงๆเลย...นี่มันไม่ใช่เมื่อก่อนนี่หน่า
“ขอโทษนะ...ฉันลืมตัวไปหน่อย”
“ลืมตัวบ่อยๆก็ดีเหมือนกันนะครับ”
“เอ๋?” ซอกจินมองหน้านัมจุนเล็กน้อย
“เพราะผมอยากคิดว่า ตอนนี้เราสองคนยังเป็นเหมือนเดิมอยู่ ไม่ว่ามันจะผ่านไปนานกี่ปีแล้วก็ตาม พี่ก็ยังเป็นซอกจินคนเดิมอยู่เสมอ”
ซอกจินคนโง่...อย่าหน้าแดงนะ อย่ายิ้มนะ!
แม้จะคิดอย่างนั้น แต่สิ่งที่คิดกับสิ่งที่กำลังทำมันคนละอย่างกันเลย นัมจุนยิ้มให้กับกริยาของซอกจินที่ตอนนี้เค้าดูเหมือนกับถ่านไฟที่กำลังร้อนๆอยู่ หน้าแดงหูแดง ดูแบบนี้แล้วนึกถึงตอนที่เขาจีบซอกจินใหม่ๆ คนอะไรขี้อายแถมยังเขินง่ายอีกต่างหาก...แต่เพราะซอกจินเป็นแบบนี้แหล่ะเขาถึงได้รักและชอบซอกจินมากๆ
“ผมรู้ว่าพี่อยากพูดว่า เราไม่ควรมาเจอกันเลยด้วยซ้ำ...แต่ได้โปรด ทำวันนี้ให้เป็นเหมือนกับวันแรกที่เรายังรักกันได้มั้ย? แค่นิดเดียวก็ยังดี อายุเราก็ไม่ใช่น้อยๆแล้ว แค่วันนี้วันเดียว แต่วันอื่นพี่จะไล่ผมยังไงก็ได้ ผมยอม”
นัมจุนไม่พูดเปล่า เขาพูดพลางแบมือของเขาตรงหน้าของซอกจิน ซอกจินรู้ว่ามันหมายความว่ายังไง นัมจุนมักจะอ่านใจเขาได้เสมอ...เขาไม่ได้ต้องการให้มันเป็นแบบนี้หรอกนะ คนอย่างนัมจุนจะไปรู้อะไร...แต่มันก็แค่วันนี้วันเดียว วันเดียวที่เขากับนัมจุนจะกลับมาเหมือนกับเป็นคนรักกันอีกครั้ง
ซอกจินยกยิ้มเล็กน้อย ก่อนที่จะส่งมือให้กับนัมจุน นัมจุนรู้ดี...รอยยิ้มที่ไม่จริงใจของซอกจิน แม้มันจะเป็นเพียงสิ่งที่ซอกจินพยายามปั้นขึ้นมา แต่มันก็ทำให้นัมจุนสุขใจ ถึงแม้ใจจะเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม...
เวลาล่วงเลยจนถึงบ่ายสามโมง มือของนัมจุนไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยออกมือของซอกจินเลย ซอกจินรู้สึกได้ ถึงความอบอุ่นที่ส่งผ่านมือของนัมจุน มันทำให้เขารู้สึกอุ่นใจ อุ่นใจทุกครั้งที่อยู่กับผู้ชายคนหนึ่ง ความรู้สึกอบอุ่นที่ไม่เคยรับมาตลอด 10 กว่าปี...แต่จะมัวมาคิดถึงเรื่องในตอนนั้นก็ไม่ได้ มันไม่เหมือนเดิม ไม่ว่าเรื่องใดๆก็ตาม...
นัมจุนหยุดเดินจนทำให้ซอกจินเกือบจะชนหลังของนัมจุน ซอกจินเงยหน้ามองนัมจุน นัมจุนมองอะไร? เมื่อมองไปยังด้านหน้าก็พบกับต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่ นี่มันทางไปนัมซานใช่หรือเปล่า? นัมจุนยกยิ้มเล็กน้อยจนเห็นลักยิ้มข้างแก้มอันเป็นเอกลักษณ์ นัยน์ตาของนัมจุนวูบไหว ซอกจินมองออก...เขากำลังรู้สึกหวั่นใจ เขาเองก็รู้สึกแบบเดียวกับนัมจุน
“สิ้นเสียงดนตรีวันคริสต์มาส เธอจะไปจากฉัน ฉันทำได้เพียงมองเธอจากด้านหลัง ไม่มีทางที่เราจะได้รักกันอีกต่อไป” แม้เป็นเพียงเสียงกระซิบแต่ซอกจินกลับได้ยินชัดเจน
“วันแรกที่เราเจอกัน เราเจอกันตรงหน้าต้นคริสต์มาส” ซอกจินหลุบตามองลงไปข้างล่าง ในขณะที่นัมจุนพูดถึงเรื่องราวในอดีต
“ที่โน่นเขาเปิดเพลงวันคริสต์มาสดังมากเลยเนอะ วันนั้นผมโดนน้องสาวใช้ให้มาซื้อของขวัญในวันคริสต์มาส มันน่าตลกมากที่ชายหน้าตาดุๆคนหนึ่งเดินถือตุ๊กตาหมีสีชมพูตัวใหญ่ๆ ผมจอดรถไว้ไกลกับร้านตุ๊กตามาก แต่นั่นก็ทำให้ผมพบกับผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังยืนอยู่คนเดียวหน้าต้นคริสต์มาส ปากของเขากำลังขยับ ผมเดาเลยว่าเขากำลังร้องเพลงอะไรซักอย่างอยู่แน่นอน เขาหน้าตาน่ารักมาก แก้มของเขาเป็นสีชมพูระเรื่อ ปากแดงเหมือนลูกเชอร์รี่ ใจผมกำลังเต้นแรง มันทำให้ผมรู้เลยว่า ผมต้องชอบผู้ชายคนนี้อย่างแน่นอนเลย”
“...” ซอกจินเลือกที่จะไม่พูด แต่เลือกที่จะฟังสิ่งที่อีกคนกำลังเอ่ย แต่แปลก...ที่เขาไม่ได้รู้สึกรำคาญเลย กลับชอบมันด้วยซ้ำ...
“แม่ผมเคยสอนเอาไว้ว่า ถ้าชอบใครคนหนึ่งแล้วถูกใจ ให้เดินเข้าไปหาเขาเลย เพราะคนเราก็เหมือนกับสายลม ที่พัดผ่านมาแล้วก็ผ่านไป มันอาจจะไม่มีทางย้อนกลับมาหาเราได้ ในวันนั้นผมเลยเลือกที่จะเดินไปหาเขา แทนที่จะกลับบ้าน”
“พะ...พอเถอะนัมจุน...”
“ผมเดินถือตุ๊กตาหมีสีชมพูตัวใหญ่นั้นแล้วยื่นไปให้เขา เขาทำหน้าตาตกใจผมด้วยนะที่ผมทำแบบนั้น แก้มของเขาเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆจนเหมือนกับไฟคริสต์มาสดวงนั้นเลยแหล่ะ” นัมจุนพูดพลางชี้ไปที่หลอดไฟที่ประดับอยู่บนต้นคริสต์มาส “และเขาคือรักแรกของผม”
ที่บอกให้พอน่ะ...เพราะกลัวว่าจะร้องไห้ต่อหน้านัมจุนน่ะสิ...
หิมะที่ในตอนแรกตกไม่หนักมาก แต่ตอนนี้กลับตกลงมาอย่างไม่ขาดสาย แต่มันเหมือนกับสร้างบรรยากาศให้กับเขาทั้งสองคนมากยิ่งขึ้น น้ำตาที่ตอนแรกคลออยู่เบ้าตาของซอกจิน ตอนนี้กลับเอ่อล้นออกมา เหตุผลน่ะเหรอ...เพราะคนตรงหน้านี่น่ะสิ
“ผมไม่ใช่ผู้ชายโรแมนติก ถึงขนาดมาบอกพูดเรื่องแบบนี้ตอนบ่ายสาม ผมนี่มันแย่จริงๆเลยนะ” นัมจุนหัวเราะแห้งก่อนที่จะดึงอีกคนไปกอดหลวมๆ
เมื่อไหร่กันที่เราจะสามารถทักทายกันได้อย่างอบอุ่น
ยิ้มให้กันและกัน และเดินเข้าไปถามไถ่ว่าเป็นยังไงบ้าง
เราเคยมีความสุขกันมากแค่ไหนจำได้มั้ย?
เมื่อไหร่กันที่ผมจะสามารถยิ้มต่อหน้าเขาได้อย่างมีความสุข...
เสียงหัวใจของทั้งสองคนเต้นแรงมากแค่ไหน ต่างคนต่างรู้ ก็แค่วันนี้วันเดียว วันเดียวเท่านั้นที่เขากับนัมจุนจะทำตัวเหมือนคู่รักกัน...ทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถึงแม้เรื่องเมื่อ 10 ปีก่อนยังอยู่เต็มอก ซอกจินค่อยวางหัวของตัวเองไว้บนไหล่ของนัมจุนช้าๆ ก่อนที่หลับตาลง ปล่อยให้ทั้งคู่ได้ทำตามสิ่งที่ตัวเองโหยหามานาน
จากมาด้วยความไม่เข้าใจ พอมาเจอกันมันก็ต้องเจ็บปวดกันเป็นธรรมดา...
“ซอกจินครับ” ซอกจินลืมตาช้าๆ ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมามองเจ้าของเสียงที่เรียก
“สุขสันต์วันคริสต์มาสย้อนหลังนะครับ”
ซอกจินมองสิ่งที่อยู่ด้านข้างตัวของนัมจุน ตุ๊กตาหมีตัวยักษ์สีชมพู...อย่าบอกนะว่านี่คือของซอกจิน? ซอกจินขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนที่จะมองหน้านัมจุน นัมจุนไม่พูดแต่อุ้มเจ้าตุ๊กตาหมีตัวยักษ์นี่ขึ้นมาแทนแล้วส่งให้กับซอกจิน
ไม่ต้องถามว่าตอนนี้ซอกจินรู้สึกยังไง มันทั้งดีใจและทั้งอายคนแถวนั้น...คิดดูสิผู้ชายที่หน้าตาหล่อๆทั้งสองคนกำลังยืนอยู่หน้าต้นคริสต์มาสกลางเมืองแถมคนตัวเล็กกว่ายังอุ้มตุ๊กตาหมียักษ์สีชมพูอีกด้วย มันเป็นภาพที่น่ารักสำหรับใครหลายๆคน แต่มันก็ไม่ใช่ว่าจะทุกคนที่มองแบบนี้ซะหน่อย ถูกมั้ย?
“จะ 4 โมงแล้ว ผมต้องรีบไปซื้ออาหารเสริมให้จีมิน เดี๋ยวร้านปิดซะก่อน”
“อ๊ะ...เดี๋ยวสิ”
“ขอบคุณสำหรับวันดีๆแบบนี้นะครับพี่ กลับบ้านดีๆนะครับ” นัมจุนยิ้มจนตาหยีก่อนที่จะรีบเดินออกจากบริเวณนั้นทันที...ให้เค้าเดินอุ้มเจ้ายักษ์นี่กลับบ้านคนเดียวเนี่ยนะ...
ว่าแต่...วันคริสต์มาสมันเลยมาแล้ว ทำไมยังไม่มาเก็บต้นคริสต์มาสอีก?
เมื่อลับสายตาจากซอกจิน นัมจุนก็รีบวิ่งเข้าร้านกาแฟทันที ไม่ใช่อะไรหรอก เพราะเขานัดเพื่อนของเขาไว้น่ะสิ มาตรงตามเวลาที่นัดเป๊ะ ไม่งั้นล่ะก็คงโดนเพื่อนคนนี้บ่นจนหูชาแน่ๆ...
“แบบนี้เมียมึงจะยอมใจอ่อนเหรอวะ?”
“ไม่วันใดก็วันหนึ่งแหล่ะ กูอุตส่าห์ยัดเงินไอ้เจ้าของบริษัทต้นคริสต์มาสต้นนี้ว่าอย่าเพิ่งรื้อจนกว่ากูจะพาซอกจินมาที่นี่เชียวนะ ค่าต้นนี่ก็หมดไปเกือบครึ่งล้านวอนล่ะ”
“เออๆพ่อคนรวย ไอ้กูก็อุตส่าห์ตั้งหน้าตั้งตาไปเอาไอ้หมีควายสีชมพูนี่มาให้ หวังว่าพี่เขาจะยอมใจอ่อนให้มึงซักวันนะ ไม่งั้นกูคงต้องมาทำอะไรแบบนี้อีกแน่...”
“ไม่ต้องห่วงหรอกโฮซอก ไม่วันใดก็วันหนึ่งจริงๆ”
“เฮ้อ...ว่าไปว่ามาทำไมกูถึงไม่มีคนมาทำอะไรแบบนี้ให้บ้างนะ หน้าตากูออกจะหล่อเหลา! แต่กูไม่อยากได้ไอ้หมีควายนี่หรอกนะ...รกห้อง ถ้ากูเป็นพี่ซอกจินนะ คงคิดหนักแหล่ะว่าจะเอามันไปวางไว้ที่ไหนน่ะ”
“พ่อของจองกุกไง คนที่จะเอาของมาให้มึง” เมื่อนัมจุนพูดจบ โฮซอกก็หันควับมาหาเขาพร้อมกับเอามือฟาดไปที่ไหล่ของนัมจุนแรงๆหนึ่งที
“อย่าปล่อยหมาออกจากปากนะไอ้เพื่อนเวร”
“ความจริงทั้งนั้นที่พูด มึงเองก็มีลูกเป็นตัวเป็นตนแล้ว มึงยังจะหาความรักที่ไหนอีก อายุก็ไม่ใช่น้อยๆแล้วนะ 32 แล้วนะเว้ย”
“มึงมีเมียแก่เอง ช่วยไม่ได้”
“แก่แต่เด็ดกูก็โอเคแหล่ะสัส”
“ไอ้นี่วอนโดนตีน -_____-”
เสียงหัวเราะของเพื่อนรักทั้งสองที่ดังในร้านกาแฟ ทั้งสองหน้าตาหล่อเหลากันทั้งคู่ ทำให้สาวใหญ่สาวเล็กในร้านมองตาละห้อย อยากจะจับกินเสียตรงนั้น (ถ้ามารู้ความจริงนี่อกหักกันระนาว)
แต่ในอีกมุมหนึ่งของร้าน มุมที่มองเห็นโต๊ะของทั้งคู่ถนัด เจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลเข้มค่อยๆลดหนังสือพิมพ์ลงเพื่อมองคนที่กำลังกระหน่ำฟาดคนที่ผมสีบรอนด์ทองอยู่ ‘จอง โฮซอก’ นายทำตัวน่ารักเหมาะสำหรับเป็นอาหารตาและอาหารใจกับพวกสุภาพบุรุษจริงๆเลยนะ
“ต่อให้นายหนีฉันไปไกลซักแค่ไหน ฉันก็ตามหานายเจออยู่ดี จองโฮซอก”
เขาพูดก่อนที่จะยกยิ้มขึ้น ใบหน้าหล่อที่ใครเห็นเป็นต้องหลง สันจมูกที่ได้รูปสมกับเป็นคนเกาหลีแท้ๆ เขาวางเงินใบบนโต๊ะก่อนที่จะเดินหายไปจากร้าน แต่ก่อนจะไปเก็บภาพของโฮซอกไว้หน่อยจะเป็นไรไป
เพราะถ้าคนที่ขึ้นชื่อว่า ‘สามี’ ถ่ายรูป คงไม่มีใครกล้ามาด่าเขาหรอก จริงมั้ย?
เสียงชัตเตอร์ดังขึ้น ทำให้โฮซอกรู้ได้ทันทีว่าต้องมีคนกำลังถ่ายรูปอยู่แน่ๆ แต่พอโฮซอกมองไปทางต้นเสียงก็พบว่าคนๆนั้นได้หายไปแล้ว บางทีเขาอาจจะถ่ายรูปบรรยากาศในร้านก็เป็นได้ แต่มันมีบางอย่างทำให้เขาไม่แน่ใจกับความรู้สึกนี้น่ะสิ...
บางที ‘เขาคนนั้น’ อาจจะกลับมาก็ได้
เขาคนนั้นที่โฮซอกพยายามหนีเขามา 10 กว่าปี...
หวังว่าความพยายามของเขาจะไม่กลายเป็นศูนย์หรอกนะ...
เป็นคนชอบทิ้งอะไรต่อมิอะไรไว้ให้คิด ถถถ
อย่าลืมกด Fav.+เม้นต์ด้วยนะเคิ้บบบบบบ♥
ความคิดเห็น