ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    shadow of the sun&light of moons

    ลำดับตอนที่ #8 : แหวนในตำนาน

    • อัปเดตล่าสุด 7 ต.ค. 49


    --*เตรียมกลับสู่โลกปัจจุบัน  3...2...1...

                "โอโย้ยย๋อ"  เซเลสทำหน้ามึนเล็กน้อยหลังจากดูภาพเสมือนจริง

    "ทีหลังก็หัดมีเก้าอี้เหมือนตามโรงหนังเค้าบ้างน่ะลุงปวดหลังชะมัด"  โพฮาบ่นเล็กน้อยก่อนที่ตัวเองล้มตัวลงนอนกับพื้น

    "จะเก็บไว้พิจารณาทีหลังน่ะ  แต่ขออย่าง อย่างเรียกลุงได้ป่ะมันแทงใจ ถึงอายุจะเป็นทวดแล้วก็เหอะ  น่าตายัง16 อยู่เลยน่ะTT"  เ ชนทำท่าทะเล้น

    "นี่ อย่าทำหน้าอย่างนั้น มันไม่เข้าก่ะอายุ"  แม็กซ์บ่นพึมพำ

    "- -^"  เชนทำหน้า  "ตอนนี้มาเข้าเรื่องกัน เรื่องที่ชั้นจะบอกพวกเธอก็คือ ทุกอย่างนั้นเป็นความจริง แต่เป็นเหตุการณ์จำลอง"  เชนเริ่มทำหน้าครียส ซีเรียส  "เธอผู้นั้นคือเจ้าหญิงลูน่า  ส่วนผู้ชายอีก 4 คน ที่มีไอของสัตว์กระจายออกมาจากตัวทั้ง4 นั้นก็คือวิญญาณนักสัตว์"

    "นี่กำลังจะบอกว่า  นิยายปรำปราที่เล่ากันมานานเป็นศตวรรษนี่เป็นจริงเหรอ ไร้สาระชะมัด"  ครูซิสตั้งใจบ่นออกมาดังๆ

    "และชั้นกำลังจะบอกต่อว่า ในเรื่องนั้นมีบุคคล6 คนหลัก คนแรกเจ้าหญิงลูน่ามีพลังวิญญาณนักสัตว์  คนที่2นายพลชาร์  คนที่ปลดปล่อยพลังของเฮเดส  คนที่3 ชื่อว่าบรีน พลังดวงตาราชสีห์**    คนที่4 ชื่อว่า เกรย์ พลังเขี้ยวจิ้งจอก**     คนที่5 ชื่อว่า ฮานนา มารยาอสรพิษ**      คนที่6  ชื่อว่าคาว พลังปักษาภาคี**  สี่คนหลังคือผู้ที่มีพลังวิญญาณสัตว์"  เชนพูดอย่าไม่สนใจ

    "เห๊อะ น่าเชื่อจัง"  ครูซิสทำหน้าเบื่อหน่าย

    "ซึ่งแหวนนี่จึงป็นแหวนของเธอเซเลส แต่เธอยังไม่สามารถรวมแหวนเข้ากับไม้เท้าได้ เนื่องการรวมกันจะต้องอาศัยเลือดวิญญาณสัตว์อย่างน้อย1ชนิดซึ่งตอนนี้เราก็เจอแล้ว"  เชนเหล่ตาไปทางนูม่า

    "ขนลุกตายหล่ะ"  นูม่าเบ้หน้า  "ต้องทำยังไง"

    "ไม่อยากเชื่อ พวกเธอเชื่อมันด้วยเหรอให้ตายซิ"  แม็กซ์บ่นแล้วยืนพิงหลังกับครูซิส

    "เอาเป็นว่าเชื่อก็แล้วกันน่า จำไม่ได้เหรอชั้นสามารถสะกดจิตด้วยตาได้น่ะ"  นูม่าหันมาพูดเล้วกลอกตาอย่างเบื่อหน่าย

    "เห้อ  จิงไม่จิงลองดูเดี๋ยวก็รู้"  โพฮาเอาคางไปเกยบนไหลเซเลส

    "เสร็จแล้ว"  เชนถือแหวนไว้ในมือ "เซเลสเธอวางไม้เท้าไว้นี่แล้วก็แหวนด้วย นูม่าต้องขอเลือดเธอหน่อยซักหยดก็ยังดี เธอด้วยน่ะเซเลส"  เชนถือแหวนและไม้เท้าของเซเลสไว้ในมือเดียวกัน

    "ด้าย"  นูม่าหยิบมีดขึ้นมาจากไหนก็ไม่รู้ และทำท่ากรีดลงบนแขน

    "เฮ้ย หยดเดียว"

    "เออๆ"  แล้วนูม่าก็เลื่อนไปที่นิ้ว และก็กรีดเลือดออกจากนิ้วให้หยดลงไปในมือเชน และเซเลสก็ทำตาม

    ทันใดนั้นมีแสงวูปวาป และก็ดับลง พร้อมกับเหลือแหวนวงเดียว

    "อ๊อคเลือด เป็นลม"  โพฮาทำท่าเซล้มไปทางนูม่า แต่นูม่าเบี่ยงตัวหนี จึงหล่นโครมลงอย่างง่ายดาย  "โอ้ยเจ็บน่ะ!!"

                "ถือไว้น่ะ" เชนส่งแหวนให้เซเลส  "พูดว่า ซาเรเรียออร์  สิ"

                "ซาเรเรียออร์!!"  ทันทีที่เซเลสพูดจบ แหวนขอเซเลสก็กลายเป็นไม้เท้าในทันที

                "สิ่งนี่มีพลังเหนือความคาดหมาย เป็นพลังเวทที่ไม่มีจุดจบ  ซึ่งถ้าเจ้ามีสิ่งนี่ เจ้าคือเจ้าหญิง"  เชนพูดพลางคุกข่าแบบชันขาไว้อีกข้าง"

                "พูดจริงดิ"   เซเลสทำท่าผงะ

                "เป็นเรื่องจริง"  โพฮา หันไปแย่งเขี้ยวใส่อีก2คนที่ไม่เชื่อ

                "ว่าแต่ไม่ต้องหรอก สมมุติว่าท่านเป็นลุงแล้วกันน่ะ^^"  เซเลสเกาหัวแกรกๆ

                "ToTครับ(ไม่อยากแก่)   แต่ถ้ามีนี่จะไปสถานที่ราชการที่ไหนก็ไปได้  แค่โชว์แหวนแล้วพูดว่า ต่อไปนี้ข้าคือเจ้าหญิง ถ้าไม่เชื่อก็โชว์ไม้เท้าได้เลยครับ"  เชนขึ้นมายืนตามปกติ

                "ไม่ต้องเกร็งน่า  สบายๆ เพื่อนกันๆ"  เซเลสบอกกับเพื่อนที่ผงะไปด้านหลัง  นูม่าจึงยักคิ้วด้วยลักษณะกวนๆ  เพื่อนจึงกลับมาอยู่ในสภาพเดิม

                "แล้วเวลาท่านจะเปลี่ยนกลับก็ให้พูดว่า ซาเรเรียออ เหมือนกันน่ะครับ"  เชนอธิบายต่อ

    --แซกๆ เซเลส แม็กซ์ คูซิส นูม่า โพฮา ตื่นได้แล้วตื่นๆๆ สัตว์นรกมาแล้ว

                "ถึงเวลาขึ้นไปแล้วหล่ะน่ะ"  เชน หยิบขวดใสเททรายสีแดงลงบนมือ

                "อ้ะอ๋า"  เซเลส รู้ว่าถึงเวลากลับแล้ว

                "ฟู่"  เชนเป่าทรายสีแดงใส่ทุกคนในบริเวณนั้น และก็หายไปในทันที

                "กว่าจะมาน่ะพวกเธอ ชั้นเหนื่อยมากเลยรู้มั้ยตั้งแต่ ป้องกันไม่ให้วิญญาณเข้าสิง ให้พลังสร้างเกราะให้พวกเธอ เพิ่มพลังกับวงแหวนเวทที่ให้หมดแหล่มิหมดแหล่ จนกระทั้งปลุกพวกเธอนี้แหละยากที่สุดในโลกเลย แล้วยังต้องมาต่อสู้กับพวกนี้อีก บ้าจริง"  มาม่าบ่นไม่หยุดพร้อมกับสู้ไปด้วย

                "เจ๊  กินยาชนิดเดียวก่ะแม่ผมอ่ะป่าวอ่ะ  บ่นยาวพอๆกันเล้ย"  แม็กซ์แกล้งพูดแหย่มาม่า

                "อ่าน่ะ มาม่าเค้าก็เป็นอย่างนั้นมาแต่ไหนแต่ไรแล้วนี้เนอะ"   เซเลสพูด พลางกับถอดแหวนออกมา  "ซาเรเรียออร์"  ทันใดนั้นก็มีแสงวูปวาป เผาผลาญเหล่าอสูรกายและสัตว์ประหลาดหาไปกลายเป็นจุล

                "เซเลสนี้เธอ 0-0"   มาม่าทำหน้าตกใจโอเว่อร์

                "โอ้โหพลังรุนแรงเงี๊ยะเลยเหรอ  ไม่ต้องถึงมือพวกเราแล้วมั้ง"  โพฮาบ่นทำงอน

                "จะบ้าเรอะ ให้ชั้นเปลี่ยนแหวนเป็นไม้เท้า เสร็จแล้วก็เปลี่ยนไม้เท้าเป็นแหวน  แล้วต้องทำอย่างนี้กี่รอบน่ะเนี๊ยะ  ทำแต่อย่างนี้น่ะเหรอ ไม่เอาหรอก"   เซลสเดินไปเดินมาทำท่าคิดหนัก

                "แต่ว่าน่ะ  แค่ใช้พลังเปลี่ยนก็ตั้งขนาดนี้แล้ว  เกิดเธอใช้เวทไปมันมิชิปหายกันหมดหรือท่าน"   นูม่าหรี่พลางพูดประชด

                "ชั้นอยากจะบ้า"

                "นายบ้าได้ครูซิส  เดี๋ยวหม่าม้าชั้นออกค่าโรงบาลบ้าให้แกเอง"  แม็กซ์พูดปลอบใจเชิงกวนส้น

                "เฮ้อตอนนี้หยุดเถียงได้แล้วโอเค้  ไหนลองเล่ามาม่ามาซิ ทำไมเธอถึงมีสิ่งนี้ได้น่ะเซ?"   มาม่าเริ่มตีหน้าเครียดถามความจริง

                "คือว่าอย่างนี้น่ะมาม่า"  ทุกคนพูดขึ้นมาพร้อมกัน และเริ่มเล่าเรื่องไปเรื่อยๆจนจบ

                "อือ หึ๊ อย่างนี้เองน่ะเหรอ  มิน่าหล่ะชั้นถึงได้มาเป็นครูของพวกเธอฮ่ะๆๆ ท่านผู้นั้นคิดไว้ทกอย่างจริงๆ"  มาม่าซังยิ้มสยดสยอง(ในสายตาพวกเซเลส)  แล้วเธอก็เดินออกไป  "ตามชั้นมา  ชั้นต้องพาเธอไปหาคนๆหนึ่งไม่น่าเชื่อเลยว่าพวกเธอ 2 คน ฮ่ะๆๆฮ่าๆๆ"  มาม่ายังคงยิ้มไม่หุบและพวกเซเลสก็เดินตามมาติดๆ

                "ชั้นว่ามันน่ากลัวน่ะ"  โพฮาเข้าไปกระซิบกับนูม่า

                "สยองตายหล่ะ 100วัน 1000ปี ไม่เคยเห็นมาม่าทำหน้างี้มาก่อนเลย"  เซเลสกระซิบบ้างแล้ว 3 สาวก็พยักหน้าเห็นด้วย และทันใดนั้น

    --*ครืดๆๆๆๆ

                ประตูขนาดใหญ่กำลังเลื่อนขึ้นไป  ทั้งๆที่ปกติประตูนี้คือกำแพงที่มีนักเรียนเดินไปเดินมาอยู่ตลอด  หรือจะพูดว่าวิ่งผ่าน เดินชน ปาขนมกัน หรือ พิงประตูนั้น แต่กลับไม่มีใครรู้เลย  หลังจากประตูเปิดจนสุดแล้วพวกเราก็เดินเข้าไป

                "พวกเธอออกมาก่อน  มันเป็นกับดักน่ะ   มาม่าไวไวควิกรสต้มยำมันกุ้ง  เปิดประตูจริงด้วยค่ะ"  มาม่าพูดพลางดึงคอเสื้อของครูซิสที่จะเดินเข้าไปข้างในออกมา

                "รหัสบ้าอะไรฟร่ะ มาม่าไวไวยำยำ ไม่เติมปลากระป๋องลงไปด้วยเลยหล่ะ ยังมีอีกน่ะนมข้นหวานตรามะลี ใหม่และสด สนป่ะมาม่า^0^/"  แม็กซ์ นายทำหน้าที่คนปากเสียได้ยอดมาก

                "รับทราบแก้ไขระบบแล้ว"   เสียงคอมฯเพศหญิง= =  กำลังพูดออกมา

                "ตามชั้นมา ทุกฝีก้าว ท่าไม่อยากตาย  เราจะไปหาผ.อ.กัน"  มาม่าพูดจบทุกคนก็เดินตามมาแต่ครูซิสกลับเดินสะเปะสะปะไม่รู้เรื่องรู้ราว

    --*ฉึกๆ

    --*ครืน

    --*ซู่วๆๆๆ

                "ชั้นบอกว่าให้ตามมาทุกฝีก้าวไง"  มาม่าเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็ว เพื่อช่วยเจ้าแกะดำของกลุ่ม

                "ไม่ได้เรื่องเล้ยให้ตายซิ เอ๊ะให้ตายซิ ให้ตายซิ  ชั้นตติดนิสัยนูม่ามาแล้วเหรอเนี๊ยะ"  เซเลสบ่นขณะที่เดินตามมาม่าทุกรอยก้าว

                "ทำอย่างนั้นน่ะถูกแล้ว"  นูม่าหันมายิ้มสยองให้เซเลส ทั้งๆที่ความมืดรอบตัวก็น่ากลัว ยิ้มนูม่าอีกนี้สิ ถึงจะใส่ผ้าปิดปากอยู่ก็เหอะน่ะ  แต่ตาราชสีห์ไม่ใช่เล่นๆเลยน่ะ= =^

                "อาวหล่ะถึงแล้ว  ท่านผ.อ.ค่ะตามที่ท่านคาดกานไว้ถูกแล้วค่ะ  ข้าพาพวกเค้ามาแล้ว"

                "ชั้นรู้แล้วหล่ะ   พาข้ามาได้"  มีเสียงตอบก้องเข้ามาจากทุกด้าน  และทันใดนั้นพื้นใต้เท้าก็หายไป  พวกเราทุกคนจึงไหลลงไปพร้อมกับมาม่า

    --*โป๊ก(หัวครูซิสโขกกับพื้นตอนไหลลงมาถึงจุดหมาย)

                "ยินดีต้อนรับ ขอโทษด้วยน่ะเนื่องจากขนโซฟามาไม่พอ ไม่นึกว่าจะมากันหมด"  คนผมสีแดงสั้นซอยแต่งตัววัยรุ่นเดินเข้ามาทัก  แล้วไปนั่งบนเก้าอี้   "ชั้นคือผ.อ.ของที่นี่ ชั้นคิดว่าเรื่องทั้งหมดพวกเธอรู้กันแล้วใช่มั้ย"

                "0-0"   หน้าของทุกคน

                "^v^" หน้าของมาม่าและผ.อ.

                "มิน่าหล่ะ มาม่าถึงวัยรุ่นซะจริง  ที่แท้ผ.อ.เป็นอย่างนี้นี่เองน่ะ"  โพฮาบอกพลางปัดมือแล้วทำหน้าไม่อยากเชื่อ

                "ทุกคนต่อไปนี้เรียกชั้นว่ามีมี่น่ะจ๊ะ"  มาม่าหันมาบอกทุกคนที่อยู่ในห้อง

                "ห๊ะ  ชื่อโหล๋ยโท้ยชะมัด"  แม็กซ์พูดขึ้นมา

    --*โป๊ก  (มาม่าโยนหนังสือหนา3นิ้วใส่หัวแม็กซ์)

                "ดูนี่ซะ"  มาม่าเอามือไปลูบบริเวณท้ายทอยแล้วดึงสิ่งที่คล้ายกับหนังยางเป็นแผ่นบางๆ แล้วลอกออกมาตั้งแต่ท้ายทอย ผม หน้า  ออกมาเป็นแผ่นหนังบางๆ

                "0-0"  หน้าทุกคน

                "^-^Y" หน้ามาม่า เอ้ย! มีมี่

                "ที่จริงแล้วชั้นชื่อมีมี่ มีพลังวิญญาณสัตว์เหมือนกันนั้นคือ กรงเล็บฟินิกส์ ชั้นน่ะไม่ได้อายุ29 หรอกน่ะ ที่จริงชั้นน่ะ 19 แต่ตานี่มันบอกว่า 19อายุเท่าๆกับนักเรียนเลย ก็เลยต้องบวกเข้าไปอีกตั้ง10"

                "โธ่เอ้ย แค่ 10 ปี"

                "10ปี สำหรับผู้หญิงมันแก่ขึ้นทันตาแหละย่ะ  พวกเราน่ะรู้เรื่องของซึ่งกันและกันตั้งแต่  เค้าเห็นชั้นแล้วเล่นวิ่งไล่ตะครุบจะจับมากินหน่ะน่ะ"

                "ช่วยไม่ได้ชั้นมัน เขี้ยวจิ้งจอกนี่นาปัดโธ่อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้ไปสร้างบ้านในท้องชั้นก็แล้วกัน"

                "เอ่อ..."  พวกเราทุกคน

                "อ่อ  ขอโทษทีน่ะที่จริงชั้นอายุ22ปีน่ะ ชื่อคูล มีพลังเขียวจิ้งจอก ส่วนนั้นมีมี่ พลังกรงเล็บฟินิกส์"   ผ.อ.สุดจ๊าบกำลังแนะนำตัวเองและคู่ขาข้างๆ

                "กลับไปเล่าต้องไม่มีคนเชื่อแน่ว่าผ.อ.น่ะเป็นไง"  โพฮาซุบซิบ

                "เพราะงั้นถึงไม่ให้คนอื่นเห็นจะดีกว่าน่ะสิ"  นูม่าพูดตอบกลับเบาๆ

                "ใช่แล้วนูม่า ไม่ให้ใครเห็นจึงจะดีกว่า มันถูกต้องแล้ว"   คูลพูดพร้อมกับถอดเสื้อคลุมตัวนอกแล้วพาดไว้ที่บ่าแล้วยืนพิงโต๊ะ

                "ได้ยินด้วยเหรอ  ออใช่ จิ้งจอกหูดี"  นูม่าบ่นพึมพำ

                "โอ๊ย  ให้ตายสิ  ชั้นเจ็บตั้งแต่ต้นเรื่องแล้วน่ะ"   ครูซิสบ่นพลาง  ลูบที่หัวไปมา

                "ตอนนี้เรายังทำอะไรไม่ได้เพราะว่า ยังไม่มีปักษาภาคี  ที่จริงเค้าจะนั่งอยู่ตรง"  คูลพูดพลางกับหันไปที่เก้าอี้  "ตรงนี้"

                "ชั้นก็นั่งอยู่นี้ไง"  บุคคลลึกลับยักคิ้วเล็กน้อย

                "เค้าชื่อแซม มีพลังปักษาภาคี คือไฟนั้นเอง  เอาหล่ะ  คราวนี้เราก็ต้องช่วยเชนออกมาจากฝันบรมนั้นก่อน"  คูลพูดจบ ว่าที่พลังวิญญาณทั้ง4ก็เดินไปยืนเป็นวงกลม รวมทั้งนูม่า

                "อะไรเหรอ"  นูม่าลากเซเลสเข้าไปอยู่กลางวง

                "เธอเปลี่ยนแหวนเป็นไม้เท้า แล้วที่เหลือเธอจะต้องทำตามที่เธอรู้สึก"  นูม่าพยักหน้าให้เซเลส เซเลสจึงทำตาที่บอก

                ทันใดนั้น นูม่าก็มีแววตาเปลี่ยนไป  ม่านตาบีบตัวลง เหมือนตาของราชสีห์   เล็บของมีมี่ยื่นยาวออกมา3นิ้วคือ โป้ง ชี้ กลาง ของทั้งมือทั้ง2 ราวกรงเล็บนกผู้ล่า  คูลเริ่มมีเขี้ยวงอกออกมา สายตาบ่งบอกถึงความโหยหาที่จะล่า  แซมมีปีกงอกออกมาเป็นปีกที่ไม่ธรรมดา ซึ่งมีไฟห่อหุ้ม ซึ่งเวลากระพือปีกก็สามารถเปลี่ยนบรรยากาศให้เป็นร้อน เย็น ได้ 

    ทันใดนั้น วิญญาณทั้ง 4 ก็พวยพุ่งขึ้นสู่อากาศและลงตรงไปที่เซเลสทันที เซเลสเกิดอาการชักเล็กน้อย จนมีเส้นเลือดปูดไปเรื่อยๆราวกับว่ามีสิ่งบางอย่างไหลไปตามเส้นเลือดมายังมือที่ถือไม้เท้า และไหลเข้าสู่ไม้เท้า  และวิญญาณในไม้เท้าก็แตกกระจายออกวิญญาณพุ่งกับสู่ร่างเดิม   เซเลสดวงตากลายเป็นสีน้ำเงิน และเปลี่ยนสีแดงและเปลี่ยนเป็นสีดำ และกลายเป็นสีขาวเซเลสสลบลง ครูซิสจะเข้าไปพยุงแต่ไอเวทแรงกล้าปกคลุมอยู่ จึงไม่สามารถเข้าใกล้ได้  ตัวของเซเลสเริ่มลอยขึ้นในแนวนอน  และค่อยๆปรับทิศทางตัวเองเป็นแนวตั้ง  และเซเลสก็ทิ้งตัวลงสู่พื้นดินและเริ่มกระโดดพร้อมกับร้องเพลง เธอกระโดดพลางหมุนตัว กระโดดไปเรื่อย ร้องเพลงไปด้วย หรือบทสวดที่คล้ายทำนองเพลงจนมีแสงวาบออกมาและเธอก็สลบลงพร้อมกับคนทั้ง 4 ที่ยืนล้อมอยู่   ภายในวงกลมที่บุคคลทั้งสี่ยืนจับมือก็มีร่างๆหนึ่งลอยขึ้นมา เป็นร่างที่คุ้นตา นั้นก็คือ


    ----------------------------------------------------------------------------------------------
    ครั้งที่แล้วกินโก๋แก่
    คราวนี้กินปีโป้ หัวเเล่นเป็งบ้าเลย
    พอๆก่ะกินโก๋แก่เลยอ่ะน่ะ
    โห๊ะๆๆ มีของกินเป็นเเรงบันดาลจัย^^
    ชื่อ ลูน่า มาจากลูกพรุน
    ชื่อ บรีน เอามาจาก .ใบไม้สีเขียว+รีน(ที)
    ชื่อ เกรย์ มาจากถั่วกรีนนัด
    ชื่อฮานนา มาจาก อาหารหมา ^0^โดนเชือดมั้ยเนี๊ยะ
    ชื่อคาว มาจาก ใกล้กินเจ ก็นึกถึงของคาว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×