ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    shadow of the sun&light of moons

    ลำดับตอนที่ #4 : ตำนานที่แท้จริง 100%

    • อัปเดตล่าสุด 7 ต.ค. 49


      

                "โย่ว"  เซเลสปรากฎตัวบนโซฟา


               
    "โย่ว มาม่า" ตามด้วยคนอื่นๆ


               
    "เล่ามาได้แล้วน่ะมาม่าซัง" นูม่าพูดชิงบ่นเล็กน้อยขณะที่ลุกจากโซฟาไปยืนที่หน้าโต๊ะของมาม่าผู้เป็นอาจารย์


               
    "หนุ่มหนุ่มสาวๆ วิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้มันยากที่จะอธิบาย ทุกคนจะเป็นที่จะต้องเรียนวิชาประวัติศาสตร์ ซึ่งรื่องนี่จำเป็นมาก"  มาม่าพูดอย่างคล่องแคล่ว


               
    "นี่มันไม่ใช่เวลาที่จะมาเรียนหนังสือกันแล้วน่ะ!!"  แม็กซ์พูดออกมาพลางลุกขึ้น


               
    "ชั้นวบอกว่าต้องเรียน ไม่งั้นเล่าให้ตายก็ไม่รู้เรื่อง"  มาม่าตะหวาด


               
    "พอเถอะ ทุกคน  เชื่อมาม่าเค้า"   เซเลสตะคอกเบาๆ(เอ๋)


               
    "ทำไมหล่ะ เซ เวลานี่มันสงครามน่ะ"  ครูซิสหันมาพูด


                "ชั้นน่ะฝันเรื่องนี้มาซ้ำซ้อนเหลือเกินแล้ว ได้โปรดชั้นต้องการรู้"   เซเลสทำตาละห้อย  "ทุกครั้งที่ชั้นหลับตา ก็จะฝันอีก  และเป็นฝันที่ต่อกันนียนมาก เชื่อเหอะ"

    "ไร้สาระ"  ครูซิสบ่น

    "ไม่ไร้สาระซักนิด" นูม่าพูดขึ้น  "เซราเฟียใช่มั้ยล่า  หัดมีความรู้หน่อยซี่ ว่างๆก็อ่านหนังสือซะบ้าง ชั้นว่าเธอต้องฝันเห็นเค้าเหมือนชั้นแน่ๆ"

    "ตาสีเงิน" เซเลสพูด

    "ผมสีเงิน" นูม่าต่อ

    "ผมยาว"  เซเลสพูด

    "ไม่กวนตีน"  นูม่าเสริม

    "และล่าสุดเค้าขอให้ชั้นพาพวกเธอไปหาเค้า"  เซเลสพึมพำให้เบาที่สุด

    "ห๊ะ"

    "อะไรน่ะ"

    "แล้วจะไปไง"

    "ง่ายๆ"  เซสวาดวงแหวนเวทขึ้น  พร้อมกับทำท่าดีดเปียโน3-4ที


    --*โป๊ก
    !โป๊ก!โป๊ก!โป๊ก! (มีไม้มาเขกหัวเพื่อนของเซเลส)


               
    "อามิตาพุด อภัยด้วยน่ะชั้นลืมมนตร์สะกดจิต"  เซเลสบ่นพึมพำ และร่ายเวทใส่ตัวเอง  "โอ๊ะจำเวทได้แล้ว คุ้มกันด้วยน่ะมาม่า ปลุกได้ทุกเมื่อ"  แล้วเซเลสก็หลับไป


    --*ฟิ้วๆๆๆๆๆๆ


               
    เสียงวงแหวนสีทองขนาดใหญ่ที่กำลับหมุนสับไปสับมาอย่างรวดเร็ว จนเห็นวงแหวนหลายวง  หมุนตัดไปตัดมา  ขนาดที่ว่าความเร็วธรรมดา ผ่านไปต้องโดนปั่นเศษแน่ ภายในวงแหวนมีบุคคลคุ้นหน้า นั่นคือเพื่อนเซเลสนั่นเอง  ข้างๆ ก็มีคนที่นั่งอยู่บนโซฟาในชุดฮาวาย


               
    "ชั้นว่าตอนนี้แหละกวนตีนที่สุด"   เซเลสผลอหลุดปากออกมา


               
    "เซ...นี่มันอะไรกันน่ะ"  โพฮาหันหน้าจากวงแหวนออกมา


               
    "คุณเชน  ทำอะไรน่ะนั่นเพื่อนชั้น  ปล่อยพวกเข้าน่ะ"  เซเลสตะโกนลั่น


               
    "เชอะ  เดี๋ยวจะพังให้ดู"  ครูซิสพูดพลาง เดินออกจากวงแหวน "มันแค่ฝัน"


               
    "เดี๋ยว  เจ้าโง่  ที่มนี่มีสัมผัสความจริงอยู่ ไม่เชื่อเรอะไง"  นูม่าหยิบเข็มมาจิ้มที่นิ้วครูซิส


               
    "โอ้ยทำอะไรน่ะ"   ครูซิสสะดุ้ง


               
    " เดี๋ยวพอนายตื่น นายก็จะเห็นแผลนี่ที่นิ้ว  แต่ถ้าเกิดนายตายที่นี่  นายไม่มีสิทธิที่จะกลับไปยื่นยิ้มอีกแน่  เพราะนี่คือเซราเฟีย"  นูม่าพูดต่อ


               
    "เงียบๆกันหน่อย  ชั้นว่าแล้วอายุไล่เลี้ยกันต้องเป็นเพื่อนกันแน่ๆ"  เชนทำเป็นไม่รู้เรื่อง


               
    "แล้วจับทำไปฟร่ะ"  แม็กซ์พึมพำ


    --*เป๊าะ  (เชนดีดนิ้ว)


    --*ฟิ้ว..ฟิ้ว..ฟิว..ฟี้    (กลไกหยุดทำงานพร้อมกับลอยมาที่มือเชนและกลายเป็น
    แหวนธรรมดา


               
    "เราจะต้องรวมแหวนกับไม้คทาของเธอซะ  เธอตจะได้เป็นผู้ครองวิญญาณนักสัตว์ซักที"   เชนพูดพลางบอกปัดๆ  "แต่ตอนนี้ยังไม่ได้หรอกน่ะ"


               
    "?-?"  นี่คือหน้าของเพื่อนเซเลสที่กำลังงงกับเรื่องที่เกิด


               
    "อย่าทำหน้าสงสัยดิ๊"   เซเลสบ่นเมื่อห็นหน้าของเพื่อนๆ


               
    "ชั้นงงไปหมดแล้วน่ะ"  นูม่าทำหน้าดุ


               
    "เอ๊ะ  สายตาแบบนี้ ข้าคยเห็นที่ไหนน่ะ  มันดูคุ้นๆ  มานี้หน่อยสิ"   เชนลากนูม่าไปที่ใดซักที่  นูม่าขัดขืนแต่ไม่สามรถสู้เชนได้


               
    "อะไรน่ะ"  นูม่าอุทาน ขณะที่เชนใช้กล้องบางอย่างถ่ายาพที่ดวงตาของนูม่า


               
    "เจ๋งเป้ง  วัสดุที่หนึ่งดวงตาราชสีห์"  เชนทำท่าได้โชคชิ้นใหญ่


               
    "อะไรเหรอเซ.."   โพฮาทำหน้างง


               
    "งี้แหละ  เค้าไม่ค่อยเต็ม"  เซเลสส่ายหน้า


               
    "หยุด!" เชนทำมือหยุด "ห้ามถามห้ามพูด"  เชนจึงเปิดวีดีโออีกครั้ง  "คงจะได้ดูเต็มม้วนก็คราวนี่หล่ะมั้ง"


    -*ยินดีต้อนรับข้าสู่การมองเหตุการณ์


               
    "เอ๋!"   ทุกคนพากันอลหม่านกันใหญ่


               
    "เงียบหน่อย เดี๋ยวดูไม่รู้เรื่อง"


    -*
    5 4  3   2...1..


               
    'พวกท่านไม่ยุติธรรมเก็บค่าภาษีก็แพงยังีพวกรีดไถ่ พวกท่านไม่เข้าใจหัวอก
    คนจนบ้างรึ  แล้วการที่มาใจดีกับพวกเรา  เพื่อหวังในหลายสิ่งหลายอย่าง  พวกเราจะยอมเหรอ
    ' ชายแก่หนวดยาวในมาดยาจกตะโกนโหวกเหวก


               
    'ภาษีที่ข้าเก็บ คือ5%ของรายได้  ส่วนที่เหลือก็รื่องของพวกเข้า ทำไมหล่ะ
    ข้าไปก่อกรรมอะไรกับพวกเจ้าข้าน่ะไม่ได้เวทนาพวกท่านแต่อย่างใด  ทำไมต้องมากล่าวหากันด้วย
    ' ชายหนุ่มผู้ยศสูงศักดิ์


               
    'พวกท่านไม่คยยุติธรรม  สมควรตาย'  ชายแก่เริ่มใช้เวท บางคนก็เริ่มกระชับ
    อาวุธ พร้อมกับวิ่งเข้าหาทหารผู้มียศศักดิ์


               
    'หยุดน่ะ  หย่าห์..........ย๊ากกกกกกกกกกกก"   ชายผู้สูงศักดิ์ปลดปล่อยพลังในตัวออกมาอย่างน่ากลัว  'พวกท่านไม่เคยรู้ว่าข้าเสียสละมามากแค่ไหนแล้ว  ย๊าก......."


               
    'หยุดได้แล้วท่านนายพล'  หญิงสาวในชุดนักรบ แต่งก็ยังคงมีความงาม
    เหลือไว้ 
    'ท่านได้พลังนี้มาจากไหน  มันคือพลังต้องห้ามความมืดของมีลาโน่ไม่ใช่หรือไง"


               
    'ข้าแค่ต้องการจะช่วยทุกสิ่งทกอย่างในโลกนี้ให้ดีขึ้น"


               
    'เป็นไง ดีมั้ยล่ะทันทีที่พลังนี่ปลดปล่อยความชั่วร้ายและหายนะทั้งปวงจะเกิดขึ้น ถ้าเจ้าถูกอำนาจนั้นควบคุมโลกนี้ก็จะพินาศสิ้น"   หญิงสาวในชุดนักรบแผดเสียงออกมาด้วยความเสียในตัวบุคคลเบื้องหน้า   'skel Time'  การเคลื่อนไหวรอบตัวหยุดลงซึ่งคือเวลารอบตัวหยุด  'skelAquar' มีฟองอากาสห่อหุ้มเหล่าคนยากจนที่มีจิตใจมืดมิดและล่องลอยไปยังดวงดาวที่โสมม บนดาวเคราะอีกดวง  'ปลดskel'  เวทที่ร่ายมาทั้งหมดสลายออกไป


               
    '…….' บุรุษเบื้องหน้าก้มหน้านิ่ง


               
    'เจ้ามันเลวร้ายเกินกว่าที่จะอภัยให้ได้   ซาเรเรียออร์!!"


               
    "นั่น ไม้เท้าเซเลสนี่"  โพฮาชี้


               
    "เอ่อน่า"  เซเลสบอกปัดๆ

                
               
    'เจ้ากำลังว่าข้า  อย่างนั้นเหรอ'

                'ใช่ข้าว่าเจ้า ข้าพูดกับเจ้า  ข้าตำหนิเจ้า และข้าต้องฆ่าเจ้าและปิดผนึก  เพราะเจ้ามันชั่วช้า  ยิ่งเจ้าเป็นเพื่อนข้า ข้ายิ่งปล่อยไว้ไม่ได้  ต้องทำให้รู้สำนึก'  พูดจบ  เจ้าหญิงคนนั้นก็กัดนิ้วใช้เลือดตัวเองทาบไปที่ไม้เท้าพร้อมท่องมนตร์ที่ไม่ทราบภาษาออกมา

                'ทำไมหล่ะ  ทั้งๆที่ข้านั้น ทำเพื่อเจ้า  แรกด้วยตัวของข้า  เพื่อเจ้า  แต่ทำไม...'

                'เจ้าต้องหัดปลงซะบ้าง'  ฝ่ายเจ้าหญิงดูท่าจะท่องมนตร์เสร็จและตอบคำถามเพื่อนชายพร้อมกับชูไม้เท้าด้วยมือขวาและมือซ้ายช่วยประคองพลังเวท   จู่ๆ ท้องฟ้ามืดมิดดั่งพระอาทิตย์ดับสูญ  พระจันทร์ทั้ง3ดวงค่อยเรียงตัวและเปล่งแสงต่างสีออกมา  มีเพียงสีแค่ 3สีเท่านั้นคือ สีแดง  เขียว  ม่วง  ซึ่งพระอาทิตย์ถูกบังจนมืดมิดที่ดั่งนิยามที่ว่า ยามอาทิตย์อ่อนแสง พระจันทร์แรงกล้า  และรอบข้างของ องค์หญิงมีผู้ใช้พลังแปลกๆคอยเสริมตลอด

                'ในเมื่อเจ้าพูดเช่นนั้นข้าก็จะยอมให้ท่านฆ่าซะ ข้าคงทำอะไรไม่ได้'

                'เมื่อเจ้าพูดเช่นนั้นข้าจะสงค์เคราะห์ซะตอนนี้'   ขณะที่เจ้าหญิงเริ่มโจมตีด้วยเวทก็มีวิญญาณสัตว์ 4 ชนิดปรากฎขึ้นคือ  ราชสีห์,จิ้งจอก,ฟินิกส์.ปักษา  'ในฐานะวิญญาณนักสัตว์ ข้าขอสั่งให้พวกเจ้าฆ่าคนตรงหน้าชั้นซะ' สิ้นสุดคำสั่งวิญญาณสัตว์ทั้ง4 รวมตัวเข้ากับเวทที่เจ้าหญิงได้ร่ายไว้ก่อนและพุ่งตรงเข้าหาชายหนุ่มเบื้องหน้าทันที

    'ชาติหน้าข้าขอเกิดมาเป็นคนรักของเจ้าเล้วกัน'  บุคคลเบื้องได้สูญสลายหายไป อย่างกับว่าไม่เคยมีเค้าอยู่

    --*ครืดๆๆครืนๆ

                'เจ้าพวกนั้น..  ข้าไม่ให้กลับมาหรอก'  นักรบหญิงทำท่าเหมือนปวดขี้ - -; เอ้ยทำท่าหมือนแบกอะไรหนักๆไว้

                'ชิ! ในนามองค์ราชินี ในนามวิญญาณนักสัตว์ ในนามนักรบคู่ปฐพี ในนามนักเวชของราชอนาจักร ข้าขอปกป้องโลกนี้จนชีพวายมลายสิ้น ถึงแม้พลังจะไม่พอแต่ขอปกป้องแค่เพียงว่า ตราบใดที่ไม่เกิด อาทิตย์อ่อนแสงพระจันทร์แรงกล้า ข้าจะไม่ปล่อยโลกนี้เป็นอะไรอย่างแน่นอน ยกเว้นว่าจะมีผู้ใช้เวทเหมือนข้าเท่านั้น" หญิงสาวได้กรีดเลือดที่ข้อมือ ให้เลือดไหลรินลงในลำธารบริเวณนั้น

                'วงแหวนเวทจงเกิด'  เลือดที่หลั่งรินที่ไหลลงลำธารได้กระจายไปตามกระแสน้ำของพื้นโลกและสร้างเป็นวงแหวนเวทที่ใหญ่ที่สุด

                'พวกข้าจะช่วยท่านเอง'  ผู้ที่ใช้พลังแปลกๆ4คนเดินมา พร้อมกับร่วมหลั่งเลือดด้วยเช่นกัน  จนกระทั่ง

                -'คำสัจนั้น ข้าจะรักษาให้เอง'  เทพพารักษ์องค์หนึ่งปรากฎร่างบางดังสายหมอกขึ้นพร้อมกบทิ้งแหวนในมือของเจ้าหญิงลงในลำธาร

                'คำสัจที่กล่าวไว้ ต้องเป็นจริงไปตลอดการ'  หญิงสาวล้มลง จากท่ายืนเป็นคุกเข่า จากคุกเข่าเป็นล้มตัวระนาบกับพื้น

                -'วิญญาณสัตว์ทั้ง4  ท่านจะเกิดใหม่ในร่างของคนยุคใหม่  ขอให้ท่านรับรองใจได้ ท่านจะเจอกับ ผู้ใช้วิญญาณนักสัตว์แน่นอน'   เทพารักษ์พูดพึมพำกับคนทั้ง4ที่นอนตายอยู่ตรงหน้า

    (กล้องซูมออกให้เห็นโลก)

    --*พื้นดินระเหยออกมาเป็นหิมะจากดินลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าหมอกเมฆนานากลับลงสู่ดิน  โลกเปลี่ยนทิศทางการหมุนและโคจร  จนมาเป็นปัจจุบัน

    บทสัมภาษณ์

    เจ้าหญิงลูน่า : ไหนใครย่ะ บอกว่าชั้นทำหน้าเหมือนปวดขี้ คนไหน

    วิญญาณสัตว์1 : คนนั้นไง คนที่นั่งพิมพ์อยู่หน่ะครับท่าน

    วิญญาณสตว์2 : ใช่ครับ สัญชาตญาณผมบอก

    เจ้าหญิงลูน่า : หน๋อย  แก กรี๊ด!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!(ลูน่าเดินมาหาชั้นแล้วกรี๊ดใส่หูชั้น)

    ลูกแมว : อ๊ากกกกกกกกกกกก  อะไรเนี๊ยะมากรี๊ดใส่หูเค้าทำไม

    เจ้าหญิงลูน่า : แล้วใครย่ะ ที่บอกว่าชั้นทำหน้าเหมือนปวดขี้อ่ะ

    ลูกแมว : อืม เข้าใจแล้ว (ทำท่าพิมพ์)

    เจ้าหญิงลูน่า : (พยักหน้า)

    ลูกแมว : แล้วมาถามเค้าทำไมอะ

    ทุกคน : อ็อคส์  (หัวทิ่มกันหมด)

    เจ้าหญิงลูน่า : เธอใช้มั้ยที่บอกว่าชั้นทำหน้าเหมือนปวดขี้

    ลูกแมว : อาว ก็เธอทำอย่างนั้นนี่ จะให้บอกว่าไงหล่ะ

    เจ้าหญิงลูน่า : ก็บอกว่า เจ็บปวดทรมาน อะไรประมาณนั้น

    ลูกแมว : ก็เธอทำหน้าเหมือนรีดเร้นพลัง แต่ดูยังไงก็ปวดขี้ชัดๆ

    วิญญาณสัตว์ทั้ง4 ตน : กร๊ากกกก  555555

    เจ้าหญิงลูน่า : ฝากไว้ก่อนเห๊อะ

    ลูกแมว  : ที่นี่รับฝากไม่มีดอกเบี้ยน่ะจร๊ะ  อ้อ ฝากไว้เฉยๆไม่เอาคืนเดี๋ยวปลวกมันกินหมด

    วิญญาณสัตว์ทั้ง4 ตน : กร๊ากกกว่ะฮ่ะๆๆ5555+

    ลูกแมว : ว้าย ไม่ทันสังเกตุหล่อๆกันทั้งนั้น ว่างๆไปเดทกันป๊ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×