คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เซราเฟีย
"โอ้โห สุดยอด" โพฮาอุธานพลางกระโดดกรี๊ดกร๊าดไปรอบๆตามปกติ
"ปกติเคยแต่วาล์ปด้วยแสงเวทน่ะ ไม่นึกว่าแค็ปซูลจะวาล์ปได้ด้วย" นูม่าพูดพลางเปิดหนังสือแสงแห่งเวทหาเรื่องแค็ปซูล
"หาไม่เจอหรอก ชั้นคิดขึ้นมาเอง มันก็คล้ายๆแสงเวทนั้นแหละ แค่ใช้สูตรอะไรบางอย่างนิดหน่อยกับชิ้นส่วนที่เป็นสื่อสำหรับที่จะไปเท่านั้นเองจ้า" เซเลสเล่าพลางทิ้งตัวลงนอนบนเตียงผ้าที่ตั้งอยู่บนชายหาดอย่างสบายอารมณ์
"ถ้าเธอว่างมากมาช่วยชั้นคิดสูตรระเบิดดีกว่ามั้ง" แม็กซ์หรี่ตามองเซเลส
"งั้นก็กินข้าวเที่ยงแถวนี้ซิน่ะ" นูม่าปิดหนังสือแล้วหันไปถามเซเลส
"ชั้นจัดอาหารให้พร้อมแล้ว **คัม**" ทันทีที่เซเลสพูดจบ ก็มีโต๊ะเก้าอี้ออกมาพร้อมสับ จัดด้วยชุดอาหารพิเศษชั้นหรู5ชุด
"เอ๊ะ แล้วครูซิสหล่ะ" โพฮาชี้ไปที่เก้าอี้ที่ว่างตัวหนึ่ง
"ไร้ตัวตนได้สมบูรณ์แบบ" นูม่าทำเสียงล้อเลียน
"งั้นแป็บนึงน่ะ" แม็กซ์พูดพร้อมกับใส่สายอะไรซักอย่างไปที่หู
-"เฮ้! นายอยู่ไหน" แม็กซ์ตะโกนถามคนอีกสาย
-"แล้วนายหล่ะ" และมีเสียงครูซิสตอบกลับมา
"ฝากบอกด้วยว่าให้กินยาอีกเม็ดที่อยู่ในมือด้วยน่ะ" เซเลสตะโกนบอกแม็กซ์
-"เอ้อ ยัยเซเลสสั่งให้นายกินยาอีกเม็ดน่ะ"
-"ถามยัยนั่นดิ๊ ว่ามั่นใจอ่ะป่ะ"
"เฮ้เซ ครูซิสมันถามว่าแน่ใจอ่ะป่ะ"
"กินไปเหอะน่า" เซเลสบอกปัดๆอย่างรำคาญ
-"ชั้นไม่มั่นใจว่าเซเลสจะมั่นใจหรือเปล่าน่ะ"
-"ไงกันแน่"
-"คุยเองเลยอ่ะ" แม็กซ์พูดจบก็ดึงสายส่งให้เซเลส
"มาแล้ว" ทันทีที่เซเลสกำลังจะรับสายมาคุย ครูซิสก็ปรากฏตัวขึ้นทันที
"กินเข้าไปตั้งแต่แรกก็หมดเรื่อง" เซเลสพูดจบทุกคนก็เริ่มกินอาหารที่จัดไว้ แล้วทุกคนก็จ้องไปที่นูม้า เพราะอยากรู้ว่าภายใต้ผ้าปิดปากของนูม่าจะเป็นอย่างไรถึงได้ไม่เคยเปิดออกมาให้ใครเห็น แต่ทันทีที่นูม่าคีบเส้นบะหมี่ขี้นมา ทุกคนก็เพ่งเลงเข้าไปอีก ทันใดนั้นเพียงแค่ช่วงพริบตานูม่าก็เอาบะหมี่ที่คีบขึ้นมาเข้าปากและเอาออกอย่างรวดเร็ว
"โหยยยยยยยยยยยยย" เหล่าเพื่อนครางอย่างเสียดาย
"hey! ว่าแต่เธอใช้อะไรเป็นสื่อในแค็ปซูลที่วาล์ปมาหล่ะ" แม็กซ์หันมาถามเซเลส พลางเก็บเศษอาหารทิ้ง
"ไม่รู้ดีกว่ามั้ง" ทันทีที่เซเลสกล่าวให้ใบ้คำปริศนา ก็มีสายตา1-2คนหันมามอง
"อะไรน่ะ บอกมาเหอะน่า ชั้นไม่ทำอะไรหรอก" แม็กซ์หรี่ตามองเซเลสเชิงบีบคั้น
"เอ่อ......." เซเลสทำหน้าไม่อยากพูด "ปลิงทะเล"
"เฮือก!!" แม็กซ์ชะงักกึก
"พรู้ด!!" ครูซิสที่กำลังกินของฟรีอย่างสำราญพ่นทุกสิ่งที่อยู่ในปากออกมา
"สมาธิ สมาธิ สติสติ" นูม่าใช้สติสมาธิแล้วทำท่าแปลกๆ
"ฮ็อคๆ แอ็ค โอ๊กอ๊วก" โพฮาล้วงคอตัวเอง
"..........." แม็กซ์ล้วงอะไรซักอย่างในกระเป๋า "ชั้นรับไม่ได้ ชั้นเป็นถึงลูกรัชทายาทเชียวน่ะ อย่างงี้ต้องทำลายให้สิ้นซากซ่ะ ย๊าก" แม็กซ์เอาระเบิดที่เพิ่งหยิบจุดไฟและจะยัดเข้าปาก
"อึก เฮ้ย! ใจเย็นๆ" ครูซิสที่ได้สติรีบวิ่งไปแย่งระเบิดออกมา
"กรี๊ด ว๊ากๆๆ ระเบิดน่ะโยนทิ้งไปซะ" โพฮาวิ่งไปวิ่งมาสุดท้ายรีบชิงระเบิดจากมือครูซิสและขว้างออกไป พร้อมกับทุกคนหมอบและปิดหู ยกเว็นแม็กซ์
-ปุ๊บ (เสียงระเบิดเจ้าปัญหาดังขึ้น)
"เอ๊ะ!" เซเลสอุธานขึ้น
"เอ๊ะ!" ครูซิสที่ขดตัวอยู่ที่พื้นเงยหน้าขึ้นมา
"แค่นี้เหรอ แค่ ปุ๊บ เบาๆเนี๊ยะน่ะ" โพฮาโผล่จากหลังข่อนไม้
"จะตกใจกันทำไม นั่นมันระเบิดที่ใช้กำจัดเชื้อโรคในร่างกาย ใครจะบ้ากินระเบิด" แม็กซ์พูดพร้อมจะดระเบิดอันใหม่แล้วยัดเข้าปาก
หลังจากที่ทุกคนพยายามถอดไส้ถอดพุงที่มีเศษปลิงทะเลออกมาจนหมดคนทุกคนก็กลับสู่สภาพเดิม
"แล้วแค็ปซูลที่ใช้กลับหล่ะ" ครูซิสเริ่มหรี่ตามองเซเลสบ้าง
"นี่ไง" เซเลสหยิบแค็ปซูลขึ้นมา
"ไม่ได้ถามเรื่องนั้น ชั้นกำลังถามว่าใช้อะไรเป็นสื่อในการกลับโรงเรียน" ครูซิสจ้องตาเซเลส พลางเดินเข้าไปดุ
"ขนแมว" เซเลสตอบได้อย่างหน้าตาเฉย
"0-
"ฟ่อ" ครูซิสผมชี้ไม่เป็นทิศไม่เป็นทางพร้อมแยกเขี้ยวใส่เซเลส
"โถ่ ครูซิสนายอย่าทำหน้าแมวงั้นสิ น่ากลัว" เซเลสปัดมือไปมา
"ห๊า................" แม็กซ์ครางออกมาอย่างหมดอารมณ์
"ไม่เอาก็ตามใจ ชั้นไม่ว่าหรอก ชั้นไปก่อนหล่ะน่ะ" เซเลสพูดจบก็ยัดแค็ปซูลเข้าปากพร้อมกับโยนแค็ปซูลที่เหลือทิ้ง และเซเลสก็หายวับไป
"เฮ้ย!!" ทุกคนอุธานเป็นเสียงเดียวกัน และต่างคนต่างแย่งแค็ปซูลขึ้นมา
"เฮ้อ..." และทุกคนก็อุธานเป็นเสียงเดียวกันอีกครั้งด้วยความโล่งใจที่รับแค็ปซูลได้และจำใจต้องยัดขนแมวนั้นเข้าปากตัวเองไป
"อะไรเนี๊ยะ" ครูซิสแปลกใจที่เห็นเซเลสยืนอ้าปากค้าง และเมื่อหันไปมองคนอื่นๆในกลุ่ม ก็ยืนตะลึงอยู่เช่นกัน เมื่อครูซิสมองตามสายตาคนอื่นไป จึง "นี่ๆนี่มัน รึว่า"
"สงคราม" เซเสสหุปปากพร้อมกับเริ่มรวบรวมสติได้
"กลุ่มemerald พวกเธอทำอะไรอยู่ อย่าให้เสียชื่อมาถึงชั้นสิ ยืนบ๊องอยู่ได้ เห็นอยู่ว่ามีสงครามยังไม่ทำงานกันอีก ไปไปไป" มาม่าซัง ซึ่งเป็นอ.ที่คุมกลุ่มของเซเลสตวาดลั่น
"ทำไม ชั้นไม่เข้าใจ เกิดอะไรขึ้นค่ะมาม่า" เซเลสถามกลับอย่างรวดเร็ว
"ไม่รู้แหกตาดูซะ เราถูกโจมตี" มาม่าพูดพลางเหวี่ยงไม้เท้าไปด้านหลังเพื่อเขกกะโหลกเจ้าตัวประหลาดที่รอบทำร้ายจากด้านหลัง
"มาม่า แล้วนี้มันเรื่องอะไรกันแน่ ไม่รู้ข้อมูลแล้วจะทำงานได้ไงกัน" นูม่ายังคงเตรียมพร้อมและปากก็ถามมาม่าพลาง
"ไม่มีเวลาอธิบายแล้วน่ะ ไว้ชนะก่อน ถึงสรุปได้ หรือไม้ก็ได้สอนวิชาประวัติศาสตร์ให้แล้วกัน ย่าห์..........." ผู้เป็นอ.พูดจบอย่างรวดเร็วพร้อมวิ่งออกไปรบอีกรอบ
"แล้วมันเรื่องอะไรกันแน่หล่ะมาม่า" แม็กซ์ ซักถามไปขณะที่อ.มาม่าซังยังสู้รบในบริเวณนั้น
"หุปปาก แล้วปฏิบัติงานได้แล้ว" ผู้เป็นอ.หันมาทำตาขวางอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน พร้อมกับ
"มาม่า" เซเลสตะโกนเพื่อต้องการสื่ออะไรบางอย่าง
"ห๊ะ" มาม่าซังหันหน้ากลับไปสู้
-เพี๊ยะ (ตัวประหลาดตบหน้ามาม่าหันจนเกือบล้ม)
"แก" มาม่าพูดทั้งๆที่อยู่ในท่าล้ม พร้อมกับเงยหน้า "ตบชั้นเหรอ" และจ้องตาเจ้าตัวประหลาด
".." ตัวประหลาดจ้องด้วยความสะใจ
"ถ้าใช้หล่ะก็" มาม่าลุกขึ้นเซไปทางซ้ายเล็กน้อย แล้วเงยหน้าขึ้นอีกที "ชั้นเอาแกต๊ายยยยยยยยยยยยยยยย" มาม่าพูดจบก็วาดวงแหวนเวทที่ใหญ่กว่าตัว และดันพลังไปให้เจ้าตัวประหลาดในทันที ทันใดนั้นเจ้าตัวประหลาด ก็กลายเป็นแค่ฝุ่น
"ชิ เปลืองจริง ไม่น่าใช้กับเจ้านี้เล้ย" มาม่าซังมองละอองฝุ่นเหยียดๆ แล้วหันมาจ้องศิษย์รักของตน
"ทุกคน" เซเลสพูดพร้อมกับทุกคนพยักหน้าให้กัน ทำนองว่า เราพร้อมแล้ว
"เซลาฟิน*" ทันทีที่จบคำนี้ ทุกคนก็มีแสงสว่างเกิดขึ้น ในพริบตาแสงก็ลดสู่ระดับปกติ พร้อมกับชุดทุกคนก็เปลี่ยนเป็นชุดปฏิบัติงานทันที
"ในนามข้า จากคำสั่ง วิญญาณรับใช้จงประจักษ์" โพฮาที่อยู่ในชุดร่างทรง ในสายตาไร้ความขี้เล่นที่เคยมี แต่แทนที่ด้วยความจริงจัง โพฮาลอยตัวขึ้นพร้อมกับ ทรายที่พื้นเริ่มหมุนเป็นเกลียวคล้ายพายุลอยตัวสูงขึ้น แล้วก็หยุดแข็ง ไม่นานทรายเริ่มมีรอยร้าว และแตกออกในทันใด กลายเป็นวิญญาณผู้หญิงผมแดงคนหนึ่ง
"ลาเซีย เจ้าแม่ลมฟ้า ขอทำความเคารพท่านนายหญิง" วิญญาณและโพฮาลอยตัวกลับลงสู่พื้นดินอีกครั้ง
"ข้าแต่วิญญาณร่างสถิต ขอใช้ร่างร่วมวิญญาณ ตัวข้า!!" หลังจากที่จบประโยค วิญญาณสาวผมแดงที่ชื่อว่าลาเซีย ก็เข้าไปในร่างโพฮา หลังจากนั้น โพฮาก็เริ่มมีผมและดวงตาสีแดงเหมือนกับลาเซีย "ยกเลิกการป้องกัน" เสียงที่ออกจากปากของโพฮา เปลี่ยนไปกลายเป็นเสียงที่ก้องสะท้อนเป็น 2ตอน เช่นเดียวกันกับการพูดพร้อมกัน 2คน
"ถึงจะแปลกหน่อย ถึงเวลาสู้ก็ต้องสู้ซิฟ่ะ แพ็คเก็ต*1!!" แม็กซ์พูดเสียงดังลั่น ก็มีระเบิดชุดใหญ่วางอยู่บนมือ "ย่าห์.................." และเริ่มเข้าไปตะลุมบอล แอบติดระเบิดไว้ที่ตัวประหลาดบ้าง ปามั่วๆบ้าง หรือหมั่นไส้ตัวไหนก็เล็งหัวเอาไว้บ้าง
"ฮั่นแน่ออกแรงหมุนเฟือง เดินเครื่องกันหน่อยเซ่!" ครูซิสดึงดาบ2เล่มที่สะพายไว้ที่เอวข้างซ้ายและรวมเป็น 1 แล้ววิ่งลุยตามออกไป
"ชิ!! ทำเท่ห์ไปเถอะ อย่ามีแผลโผล่หัวกลับมาก็แล้วกัน" นูม่า คลี่มีด 4ทิศออก "พนันกันมั้ยหล่ะ ถ้านายฆ่าได้น้อยกว่าชั้นเลี้ยงข้าว100มื้อ" พร้อมกับกระโดดหายวับเข้าไปในกองสงคราม และฆ่าตัวประหลาดอย่างรวดเร็ว ประมาณ 1วินาทีต่อ 1ตัว
"ได้เซ่แต่ถ้าเธอได้น้อยกว่าเปิดหน้าเธอให้เราดูซะ" ครูซิสสะกิดหลังนูม่าและแวปไปตรงอื่นต่อ ซึ่งทำให้นูม่าเสียสมาธิเล็กน้อย
"ได้เซ่" นูม่าตอบไปอย่างปัดๆ "เซเลส ยืนเอ๋ออยู่ได้เดี๋ยวก็โดนทุปหัวหรอก" นูม่าหันไปเตือนเซเลสที่กำลังมองเพื่อนๆอย่างภาคภูมิใจ
-ป็อก (ช้าไปเสียแล้ว มีตัวประหลาดตัวหนึ่งถือไม้มาทุปหัวเซเลส)
"ปัดโธ่โว้ย" นูม่า วางมือบนตัวเซเลสพร้อมกับ "เคลียร์" และเซเลสก็หายตัวไปอยู่ในที่เก็บของๆนูม่าทันที
ท่ามกลางสงครามไร้นามอันวุ่นวายที่กำลังเกิด กลับมีหญิงสาวที่มีนามว่า เซเลสนอนอยู่ในที่ๆปลอดภัยอย่างไร้กังวลเนื่องจากมีไม้หน้า3อันหนึ่ง บังเอิญลอยมากระทบเข้ากับศรีษะอย่างจัง
"เจ้านี้สลบบ่อยจังน่ะ ข้าเพิ่งช่วยเจ้ามาแท้ๆ" เสียงอ่อนนุ่มคุ้นหูของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น เซเลสลืมตาขึ้นมองคนตรงหน้า
"ท่านเองเหรอ" เซเลสเอามือปัดผมแล้วดันตัวเองให้ลุกขึ้น "ข้าอย่าถามอะไรหน่อย"
"ว่ามาซิ"
"ข้าว่ารู้สึกแปลกๆกับที่นี่ มันเป็ฯความฝันหรือความจริงกัน"
"นี่เป็นความจริง" เชนเดินไปข้างหน้าแล้วหันมาตอบเซเลสว่าต่อว่า "ในความฝันของเธอ"
"แล้วทำไมข้าถึงมาที่นี่ได้หล่ะ"
"เพราะเธอมีวิญญาณนักสัตว์อยู่ในตัวไงหล่ะ" เชนนั่งลงข้างๆเซเลส
"ทำไมท่านเพิ่งติดต่อมาหล่ะ แล้ววิญญาณนักสัตว์คืออะไร แล้วความจริง
ในความฝันคืออะไรกันแน่"
"ข้าจะตอบจากง่ายไปยากน่ะ ความจริงในความฝันคือเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในความฝันเช่น เธอฝันว่าเธอสู้กับปีศาจ พอเธอตื่นขึ้นมาเธอก็กำลังถือหมอนฟัดไปฟัดมา นั้นคือการละเมอ แต่ถ้าเธอตื่นขึ้นมา เธออยู่ในสภาพเดียวกับในฝัน มีรอยแผล รู้สึกเหนื่อย หรือเจ็บปวดตามจุดต่างๆของร่างกาย นั้นแหละที่เธอกำลังเจออยู่ในตอนนี้"
"เดี๋ยวๆ แล้วทำไมชั้นถึงไม่มีรอยปูดบนหัวหล่ะ"
"นั่นเป็นเพราะผลจากโลกของความจริงไม่ส่งผลกระทบในฝันไงหล่ะ"
"แล้วที่นี่มันเรียกอะไร มันน่าจะมีชื่อเรียกอย่างเช่นว่าการ์เด้น โซล หรืออะไรประมาณนี้"
"เฮ้อ ที่นี่เรียกว่าเซราเฟีย"
"0-
"แปลกใจใช้มั้ยหล่ะ มันคล้ายกับ เซลาฟิน เพราะว่าที่นี่คือความฝันที่แปลงระบบให้เกิดขึ้นจริง เทพแห่งฝันที่มีอำนาจไม่พอ เข้ามาไม่ได้หรอก และก็มุขเดิมอีก ถ้ำเสือเข้าง่ายแต่ออกยาก หรือขึ้นง่ายลงยาก เทพแห่งฝันที่จะออกจากที่จะต้องมีพลังเป็น2 เท่าของตอนที่เข้ามาอีก"
"ทำไม่ท่านเพิ่งติดต่อมา วิญญาณนักสัตว์คืออะไร"
"ที่ข้าเพิ่งติดต่อ เพราะช่องทางเพิ่งจะเปิดให้ต่างหาก"
"ช่องทางเพิ่งจะเปิด มันหมายความว่าไง"
"เอาไว้ให้เธอเรียนวิชาประวัติศาสตร์ก่อนดีกว่ามั้ง ถึงเวลาตื่นแล้ว ยัยขี้เซา" ทันได้นั้น ทุกอย่างก็ดับมืด และไม่ว่าเซเลสจะกระพริบตาถี่เท่าไหร่ ก็ยังไม่เห็นอะไรนอกจากความมืด
-แกร็ก
เซเลสเดินไปเหยียบโดนอะไรบางอย่างเข้าอย่างจัง จึงเดินถอยหลัง ทันทีที่นึกออกเซเลสก็คิดถึงแสงพร้อมกับเคาะไม้เท้ากับพื้นหนึ่งครั้ง พร้อมกับ ปรากฏดวงไฟขึ้นทีล่ะดวง 2ดวง จนทั้งห้องสว่างไส
"โห" เซเลสอุธานขึ้นด้วยความตกใจกับภาพที่เห็น มันคือ...
------------------------------------------------------------------------------------------------
เฮ้อ.. มีความสุขจัง แต่งเรื่องไปกินถั่วต้มไป
หัวแล่นสุดๆไปเล้ย ตอนหลังพอถั่วหมดก็เริ่มเซ็ง
นึกได้ว่ามีโก๋แก่อยู่ในตู้ เลยหยิบมากิน
หัวเงี๊ยะแล่นแปรี๊ยะ ขอบคุณพี่โก๋แก่จริงๆ(^/\^)
ถั่วนี้ช่วยได้เยอะ
ความคิดเห็น