ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    shadow of the sun&light of moons

    ลำดับตอนที่ #2 : เซราเฟีย

    • อัปเดตล่าสุด 7 ต.ค. 49



               
    "โอ้โห  สุดยอด"  โพฮาอุธานพลางกระโดดกรี๊ดกร๊าดไปรอบๆตามปกติ


               
    "ปกติเคยแต่วาล์ปด้วยแสงเวทน่ะ  ไม่นึกว่าแค็ปซูลจะวาล์ปได้ด้วย"  นูม่าพูดพลางเปิดหนังสือแสงแห่งเวทหาเรื่องแค็ปซูล


               
    "หาไม่เจอหรอก  ชั้นคิดขึ้นมาเอง มันก็คล้ายๆแสงเวทนั้นแหละ  แค่ใช้สูตรอะไรบางอย่างนิดหน่อยกับชิ้นส่วนที่เป็นสื่อสำหรับที่จะไปเท่านั้นเองจ้า"  เซเลสเล่าพลางทิ้งตัวลงนอนบนเตียงผ้าที่ตั้งอยู่บนชายหาดอย่างสบายอารมณ์


               
    "ถ้าเธอว่างมากมาช่วยชั้นคิดสูตรระเบิดดีกว่ามั้ง"  แม็กซ์หรี่ตามองเซเลส



               
    "งั้นก็กินข้าวเที่ยงแถวนี้ซิน่ะ"  นูม่าปิดหนังสือแล้วหันไปถามเซเลส


               
    "ชั้นจัดอาหารให้พร้อมแล้ว   **คัม**"  ทันทีที่เซเลสพูดจบ  ก็มีโต๊ะเก้าอี้ออกมาพร้อมสับ  จัดด้วยชุดอาหารพิเศษชั้นหรู5ชุด


               
    "เอ๊ะ  แล้วครูซิสหล่ะ"  โพฮาชี้ไปที่เก้าอี้ที่ว่างตัวหนึ่ง


           
    "
    ไร้ตัวตนได้สมบูรณ์แบบ"  นูม่าทำเสียงล้อเลียน


               
    "งั้นแป็บนึงน่ะ"  แม็กซ์พูดพร้อมกับใส่สายอะไรซักอย่างไปที่หู


    -
    "เฮ้!   นายอยู่ไหน"  แม็กซ์ตะโกนถามคนอีกสาย

    -"แล้วนายหล่ะ"   และมีเสียงครูซิสตอบกลับมา


               
    "ฝากบอกด้วยว่าให้กินยาอีกเม็ดที่อยู่ในมือด้วยน่ะ"  เซเลสตะโกนบอกแม็กซ์


    -
    "เอ้อ  ยัยเซเลสสั่งให้นายกินยาอีกเม็ดน่ะ"

    -"ถามยัยนั่นดิ๊ ว่ามั่นใจอ่ะป่ะ"


               
    "เฮ้เซ  ครูซิสมันถามว่าแน่ใจอ่ะป่ะ"


               
    "กินไปเหอะน่า"  เซเลสบอกปัดๆอย่างรำคาญ


    -
    "ชั้นไม่มั่นใจว่าเซเลสจะมั่นใจหรือเปล่าน่ะ"

    -"ไงกันแน่"

    -"คุยเองเลยอ่ะ"  แม็กซ์พูดจบก็ดึงสายส่งให้เซเลส


               
    "มาแล้ว"  ทันทีที่เซเลสกำลังจะรับสายมาคุย ครูซิสก็ปรากฏตัวขึ้นทันที


               
    "กินเข้าไปตั้งแต่แรกก็หมดเรื่อง"  เซเลสพูดจบทุกคนก็เริ่มกินอาหารที่จัดไว้ แล้วทุกคนก็จ้องไปที่นูม้า เพราะอยากรู้ว่าภายใต้ผ้าปิดปากของนูม่าจะเป็นอย่างไรถึงได้ไม่เคยเปิดออกมาให้ใครเห็น  แต่ทันทีที่นูม่าคีบเส้นบะหมี่ขี้นมา  ทุกคนก็เพ่งเลงเข้าไปอีก  ทันใดนั้นเพียงแค่ช่วงพริบตานูม่าก็เอาบะหมี่ที่คีบขึ้นมาเข้าปากและเอาออกอย่างรวดเร็ว


               
    "โหยยยยยยยยยยยยย"   เหล่าเพื่อนครางอย่างเสียดาย


               
    "hey! ว่าแต่เธอใช้อะไรเป็นสื่อในแค็ปซูลที่วาล์ปมาหล่ะ"  แม็กซ์หันมาถามเซเลส พลางเก็บเศษอาหารทิ้ง


               
    "ไม่รู้ดีกว่ามั้ง"   ทันทีที่เซเลสกล่าวให้ใบ้คำปริศนา ก็มีสายตา1-2คนหันมามอง


               
    "อะไรน่ะ บอกมาเหอะน่า   ชั้นไม่ทำอะไรหรอก"  แม็กซ์หรี่ตามองเซเลสเชิงบีบคั้น


               
    "เอ่อ......."  เซเลสทำหน้าไม่อยากพูด  "ปลิงทะเล"


               
    "เฮือก!!"  แม็กซ์ชะงักกึก


               
    "พรู้ด!!"  ครูซิสที่กำลังกินของฟรีอย่างสำราญพ่นทุกสิ่งที่อยู่ในปากออกมา


               
    "สมาธิ  สมาธิ สติสติ"  นูม่าใช้สติสมาธิแล้วทำท่าแปลกๆ


               
    "ฮ็อคๆ  แอ็ค โอ๊กอ๊วก"  โพฮาล้วงคอตัวเอง


               
    "..........."   แม็กซ์ล้วงอะไรซักอย่างในกระเป๋า  "ชั้นรับไม่ได้  ชั้นเป็นถึงลูกรัชทายาทเชียวน่ะ  อย่างงี้ต้องทำลายให้สิ้นซากซ่ะ  ย๊าก"  แม็กซ์เอาระเบิดที่เพิ่งหยิบจุดไฟและจะยัดเข้าปาก


               
    "อึก เฮ้ย! ใจเย็นๆ"  ครูซิสที่ได้สติรีบวิ่งไปแย่งระเบิดออกมา


               
    "กรี๊ด  ว๊ากๆๆ ระเบิดน่ะโยนทิ้งไปซะ"   โพฮาวิ่งไปวิ่งมาสุดท้ายรีบชิงระเบิดจากมือครูซิสและขว้างออกไป  พร้อมกับทุกคนหมอบและปิดหู ยกเว็นแม็กซ์


    -ปุ๊บ   (เสียงระเบิดเจ้าปัญหาดังขึ้น)


               
    "เอ๊ะ!"  เซเลสอุธานขึ้น


               
    "เอ๊ะ!"  ครูซิสที่ขดตัวอยู่ที่พื้นเงยหน้าขึ้นมา


               
    "แค่นี้เหรอ  แค่ ปุ๊บ เบาๆเนี๊ยะน่ะ"  โพฮาโผล่จากหลังข่อนไม้


               
    "จะตกใจกันทำไม  นั่นมันระเบิดที่ใช้กำจัดเชื้อโรคในร่างกาย  ใครจะบ้ากินระเบิด"  แม็กซ์พูดพร้อมจะดระเบิดอันใหม่แล้วยัดเข้าปาก


               
    หลังจากที่ทุกคนพยายามถอดไส้ถอดพุงที่มีเศษปลิงทะเลออกมาจนหมดคนทุกคนก็กลับสู่สภาพเดิม


               
    "แล้วแค็ปซูลที่ใช้กลับหล่ะ"  ครูซิสเริ่มหรี่ตามองเซเลสบ้าง


               
    "นี่ไง"   เซเลสหยิบแค็ปซูลขึ้นมา


               
    "ไม่ได้ถามเรื่องนั้น  ชั้นกำลังถามว่าใช้อะไรเป็นสื่อในการกลับโรงเรียน"  ครูซิสจ้องตาเซเลส พลางเดินเข้าไปดุ


               
    "ขนแมว"  เซเลสตอบได้อย่างหน้าตาเฉย


               
    "0-0"  ทุกคนทำหน้าแบบนี้


               
    "ฟ่อ"  ครูซิสผมชี้ไม่เป็นทิศไม่เป็นทางพร้อมแยกเขี้ยวใส่เซเลส


               
    "โถ่  ครูซิสนายอย่าทำหน้าแมวงั้นสิ น่ากลัว"  เซเลสปัดมือไปมา


     
              
    "ห๊า................"  แม็กซ์ครางออกมาอย่างหมดอารมณ์


               
    "ไม่เอาก็ตามใจ  ชั้นไม่ว่าหรอก  ชั้นไปก่อนหล่ะน่ะ"  เซเลสพูดจบก็ยัดแค็ปซูลเข้าปากพร้อมกับโยนแค็ปซูลที่เหลือทิ้ง  และเซเลสก็หายวับไป


               
    "เฮ้ย!!"  ทุกคนอุธานเป็นเสียงเดียวกัน และต่างคนต่างแย่งแค็ปซูลขึ้นมา


               
    "เฮ้อ..."  และทุกคนก็อุธานเป็นเสียงเดียวกันอีกครั้งด้วยความโล่งใจที่รับแค็ปซูลได้และจำใจต้องยัดขนแมวนั้นเข้าปากตัวเองไป


               
    "อะไรเนี๊ยะ"  ครูซิสแปลกใจที่เห็นเซเลสยืนอ้าปากค้าง  และเมื่อหันไปมองคนอื่นๆในกลุ่ม ก็ยืนตะลึงอยู่เช่นกัน  เมื่อครูซิสมองตามสายตาคนอื่นไป จึง  "นี่ๆนี่มัน รึว่า"


               
    "สงคราม"   เซเสสหุปปากพร้อมกับเริ่มรวบรวมสติได้


               
    "กลุ่มemerald  พวกเธอทำอะไรอยู่ อย่าให้เสียชื่อมาถึงชั้นสิ ยืนบ๊องอยู่ได้ เห็นอยู่ว่ามีสงครามยังไม่ทำงานกันอีก ไปไปไป"   มาม่าซัง ซึ่งเป็นอ.ที่คุมกลุ่มของเซเลสตวาดลั่น


               
    "ทำไม ชั้นไม่เข้าใจ เกิดอะไรขึ้นค่ะมาม่า"  เซเลสถามกลับอย่างรวดเร็ว


               
    "ไม่รู้แหกตาดูซะ  เราถูกโจมตี"   มาม่าพูดพลางเหวี่ยงไม้เท้าไปด้านหลังเพื่อเขกกะโหลกเจ้าตัวประหลาดที่รอบทำร้ายจากด้านหลัง


               
    "มาม่า แล้วนี้มันเรื่องอะไรกันแน่ ไม่รู้ข้อมูลแล้วจะทำงานได้ไงกัน"   นูม่ายังคงเตรียมพร้อมและปากก็ถามมาม่าพลาง


               
    "ไม่มีเวลาอธิบายแล้วน่ะ ไว้ชนะก่อน ถึงสรุปได้  หรือไม้ก็ได้สอนวิชาประวัติศาสตร์ให้แล้วกัน  ย่าห์..........."  ผู้เป็นอ.พูดจบอย่างรวดเร็วพร้อมวิ่งออกไปรบอีกรอบ


               
    "แล้วมันเรื่องอะไรกันแน่หล่ะมาม่า" แม็กซ์ ซักถามไปขณะที่อ.มาม่าซังยังสู้รบในบริเวณนั้น


               
    "หุปปาก แล้วปฏิบัติงานได้แล้ว"  ผู้เป็นอ.หันมาทำตาขวางอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน  พร้อมกับ


               
    "มาม่า"   เซเลสตะโกนเพื่อต้องการสื่ออะไรบางอย่าง


               
    "ห๊ะ"  มาม่าซังหันหน้ากลับไปสู้


    -เพี๊ยะ  (ตัวประหลาดตบหน้ามาม่าหันจนเกือบล้ม)


               
    "แก"  มาม่าพูดทั้งๆที่อยู่ในท่าล้ม  พร้อมกับเงยหน้า "ตบชั้นเหรอ" และจ้องตาเจ้าตัวประหลาด


               
    ".."  ตัวประหลาดจ้องด้วยความสะใจ


               
    "ถ้าใช้หล่ะก็"  มาม่าลุกขึ้นเซไปทางซ้ายเล็กน้อย แล้วเงยหน้าขึ้นอีกที "ชั้นเอาแกต๊ายยยยยยยยยยยยยยยย"  มาม่าพูดจบก็วาดวงแหวนเวทที่ใหญ่กว่าตัว และดันพลังไปให้เจ้าตัวประหลาดในทันที  ทันใดนั้นเจ้าตัวประหลาด ก็กลายเป็นแค่ฝุ่น


               
    "ชิ  เปลืองจริง ไม่น่าใช้กับเจ้านี้เล้ย"  มาม่าซังมองละอองฝุ่นเหยียดๆ  แล้วหันมาจ้องศิษย์รักของตน


               
    "ทุกคน"  เซเลสพูดพร้อมกับทุกคนพยักหน้าให้กัน ทำนองว่า เราพร้อมแล้ว


               
    "เซลาฟิน*"  ทันทีที่จบคำนี้ ทุกคนก็มีแสงสว่างเกิดขึ้น ในพริบตาแสงก็ลดสู่ระดับปกติ พร้อมกับชุดทุกคนก็เปลี่ยนเป็นชุดปฏิบัติงานทันที


               
    "ในนามข้า  จากคำสั่ง  วิญญาณรับใช้จงประจักษ์"  โพฮาที่อยู่ในชุดร่างทรง ในสายตาไร้ความขี้เล่นที่เคยมี แต่แทนที่ด้วยความจริงจัง  โพฮาลอยตัวขึ้นพร้อมกับ ทรายที่พื้นเริ่มหมุนเป็นเกลียวคล้ายพายุลอยตัวสูงขึ้น แล้วก็หยุดแข็ง  ไม่นานทรายเริ่มมีรอยร้าว และแตกออกในทันใด กลายเป็นวิญญาณผู้หญิงผมแดงคนหนึ่ง


               
    "ลาเซีย เจ้าแม่ลมฟ้า ขอทำความเคารพท่านนายหญิง" วิญญาณและโพฮาลอยตัวกลับลงสู่พื้นดินอีกครั้ง


               
    "ข้าแต่วิญญาณร่างสถิต  ขอใช้ร่างร่วมวิญญาณ ตัวข้า!!"  หลังจากที่จบประโยค วิญญาณสาวผมแดงที่ชื่อว่าลาเซีย ก็เข้าไปในร่างโพฮา  หลังจากนั้น โพฮาก็เริ่มมีผมและดวงตาสีแดงเหมือนกับลาเซีย  "ยกเลิกการป้องกัน"  เสียงที่ออกจากปากของโพฮา  เปลี่ยนไปกลายเป็นเสียงที่ก้องสะท้อนเป็น 2ตอน เช่นเดียวกันกับการพูดพร้อมกัน 2คน


               
    "ถึงจะแปลกหน่อย ถึงเวลาสู้ก็ต้องสู้ซิฟ่ะ  แพ็คเก็ต*1!!"  แม็กซ์พูดเสียงดังลั่น ก็มีระเบิดชุดใหญ่วางอยู่บนมือ  "ย่าห์.................."  และเริ่มเข้าไปตะลุมบอล แอบติดระเบิดไว้ที่ตัวประหลาดบ้าง ปามั่วๆบ้าง  หรือหมั่นไส้ตัวไหนก็เล็งหัวเอาไว้บ้าง


               
    "ฮั่นแน่ออกแรงหมุนเฟือง เดินเครื่องกันหน่อยเซ่!" ครูซิสดึงดาบ2เล่มที่สะพายไว้ที่เอวข้างซ้ายและรวมเป็น 1  แล้ววิ่งลุยตามออกไป


               
    "ชิ!! ทำเท่ห์ไปเถอะ  อย่ามีแผลโผล่หัวกลับมาก็แล้วกัน"  นูม่า คลี่มีด 4ทิศออก  "พนันกันมั้ยหล่ะ  ถ้านายฆ่าได้น้อยกว่าชั้นเลี้ยงข้าว100มื้อ"  พร้อมกับกระโดดหายวับเข้าไปในกองสงคราม  และฆ่าตัวประหลาดอย่างรวดเร็ว ประมาณ 1วินาทีต่อ 1ตัว


               
    "ได้เซ่แต่ถ้าเธอได้น้อยกว่าเปิดหน้าเธอให้เราดูซะ"  ครูซิสสะกิดหลังนูม่าและแวปไปตรงอื่นต่อ  ซึ่งทำให้นูม่าเสียสมาธิเล็กน้อย


               
    "ได้เซ่"  นูม่าตอบไปอย่างปัดๆ  "เซเลส  ยืนเอ๋ออยู่ได้เดี๋ยวก็โดนทุปหัวหรอก"  นูม่าหันไปเตือนเซเลสที่กำลังมองเพื่อนๆอย่างภาคภูมิใจ


    -ป็อก   (ช้าไปเสียแล้ว  มีตัวประหลาดตัวหนึ่งถือไม้มาทุปหัวเซเลส)


               
    "ปัดโธ่โว้ย"  นูม่า วางมือบนตัวเซเลสพร้อมกับ  "เคลียร์"   และเซเลสก็หายตัวไปอยู่ในที่เก็บของๆนูม่าทันที


               
    ท่ามกลางสงครามไร้นามอันวุ่นวายที่กำลังเกิด กลับมีหญิงสาวที่มีนามว่า เซเลสนอนอยู่ในที่ๆปลอดภัยอย่างไร้กังวลเนื่องจากมีไม้หน้า3อันหนึ่ง บังเอิญลอยมากระทบเข้ากับศรีษะอย่างจัง


               
    "เจ้านี้สลบบ่อยจังน่ะ  ข้าเพิ่งช่วยเจ้ามาแท้ๆ"  เสียงอ่อนนุ่มคุ้นหูของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น  เซเลสลืมตาขึ้นมองคนตรงหน้า


               
    "ท่านเองเหรอ"  เซเลสเอามือปัดผมแล้วดันตัวเองให้ลุกขึ้น  "ข้าอย่าถามอะไรหน่อย"


               
    "ว่ามาซิ"


               
    "ข้าว่ารู้สึกแปลกๆกับที่นี่ มันเป็ฯความฝันหรือความจริงกัน"


               
    "นี่เป็นความจริง"  เชนเดินไปข้างหน้าแล้วหันมาตอบเซเลสว่าต่อว่า "ในความฝันของเธอ"


               
    "แล้วทำไมข้าถึงมาที่นี่ได้หล่ะ"


               
    "เพราะเธอมีวิญญาณนักสัตว์อยู่ในตัวไงหล่ะ"  เชนนั่งลงข้างๆเซเลส


               
    "ทำไมท่านเพิ่งติดต่อมาหล่ะ แล้ววิญญาณนักสัตว์คืออะไร  แล้วความจริง
    ในความฝันคืออะไรกันแน่
    "


               
    "ข้าจะตอบจากง่ายไปยากน่ะ  ความจริงในความฝันคือเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในความฝันเช่น เธอฝันว่าเธอสู้กับปีศาจ  พอเธอตื่นขึ้นมาเธอก็กำลังถือหมอนฟัดไปฟัดมา นั้นคือการละเมอ  แต่ถ้าเธอตื่นขึ้นมา  เธออยู่ในสภาพเดียวกับในฝัน มีรอยแผล รู้สึกเหนื่อย  หรือเจ็บปวดตามจุดต่างๆของร่างกาย นั้นแหละที่เธอกำลังเจออยู่ในตอนนี้"


               
    "เดี๋ยวๆ แล้วทำไมชั้นถึงไม่มีรอยปูดบนหัวหล่ะ"


               
    "นั่นเป็นเพราะผลจากโลกของความจริงไม่ส่งผลกระทบในฝันไงหล่ะ"


               
    "แล้วที่นี่มันเรียกอะไร มันน่าจะมีชื่อเรียกอย่างเช่นว่าการ์เด้น  โซล หรืออะไรประมาณนี้"


               
    "เฮ้อ  ที่นี่เรียกว่าเซราเฟีย"


               
    "0-0"


               
    "แปลกใจใช้มั้ยหล่ะ มันคล้ายกับ เซลาฟิน เพราะว่าที่นี่คือความฝันที่แปลงระบบให้เกิดขึ้นจริง  เทพแห่งฝันที่มีอำนาจไม่พอ เข้ามาไม่ได้หรอก  และก็มุขเดิมอีก  ถ้ำเสือเข้าง่ายแต่ออกยาก  หรือขึ้นง่ายลงยาก  เทพแห่งฝันที่จะออกจากที่จะต้องมีพลังเป็น2 เท่าของตอนที่เข้ามาอีก"


               
    "ทำไม่ท่านเพิ่งติดต่อมา  วิญญาณนักสัตว์คืออะไร"


               
    "ที่ข้าเพิ่งติดต่อ เพราะช่องทางเพิ่งจะเปิดให้ต่างหาก"


               
    "ช่องทางเพิ่งจะเปิด มันหมายความว่าไง"


               
    "เอาไว้ให้เธอเรียนวิชาประวัติศาสตร์ก่อนดีกว่ามั้ง  ถึงเวลาตื่นแล้ว ยัยขี้เซา"   ทันได้นั้น ทุกอย่างก็ดับมืด  และไม่ว่าเซเลสจะกระพริบตาถี่เท่าไหร่ ก็ยังไม่เห็นอะไรนอกจากความมืด


    -แกร็ก


               
    เซเลสเดินไปเหยียบโดนอะไรบางอย่างเข้าอย่างจัง จึงเดินถอยหลัง ทันทีที่นึกออกเซเลสก็คิดถึงแสงพร้อมกับเคาะไม้เท้ากับพื้นหนึ่งครั้ง   พร้อมกับ ปรากฏดวงไฟขึ้นทีล่ะดวง 2ดวง จนทั้งห้องสว่างไส  

               
    "โห"  เซเลสอุธานขึ้นด้วยความตกใจกับภาพที่เห็น มันคือ...

    ------------------------------------------------------------------------------------------------
    เฮ้อ.. มีความสุขจัง  แต่งเรื่องไปกินถั่วต้มไป
    หัวแล่นสุดๆไปเล้ย ตอนหลังพอถั่วหมดก็เริ่มเซ็ง
    นึกได้ว่ามีโก๋แก่อยู่ในตู้ เลยหยิบมากิน
    หัวเงี๊ยะแล่นแปรี๊ยะ  ขอบคุณพี่โก๋แก่จริงๆ(^/\^)
    ถั่วนี้ช่วยได้เยอะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×