คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : สายใยเสน่หา
บทที่ 6
“ติงต่องๆ ” เสียงออดหน้าบ้านดังขึ้นเช้าวันหนึ่ง
“แจ๋วๆ ไปดูสิว่าใครมา” เสียงพบรักบอกเด็กแจ๋วไปดูแขกแทนเนื่องจากเธอรู้สึกหน้ามืดจึงนอนหลับตาอยู่ที่โซฟา จนผ่านไปครู่หนึ่งพบรักก็รู้สึกว่ามีใครยืนมองอยู่ ก็คิดว่าเป็นแจ๋วจึงถามไปว่า
“แจ๋วใครมาหรือเปล่า ใช่พี่กบไหม อ้อแล้วแจ๋วช่วยไปหยิบยาดมมาให้ชั้นทีนะ วันนี้ไม่รู้เป็นไรแพ้หนักกว่าทุกวันเลย” เธอบอกน้ำเสียงอ่อนเพลีย ก่อนจะค่อยๆลืมตาเนื่องจากเห็นว่าอีกฝ่ายทำไมเงียบผิดปกติ
“พี่ธี”พบรักครางน้ำเสียงเบาหวิว พร้อมกับน้ำตาเม็ดโตที่หลั่งรินออกมา
“โธ่ ยัยพบน้องต้องลำบากขนาดนี้เชียวเหรอ” เมธีครางอย่างสงสารขณะเดียวกันก็กอดปลอบน้องน้อยของเขาอย่างห่วงใย
“แล้วพี่ธีมาได้ยังไงคะ” พบรักถามพลางเช็ดน้ำตาจากแก้ม
“พี่ขับรถมาจากเชียงรายตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ทีแรกคุณแม่จะตามมาด้วยแต่พี่กลัวท่านจะเหนื่อยเลยบอกให้ท่านคอยอยู่ที่ไร่”
“โธ่ พบเลยทำให้คุณแม่กับพี่ธีลำบากแย่”
“เรื่องนั้นนะ ไม่เป็นไรหรอก ว่าแต่เราเถอะแพ้ท้องมากเลยเหรอดูสิหน้าตาซีดเสียว ผอมจนไม่เหลืออะไรแล้วไปหาหมอบ้างหรือเปล่า” เมธีพูดพลางสำรวจเนื้อตัวเธออย่างเป็นห่วง
“คนท้องก็อย่างนี้แหละค่ะพีธีแพ้ท้องบ้างเป็นเรื่องธรรมดาอีกเดือนสองเดือนก็ดีขึ้นเองค่ะ”พบรักบอกอย่างใจเย็น
“นึกแล้วเจ็บใจนัก พี่คิดไว้แล้วเชียวว่านายนั้นมันมีอะไรแปลกๆ ไม่นึกเลยว่ามันจะกล้าทำลายหัวใจพี่ถ้าพบไม่ห้ามไว้พี่ไม่มีทางอยู่เฉยอย่างนี้แน่” เมธีเอ่ยอย่างโกรธจัด นัยต์ตาสั่นระริกด้วยความเจ็บใจ
“พบก็แค่ไม่อยากให้เขามาวุ่นวายกับพบอีก เท่านี้พบก็เจ็บมากพอแล้ว”พบรักบอกน้ำเสียงสั่นเครือ
“เอาละๆ เรื่องนี้เราจะไม่พูดถึงมันอีกแค่หลานคนเดียวพี่เลี้ยงได้ ต่อไปนี้พบจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่เสียที” เมธีกล่าวตัดบทเนื่องจากไม่อยากให้น้องของขาต้องเสียใจอีก พบรักก็เช่นเดียวกันเธอเองก็ต้องการใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ให้มีความสุขมากที่สุด เพื่อลูกที่กำลังจะเกิดมา
“ว่าแต่ตอนนี้หลานลุงธีกี่เดือนแล้วเอ่ย” เขาถามพลางมองหน้าท้องที่ยังแบนราบอยู่
“เกือบๆจะสามเดือนแล้วค่ะ นี่คุณหมอก็นัดไปตรวจเรื่อยๆค่ะ” พบรักบอกพลางลูบหน้าท้องอย่างหวงแหน
“ก็ดีนะ แต่คุณแม่ใหญ่อยากให้พบไปอยู่ที่ไร่ เวลาใกล้คลอดพบจะได้มีคนช่วย อยู่ทางนี้ท่านเองก็เป็นห่วง”
“ไม่ลำบากเลยพี่ธีพบอยู่ได้ อีกอย่างที่นี้ก็สงบดี แถมบ้านหลังนี้ด้านหลังก็ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาพบชอบไปนั่งมองสบายใจดี ลมก็เย็นสบาย” เธอบอกน้ำเสียงสดใสใบหน้าอมยิ้มเมื่อนึกถึงกิจกรรมหลักคือการนั่งอ่านหนังสือที่ริมระเบียง
“พี่รู้ว่าพบไม่อยากกลับไปให้ทุกคนเป็นห่วง หรือสงสารแต่พบอย่าลืมนะว่าพวกเราทุกคนยินดีต้อนรับพบกับเจ้าตัวเล็กเสมอ” เมธีบอกน้ำเสียงอ่อนโยนแววตาที่มองเธอเต็มไปด้วยความรักและหวังดีอย่างแท้จริง
“ขอบคุณค่ะ” พบรักพนมมือไหว้และสวมกอดเมธีอย่างขอบคุณและซาบซึ้งในน้ำใจของพี่ชายคนนี้ไม่มีสักครั้งเลยที่เธอจะต้องทุกข์ใจเพียงลำพังเมื่อมีเขาอยู่ข้างๆ
ส่วนทางด้านตุลาการ ก็เฝ้ารอคอยข่าวจากนักสืบกิตติด้วยความกังวลใจ จนวันนี้การรอคอยของเขาได้สิ้นสุดลง โดยที่ตุลาการจะไม่สามารถคาดคิดเลยว่าชีวิตที่เคยอยู่เพื่อตัวเอง จะเปลี่ยนไปตลอดกาลเมื่อเขาได้รู้ข่าวจากกิตติ
“ก๊อกๆๆ” คุณตุลย์ค่ะคนที่นัดไว้มาแล้วค่ะ
“อืม ให้เขาเข้ามาเลย”
“สวัสดีครับคุณตุลย์” กิตติเอ่ยทักหน้าตายิ้มแย้มบ่งบอกถึงความสำเร็จของงาน
“เชิญนั่งครับคุณกิตติ แล้วเรื่องนั้นว่าไงบ้างครับ” เขาถามด้วยท่าทางกระตือรือร้น
“ใจเย็นๆก่อนสิครับ ทุกอย่างที่คุณอยากรู้อยู่ในซองนี้แล้วครับ นอกจากนี้เรายังได้ข้อมูลใหม่มาด้วยรับรองคุณตุลย์ต้องคาดไม่ถึงแน่ๆ” กิตติบอกน้ำเสียงแฝงความนัยพลางยื่นซองเอกสารให้ตุลาการ เขารีบรับซองนั้นมาพร้อมกับเปิดอ่านข้อมูลในแผนกระดาษอย่างรวดเร็ว ไม่นานเขาก็ต้องสะดุดกับข้อมูลบางอย่างจนต้องเงยหน้ามองกิตติอย่างสงสัย พอดีกับที่กิตติก็ยิ้มออกมาอย่างเข้าใจ เขาส่งรูปจำนวนหนึ่งให้ตุลาการพร้อมกับเฉลยข้อสงสัยของชายหนุ่มว่า
“คุณพบรักเธอตั้งครรภ์ได้ราวสามเดือนกว่าแล้วครับ เรื่องนี้ทราบเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ส่วนรูปพวกนี้ลูกน้องผมถ่ายได้ที่โรงพยาบาล คุณพบเธอไปฝากครรภ์ที่นั้น ตอนแรกผมก็ไม่ค่อยแน่ใจจนกระทั่งผมให้สายสืบไปสอบถามที่โรงพยาบาลเราจึงรู้ว่าคุณพบตั้งครรภ์จริง ผมจึงรีบมารายงานคุณ” กิตติบอกอย่างพอใจในผลงาน
“ขอบคุณมากครับคุณกิตติ นี่เช็คค่าจ้างถ้าผมต้องการรู้อะไรอีกผมจะติดต่อกลับไป” ตุลาการบอกพร้อมกับมอบเช็คให้กิตติ
“งั้นผมลาก่อนนะครับ ถ้ามีอะไรก็ติดต่อมาได้เสมอผมยินดี”
หลังจากที่กิตติกลับไปแล้ว ตุลาการผู้บริหารหนุ่มที่เคยสง่าผ่าเผยบัดนี้กลับนั่งกุมขมับหลังงองุ้ม อย่างหมดสภาพ พลางคิดในใจว่าหากวันนั้นเขาไม่อยากเอาชนะเมฆาด้วยความสนุกเพียงชั่วครู่ พบรักคงจะมีชีวิตที่สงบสุขเหมือนเดิม แต่เมื่อเรื่องมันเลยเถิดมาขนาดนี้แล้วทางเดียวที่เขาจะทำได้คือตามพบรักกับลูกกลับมาให้ได้ แต่เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ก็บังเกิดความน้อยใจนักพบรักช่างใจร้ายใจดำเหลือเกิน เธอคงเกลียดเขามากขนาดคิดจะพราก ลูกไปจากเขาเชียวหรือ ไม่ว่าจะ อย่างไรก็ตามเขาจะไม่มีวันปล่อยเธอกับลูกไปอีกเด็ดขาด เมื่อคิดได้ดังนั้นตุลาการก็จัดการสั่งงานต่างๆไว้ที่เลขา และเดินทางไปหาสิตางค์ที่บริษัทเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง พร้อมกับขอร้องให้สิตางค์ช่วยดูแลบริษัทให้ชั่วคราวโดยที่สิตางค์มีสิทธิ์ตัดสินใจแทนเขาทุกประการในฐานะรองประธานที่น้อยคนนักจะได้รู้ว่าสิตางค์ดำรงตำแหน่งนี้ เพราะตุลาการต้องการตอบแทนน้ำใจของเพื่อนสาวที่เคยมอบเงินทุนก้อนใหญ่ให้เขายืมตั้งแต่คราวที่ประสบปัญหาใหญ่จนเกือบล้มละลาย ทั้งๆที่สิตางค์ไม่เคยเรียกร้องเลย เมื่อเขาเคลียร์ปัญหาทางนี้เสร็จแล้วเขาก็เก็บเสื้อผ้ามุ่งหน้าสู่นครสวรรค์ทันที
วันต่อมาพบรักก็ตื่นแต่เช้ามาใส่บาตรที่หน้าบ้านตามปกติ แต่เมื่อเธอกำลังจะเดินเข้าบ้านเธอก็รู้สึกเหมือนถูกจ้องมองจากใครบางคน เธอจึงหันไปมองแต่ก็ไม่พบใครเธอจึงเดินเข้าบ้านไป แต่ทางตุลาการก็ต้องถอนหายใจอย่างโล่งอกดีนะที่ต้นไม้นี้ใหญ่พอที่เขาหลบได้ไม่งั้นมีหวัง เธอเห็นเข้าคงจะต้องหนีเขาไปอีกแน่ๆ ตุลาการเฝ้ามองพบรักเช่นนี้เกือบเดือนตั้งแต่ได้รับรายงานจากกิตติเขาก็ทำตัวราวกับพวกถ้ำมอง จนกระทั่งวันนี้เขาตัดสินใจว่าจะไม่ทำแค่มองเธออยู่ห่างๆเช่นนี้อีกแล้ว เขาต้องไปพูดกับเธอให้เข้าใจ ไม่รู้ว่าโชคชะตาเข้าข้างหรือเพราะอะไรก็แล้วแต่ในที่สุดโอกาสที่จะได้เข้าถึงตัวพบรักก็มาถึงจนได้ วันนี้เขาเห็นเด็กรับใช้ที่อยู่กับพบรักราวกับเงาตามตัวรีบปั่นจักรยานออกไปข้างนอกทิ้งให้นายสาวอยู่บ้านเพียงลำพัง ตุลาการเห็นว่าเป็นโอกาสเหมาะจึงฉวยโอกาสเดินเข้าไปในบ้าน นับว่าเป็นวันของเขาอย่างแท้จริงทันทีที่เขาผลักประตูรั้วหน้าบ้านมันก็เปิดออกอย่างง่ายดาย คงเป็นเพราะเด็กคนเมื่อกี้ที่รีบจนลืมล็อคประตู แต่ก็ดีสำหรับเขา ทันทีที่ก้าวเท้าเข้ามาภายในบ้าน บ้านหลังนี้ตกแต่งอย่างเรียบง่ายเน้นอุปกรณ์ที่ใช้งานจริง บริเวณบ้านร่มรื่นด้วยพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับมากมาย เมื่อเดินลึกเข้าไปก็พบกับบันไดขึ้นชั้นบน ซึ่งคงเป็นห้องนอนของเธอ ข้างกันนั้นมีห้องโถงอยู่ใกล้ ภายในห้องมีหนังสือและอุปกรณ์สำหรับถักไหมพรมวางอยู่บนโต๊ะ เขาค่อยๆหยิบถุงมือสีฟ้าเล็กๆข้างหนึ่งที่ยังถักไม่เสร็จขึ้นมาดูอย่างเอ็นดู ภายในใจอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นกับชีวิตหนึ่งที่กำลังจะเกิดมา ขณะที่เขากำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยเอ่ยมาแต่ไกล เขาจึงหันไปพอดีกับที่เจ้าของเสียงหวานเมื่อครู่หยุดลงตรงหน้าเขาเช่นกัน
“แจ๋วจ๊ะ มะม่วงเปรี้ยวๆของชั้นได้หรือเปล่า อยากกินจะแย่ ไหนว่า” พบรักพูดยังไม่ทันจบรอยยิ้มเมื่อครู่ก็ต้องหยุดลงฉับพลันเมื่อเห็นว่าคนที่ตนเข้าใจว่าเป็นเด็กแจ๋ว กลับกลายเป็นผู้ชายที่เธอพยายามหนีมาตลอด
“ออกไปจากบ้านชั้นเดี๋ยวนี้นะ ใครอนุญาตให้นายเข้ามา ” เธอตวาดไล่พลางหยิบหมอนอิงปาใส่อย่างบ้าคลั่ง แต่ก่อนที่เธอจะได้อาละวาด มากไปกว่านี้ก็เกิดอาการหน้ามืดขึ้นมากะทันหัน จนทรงตัวไม่อยู่สติพร่าเลือนจนดับวูบลงไปทันที แต่ก่อนที่พบรักจะล้มไปกระแทกพื้นตุลาการก็ถลาเข้าไปรับร่างของเธอเอาไว้จนแขนของเขาครูดกับมุมโต๊ะจนถลอก พอดีกับที่แจ๋วได้ยินเสียงนายสาวโวยวายจึงรีบลงจากรถจักรยาน วิ่งเข้ามาในบ้านเห็นชายแปลกหน้าอุ้มนายสาวที่บัดนี้ไม่ได้สติอยู่ก็ตกใจ นึกว่าคนร้ายจึงทิ้งของในมือวิ่งไปหยิบไม้กวาดออกมาหวังจะฟาดคนที่ทำร้ายนายสาว
“แก แกเป็นใครปล่อยคุณพบเดี๋ยวนี้นะไม่งั้นชั้นจะฟาดหัวแกให้แตกไปเลย”เด็กสาวขู่น้ำเสียงจริงจังพร้อมกับเงื้อไม้กวาดในมือใส่ชายหนุ่ม
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ ชั้นไม่ใช่คนร้ายชั้นเป็นสามีของคุณพบ” ชายหนุ่มรีบอธิบายก่อนที่จะเจ็บตัว
“โกหก คุณพบไม่เคยเล่าให้ฟังเลย แล้วชั้นก็ได้ยินเสียงคุณพบโวยวายก่อนที่จะเป็นลมด้วย”แจ๋วยังไม่ยอมปักใจเชื่อแต่ก็เริ่มลังเล
“พบเขางอนชั้น เลยพาลูกหนีมาชั้นเพิ่งตามหาเจอเลยมาปรับความเข้าใจ ไม่เชื่อเธอก็โทรไปถามพี่กบดูก็ได้แต่ตอนนี้เธอไปหายาให้พบก่อนได้ไหมดูสิหน้าซีดไปหมดแล้ว”ตุลาการอ้างชื่อกมลาก่อนจะมองพบรักที่ยังไม่ได้สติ
“หนูจะเชื่อคุณก่อนก็ได้ ถ้าคุณโกหกรับรองหนูเอาคืนเป็นสิบเท่าแน่”เด็กสาวยอมทำตามแต่ไม่วายขู่อีกฝ่าย
ไม่นานแจ๋วก็เอาผ้ากับกะละมังใส่น้ำสะอาดมาให้พร้อมกับยาหอมและยาดมอย่างรู้หน้าที่ จนตุลาการเอ่ยถามอย่างสงสัยไม่ได้ว่า
“นี่เธอเตรียมพร้อมขนาดนี้เลยเหรอ” เขาถามพร้อมกับนำผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าเช็ดตาให้พบรักอย่าง ทะนุถนอม
“โธ่คุณจะไปรู้อะไร คุณพบเธอหน้ามืดอย่างนี้บ่อยๆหนูไม่ค่อยปล่อยให้เธออยู่คนเดียวหรอก แต่วันนี้คุณพบอยากทานมะม่วงเปรี้ยวหน้าปากซอยหนูเลยไปซื้อ”เด็กสาวอธิบายเสียงเจื้อยแจ้วพลางพัดวีให้นายสาว
“เขาแพ้ท้องหายหรือยัง ไปหาหมอบ้างไหม” ชายหนุ่มถามต่อ
“ช่วงนี้ก็อาเจียนแค่ช่วงเช้าๆ กับมีหน้ามืดบ้าง แต่ตอนที่คุณพบมาอยู่ที่นี้ใหม่ๆนะอาเจียนทั้งวันกินอะไรเข้าไปก็อ้วกมาหมด จนบ้างครั้งต้องตามหมอมาให้น้ำเกลือถึงบ้านไม่งั้นมีหวังคุณพบแย่แน่ๆ หนูไม่เคยเห็นใครแพ้ท้องหนักเท่าคุณพบเลย ดีนะที่ช่วงนี้อาการดีขึ้นมากแล้ว”แจ๋วอธิบายสีหน้าจริงจัง
“โธ่ พบ”ตุลาการครางในลำคออย่างสงสาร ไม่นานพบรักก็รู้สึกตัวตุลาการพยุงตัวให้เธอนั่งแต่เธอปฏิเสธ แจ๋วจึงต้องทำหน้าที่แทน
“แจ๋วหายไปไหนมา ทำไมให้คนแปลกหน้าเข้ามาในบ้าน” เธอหนไปเอ็ดแจ๋วเสียงเขียว
“พบอย่าไปดุเด็กมันเลย ผมแอบเข้ามาเอง” เขาแก้ตัวแทน
“แล้วคุณมาทำไม เราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก” เธอบอกน้ำเสียงเย็นชาเมินหน้าหนีไปอีกทาง
“ผมรู้ว่าคุณกำลังโกรธแต่จะมีประโยชน์อะไรในเมื่อตอนนี้เรามีลูกต้องรับผิดชอบ” เขาพยายามหาเหตุผลหว่านล้อม
“ชั้นกับลูกไม่ต้องการความรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น หากจะกรุณาคุณควรออกไปจากชีวิตของพวกเราได้แล้ว เราอยู่ได้โดยที่ไม่มีคุณ” เธอบอกน้ำเสียงจริงจัง
“คุณจะว่ายังไงผมไม่สน แต่คุณจำไว้คุณกับลูกไม่มีวันหนีผมพ้นหรอกต่อให้คุณหนีไปสุดล้าฟ้าเขียวผมก็จะตามไปจนเจอ” เขาโต้กลับไม่แพ้กัน
“คุณนี่มัน” เธอชี้หน้าเขาอย่างโมโห
และก่อนที่สงครามระหว่างเธอและเขาจะเริ่มอีกรอบ แจ๋วก็จับทั้งสองแยกไปนั่งคนละมุม
“พวกคุณๆสงบกันสักครู่เถอะค่ะ แจ๋วปวดหัวไปหมดแล้ว”เด็กสาวพูดแล้วใช้มือคลึงศีรษะประกอบ
“แจ๋วส่งแขกไม่ได้รับเชิญออกไปจากบ้านที แล้ววันหลังถ้าไม่มีคำสั่งจากชั้นห้ามผู้ชายคนนี้เข้ามาในบ้านอีก” พบรักหันไปสั่งแจ๋วพร้อมกับชำเลืองตาไปมองชายหนุ่ม
“ที่คุณกีดกันผม เป็นเพราะคุณกลัวว่าจะใจอ่อนรักผมหรือเปล่า” เขาท้าทายพร้อมกับยิ้มกวนๆ
“ใครจะรักคุณมิทราบ อย่าสำคัญตัวไปหน่อยเลย” พบรักโต้กลับอย่างโมโหยิ่งช่วงตั้งครรภ์อารมณ์เธอยิ่งแปรปวนจนบางครั้งก็ชอบทำอะไรไปโดยที่ไม้สามารถควบคุมอารมณ์ได้ เช่นเดียวกับวันนี้ที่ดูจะเป็นมากกว่าปกติเพราะผู้ชายตรงหน้า
“ถ้าอย่างนั้นคุณกล้าให้ผมเข้ามาดูแลคุณไหมล่ะ ถ้าภายในหนึ่งปีนับจากวันนี้ถ้าคุณยังยืนยันคำตอบเดิม ผมยินดีปล่อยคุณกับลูกไปอย่างไม่มีข้อแม้ใดๆทั้งสิ้น” เข้าท้า
“ก็ได้ ถ้าคุณคิดว่าคนอย่างคุณจะเปลี่ยนใจชั้นได้ก็ลองดู แต่จะบอกไว้อย่างนะเสียเวลา”เธอบอกอย่างมั่นใจ
“ก็ดี แจ๋วเธอไปเอากระดาษปากกามาทีชั้นกับคุณพบจะทำสัญญากันมีหลักฐานเวลาแพ้คุณพบจะได้เบี้ยวไม่ได้” ตุลาการสั่งพลางคิดแผนไว้ในใจคนอย่างเขาไม่มีทางแพ้พนันครั้งนี้ได้หรอก
“งั้นรอสักครู่นะ หนูจะไปเอามาให้เดี๋ยวนี้แหละ”พูดจบแจ๋วก็วิ่งไปเอามาให้อย่างกระตือรือร้น พลางคิดอย่างขำๆว่าคุณตุลย์คนนี้ ช่างเจ้าเล่ห์นักรู้ว่าคุณพบไม่ชอบให้ใครท้าทาย เลยแกล้งท้าให้ตัวเองได้มีโอกาสดูแลใกล้ชิดไม่นานหรอกรับรอง คนที่ว่าใจแข็งลองได้เจอไม้นี้เข้าไม่ใจอ่อนให้รู้ไป
เมื่อได้กระดาษปากกามาแล้วเขาก็จัดการร่างสัญญาขึ้นมาทันที ไม่นานก็ส่งให้พบรักดู แต่เมื่อพบรักอ่านก็โวยวายออกมาเสียงดัง
“นี่มันสัญญาบ้าอะไรกัน นายเอาเปรียบชั้นชัดๆแล้วมีสิทธิอะไรที่จะมาอยู่ที่นี่แถมไอ้เรื่องจดทะเบียนสมรสนี้อีก คิดว่าชั้นโง่นักหรือไง” พบรักตวาดเสียงดังโกรธจนหน้าแดงกร่ำ
“อะไรกัน แค่นี้คุณก็กลัวแล้วหรือ ไอ้เรื่องจดทะเบียนมันก็แค่กระดาษมันจะมีประโยชน์สำหรับลูกนะเพราะแกจะได้มีสิทธิ์ในสมบัติของผมอย่างถูกต้อง คุณอยากให้ลูกเกิดมาแล้วมีสถานะเป็นบุตรนอกสมรสหรือไง คุณไม่กลัวลูกมีปมด้อยเหรอ” เขาหว่านล้อมหาเหตุผลสนับสนุนจริงจังแต่แววตากลับเต้นระริกอย่างสมใจที่พบรักตกหลุมพรางของเขาอย่างไม่รู้ตัว
เมื่อได้ฟังเหตุผลของเขา แล้วเธอก็เริ่มรู้สึกเอนเอียงกอกรกับไม่อยากเสียหน้าจึงหยิบปากกาขึ้นมาเซ็นต์ชื่ออย่างรวดเร็ว
ในขณะที่ตุลาการหันไปขยิบตากับเด็กแจ๋วอย่างรู้กัน ไม่นานเขาก็เซ็นต์ชื่อด้วยอีกคนแล้ว ก่อนเขาจะยื่นสัญญาให้เขาก็บอกว่า
“ถ้างั้นเย็นนี้ผมจะย้ายมานอนที่นี่เลยนะ”เขาบอกอย่างอารมณ์ดี
“อะไรกันไหนในสัญญาแค่บอกว่าให้คุณดูแลชั้นกับลูก ไม่ได้ให้คุณย้ายมาอยู่ด้วยสักหน่อยอีกอย่างบ้านนี้ก็มีแค่ห้องเดียว คุณจะนอนที่ไหน” เธอว่าอย่างเคืองๆ
“อ้าวพบคุณไม่เห็นหมายเหตุที่อยู่ข้างล่างหรือ ที่บอกว่าดูแลนะ ผมหมายถึงดูแล 24 ชั่วโมงนะ” เขาบอกท่าทางกะล่อน พบรักได้ยินดังนั้นก็ดึงกระดาษในมือเขามาอ่าน ไล่ไปจนถึงบรรทัดล่างสุดเห็นตัวหนังสือเล็กๆเขียนด้วยลายมือหวัดอ่านยากตรงมุมกระดาษว่า 24 ชั่วโมง ก็เจ็บใจนักที่เสียรู้คนกะล่อนอย่างเขาจึงโวยใส่เขาอย่างแค้นใจว่า
“นายมันผู้ชายกะล่อนอย่าหวังเลยว่าชั้นจะใจอ่อน”
“ผมเปล่านะคุณอ่านสัญญาไม่ละเอียดเองจะโทษใครได้” เขาว่าหน้าตาเฉยแต่แต่ในใจพยายามกลั้นขำเต็มที่
“ฮึ อยากทำอะไรก็เชิญ” พูดจบหญิงสาวก็สะบัดหน้าหนีแล้วลุกไปบนห้องทันที ทิ้งให้เด็กแจ๋วและตุลาการปล่อยเสียงหัวเราะออกมาอย่างสุดกลั้น
“คุณตุลย์นี่เจ้าเล่ห์สุดๆไปเลย แถมยังรู้ด้วยว่าคุณพบมีจุดอ่อนตรงไหน” แจ๋วเอ่ยชมแบบเหน็บๆ
“โธ่แจ๋วถ้าชั้นไม่ใช้วิธีนี้เธอคิดหรือว่า คนใจแข็งอย่างเจ้านายเธอจะยอมให้ชั้นเข้ามาอยู่ใกล้ๆ”เขาบอกอย่างรู้นิสัยเธอดี
ทางด้านพบรักเองเมื่อขึ้นมาบนห้องนอนแล้วก็ไม่วาย ทุบหมอนอย่างโกรธจัด ยิ่งคิดยิ่งเจ็บใจนักที่เสียรู้นายตุลย์ตัวแสบ คอยดูเถอะเธอจะแกล้งให้นักดูสิยังจะทนได้สักกี่น้ำกัน
วันรุ่งขึ้นตุลาการก็ย้ายข้าวของจากโรงแรมมาที่ บ้านของหญิงสาวจัดการทุกอย่างราวกับบ้านของตนเอง มิหนำซ้ำเขายังพานายทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสถึงที่บ้าน โดยที่เธอไม่ทันตั้งตัวได้แต่ตกกระไดพลอยโจรอย่างจำยอม
“ชั้นบอกนายไว้เลยนะ ว่าจะไปนอนที่ไหนก็เรื่องของนาย แต่ต้องไม่ใช่ที่ห้องชั้น”เธอกอดอกบอกเขาอย่างเคืองๆ
“คุณไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก แจ๋วเขาเข้าไปเก็บกวาดห้องเก็บของที่อยู่ข้างห้องนอนคุณให้ผมแล้วเดี๋ยวบ่ายๆคนที่ร้านเฟอร์นิเจอร์จะมาส่งของ” เขาบอกอย่างเหนือกว่า
“นี่ยัยแจ๋วตัวดีก็หลงลมคนอย่างนายไปอีกคนหรือนี่ คอยดูเถอะกลับมาจะเอ็ดให้” พบรักบอกอย่างพาลๆ
“พบคุณก็อย่าไปว่าเด็กมันเลย แจ๋วมันก็แค่หวังดี”
“จุ้นจ้านสิไม่ว่า”เธอพึมพำ
“อย่าเครียดไปเลย เดี๋ยวลูกหน้างอไปด้วยหรอก” เขาแซวยิ้มๆ
“ชั้นไม่พูดกับนายแล้วแถได้ตลอด ไปนอนดีกว่าแล้วขอบอกว่าห้ามนายรบกวนเด็ดขาด”เธอชี้หน้าเขาอย่างงอนๆ
“อะไรกัน พบคุณจะนอนตั้งแต่สี่โมงเช้าเลยเหรอ” เขาถามอย่างสงสัย แต่พบรักกับเข้าใจว่าเขาคิดว่าเธอขี้เกียจเอาแต่นอน โดยที่ไม่ตั้งใจน้ำตาก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
“ชั้นก็เป็นของชั้นอย่างนี้ใครจะทำไมถ้าทนไม่ได้ก็ยกเลิกสัญญาสิ” เธอบอกน้ำเสียงตัดพ้อแล้วเดินจากไปทันที ทิ้งให้ตุลาการยืนมองด้วยความ งงงวยว่าเขาทำอะไรผิด แจ๋วที่เดินมารีบอธิบายเสียงใสว่า
“คุณตุลย์ไม่ต้องตกใจหรอกค่ะ หมู่นี้คุณพบเธอขี้น้อยใจอะไรนิดอะไรหน่อยเธอก็ปล่อยโฮ ขนาดหนูแค่ไม่ไปซื้อของให้เธอ เธอร้องไห้น้อยใจหนูเป็นชั่วโมง แต่พอเผลอไปสักพักคุณเธอก็อารมณ์ดีเหมือนเดิม แรกๆหนูก็ตกใจเหมือนคุณแหละแต่พอไปถามแม่แกบอกว่าคน ท้องก็งี้แหละอารมณ์ไม่แน่นอน พูดผิดนิดเดียวคุณเธอก็โวยวายลั่น คุณอยู่ๆไปก็ชิน ยังมีแปลกกว่านี้อีก” แจ๋วบอกอย่างรู้ดี
“สงสัยชั้นต้องเจอสึกหนักแน่ๆ” ตุลาการส่ายหัวอย่างหนักใจแต่ก็อดยิ้มกับพฤติกรรมแปลกๆแต่น่าเอ็นดูของพบรักไม่ได้
ความคิดเห็น