คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ความเจ็บปวด
บทที่ 3
3 อาทิตย์ต่อมา
หลังจากพบรักได้ผ่านเรื่องราวต่างๆมานั้น หญิงสาวก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ โดยทิ้งทุกอย่างเป็นแค่ฝันร้าย จนกระทั่ง บริษัทบริษัทของสิตางค์ที่เธอทำงานอยู่ และบริษัทส่งออกผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรเทพนิมิตรผลของ ตุลาการ กำลังมีโครงการใหญ่ร่วมกัน จึงทำให้งานของทั้งสองบริษัทมีมากขึ้น มีการร่วมมือระหว่างทั้งสองบริษัทจึงทำให้ทั้งผู้บริหาร และพนักงานที่เกี่ยวข้องต้องไปมาหาสู่กันบ่อยๆ ราวกับพวกเขาทำงานกันทั้งสองบริษัท วันนี้ก็เช่นกันที่ตุลาการต้องเข้ามาประชุมที่บริษัทของสิตางค์
“ก๊อกๆๆ”
“คุณสิตางค์ค่ะ คุณตุลย์มาถึงแล้วค่ะ” เลขาสาวใหญ่รายงานหน้าตายิ้มแย้ม
“ให้เข้ามาได้เลยค่ะพี่เกศ” ยังไม่ทันที่เกศราจะรายงานเสร็จตุลาการก็โผล่จากด้านหลังเลขาสาวใหญ่มาโบกมือให้สิตางค์สีหน้าทะเล้น
“ว่าไงครับ สาวสวยของผม” เขาทักพลางนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยท่าทางสบายๆ
“แหมมาถึงก็หยอดชั้นเลยนะ พ่อหนุ่มเพล์บอย” สิตางค์ว่าน้ำเสียงประชดประชันพลางเบ้ปากอย่างหมั่นไส้
“โธ่ ๆ นานๆทีผมก็อยากลองแซวสาวสวยวัยใกล้ฝั่งก็เท่านั้นเอง”เขาว่าพลางทำหน้าทะเล้น แต่ไม่ทันที่ตุลาการจะได้เอ่ยแซวต่อ ปากกาด้ามหนึ่งก็ลอยมาปะทะที่ศีรษะของเขาอย่างแม่นยำ
“ไอ้ตุลย์ปากหมา แกอย่ามาว่าชั้นแก่นะ ถ้าชั้นแก่ แกก็ไม่ต่างจากชั้นมากหรอกย่ะ” สิตางค์ว่าอย่างเคืองๆ
ตุลาการเอามือลูบศีรษะปอยๆ พลางพูดเปลี่ยนเป็นเรื่องงานแทน เพราะดูอารมณ์เจ้าหล่อนตอนนี้ คงอยากฆ่าเขาเต็มแก่ ไม่น่าไปสะกิดต่อมเจ้แกเลย
“เอาละ เอาละ ผมขอโทษ เราเข้าประชุมกันสักทีเถอะ สายมา 5 นาทีแล้ว” เขาเตือนพร้อมทำท่าชี้ไปที่นาฬิกาตรงตรงทำงานของเธอ
“นายนั้นแหละ ทำชั้นสายฝากไว้ก่อนเถอะแก วันนี้ไปทำงานกันก่อนแล้วกันป่านนี้คนอื่นๆรอแย่แล้ว” พูดจบสิตางค์ก็ก้าวนำตุลาการออกจากห้องไปอย่างรีบเร่ง
ทันทีที่ตุลาการและสิตางค์ก้าวมาในห้องประชุม เสียงจอแจที่ดังเมื่อครู่ก็เงียบลง สายตาทุกคู่มองทั้งสองคนอย่างไม่ได้นัดหมาย หนึ่งในนั้นก็คือ พบรักซึ่งหันมาเป็นคนสุดท้าย ทันทีที่สายตาของเธอไปปะทะกับสายตาของเขาราวกับโลกกำลังจะถล่มทลายหญิงสาวหุบรอยยิ้มร่าเริงเมื่อครู่ทันที ใบหน้าซีดเผือดเนื้อตัวเย็นเฉียบ มือไม้สั่นอย่างห้ามไม่อยู่ จนกมลาที่อยู่ข้างๆสังเกตเห็น พลางถามด้วยน้ำเสียงห่วงใยว่า
“พบเป็นอะไรหรือเปล่า ดูสิตัวเย็นเฉียบเลย หน้าก็ดูซีดๆไม่สบายหรือเปล่า เมื่อกี้ยังดีๆอยู่เลย” กมลาพูดน้ำเสียงห่วงใย มือไม้จับตัวพบรักอย่างสำรวจ
เมื่อตั้งสติได้พบรักก็ปรับสีหน้าใหม่ พลางหันไปพูดกับกมลาว่า
“พบไม่ได้เป็นอะไรหรอกค่ะ พอดีตรงนี้แอร์มันเย็นมากนะค่ะพบเลยหนาวๆคงยังปรับอุณหภูมิไม่ได้ค่ะ”เธอแก้ตัวพลางลูบแขนลูบตัวไปด้วย
“ถ้างั้นก็แลกที่นั่งกับพี่แล้วกัน ตรงพี่ไม่ค่อยโดนแอร์เท่าไหร่” กมลาพูดเสร็จก็จัดการแลกที่นั่งทันที พบรักจึงต้องเปลี่ยนที่นั่งอย่างช่วยไม่ได้ และด้วยโต๊ะที่นั่งประชุมมีลักษณะเป็นวงกลม เมื่อเธอแลกที่นั่งกับกมลาก็เท่ากับว่าเธอนั่งตรงข้ามกับตุลาการพอดี แล้วมันก็สร้างความลำบากใจให้เธอไม่น้อย ก็ดูสิตุลาการเอาแต่มองมาที่เธอ ส่งรอยยิ้มกวนประสาทมาให้ตลอดการประชุม และเมื่อตอนที่เธอเดินไปแจกเอกสารประกอบการบรรยายเขาก็แกล้งจับมือเธอตอนส่งเอกสารให้ จนเธอเกือบตวาดใส่ ดีนะที่เขายอมปล่อยก่อน กว่าจะประชุมเสร็จก็เล่นเอาพบรักแทบหมดแรง ทันทีที่ได้ข้อยุติการประชุมเธอก็ไม่รอช้ารีบออกจากห้องประชุมทันที จนกมลางุนงงกับท่าทีของพบรักอย่างมาก ก็ปกติพวกเธอมักจะออกจากห้องประชุมเป็นคนท้ายๆ รอเมาท์กับคนอื่นก่อน แต่วันนี้กับรีบลุกออกไปทันทีที่ประชุมเสร็จ
“ยัยพบ มันจะรีบไปไหนเนี่ย ทำอย่างกับจะไปตามควาย”กมลาพึมพำก่อนจะเดินตามออกไป
“ฮึ” ตุลาการหัวเราะในลำคอ
“หัวเราะบ้าอะไร นายตุลย์” สิตางค์ว่าอย่างจับผิด
“เปล่าผมแค่นึกอะไรขำๆ” เขาปฏิเสธหน้าตาย
“ชั้นก็คิดว่านายหัวเราะสาวน้อยคนนั้นนะสิ ชั้นเห็นนะตลอดการประชุมนายเอาแต่จ้องเธออยู่ได้ จนแม่สาวน้อยกลัวจนหน้าซีดไปหมดแล้ว” สิตางค์ว่าด้วยท่าทีรู้ทัน
“ถ้าเธอคิดแบบนั้น ก็ตามใจแล้วกัน ผมมีธุระต่อไปก่อนนะ” พูดจบเขาก็เดินออกจากห้องประชุมทันที ทันเห็นหลังของพบรักไวๆ พลางคิดในใจอย่างสนุกว่า “ถ้าเธออยากเล่นเกมแมวจับหนูนัก ก็เอาเลยชั้นจะลองเล่นกับเธอสักเกมรับลองเธอหนีชั้นไม่ได้นานหรอกพบรัก ฮึๆ”
“ยัยพบ แม่คุณหล่อนจะรีบไปไหนย่ะ ประชุมเสร็จก็พรวดพลาดออกมาเลย” กมลาเท้าเอวถามอย่างจับผิด
“เออคือ คือ ก็ที่ห้องประชุมแอร์มันเย็นมากเลยค่ะ พบนั่งนานๆเลยปวดฉี่ ม้าก มาก พอประชุมเสร็จปุ๊ปบพบเลยรีบวิ่งเข้าห้องน้ำเลย เกือบไม่ทันแนะพี่กบ” พบรักแก้ตัวเป็นพัลวัน
“แล้วก็ไม่บอก เห็นรีบออกมายังกับจะหนีใคร” กมลาเอ่ยแซว
“พี่เห็นนะว่าคุณตุลย์เขามองมาที่เราตลอดเลย พบรู้จักกับเขามาก่อนหรือเปล่าจ๊ะ” กมลามองอย่างจับผิด
“โธ่ พี่กบพบจะหนีใครล่ะคะ ไม่มีหรอกค่ะพี่กบคิดมากไปหรือเปล่า ก็โต๊ะประชุมมันเป็นแบบวงกลมนี่ค่ะเวลาเขามองคนที่นั่งใกล้เรามันก็เหมือนเขามองเรานั้นแหละ ภาพมันเลยดูหลอกตา แล้วเราก็เลิกพูดเรื่องนี้กันซะทีเถอะค่ะ นี่ก็เที่ยงแล้วเราไปหาอะไรกินกันดีกว่า พบหิวแล้ว” พบรักรีบตัดบทสนทนาก่อนที่กมลาจะสงสัยอะไรมากไปกว่านี้ เพราะเธอเองก็โกหกไม่ค่อยเก่งอยู่แล้วขืนโดนพี่กบ ซักมากๆเข้าเรื่องเธอกับเขาคงไม่เป็นความลับอีกต่อไป ไม่นานสองสาวก็ออกไปข้างนอก และลืมเรื่องราวในห้องประชุมในที่สุด
3 วันต่อมา
วันนี้เป็นวันอาทิตย์เป็นวันพักผ่อนของหลายๆคน ไม่เว้นแม้แต่พบรักที่วันนี้ออกมาซื้อของเข้าบ้านตามปกติ และขณะที่เธอกำลังเพลินเพลินกับการเลือกผลไม้อยู่นั้น ฉับพลันก็มีมือปริศนามือหนึ่งหยิบแอปเปิ้ลลูกที่เธอกำลังจับอยู่ เธอจึงบอกด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดก่อนจะหันไปพูดว่า
“นี่คุณค่ะ ลูกนี้ชั้นจับก่อนนะ” แต่ทันทีที่เธอเห็นว่า เป็นใครแอปเปิ้ลก็หลุดจากมือเธออัตโนมัติ ดีที่ตุลาการรับไว้ทัน
“นี่คุณ เห็นผมแค่นี่มือไม้อ่อนเลยหรือครับ” เขาพูดด้วยท่าทางและน้ำเสียงยียวน
พบรักได้ยินดังนั้นถึงกับโกรธวูบ เค้นเสียงใส่อย่างเขาอย่างโมโหว่า
“จะไปตายที่ไหน ก็ไป อย่ามายุ่งกับชั้น”
“โธ่ใจร้ายจัง ไอ้เราก็อุตส่าห์คิดถึง พอเห็นก็รีบมาทักทาย แต่คุณกับไล่ให้ผมไปตาย มันน่าน้อยใจจริงๆเลย” เขาว่าน้ำเสียงน้อยใจแต่แววตากลับแววระยับด้วยความขบขันที่ยั่วโมโหได้
“คุณมันไม่รักษาสัญญา หลีกไป” พูดเสร็จพบรักก็เข็นรถใส่ของเกือบชนตุลาการดีที่เขาหลบทัน
“คุณนี่ใจร้ายจังเลย” เขาว่าขณะเดียวกันก็ตามเธอไม่ยอมลดละ จนพบรักรำคาญจึงรีบจ่ายเงิน เสร็จแล้วจึงถือข้าวของพะรุงพะรังไปที่รถทันทีภายในใจได้แต่โมโหเป็นที่สุด ข้าวของยังได้ไม่ครบเลยก็ต้องรีบกลับซะแล้ว แต่ขณะที่เธอลงไปนั่งตรงคนขับตุลาการอาศัยความว่องไวรีบลงไปนั่งที่เบาะข้างๆทันที
“นี่ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไง ชั้นบอกว่าอย่ามายุ่งกับชั้นที่ผ่านมาชั้นจะถือซะว่าชดใช้กรรม ” พบรักบอกอย่างเย็นชา และขณะที่บรรยากาศในรถกำลังคุกกรุ่น เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้นมาพอดี เมื่อเห็นว่าเป็นสายของเมธี ตุลาการจึงดึงมือถือมาจากมือของเธอจัดการกดรับสายแทนและเปิดลำโพง ส่งสายตาบอกให้พบรักพูดสายกับเมธี พบรักจึงจำใจพูดโทรศัพท์ทั้งๆที่ ตุลาการมองด้วยสายตาขุ่นเคือง
“ค่ะพี่ธี”
“พบอยู่ไหนแล้วค่ะ พี่รออยู่ที่บ้านตั้งนานแล้วนะ หิวจะแย่ไหนบอกว่าวันนี้จะทำน้ำแอปเปิ้ลอร่อยๆให้พี่ทานไง” เมธีถามด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดี โดยไม่รู้เลยว่าตุลาการเริ่มหน้าบึ้ง หมั่นไส้เขาอยู่ข้างๆพบรัก
“พบกำลังจะกลับแล้วค่ะพี่ธี พี่ธีจะเอาอะไรอีกไหมค่ะ พบจะได้แวะซื้อเข้าไปเลย” พบรักตอบกลับน้ำเสียงรนๆ
“ไม่เอาแล้วล่ะ พบรีบกลับมาแล้วกันพี่จะรอทานข้าว ขับรถระวังๆหน่อยแล้วกันพี่เป็นห่วง” ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะตอบกลับตุลาการก็จัดการตัดสายทันที พบรักจึงพยายามแย่งโทรศัพท์คืนแต่ ตุลาการก็โยนโทรศัพท์ของเธอไปที่เบาะหลังทันที
“นี่คุณ มันจะมากไปแล้วนะ คุณมีสิทธิ์อะไรมาทำกับชั้นอย่างนี้”พบรักตวาดกลับด้วยความโมโห
“ก็สิทธิ์ของสามีคุณไง คุณอย่าลืมนะว่าเราเป็นอะไรกัน” เขาพูดน้ำเสียงจริงจัง มือข้างหนึ่งบีบแขนของพบรักไว้แน่น
“คุณไม่ใช่สามีชั้น เราไม่ได้เป็นอะไรกัน ที่ผ่านมามันก็แค่ความผิดพลาด” เธอตอบกลับน้ำเสียงเข้มไม่แพ้กันนัยน์ตาของเธอมองผ่านเขาด้วยความเย็นชา
“เธอคงคิดว่าไอ้คนที่โทรมาหาเธอมันจะรับได้หรือไงถ้ามันรู้ว่าผู้หญิงที่มันเฝ้าถนอมไม่เคยแตะต้องเธอเลย จะกลายเป็นเมียชั้นแล้ว” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยพร้อมกับบีบแขนเธอแน่น
“เพี๊ย” เสียงฝ่ามือของพบรักฟาดใส่หน้าของตุลาการอย่างไม่ออมแรง
เขาลูบแก้มของตน พลางเอาลิ้นดุนริมฝีปากก็พบกับรสเค็มปร่าของเลือดที่มุมปาก สร้างความโมโหให้แก่เขา ยิ่งนักเพราะตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าทำกับนายตุลย์อย่างนี้มาก่อน เขาจึงกระชากร่างของพบรักมาที่เขาอย่างแรงพร้อมกับจูบลงทัณฑ์ หญิงสาวอย่างดุดันเนิ่นนาน จนพบรักรู้สึกถึงรสเค็มปร่าที่ริมฝีปากของเธอเช่นกัน
“จำไว้นี่แค่ลงโทษ ถ้าวันหลังเธอกล้าตบชั้นอีกชั้นจะเอาคืนเป็นร้อยเท่า อ้อแล้วอีกอย่างตอนนี้เธอเป็นผู้หญิงของชั้นห้ามเธอไปยุ่งกับผู้ชายหน้าไหนอีก ไม่งั้นเธอกับชั้นได้เห็นดีกัน” พูดจบตุลาการก็ลงจากรถของพบรักทันที ทิ้งให้พบรักมองเขาผ่านม่านน้ำตาที่เต็มไปด้วยความคับแค้นใจพลางคิดอย่างเจ็บใจว่า ทำไมนะ ทำไม ทำไมเธอต้องเจอเขาด้วย ทำไม
หลังจากที่ลงจากพบรักแล้วเขาก็ตรงไปที่รถของตนเองบ้างแต่ขณะที่เขากำลังจะเปิดประตูรถนั้น เมฆา ซึ่งเห็นเขาตั้งแต่ลงมาจากรถของพบรัก ก็รีบตรงเข้ามาทักทายทันที
“เฮ้ย ไอ้ตุลย์ เมื่อกี้แกจูบกับผู้หญิงที่ไหนในรถว่ะ โอ้โหเล่นกันซะเลือดกบปากเลยเหรอวะ” เมฆาเอ่ยแซวเสียงดังพลางจับหน้าตุลาการสำรวจอย่างขำๆ
“ไอ้บ้า ไม่ใช่โว้ย ข้าโดนเขาตบมา ข้าเลยสั่งสอนไปนิดหน่อย แกดูสิเล่นซะหน้าชาเลยผู้หญิงอะไรมือหนักชะมัดเลย” เขาอธิบายเซ็งๆ
“ว่าแต่เจอแกก็ดีแล้ว ข้ามีเรื่องกลุ้มๆจะเล่าให้ฟังหน่อยว่ะ เกี่ยวกับเรื่องที่ผับคืนนั้นนะ แต่ตรงนี้มันไม่ค่อยสะดวกข้าว่าเราไปหาที่เงียบๆคุยกันดีกว่า”
เมื่อทั้งสองคนไปนั่งจิบกาแฟที่ร้านแห่งหนึ่ง ตุลาการก็ได้เล่าเรื่องราวระหว่างเขากับพบรักให้เมฆาฟังทั้งหมดอย่างไม่ปิดปัง เพราะทั้งสองคนคบหากันมาตั้งแต่สมัยมัธยม เคยร่วมเป็นร่วมตายกันมาก็มาก ถึงจะมีนิสัยบางอย่างที่ต่างกันแต่พวกเขาก็ยังคบกันได้ ฉะนั้นระหว่างพวกเขาแล้วจึงไม่เคยมีความลับระหว่างกัน และเมื่อเมฆาได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากของตุลาการแล้ว เขาก็เริ่มเห็นแววความยุ่งยากในชีวิตเพื่อนซะแล้วสิ ลองว่าไม่ยอมปล่อยเธอไปแบบนี้เห็นที ตุลาการคงพอใจพบรักไม่น้อย เขาจึงตัดสินใจบอกอะไรบางอย่างเกี่ยวกับคืนนั้นให้ตุลาการฟังทันที
“ตุลย์ข้ามีบางอย่างที่ต้องบอกเอ็งเกี่ยวกับเรื่องคนนั้น อีกอย่างว่ะ คือว่าข้าแอบใส่ยาลงในแก้วน้ำดื่มของคุณพบว่ะ มันเป็นของที่พรรคพวกมันฝากไว้ที่ข้า คนที่กินเข้าไปจะเห็นคนๆนั้นเป็น คนที่พวกเขารู้จักคุ้นเคย แล้วก็ช่วยปลุกอารมณ์ปรารถนาออกมาอย่างไม่รู้ตัว แต่มีข้อเสียอยู่ว่ามันจะไม่ทำลายความทรงจำ พูดง่ายๆก็คือไม่ว่าเราจะทำอะไรกับคนคนนั้น เขาก็จะรู้ตัวแต่จะไม่สามารถขัดขืนได้ เขาสารภาพเสียงอ่อยและพูดต่ออีกว่า ตอนแรกก็แค่อยากให้เธอไม่ขัดขืนยอมไปกับข้าง่ายๆ ไม่นึกว่าเธอจะเพ้อหนักคิดว่าแกเป็นแฟนเขานี่หว่า ”
“มิน่าล่ะไอ้เมฆ เขาถึงไปกับข้าง่ายๆ อ้อนแล้วอ้อนอีกจนข้าคิดว่าเขาไม่คิดมากเรื่องพวกนี้ เฮ้อแล้วทีนี้ข้าจะทำไงดีว่ะ ใจหนึ่งก็รู้สึกผิด แต่อีกใจข้าก็อยากเอาชนะ แล้วแกรู้อะไรไหมเธอบอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเค้าบอกว่าทำทาน ห้ามข้าไปยุ่ง เจอก็ห้ามเข้าไปทัก ก็ใช่นะซิ ก็ไอ้หมอนั้นมันเอาใจเธอยังกะอะไร คงจะรักกันมากสินะ ฮึ ” เขาบ่นอย่างเซ็งๆพลางจิบกาแฟอย่างไม่สบอารมณ์
“อ้าว เขาไม่เอาเรื่องก็ดีแล้วนี่หว่า สมัยนี้ผู้หญิงเค้าไม่ถือเองพวกนี้หรอก สนุกๆจบภายในคืนเดียว บางครั้งข้ายังเคยนอนกับผู้หญิงที่หิ้วมาจากผับโดยที่ไม่รู้ว่าเธอเป็น ใครชื่ออะไร พอเช้าต่างคนต่างไปจำหน้ากันได้ที่ไหน แล้วผู้หญิงที่แกนอนด้วย ก็คงไม่ใส่ผู้หญิงบริสุทธิ์ผุดผ่องที่ไหน แฟนเขาก็มีไม่ใช่หรือไง ไม่งั้นคงไม่ถือสาแกหรอกว่ะ ” เมฆพูดอย่างให้เหตุผลพร้อมทั้งตบบ่าตุลาการแสดงความเห็นใจ
“น้อยไปสิ ไอ้เมฆถ้าเขาเป็นอย่างที่เอ็งว่าข้าจะไม่เครียดเท่าเท่านี้เลย ถ้าข้าไม่ใช่ผู้ชายคนแรกของเขา ”เขาบอกอย่างคิดไม่ตก
“แกแน่ใจได้ยังไงวะ ว่าแกเป็นคนแรกของเขา บางทีไอ้ของแบบนี้มันก็แอ็บกันได้” เมฆาบอกอย่างไม่เห็นด้วย
“ข้าไม่ได้โง่นะโว้ย ที่จะแยกไม่ออก ข้ากับเอ็งก็พอๆกันกับเรื่องอย่างว่า เอ็งคิดว่าเรื่องแบบนี้จะหลอกข้าสำเร็จเหรอว่ะ” ตุลาการโต้ด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ขณะที่เมฆาเองก็เชื่ออย่างสนิทใจว่าตุลาการไม่ได้โง่ ถ้าเขาไม่มั่นใจคงไม่เครียดขนาดนี้
“แต่เขาบอกไม่ให้แกไปยุ่งกับเขาไม่ใช่หรือว่ะ คงอยากให้จบๆไป แฟนเขาคงเข้าใจดีแหละข้าว่า”เมฆาบอกอย่างให้กำลังใจ
“เชอะ ข้าไม่เชื่อหรอกว่าจะรับได้ และตราบใดที่เรื่องนี้ยังไม่เคลียร์ ข้าไม่มีวันปล่อยเธอไปให้ใครทั้งสิ้นข้ามีสิทธิ์ในตัวเธอมากกว่าผู้ชายคนนั้น” ตุลาการบอกอย่างเอาแต่ใจ
“ข้าว่าที่เอ็งไม่ยอมจบ เนี้ยไม่ใช่ว่าเอ็งเกิดคิดจริงจังกับเขาขึ้นมาหรือว่ะไอ้ตุลย์” เมฆาเอ่ยแซวพลางหัวเราะอารมณ์ดี
“ไม่ใช่โว้ย ข้าแค่หมั่นไส้แม่คุณก็เท่านั้น แกคิดดูเถอะไม่เคยมีผู้หญิงที่ไหนเมินใส่ข้าสักคน แล้วแม่นั้นมีสิทธิ์อะไรมาว่าด่าข้าป่าวๆเวลาเจอหน้าก็ทำเย็นชาเป็นน้ำแข็ง ข้าเห็นทีไรอดไม่ได้ที่จะสั่งสอนให้รู้จักกับนายตุลย์เสียบ้าง” ตุลาการรีบหาข้อแก้ตัวเป็นพัลวัน พลางคิดในใจว่า เขาก็แค่หมั่นไส้เจ้าหล่อนก็เท่านั้น เท่านั้นจริงๆ
ความคิดเห็น