ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fan Fic] Digimon Series : Birdie Sweetheart

    ลำดับตอนที่ #19 : Chapter : 08 .. Obstacle Race 1 - เริ่มต้นวิบากสามัคคี

    • อัปเดตล่าสุด 1 เม.ย. 53


     

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

    Title : The (Boys') Marry (1st Episode ; Beginning of Final Sovereign)

    Chapter : 08 .. Obstacle Race 1 - เริ่มต้นวิบากสามัคคี

    Author : NaR!eZ-Narilada

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

     

              ช่วงใกล้เที่ยงวันของวันศุกร์ที่ 11 สิงหาคม ค.ศ. 2006 , เวลา 11.4x น. งานแสดงละคร

     

     

              ณ ห้องประชุม

     

     

                "เอาล่ะค่ะ การแสดงจบลงไปแล้ว ขอเชิญนักแสดงทั้งหมดออกมายืนเรียงกันบนเวทีเลยค่ะ ระหว่างรอก็ขอพูดถึงเบื้องหลังตอนซ้อมก็แล้วกันนะคะ สำหรับการแสดงในครั้งในมีแขกรับเชิญอยู่ ทางทีมงานแสดงเลยตกลงกันว่าจะไม่ให้นักแสดงรู้ว่ามีใครแสดงร่วมกับตัวเองบ้าง และในตอนนี้ พวกเราจะมาเฉลยบทกันทีละคนเลยนะคะว่าใครแสดงเป็นใครบ้าง... โอ๊ะ ขึ้นมากันครบแล้วสินะคะ มีผู้แสดงทั้งหมดสิบสามคน ดูจากรายชื่อแล้ว... เอ๋!?"

     

     

                เสียงบรรยายของมิยาโกะหยุดชะงักเมื่อเธอไล่อ่านรายชื่อนักแสดงจนครบ เจ้าตัวดันกรอบแว่นขึ้นแล้วเหลือบมองนักแสดงแต่ละคนแล้วหลุดอุทานออกมา

     

     

                "โอ้... ต้องขออภัยสำหรับที่บรรยายไปในตอนต้นงานนะคะ จากรายชื่อนักแสดงแล้วปรากฏว่านักแสดงที่แสดงนี่มาจากการคัดเลือกของทีมงามนะคะ อ้อ มัธยมปลายปีสามทั้งหมดเกือบทุกคนเป็นทีมงามน่ะค่ะ ให้ตายสิ เหมือนฉันจะตกหล่นอะไรไปหน่อย ขออภัยจริงๆ ค่ะ แต่ก่อนจะเริ่มเปิดเผยรายชื่อนักแสดงแต่ละคน เรามาฟังกติกาของกิจกรรมเซอร์ไพรส์ท้ายงานก่อนเลยนะคะ ฉันจะบรรยายคุณลักษณะของผู้แสดงสามอย่าง ถ้าท่านใดรู้ว่านักแสดงเป็นใครให้ยกมือแสดงตัวนะคะ แล้วจะมีคนไปยื่นไมค์ให้ ให้ทายว่านักแสดงคนนี้เป็นใคร ถ้าทายถูกจะมีรางวัลให้ แต่รางวัลเป็นอะไรนั้นคงต้องอุบไว้ก่อน แต่ทายกันไม่ถูกแน่นอนค่ะ หุหุ ... จริงสิ ถ้านักแสดงอยากทายก็ทายกันได้นะคะ"

     

     

                มิยาโกะเดินมาหยุดยืนอยู่ใกล้ๆ คนที่แสดงเป็นลิชีโน่หรือตัวเอกของเรื่องแล้วเริ่มพูดต่อ

     

     

                "มาเริ่มที่คนแสดงบทลิชีโน่ที่เป็นตัวเอกเลยนะคะ สำหรับคนแสดงบทนี้นั้น.. เป็นเด็กไฮสคูลโอไดบะ สถานภาพเป็นโสด และอยู่ชมรมการแสดงค่ะ เริ่มนับเวลาถอยหลังสามสิบวินาทีนะคะ ..."

     

     

                หลายคนที่หวังในรางวัลเริ่มขบคิดกันใหญ่ พวกบนเวทีเองก็นึกอยู่เหมือนกัน แต่สามอย่างนี้ไม่ใช่ว่ามันจะแคบๆ นะ มาอันแรกก็ล่อซะกว้างแล้ว ไอ้สถานะเป็นโสดนี่มัน..อยากรู้จริงๆ ว่ารู้ได้ยังไงว่านักแสดงคนนั้นโสดจริงหรือเปล่า และ.. ชมรมการแสดง ก็หมายความว่าจะมีแค่เด็กไฮสคูลโอไดบะเท่านั้นที่รู้ว่าใครอยู่ชมรมการแสดงบ้าง.. โอ้ เป็นการตัดคนชั้นยอดเลยจริงๆ

     

     

                "สิบวินาทีสุดท้าย...อ๊ะ คนที่แสดงบทเป็นองค์ราชินีเป็นคนยกมือค่ะ ตอนนี้ช่วยทำน้ำเสียงแบบตอนที่แสดงด้วยนะคะ เดี๋ยวคนอื่นจะรู้ว่าคุณเป็นใครซะก่อน"

     

     

                เด็กสาวยื่นไมค์จ่อปากอีกฝ่าย สีหน้าอีกฝ่ายดูลำบากใจหน่อยๆ ที่จะตอบ ก่อนจะตอบออกมาน้ำเสียงอ่อยๆ คล้ายคนหวาดระแวงเวลาทำอะไรผิดขึ้นมา

     

     

                "โมโตมิยะ ไดสึเกะค..ค่ะ"

     

     

                คนดูหลายคนร้องอุทานกันออกมา เพราะมีหลายคนเหมือนกันที่เห็นฉากจูจุ๊บระหว่างลิชีโน่กับองค์ราชินี ส่วนคนแสดงบทลิชีโน่ถอนหายใจเฮือกออกมา. แหงล่ะ ถ้าเปิดเผยคนแสดงเมื่อไหร่ข่าวลือได้มีกระฉ่อนแน่สำหรับผู้รับบทสองบทนี้

     

     

                "เปอร์เซ็นต์ถูกมีสูงไหมคะเนี่ย? โอ๊ะ ฉันมองลงไปตรงที่นั่งคนดูนะคะ ปกติคนที่ร่วมแข่งไตรกีฬาจะได้นั่งใกล้เวที แต่นี่ฉันไม่เห็นไดสึเกะนั่งอยู่เลยล่ะค่ะ! โอ้.. ฉันว่าให้เจ้าตัวมาเฉลยดีกว่า ขอเชิญผู้รับบทลิชีโน่มาประกาศชื่อตัวเองพร้อมบอกความรู้สึกที่ได้มารับบทลีชีโน่หน่อยค่ะ"

     

     

                ผู้รับบทลิชีโน่ในชุดเสื้อมอซอแขนสั้นสีขาวมีรอยเย็บรอยปะชุนมากมาย กางเกงผ้าขายาวสีฟ้ามีรอยขาดวิ่นเป็นริ้วๆ พร้อมรอยปะชุนหลายจุด รองเท้าหนังสัตว์สีน้ำตาลอ่อนธรรมดา นัยน์ตาสีฟ้าประกาย และผมสีน้ำตาลอ่อนที่ยุ่งเหยิงยาวถึงกลางหลัง ... เจ้าตัวรับไมค์จากมิยาโกะแล้วเงียบไปสักพัก ก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงตามปกติของตัวเอง ทำเอาหลายๆ คนถึงกับอึ้งเมื่อได้ยินน้ำเสียงนี้ คนรับบทซันไชน์แทบจะกระโจนไปตะปบคนรับบทองค์ราชินีด้วยซ้ำ แต่คนรับบทมูนไลท์ก็คว้าตัวไว้ก่อน

     

     

                "ผม... โมโตมิยะ ไดสึเกะ ผู้รับบทลิชีโน่ครับ สำหรับความรู้สึก ตอนแรกค่อนข้างช็อกอยู่หน่อยๆ ที่จู่ๆ ก็โดนรุ่นพี่ปีสามกลุ่มนึงฉุดเข้าห้องเรียนแล้วบอกให้ผมรับบทลีชีโน่น่ะ เคยคิดหรอกว่าจะรอดไหมอะไรแบบนี้ แต่ผลงานออกมาค่อนข้างโอเคก็รู้สึกภูมิใจและเป็นเกียรติที่ได้มารับบทตัวเอกน่ะครับ"

     

     

                "โอ.. ขนาดทีมงามแต่งตัวซะจนไม่เหลือเค้าโครงเดิมยังอุตส่าห์ทายถูกอีก ไม่ทราบว่ารู้ได้ยังไงคะ อย่าบอกนะว่าเพราะจูบกันแล้วรู้เลยน่ะ ฉันหาข้อมูลไม่ผิดหรอกนะคะเรื่องที่ไดสึเกะโสดเนี่ย"

     

     

                น้ำเสียงแนวล้อเลียนอย่างชัดเจน มิยาโกะได้ทีก็รุกเอ๊ารุกเอา แถมแววตาที่เปล่งประกาย(?)ไปด้วยความสงสัยนั่นอีก สงสัยกะจะรุกไอ้เจ้าคนที่รับบทองค์ราชินีให้จนมุมแหงเลย

     

     

                "ไม่หรอกค่ะ จู่ๆ มันก็ปิ๊งขึ้นมาในหัวเลยพอได้ยินที่บอกว่าอยู่ชมรมการแสดง อีกอย่างฉันคิดว่าถ้าเป็นโสดทั้งๆ ที่อยู่ชมรมการแสดงนี่มันก็แปลกไปหน่อย เท่าที่ฉันรู้มาคนที่อยู่ในชมรมการแสดงจะมีแฟนกันหมด และคนที่ยังไม่มีแฟนก็มีแค่คนเดียวคือไดสึเกะนั่นแหละค่ะ"

     

     

                "..แล้วรู้ได้ไงว่าไดสึเกะยังไม่มีแฟนคะ?"

     

     

                ต้อนกันเข้าไป... ไดสึเกะมองมิยาโกะที่ถามอย่างกับกำลังล้วงเบื้องลึกของดาราแล้วยิ้มเจือนๆ แต่พูดก็พูดเถอะ ทำไมผู้หญิงที่รับบทองค์ราชินีถึงได้รู้อะไรละเอียดขนาดนั้นนะ?

     

     

                "ก็เห็นคุณไทจิตามหวงตามกั๊กซะขนาดนี้คงไม่มีใครเสนอตัวเป็นแฟนหรอกค่ะ"

     

     

                ถ้อยคำที่ออกจะพาดพิงไปยังอีกบุคคลหนึ่งทำเอาเจ้าคนถูกพาดพิงหน้าเหวอไปพักหนึ่ง นี่กะจะบอกว่าที่ไดสึเกะเป็นโสดอยู่เพราะมีไม้กันหมาชั้นเยี่ยมว่าอย่างนั้นเถอะ

     

     

                "โอ๊ะ.. รู้ลึกกันจริงนะคะ ไม่ได้เรียกคุณไทจิว่าประธานนักเรียนซะด้วย อยากจะเปิดเผยจริงๆ ว่าผู้รับบทองค์ราชินีเป็นใคร.. เอาล่ะค่ะ สำหรับรางวัลจะบอกอีกทีตอนเลิกงานนะคะ มาถึงคนที่สองบ้าง แม้จะไม่มีบทอะไรมากมายแต่เสียงกรี๊ดกร๊าดก็ดังลั่นเหมือนกัน ผู้รับบทองค์ราชานั่นเอง! สำหรับคุณลักษณะทั้งสาม.. เป็นเด็กไฮสคูลโอไดบะ ถนัดเครื่องดนตรีจำพวกเครื่องเป่า และสเป็กคนที่ชอบคือคนผมสีโทนน้ำเงิน นับถอยหลังสามสิบวินาทีนะคะ.."

     

     

                มากันที่คนที่สองบ้าง อันนี้คุณลักษณะแรกแทบไม่ได้ช่วยเลย มันเอื้อแก่คนโรงเรียนเดียวกันโดยเฉพาะ อย่างที่สองนี่ดีหน่อย แต่ก็เอื้อประโยชน์ให้แก่เด็กโอไดบะอยู่ดี จะมีคนนอกกี่คนเชียวที่รู้ว่าในโรงเรียนมีเด็กคนไหนที่เก่งเครื่องเป่าบ้าง และอย่างสุดท้าย.. อยากรู้จริงๆ ว่าไปหาเรื่องพวกนี้มาจากไหน นี่มันข้อมูลแนวความลับของเจ้าตัวชัดๆ นอกจากตัวเองกับพวกชมรมปาปารัซซี่แล้วก็แทบไม่มีใครรู้ ท่าทางว่างานแสดงละครครั้งนี้คงเป็นความร่วมมือระหว่างชมรมในการเปิดเผยความลับ(?)ของพวกนักแสดงซะแล้ว

     

     

                "โอ๊ะ ผู้รับบทซันไชน์จะเป็นคนตอบค่ะ"

     

     

                มิยาโกะยิ้มหวานเจี๊ยบ เดินไปยื่นไมค์ให้ผู้รับบทซันไชน์ที่ยืนอยู่ข้างๆ ผู้รับบทองค์ราชินี เจ้าคนชุดแดงก็รับไมค์มา รอยยิ้มกวนประสาทอันคุ้นเคยแก่สายตาคนหลายๆ คนถูกงัดออกมาใช้ ก่อนจะตอบ

     

     

                "คุณอิชิดะ ยามาโตะ ..ใช่ไหมล่ะคุณพิธีกร?"

     

     

                ผู้รับบทองค์ราชาในชุดเสื้อเชิ้ตแขนสีขาวธรรมดา กางเกงสแล็กขายาวสีดำ สวมรองเท้าหนังสีดำยาวขึ้นมาครึ่งแข้ง มีผ้าคลุมกำมะหยี่สีแดงที่ยาวพอจะลากพื้นได้ซึ่งขอบผ้าคลุมทำจากขนเทียมสีขาวฟูฟ่องดูนุ่มนิ่ม บนศีรษะมีมงกุฎสไตล์อังกฤษ นัยน์ตาสีแดงสด เส้นผมสีดำสนิทสยายยาวถึงกลางหลัง ... เจ้าตัวหันไปทางคนตอบด้วยอารมณ์ออกแนวยั๊วะแปลกๆ ขนาดตัวเองยังไม่เข้าใจเลยว่าทำไมถึงได้เกิดยั๊วะขนาดนั้น บางทีอาจเป็นเพราะไอ้ท่าทางการพูดมันคล้ายกับคนบางคนที่เขารู้จักก็เป็นได้

     

     

                "นั่นสินะ? ใช่หรือเปล่ารอเจ้าตัวเฉลยดีกว่า ช่วยบอกชื่อของตัวเองและความรู้สึกที่ได้มารับบทองค์ราชาด้วยนะคะ"

     

     

                มิยาโกะยิ้มเลศนัย หันไปยื่นไมค์ให้คนผมสีนิลที่ท่าทางไม่ค่อยอยากะรับไมค์เท่าไหร่

     

     

                "ยามาโตะ .. อิชิดะ ยามาโตะ ผู้รับบทองค์ราชาครับ สำหรับความรู้สึกมันก็เฉยๆ นะ ปกติเวลาแสดงละครก็ได้รับบทราชาหรือเจ้าชายอะไรเทือกนี้อยู่แล้ว แต่ที่ตกใจคือไม่คิดว่าเพื่อนๆ จะแต่งตัวนักแสดงจนออกมาแทบจำเค้าเดิมไม่ได้นี่ล่ะ"

     

     

                เสียงฮือฮาและกรีดร้องดังแว่วมาอีกระลอก ส่วนใหญ่จะเป็นเสียงกรี๊ดของพวกผู้หญิงซะมากกว่า และหลายคนก็รู้ซะด้วยว่าทำไมถึงได้กรี๊ดอะไรกันขนาดนั้น

     

     

                "ค่ะ มีแต่คนที่แสดงด้วยกันถึงจะรู้เหรอไงนะ.. ว่าแต่ทำไมถึงคิดว่าเป็นคุณยามาโตะคะ ไฮสคูลโอไดบะมีหลายคนเหมือนกันที่ถนัดเครื่องเป่า แถมไอ้ที่บอกว่าสเป็กคนที่ชอบเป็นคนผมสีโทนน้ำเงินด้วยแล้วเนี่ย มันถือว่ากว้างมากเลยนะคะ"

     

     

                "เคยดูเขาตอนแสดงบ่อยเหมือนกันก็เลยพอเดาได้ เพราะลักษณะท่าทางตอนแสดงมันคล้ายๆ กัน อีกอย่างได้ยินแว่วๆ จากชมรมปาปารัซซี่ว่าเขาชอบคนผมโทนสีน้ำเงินน่ะครับ โชคดีที่เคยได้ยินมา ความจริงก็ไม่ได้มั่นใจมากหรอกว่าจะเป็นเขาน่ะ"

     

     

                'หึ..ไม่เนียนเอาซะเลยนะ'

     

     

                สายตาของไดสึเกะปะทะเข้ากับสายตาของยามาโตะพอดี สิ่งที่สื่อได้จากสายตาคนอายุน้อยกว่าทำเอายามาโตะผงะไปเล็กน้อย.. ไอ้สายตาแบบนั้นมันใช่ไดสึเกะจริงๆ เหรอเนี่ย ทำไมไดสึเกะถึงได้มีสายตาดูเจ้าเล่ห์แบบนั้นได้ล่ะ?

     

     

                "อย่างนั้นเองหรอกเหรอเนี่ย ถ้าอย่างนั้นก็มาที่อีกคนกันเลย ผู้รับบทองค์ราชินีนั่นเอง บทนี้ทรมานตรงที่ต้องรับบทหมาป่าในคราบคุณยายกับบทยายแก่ในชุดคลุมด้วย ช่างเป็นบทที่ทรมานดีแท้ เป็นหญิงแกร่งจริงๆ เลยนะเนี่ย.. สำหรับคุณลักษณะทั้งสาม.. เป็นเด็กไฮสคูลโอไดบะ ไม่ได้ลงแข่งไตรกีฬาฟุตบอลในงานเทศกาล และทำงานบ้านได้ทุกอย่างตั้งแต่เย็บผ้ายันทำอาหาร นับถอยหลังสามสิบวินาทีค่ะ.."

     

     

                มันมาอีกแล้วคำใบ้ไร้สาระนี่.. อันแรกก็กว้างเหมือนกับสองคนแรกนั่นแหละ อันที่สองแคบมาหน่อย แต่ใครมันจะไปจำได้หมดว่าใครไม่ได้ลงแข่งฟุตบอลในไตรกีฬาบ้าง แล้วอันสุดท้ายนี่หมายความว่ายังไง ใครจะไปตรัสรู้ว่ามีใครบ้างที่เก่งงานบ้านมากมายขนาดนั้น ผู้หญิงส่วนใหญ่ก็เก่งงานบ้านหมดทุกคนนั่นแหละ แต่ว่าพอเริ่มนับถอยหลังไปได้ไม่ถึงห้าวินาที ยามาโตะก็ยกมือขึ้นเป็นเชิงว่าจะทาย สร้างเสียงฮือฮาให้แก่หลายๆ คนไม่เว้นแม้แต่คนบนเวที

     

     

                "อ๊ะ คุณยามาโตะจะเป็นคนทายแหละค่ะ ไม่น่าเชื่อเลย อย่าบอกนะว่ารู้อยู่แล้วว่าเป็นใคร"

     

     

                "ไม่ได้รู้แต่แรกหรอกครับ แบบว่าน่าจะเป็นคนๆ นี้น่ะ ความรู้สึกผมมันบอกอยู่แถมแม่นด้วยนะ อย่างผู้รับบทแม่เลี้ยงก็เหมือนกัน เจ้าตัวคงรู้แล้วล่ะว่าใครรับบทอะไรบ้าง อืม... ผมขอทายว่าผู้รับบทองค์ราชินีคือ 'ทาคาอิชิ ทาเครุ' ครับ"

     

     

                เสียงอื้ออึงเงียบไปชั่วขณะ สายตาจับจ้องที่ผู้รับบทองค์ราชินีเป็นตาเดียว สร้างความลำบากใจให้เจ้าตัวไม่น้อย มิยาโกะยกยิ้มมุมปาก ไม่รอช้ารีบยื่นไมค์ไปหาทันที ด้วยริมฝีปากที่เหยียดตรงนั่นกับพฤติกรรมที่เรียบเฉยทำให้หลายคนเริ่มคิดว่ายามาโตะอาจจะทายผิดก็ได้ คงไม่มีใครคิดหรอกว่าทางทีมงานจะคัดเลือกเอาคนที่เคยเล่นบทเจ้าชายหรือพระรองมาเป็นองค์ราชินีเนี่ย มิหนำซ้ำไอ้เจ้าเสียงที่พูดออกมาตอนแสดงละครนี่มันก็เสียงผู้หญิงแบบเป๊ะๆ เลยนะ โทนเสียงแบบนั้นมีผู้ชายน้อยคนที่จะทำได้

     

     

                แต่แล้วเมื่อเจ้าตัวประกาศชื่อตัวเองออกมา เสียงกรีดร้องต่างๆ นานาหลากหลายเสียงก็ผสมปนเปกันมั่ว ทั้งน้ำเสียงตกใจ ประหลาดใจ ชื่นชม ว่าร้าย หรืออะไรๆ ก็มีหมด ... เพราะว่าผู้รับบทองค์ราชินีนี้ดันเป็น 'ทาคาอิชิ ทาเครุ' จริงๆ น่ะเซ่!

     

     

                ...

     

     

                แล้วการทายผู้รับบทต่างๆ ก็จบลงด้วยความประหลาดใจของผู้ชม เพราะนอกจากคนแสดงด้วยกันเองแล้วไม่มีใครทายถูกเลยน่ะสิว่าเป็นใครบ้าง โดยสามารถสรุปผู้ที่ได้รับบทต่างๆ ได้ดังนี้

     

     

                ผู้รับบทลิชีโน่                              คือ โมโตมิยะ ไดสึเกะ                  คนทาย คือ ทาคาอิชิ ทาเครุ

     

     

                ผู้รับบทองค์ราชา             คือ อิชิดะ ยามาโตะ                    คนทาย คือ ยางามิ ไทจิ

     

     

                ผู้รับบทองค์ราชินี                        คือ ทาคาอิชิ ทาเครุ                     คนทาย คือ อิชิดะ ยามาโตะ

     

     

                ผู้รับบทซันไชน์ (คนชุดแดง)          คือ ยางามิ ไทจิ                           คนทาย คือ ทาเคโนะอุจิ โซระ

     

     

                ผู้รับบทมูนไลท์ (คนชุดเหลือง)      คือ โยโซคุ ฮิโตมิ                         คนทาย คือ ทาคาอิชิ ทาเครุ

     

     

                ผู้รับบททิวลิป (คนชุดชมพู)          คือ โซราโงโตะ มิคิริ                     คนทาย คือ โยโซคุ ฮิโตมิ

     

     

                ผู้รับบทเว็ดดิ้ง (คนชุดเขียว)          คือ อิจิโจจิ เคน                           คนทาย คือ โมโตมิยะ ไดสึเกะ

     

     

                ผู้รับบทธันเดอร์ (คนชุดส้ม)          คือ คัมบาระ ทาคุยะ                    คนทาย คือ ยางามิ ไทจิ

     

     

                ผู้รับบทฟรีด้อม (คนชุดฟ้า)           คือ มินาโมโตะ โคจิ                     คนทาย คือ อิชิดะ ยามาโตะ

     

     

                ผู้รับบทซาเทลไลท์ (คนชุดม่วง)     คือ โซราโงโตะ มิคิรุ                     คนทาย คือ โยโซคุ ฮิโตมิ

     

     

                ผู้รับบทแม่เลี้ยง                          คือ ทาเคโนะอุจิ โซระ                  คนทาย คือ ยางามิ ไทจิ

     

     

                ผู้รับบทลูกติดคนโต                     คือ ยางามิ ฮิคาริ                         คนทาย คือ โมโตมิยะ ไดสึเกะ

     

     

                ผู้รับบทลูกติดคนรอง                   คือ คาจิสึ มิกิ                             คนทาย คือ โยโซคุ ฮิโตมิ

     

     

                "เอาล่ะค่ะ สรุปก็คือมีผู้ทายถูกทั้งหมดหกคนด้วยกันนะคะ รางวัลสำหรับผู้ที่ทายถูกก็คือ ตั๋วที่พักวีไอพีของโรงแรมห้าดาวในโอกินาว่าคนละสองใบนะคะ ของรางวัลนี้สนับสนุนโดยคุณมัทซึดะ ทาคาโตะแห่งมัทซึดะเบเกอรี่ ขอเสียงปรบมือด้วยค่ะ........."

     

     

                ...

     

     

              ตอนเที่ยงวันของวันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม ค.ศ. 2006

     

     

              ณ สถานที่จัดการแข่งวิบาก , สนามฟุตบอล , สปอร์ตอารีน่า 1

     

     

                เท้าความกันก่อนสำหรับการแข่งวิบากในงานเทศกาลปีนี้ การแข่งวิบากนั้นเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นมาเพื่อพวกเด็กที่ลงแข่งไตรกีฬาโดยเฉพาะ รายละเอียดของกิจกรรมนั้นเป็นความลับทุกครั้งที่มีการแข่งวิบาก (แน่นอนว่าไม่ได้เริ่มจัดเป็นครั้งแรก และไฮสคูลโอไดบะก็ไม่ใช่ที่เดียวที่จัดการแข่งวิบากด้วย) แต่การแข่งวิบากส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นกิจกรรมที่สร้างสีสันทุกครั้งที่จัดเลยนะ

     

     

                ในการแข่งวิบาก คนของสภานักเรียนตั้งแต่ประธานฯ ยันฝ่ายต่างๆ ก็ไม่สามารถลงแข่งได้ ต่อให้แข่งไตรกีฬาทุกประเภทก็ตาม ทำให้ไทจิที่เป็นตัวเต็งชนะในการแข่งวิบากต้องมาทำหน้าที่เป็นผู้บรรยายแทนอย่างน่าสะใจสำหรับพวกรุ่นน้องในชมรม(?)

     

     

                "ขอกล่าวต้อนรับผู้เข้าแข่งขันทุกคนที่อยู่ในสนามและผู้ชมบนอัฒจันทน์ทุกคนนะ คงไม่ต้องแนะนำตัวหรอกนะว่าฉันเป็นใคร เอาล่ะ! การแข่งวิบากก็มีมาให้เห็นกันบ่อยๆ อยู่แล้ว รายละเอียดก็คงไม่มีอะไรที่ต้องรู้มากมาย แค่บรรลุจุดประสงค์ของ 'โจทย์' ที่ให้ไปในแต่ละด่านก็พอแล้ว จะว่าไป.. แอบเสียดายเหมือนกันที่ฉันเป็นคนของสภานักเรียน เลยไม่มีสิทธิ์ลงแข่งวิบาก แต่อย่าได้คิดเชียวนะว่าแค่ฉันไม่ลงแข่งแล้วพวกนายจะชนะได้น่ะ!"

     

     

                ไทจิในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวบางคลุมทับด้วยเสื้อนอกแขนยาวสีเขียวเข้มโดยไม่กลัดกระดุมและใส่เนกไท กางเกงขายาวสีเทาอ่อนกับรองเท้าผ้าใบสีขาวลายน้ำเงินพูดผ่านไมโครโฟนจิ๋วที่ยื่นออกมาจากเครื่องอะไรบางอย่างที่เหน็บอยู่ตรงหูด้านขวา รอยยิ้มกว้างที่ดูเหมือนจะข่มขู่(?)นักเรียนคนอื่นถูกงัดออกมาใช้ เตรียมจะพูดต่อ แต่ก็ถูกอีกคนที่เอื้อมมือจากด้านหลังมาปิดปากและล็อกคอไว้ นัยน์ตาสีน้ำตาลเปลือกไม้เหลือบมองเจ้าคนมือปลาหมึกแล้วดิ้นปั่ดๆ หวังจะสลัดให้หลุด.. หน็อย อย่าคิดว่าตัวสูงกว่าแล้วจะเป็นฝ่ายล็อกคอได้ฝ่ายเดียวนะเฟ้ย!

     

     

                "เอาล่ะๆ เลิกพล่ามสักทีไทจิ นี่ก็ได้เวลาเริ่มกิจกรรมแล้วนะ ก่อนอื่นก็ช่วยกรุณาก้มมองสลากในมือที่ให้หยิบไปก่อนหน้านี้ด้วย เห็นตัวเลขหนึ่งถึงสามสิบสามในสลากนั่นมั้ย? นั่นล่ะโจทย์ของด่านแรก ภายในห้านาทีหลังจากฉันให้สัญญาณจงหาคนที่มีตัวเลขบนสลากเหมือนกันแล้วจับกลุ่มมาต่อแถว ณ จุดที่โซระ.. จุดที่คนของสภานักเรียนยืนอยู่ซะ ถ้าใครซี้ซั้... อั่ก!"

     

     

                ยามาโตะในชุดยูนิฟอร์มของโรงเรียน (ชุดเดียวกับไทจินั่นล่ะ ยกเว้นรองเท้า) กับรองเท้าผ้าสีกากีเอ่ยต่อทันทีที่สามารถขัดขวางการพูดของไทจิได้ แต่ไม่ทันไรศอกงามๆ ของคนถูกล็อกคอก็กระแทกท้องน้อยเข้าอย่างจัง ทันทีที่ไทจิเป็นอิสระ พี่แกก็หาเรื่องแก้แค้นเพื่อนเกลอโดยการล็อกคอและปิดปากกลับบ้างแล้วพูดต่อแทน

     

     

                "ถ้าใครซี้ซั้วโมเมได้มีการลงโทษกันแน่ๆ สลากหนึ่งหมายเลขจะมีอยู่สามอันเท่านั้น นั่นก็หมายความว่าต้องจับกลุ่มสามคนที่มีสลากเหมือนกันแล้วไปต่อแถว ณ จุดที่ที่โซระยืนอยู่นั่นแหละ ไม่ยากเลยใช่มั้ยกับโจทย์ด่านแรก นับถอยหลังสามวินาที สาม .. สอง .. หนึ่ง .. เริ่มได้!! ......... โอ๊ย! เจ็บนะเฟ้ย!"

     

     

                สัญญาณเริ่มดังขึ้น ยามาโตะที่ถูกแย่งซีนก็กระทืบเท้าไทจิแรงๆ ไปทีนึงจนเป็นอิสระจากการเกาะกุม เจ้าคนเจ็บร้องโอดโอยแล้วพยายามจะหาเรื่องคืน แต่เด็กลูกครึ่งไวกว่า แขนข้างหนึ่งโอบแขนรอบเอวไทจิจากด้านหลังแล้วกระชากเข้าหาตัวเอง มือข้างที่เป็นอิสระเอื้อมไปปิดปากอีกฝ่ายแล้วออกแรงขยับให้ใบหน้าเชิดเงยขึ้น กระซิบข้างหูด้วย 'คำพูดต้องห้าม' ที่ไทจิล่ะกลัวนักกลัวหนา เสียงอู้อี้ที่หลุดออกมาผ่านไมโครโฟนจิ๋วลอดสู่ลำโพงขยายเสียงทำเอาได้ยินกันไปทั้งอารีน่า

     

     

                ฮิคาริ ทาเครุ และฮิโตมิที่กำลังเตรียมโจทย์ด่านต่อไปหันไปมองตรงจุดสำหรับผู้บรรยายแล้วส่ายหน้า สามหน่อนี้ก็รู้อยู่หรอกนะว่าคุณพี่ชายและรุ่นพี่ที่เคารพรักทั้งสองนั้นไม่ได้มีอะไรเกินเลยไปมากกว่าเพื่อน (เพราะรู้ว่าสองคนนี้กำลังเต๊าะใครอยู่น่ะสิ) แต่ไอ้การที่แสดงท่าทางแบบนี้มันจะทำเอาชาวบ้านเขาสับสนเข้าใจผิดกันไปหมด

     

     

                โซระมองเพื่อนเกลอสองคนกำลังฟัดกันแล้วติดต่อโคจิโร่บอกว่าให้ปิดลำโพงชั่วคราวก่อน คนรับคำสั่งก็ยิ้มแหยๆ มองรุ่นพี่สองคนก่อนถอนหายใจปลง แน่นอนล่ะว่าในกลุ่มพวกไทจิแปดคน (กลุ่มเด็กที่ถูกเลือกในยุคของพวกไทจินั่นล่ะ) ต่างก็รู้ๆ กันอยู่ว่าไอ้สองตัววางมวยนี่แอบชอบใครหรือกำลังแอบเต๊าะเด็กคนไหนอยู่ แต่อาจเป็นข้อยกเว้นสำหรับฮิโตมิที่ฉลาดเกินเหตุบวกกับการเป็นเพื่อนสนิทของทาเครุและฮิคาริก็เป็นได้ ทำให้เจ้าตัวก็เป็นคนที่รู้เรื่องนี้เหมือนกัน แต่แน่ล่ะ สายตาคนอื่นเขามองแบบนั้นกันที่ไหน

     

     

                "เอาล่ะครบห้า... เฮ๊ยโคจิโร่~ เปิดลำโพงสิ ปิดไปทำม้ายยย~"

     

     

                'ไม่ปิดคุณไทจิกับคุณยามาโตะก็มีข่าวฉาวสิครับ อยากเต๊าะเด็กไม่ติดหรือไง...'

     

     

                เสียงตะโกนเรียกมา เด็กหนุ่มตาดำก็ได้แต่ถอนหายใจปลงๆ แล้วเปิดลำโพงให้ตามปกติ เหลือบมองไปก็เห็นว่าไทจิกับยามาโตะต่างก็ยืนนิ่งกันไปแล้ว อยากรู้จริงๆ ว่ากระซิบอะไรกัน เล่นทำตัวอย่างกับพระนางในหนังเรื่องไททานิกฉบับเสื่อมเนี่ย แล้วไอ้ตอนที่รุ่นพี่ที่เคารพรักของเขาเบิกตากว้างตอนที่อีกฝ่ายกระซิบข้างหูนี่มันอะไรกัน... โอ๊ยยย~ อยากรู้เฟ้ย!!

     

     

                "โคจิโร่ สงบสติอารมณ์หน่อยน่า ฉันก็อยากรู้เหมือนกัน"

     

     

                โจที่นั่งอยู่ข้างๆ วางมือลงบนบ่าของเด็กหนุ่ม เมื่อเห็นว่าสีหน้ายังไม่เปลี่ยนไป คนอายุมากกว่าก็เลยเปลี่ยนจากวางมือบนบ่าไปวางบนศีรษะแทนแล้วขยี้ผมด้วยความเอ็นดู(?) อีกฝ่ายเอียงคอเงยหน้ามองด้วยความหงุดหงิด

     

     

                "เอ๋! อย่าเพิ่งหงุดหงิดน่า ให้ตายเถอะ เปลี่ยนทั้งร่างกายทั้งนิสัยเลยนะเนี่ยนายน่ะ"

     

     

                คนถูกพาดพิงถอนหายใจแล้วหน้ามุ่ยแทน โจถึงกับตามอารมณ์คนตัวเล็กตรงหน้าไม่ถูก

     

     

                "งั้นก็ไปไกลๆ เลยสิ"

     

     

                "ขี้งอนขึ้นกว่าเดิมด้วย ปกตินายจะสุขุมแถมฉลาดและมีเหตุผลกว่านี้นี่นา~"

     

     

                "อย่ามายียวนผมนะ ถ้ารำคาญผมนักล่ะก็จะไปไหนก็ไปเลย เชิญตามสบาย!"

     

     

                "ฉันไม่เคยบอกนะว่ารำคาญนายน่ะ แบบนี้น่ารักกว่าเมื่อก่อนอีก.. แต่ฉันคิดว่านิสัยเดิมน่ะเหมาะกับนายมากกว่า"

     

     

                โจโอบแขนรอบเอวโคจิโร่แล้วยิ้มแฉ่ง เจ้าตัวคนถูกลวนลามก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก ก่อนจะเลิกสนใจแล้วหันไปมองไทจิกับยามาโตะที่กำลังบอกโจทย์ด่านต่อไป โดยปล่อยให้โจนั่งกอดและแนบใบหน้ากับแผ่นหลังตนเอง

     

     

                ...

     

     

                "นี่นะเหรอการแข่งวิบาก ดูโหดร้ายชะมัด ให้นักเรียนเก้าสิบกว่าคนมาอออยู่ในสนามแล้วต้องจับกลุ่มกับคนที่มีสลากเหมือนตัวเองที่อยู่ตรงไหนก็ไม่รู้อีก"

     

     

                "ก็ปกติดีนี่นา ไม่งั้นมันจะเรียกว่าการแข่งวิบากเหรอ อ้อ.. จะว่าไปนายก็เพิ่งเห็นการแข่งวิบากครั้งแรกนี่นะ"

     

     

                "แน่นอนสิ ฉันเป็นรองหัวหน้าของกลุ่มรอยัลไนท์นะ ปกติฉันเลยได้แต่อยู่ในดิจิตอลเวิร์ล ใครจะเหมือนนายล่ะที่อิสระเกินชาวบ้านชาวช่องเขา ไปมาระหว่างดิจิตอลเวิร์ลกับรีลเวิร์ลได้ไม่จำกัดเนี่ย"

     

     

                "อะไรกัน~ ฉันก็มีหน้าที่นะ ลืมไปแล้วรึไงว่าฉันเป็นรอยัลไนท์ที่ประจำการอยู่ที่ทวีปเอเชียกับยุโรป"

     

     

                "ใช่ นั่นเป็นหน้าที่นาย แต่ฉันได้ยินมาจากไดสึเกะนะว่าส่วนใหญ่นายมักจะนอนกลางวันอยู่ที่ห้องไดสึเกะในโอไดบะ"

     

     

                "อิ๊.. ใครจะไปทำแบบนั้นได้ โดนหลอกมาน่ะสิ"

     

     

                "หลอกเหลิกบ้าอะไรน่ะวี ความจริงร้อยเปอร์เซ็นต์ต่างหาก แต่พวกนายก็มานั่งกันไกลจังนะ มานั่งบนขอบอัฒจันทน์ชั้นบนสุดแบบนี้แถมลงเวทย์พรางตัวไว้อีกเนี่ย กว่าจะหาเจอเหนื่อยแทบแย่"

     

     

                "นายน่ะเคยพูดความจริงเท่าไหร่กันเชี... เฮ้ย! ด...ไดสึเกะ! ทำไมนายมาอยู่บนนี้ล่ะ!? ไม่สิ.. นายหาพวกฉันเจอได้ไง?"

     

     

                "ใช้พลังของหวงหลงไงล่ะจ๊ะ.."

     

     

                "ไดสึเกะ.. ถ้านายมานี่แล้วในสนามล่ะ.."

     

     

                "อ่อ ไม่ต้องห่วงหรอกโอเมก้า เพราะความสามารถอย่างที่หกก็คือสร้างร่างจำแลงน่ะ รู้แล้วเหยียบเลยนะ ตอนนี้ชักมีคนรู้เรื่องจริงๆ ขอฉันเยอะเกินไปแล้ว มีทั้งฮิคาริจัง เคน โคจิ พวกนายสองคน แล้วก็น้าสึงุรุอีก"

     

     

                "ทำไมนายไม่เปิดเผยไปเลยล่ะจะได้ไม่ต้องปิดบังให้เหนื่อย"

     

     

                "แบบนี้แหละดีแล้ว ขืนบอกความจริงทั้งหมดคงไม่ดีกับตัวฉันเท่าไหร่"

     

     

                "ฉันสนับสนุนให้นายเก็บเป็นความลับอย่างเต็มที่เลยล่ะไดสึเกะ!"

     

     

                "นายมีอะไรปิดบังกับเขาด้วยหรือไงวี?"

     

     

                "เปล่าหรอก! คู่หูกันต้องไปด้วยกันซี่!.."

     

     

                "........." (นายไม่ได้คิดแบบนั้นหรอก..นี่ฉันควรจะบอกไปดีไหมว่าความสามารถอย่างที่เจ็ดของหวงหลงคืออ่านใจน่ะ..?)

     

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

    +++ 29 Mar 2010 +++

    เดี้ยงไป 1 วันกว่าๆ ตอนนี้ยัยเนกลับมาแล้ว..

    ตอนนี้ก็เฉลยแล้วว่ามีใครแสดงเป็นใครบ้าง อย่าเพิ่งสงสัยว่าทำไมชื่อตอนไม่เกี่ยวไรกับเนื้อหา

    เกี่ยวสิ แต่เกี่ยวกับไอ้ 25% ที่เหลือต่างหาก คนไหนอ่านก่อนรีไรท์อาจจะจำได้ว่าแข่งวิบากมันมีไรบ้าง

    แข่งวิบากหลังรีไรท์เนื้อหาคล้ายๆ กันค่ะ แต่ว่าจะเปลี่ยนคู่นิดหน่อย

    +++ 31 Mar 2010 +++

    ยังไม่รู้อนาคตตัวเองเลย ไม่รู้พรุ่งนี้จะได้เรียนหรือได้นอนอยู่บ้าน

    ตรง 25% ด้านล่างเห็นจุดตรงไหนน่าสนใจบ้างหรือเปล่า? หุหุหุ ...

    บางคนเห็น บางคนไม่เห็น แต่แน่นอนไรท์เตอร์อย่างยัยเนเห็น (ก็คนแต่งนี่หว่า)

    ตอนต่อไปคงจะรายละเอียดคล้ายตอนก่อนรีไรท์ คือกินอาหารแบบไม่กลัวกระเพาะเจ๊ง

    คราวนี้ทีมนึงไม่ได้มี 2 คนแล้ว แต่มีตั้ง 3 คนเลย แน่นอนความป่วนเยอะกว่าเดิมแน่
    ***แก้ไขคำผิดแล้วน้อ! ตกลงเป็นซันไชน์ค่ะ..แอบพิมพ์ผิด เหอๆ ***

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×