ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fan Fic] Digimon Series : Birdie Sweetheart

    ลำดับตอนที่ #14 : Chapter : 04 .. Gracious - ความสวยงามที่มีแต่ความซวยมาเยือน

    • อัปเดตล่าสุด 21 มี.ค. 53


     

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

    Title : The (Boys') Marry (1st Episode ; Beginning of Final Sovereign)

    Chapter : 04 .. Gracious - ความสวยงามที่มีแต่ความซวยมาเยือน

    Author : NaR!eZ-Narilada

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

     

                ช่วงบ่ายของวันที่ 8 สิงหาคม ค.ศ. 2006 , หลังจบการแข่งไตรกีฬา

     

     

              ณ คาเฟ่ขนมหวาน , บริเวณไฮสคูลโอไดบะเซ็นเตอร์

     

     

                "เลิกกุมมือผมสักทีเถอะ แค่นี้ก็เป็นจุดสนใจมากแล้วล่ะครับ ถ้าขืนยังกุมมือผมเดินต่อไปได้มีเรื่องวุ่นตามมาแน่ครับ"

     

     

                "ต..แต่ว่าฉันไม่ชินกับคนเยอะ ๆ นี่นา..."

     

     

                เสียงกระซิบกระซาบกันสองคนท่ามกลางเสียงกระซิบกระซาบวงใหญ่ ... เหมือนปีนี้โอไดบะจะมีสีสันเหลือเกิน วันแรกของงานเทศกาลก็มีเด็กผมบลอนด์ทองน้องสาวไดสึเกะมาแล้วคนหนึ่ง มาตอนนี้แล้วยังมีเด็กสาวอีกคน ผมสีบลอนด์ทองเหมือนกันเลย เพียงแต่ปล่อยสยายยาวถึงกลางหลัง ไม่ได้รวบเป็นทวินเทลเหมือนไดอาน่า ทรงผมก็ค่อนข้างจะคล้ายใครบางคนอยู่แต่ก็ไม่มีใครสนใจ เพราะสิ่งที่ใคร ๆ ต่างสนใจนั่นก็คือการที่เด็กสาวนั่นกุมมือเด็กชายอีกคนแน่นต่างหาก!

     

     

                ถามว่าแค่นั้นมันเป็นจุดสนใจตรงไหน ก็ตรงเด็กชายที่ว่าเนี่ยเป็นถึงหัวหน้าชมรมฟันดาบที่ยังไม่เคยแพ้ใครเลย แถมมีดีกรีแชมป์ระดับประเทศรุ่นอายุไม่เกินสิบห้าปีสองสมัยซ้อนอีกต่างหาก แบบนี้ไม่ให้เป็นจุดสนใจได้ยังไง แล้วยังไม่พอ ใบหน้าของเด็กสาวนั่นใช่ว่าน่ารักน้อยซะเมื่อไหร่ ถ้าเอาไปเปรียบเทียบกับไดอาน่าก็แทบจะกินกันไม่ลงเลยล่ะ

     

     

                เมื่อพ้นจากบริเวณที่มีคนแออัด เด็กสองคนก็รีบก้าวเท้าเร็ว ๆ ไปยังโอไดบะเซ็นเตอร์ทันที โดยมีจุดมุ่งหมายคือ 'ห้องของประธานนักเรียน' นั่นเอง

     

     

                ...

     

     

                ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น...

     

     

              ชั้น 4 , ห้องประธานนักเรียน , ไฮสคูลโอไดบะเซ็นเตอร์

     

     

                ตอนนี้ในห้องประธานนักเรียนประกอบไปด้วยเจ้าของห้องในปีนี้อย่างไทจิ ไดอาน่า ฮิคาริ วี โอเมก้า ทาคาโตะ รูกิ ทาคุยะ โทโมกิ อิซึมิ โคจิ มาซารุ อิคุโตะ และอิกดราชิล..

     

     

                "เอ๋! นี่ฉันไม่ได้บอกพวกนายว่าพวกฉันเป็นนักรบในตำนานหรอกหรือ?"

     

     

                เจ้าคนเสียงน่ารักร้องถามพวกเทมเมอร์เสียงสูง คนถูกถามส่ายหน้ากันระวิง และแม่หญิง(?)ท่านก็เป็นคนแรกที่เปิดฉากตอบกลับไปด้วยมาดของควีนแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์

     

     

                "เออ ไม่ได้บอกเลยล่ะย่ะ แถมรู้จักพวกคุณไทจิที่พวกเราตามหาตัวกันตั้งนานก็ไม่บอกกันเลย ฉันควรจะเจี๋ยนนายยังไงดีนะคุณซาลามันเดอร์"

     

     

                "อย่าเลย เจี๋ยนหมอนี่ไปโลกมันก็ไม่ได้มองดูสะอาดตาขึ้นหรอก เผลอ ๆ ซากหมอนี่จะทำให้โลกสกปรกลงกว่าเดิมอีก"

     

     

                ตัวทำน้ำแข็งใสเจ้าเก่าเอ่ยเรียบ ๆ หวังว่าจะให้การโต้เถียงหยุดลง แต่เหมือนจะเป็นเพราะเหตุสุดวิสัย ทำให้คำพูดที่หลุดออกมานั้นเป็นตัวจุดฉนวนขึ้นไปอีก

     

     

                "หน็อยแก อย่าคิดว่าตอนนี้เป็นผู้หญิงแล้วฉันจะไม่กล้าชกนายนะเฟ้ย!"

     

     

                "เอาสิ ถ้าอยากมีเรื่องนักก็จัดให้!"

     

     

                "เลิกทะเลาะกันเถอะเด็ก ๆ ..."

     

     

                น้ำเสียงนุ่มทุ้มไพเราะแทรกขัดขึ้นมา (ซึ่งใครฟังแล้วก็แทบจะหลงเจ้าของเสียงไปเลย) สีหน้าคนพูดยิ้มแย้มสุด ๆ ราวกับว่าโลกนี้กำลังสว่างไสวเต็มไปด้วยประกายวิ้งวับ.. ถ้าไม่จับได้ถึงรังสีอาฆาตที่ลอยแผ่ว ๆ มาตามสายตาที่ทำเอาขนลุกเกรียวน่ะนะ...

     

     

                และด้วยการร่วมมือของอิกดราชิลทำให้สองหน่อหยุดการวิวาทกันชั่วคราว (เพราะนอกรอบเดี๋ยวมีต่อ เชื่อขนมกินได้เลย..) แล้วมาถกประเด็นปัญหาร่วมกัน แต่ยังไม่ทันจะมีใครเปิดประเด็น เสียงเปิดประตูดังผลัวะก็ขัดจังหวะ สายตาทุกคู่มองไปทางประตูกันอย่างพร้อมเพรียง ก็พบกับเด็กชายนัยน์ตาสีมรกตกำลังฉายแววประหลาดใจเมื่อเห็นสายตาหลากหลายจ้องมา

     

     

                "เอ่อ.. ผมมาหาคุณไทจิน่ะครับ แต่บางทีผมอาจจะเปิดห้องผิดก็ได้ ขอโท..."

     

     

                พอเห็นดังนั้นก็ทำท่าจะกล่าวขอโทษที่มารบกวนแล้วเตรียมปิดประตูให้เหมือนเดิม แต่ไทจิที่เพิ่งสังเกตว่าใครมาก็ร้องทักกลับไปก่อนเมื่อเห็นหน้าคนคุ้นเคย

     

     

                "เฮ่ย ๆ ไม่ผิดหรอก ฉันอยู่นี่ .. มีอะไรก็เข้ามาก่อ... เฮ้ย! นั่นนายพาสาวที่ไหนมาน่ะ!?"

     

     

                เหมือนเด็กสาวที่ซ่อนอยู่นอกประตูจะไม่พ้นสายตาสอดรู้สอดเห็น(?)เกินคนของไทจิไปได้ เด็กชายที่ยืนหน้าประตูถอนหายใจก่อนจะเดินเข้ามาโดยไม่ลืมที่จะลากร่างของเด็กสาวผมบลอนด์เข้ามาด้วย ทันทีที่เห็นตัวกันชัด ๆ หลายคนถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ

     

     

                เมื่อเด็กสาวที่ว่านั้นสูงพอ ๆ กับทาคุยะ มีเส้นผมสีบลอนด์ทองสวยยาวเหยียดตรงถึงกลางหลัง ด้านหน้าก็ปัดปอยผมไปทางด้านขวาตัวเอง ผิวขาวอมชมพูราวกับไม่เคยโดนแดด นัยน์ตาสีฟ้าสดที่แฝงประกายหวาดระแวงอย่างปิดไม่มิด แต่นั่นแหละหน้าตาคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูกจริง ๆ ...

     

     

                "ผมไปเจอพี่แคธี่เขาที่ประตูหน้าน่ะครับ พี่เขาบอกว่ามาพบคุณไทจิแต่ว่าเห็นคนเยอะเลยไม่กล้าเดินเข้ามา ผมเลยอาสาพาพี่เขามาหาคุณไทจิเนี่ยแหละ"

     

     

                แล้วสายตาเกือบทุกคู่ก็เบนมามองทางคุณประธานนักเรียนที่ทำหน้าเหรอหรากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แถมแววตายังบ่งบอกอีกว่า 'ฉันไม่รู้ ฉันไม่เห็น ฉันไม่เกี่ยว' อะไรเทือกนั้น

     

     

                "เอ่อ นั่นเพื่อนไดอาน่าเองค่ะคุณฮิดะ"

     

     

                แล้วเด็กสาวหน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกับไดสึเกะตอบแทน เรียกสายตาหลายคู่หันไปมองโดยพร้อมเพรียงกัน (สามัคคีกันจริงเลยนะไอ้พวกนี้เนี่ย) เห็นดังนั้นเจ้าตัวก็ไม่พูดอะไร โค้งตัวลาคนในห้องและเด็กสาวผู้มาใหม่ก่อนจะเดินออกไปโดยไม่ลืมปิดประตู

     

     

                "เอ่อ..เพื่อนนา.. เธอเองเหรอไดอาน่าจัง น่ารักเหมือนกันนะเนี่ย~"

     

     

                จะเป็นของใครไปได้เสียอีกนอกจากคนที่เห็นเด็กผมทองแล้วอดเข้าไปนัวเนียไม่ได้เนี่ย.. ดีนะที่อิซึมิกลายเป็นผู้ชายไปแล้ว ไม่อย่างนั้นคงตกเป็นเหยื่อให้มาซารุลวนลามอีกแหงแซะ

     

     

                "เอ่อคือ.."

     

     

                "ไม่ต้องพูดอะไรให้มากความหรอกน่า แล้วพี่มาซารุก็เหมือนกัน เลิกไปลวนลามเขาได้แล้ว สังเกตทรงผมหมอนั่นดี ๆ สิว่าคล้ายคนรู้จักที่ไหนหรือเปล่า.. ยกเว้นพี่มาซารุกับน้าสึงุรุนะ ฉันว่าพี่กับน้าไม่รู้จักหมอนั่นหรอก"

     

     

                ไม่ทันที่เด็กสาวจะได้พูดอะไร ไดอาน่าก็ลุกเดินมาลากเด็กสาวให้ลงไปนั่งข้าง ๆ ตัวเองโดยออดอ้อนขอร้องให้รุ่นพี่ที่เคารพรักมานั่งกันไว้ชั้นนึง สร้างความยั๊วะให้กับมาซารุอยู่หน่อย ๆ ที่ไทจิก็เข้ามานั่งขวางระหว่างเขากับเด็กสาวผู้น่ารักสองคน

     

     

                "เธอเป็นคนแถวนี้หรือเปล่า?"

     

     

                เด็กสาวผมสีกรมท่าเหมือนนัยน์ตาถามเสียงเรียบ 'แคธี่' หันมามองคนถามด้วยสีหน้าและแววตาหวาดวิตก

     

     

                "ค..ค่ะ เป็นคน.. เอ่อ ดิฉันอยู่เพิ่งย้ายมาที่ทามาจิน่ะค่ะ"

     

     

                "เพิ่งย้ายมา แล้วรู้จักคุณไทจิได้ยังไงล่ะ?"

     

     

                เด็กสาวผมกรมท่าแต่นัยน์ตาสีอำพันแก่หรี่ตาถามบ้าง คราวนี้คนถูกถามสะดุ้งเฮือกเหลือบมองหลาย ๆ คน

     

     

                "คือว่า..."

     

     

                "โอ๊ย! ไปแกล้งหมอนี่อยู่ได้ ไม่ต้องถามอะไรแล้ว แค่ทรงผม แค่นิสัยก็น่าจะดูออกกันแล้วล่ะน่า สนุกหรือไงแกล้งคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเนี่ย!"

     

     

                เป็นไดอาน่าเสียเองที่ตวาดใส่คนที่เหลือ สองสาวที่ถามยักไหล่ไปพลาง ไดอาน่าชี้นิ้วเข้าหาตัวเองแล้วถามคนใกล้ตัว

     

     

                "ในใจตอนนี้คิดว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเธอเป็นใคร ตอบมาตามใจคิดเลยนะ ห้ามโกหกด้วย"

     

     

                ...ตอนนี้หลายคนเริ่มจะเดาออกแล้วล่ะว่า 'แคธี่' เป็นใคร เว้นคนฉลาดน้อยบางคนที่ยังงงเป็นแม่หมาตาแตกอยู่ สึงุรุน่ะเหรอ..รู้ตั้งนานแล้วว่าเป็นใคร ส่วนมาซารุเองก็คงเริ่มตงิดใจบ้างแล้วล่ะ ถ้าจิบิสึเกะของเขา(?)เล่นทำตัวหวงกันซะขนาดนี้คงเป็นคนรู้จักกันแน่ ๆ แล้วถ้าไม่คิดไปเองล่ะก็... เขาคิดว่าเด็กนั่นเองก็คง...

     

     

                "....ด...ไดสึเกะค...ค่ะ.."

     

     

                "...ลงท้ายด้วยครับก็ไม่เห็นเป็นไรเลย เกร็งอยู่ได้!"

     

     

                เท่านั้นแหละ ทั้งห้องรู้แล้วว่าแคธี่เป็นใคร ..เหลือก็แต่ไอ้คนฉลาดน้อยบางคนเท่านั้นแหละ..

     

     

                "ทำหน้างี่เง่าเป็นแม่หมาลูกเชือดเลยนะครับอาจารย์เนี่ย มันก็ชัดอยู่แล้วว่าเป็นใคร หมอนี่เองก็น่าจะคุ้นหน้าคุ้นตาอาจารย์อยู่ไม่น้อยเหมือนกันไม่ใช่หรือไงครับ?"

     

     

                คนโดนสบประมาท(?)แยกเขี้ยวใส่คนพูดแล้วหันหลังไปพิจารณาใบหน้าของอีกฝ่าย... เออ เขาเองก็คิดว่ามันเริ่มจะคุ้นตาแล้วล่ะ แต่นึกไม่ออกอยู่ดีกว่าใครแฮะ

     

     

                "อาจารย์นี่งี่เง่าได้ใจเลยนะครับ" : เจ้าซาลามันเดอร์ไฟตัวแสบที่นั่งเท้าคางข้าง ๆ ตัวผลิตน้ำแข็งชั้นยอด

     

     

                "เลิกทำตัวแอ๊บไม่รู้เรื่องสักทีค่ะอาจารย์" : ชายหนุ่มผมบลอนด์ทองกับนัยน์ตาสีเขียวสว่างที่ใช้คำลงท้ายขัดกับเพศตัวเอง

     

     

                "อาจารย์ก็นึกให้ดี ๆ สิครับ ขนาดผมยังนึกออกเลยนะ" : เด็กสาวผมสั้นสีน้ำตาลอ่อนกับนัยน์ตาสีเขียวสดที่ใช้สรรพนามและคำลงท้ายขัดกับเพศตัวเองเหมือนกัน

     

     

                "อาจารย์ทำตัวให้น่านับถือหน่อยสิ" : เด็กสาวเจ้าของฉายากรมท่าสามประการ.. ผมกรมท่า ตากรมท่า ชุดกรมท่า

     

     

                "พี่คะ พี่น่าจะรู้ได้ตั้งแต่ที่โคจิคุงถามแล้วนะคะ" : น้องสาวของไทจิที่นั่งถอนหายใจข้าง ๆ ไดอาน่า

     

     

                "คุณไทจินึกไม่ออกจริง ๆ หรือเนี่ย.." : เจ้าของนัยน์ตาสีแดงเลือดคู่กัดกับลูกชายอิกดราชิลตลอดกาล

     

     

                "เฮ้อ ไม่น่าเชื่อเลยว่าคุณไทจิจะเป็นหนึ่งในสองคู่หูของโอเมก้าเลยนะเนี่ย" : ดิจิมอนควีนเจ้าของสีผมไฮไลท์แสบตา

     

     

                "คุณไทจินี่ไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราวอะไรจริง ๆ ด้วยสินะ" : เด็กสาวผมกรมท่ากับนัยน์ตาสีอำพันแก่ที่นั่งพิงแขนมาซารุอยู่

     

     

                "เจ้าไทจิงี่เง่าเอ๊ย! ขนาดฉันไม่ได้อยู่ที่รีลเวิร์ลนานฉันยังนึกออกเลยนะ ถึงจะเคยเห็นผ่าน ๆ ก็เถอะ" : ลูกชายอิกดราชิล

     

     

                "ไทจิคุงไม่รู้จริง ๆ หรือเนี่ย น่าสงสารจริง ๆ นะโอเมก้า" : เจ้าคน(?)ที่มีอำนาจสูงสุดในดิจิตอลเวิร์ลที่พาปัญหามาให้

     

     

                "ไม่ต้องพูดแบบนั้นเลยครับอิกดราชิล ผมรู้อยู่ว่าไทจิน่ะเป็นแบบนั้นแหละ" : รองหัวหน้ารอยัลไนท์เจ้าของผมสีเงินกระเซิงยาวถึงบ่าและนัยน์ตาสีฟ้าใส

     

     

                "นายบอกไทจิไปเถอะไดสึเกะ ฉันเอือมแล้วอ่ะ" : หนึ่งในสองรอยัลไนท์ที่ไม่เคยยำเกรงรองหัวหน้าที่มีนัยน์ตาสีเลือดและมีเส้นผมสีครามทรงทวินเทลสั้น

     

     

                สิ้นเสียงของวี แคธี่สะดุ้งแล้วหันมามองเด็กสาวข้าง ๆ ตัวเองด้วยสีหน้าประหลาดใจ มือเรียวสวยยกขึ้นมาปิดปากตัวเองราวกับเป็นสัญชาตญาณเวลาตกใจจนพูดไม่ออกของผู้หญิง.. แหงล่ะ ถ้าเป็นคนเดิมคงไม่กล้าทำแบบนี้หรอก..

     

     

                "เดี๋ยวนะ คนข้าง ๆ เธอเรียกเธอว่า 'ไดสึเกะ' หรือคะ?"

     

     

                            "ยังไม่เลิกอีก.. ต่อหน้าคนในห้องนี้ทุกคนน่ะแสดงนิสัยเดิมของนายออกมาดีกว่า มันจะทำให้นายสบายใจและไม่กังวลนู่นนี่ด้วยล่ะ ใช่ไหม.. 'เคน' ? "

     

     

                ...

     

     

                "เป็นตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะ อย่าบอกนะว่าวันที่ 1 สิงหาคมน่ะ"

     

     

                ไดอาน่าถามเพื่อนร่วมชะตากรรมที่นั่งนิ่งเรียบร้อยราวกับผ้าพับไว้ที่รีดซ้ำแล้วซ้ำเล่า แคธี่หันมายิ้มอย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้นแล้วผงกหัวรับน้อย ๆ เป็นเชิงว่าใช่ อิกดราชิลมองบุคคลผู้โชคร้ายหกคนที่นั่งอยู่ในห้องนี้ด้วยสายตาออกแววสงสารปนสนุกสนานนิดหน่อย และปรายสายตาไปยังยังอีกคนที่นั่งนิ่งสงบ ต่างจากอีกคนที่นั่งข้าง ๆ

     

     

                "สรุปว่าตอนนี้ก็มีไดสึเกะ อิจิโจจิ ยัยอิซึมิ โคจิ โทโมกิ แล้วก็อิคุโตะใช่ไหมที่เกิดเปลี่ยนเพศขึ้นมาน่ะ แต่มีแค่ไดสึเกะกับอิจิโจจิเท่านั้นที่มีพลังของหวงหลง.. ฉันพูดถูกหรือเปล่า?"

     

     

                ประธานนักเรียนผู้สามารถพึ่งพาได้(?)ถามสมาชิกในห้องให้แน่ใจอีกครั้ง เมื่อไม่มีใครทำท่าจะทักท้วงอะไร โอเมก้าก็คว้ากระดาษขึ้นมาเตรียมจดเนื้อหาเพื่อทำเป็นรายงานส่งอิกดราชิลตามคำสั่ง...แม้จะรู้ว่าอิกดราชิลก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย แต่ยังไงเสียถ้าเกิดเขาไม่ทำเดี๋ยวเจ้าตัวก็คงมาเร่งสั่งให้ทำอยู่ดี..

     

     

                "ความจริงแล้วรูกิก็เปลี่ยน..."

     

     

                เสียงอ่อย ๆ ที่ดังขึ้นมาแผ่ว ๆ เป็นตัวเรียกสายตาจากคนทั้งห้องอีกครั้ง นัยน์ตาสีลาเวนเดอร์กระพริบถี่แล้วเจ้าตัวก็ยกมือขึ้นก่ายหน้าผากตัวเอง เหลือบมองไอ้ตัวแสบข้าง ๆ ที่หลบสายตาเธอเป็นพัลวัน

     

     

                "เห? แต่รูกิจังไม่เป็นเปลี่ยนเพศหรือลักษณะภายนอกเลยนะ อย่างฉันน่ะก็ผมหดสั้นลงเหลือแค่ไม่ถึงบ่า แต่ผมของรูกิจังไม่เห็นเป็นแบบนั้นเลย"

     

     

                "โคจิผมก็ไม่ได้ยาวขึ้นไม่ใช่หรือไง?"

     

     

                คนถูกพาดพิงเหลือบมองด้วยสายตาเรียบเฉย แล้วหันไปคุยอะไรกับทาคุยะที่นั่งข้าง ๆ ด้วยสีหน้าลำบากใจหน่อย ๆ

     

     

                "อ่าน้า~ ใจเย็น ๆ ก่อนจ้ะอิซึมิจัง รูกิจัง~"

     

     

                ฮิคาริห้ามทับด้วยรอยยิ้มหวานตามสไตล์ตัวเอง หันไปมองพี่ชายแล้วพูด

     

     

                "สรุปว่าตอนนี้เจอพวกที่มีพลังของคุณซึซึจิแล้วเจ็ดคน เจอพวกหวงหลงแล้วสองคนแล้ว ตอนนี้ก็เหลืออีกนิดเดียวก็จะไปโลกดิจิตอลได้สินะคะ"

     

     

                "ใช่แล้วล่ะ โอ๊ะ.. เห็นแววตาเจ้าลิงน้อยแล้วนึกอะไรออกด้วยล่ะ.. ถ้าเห็นใครผมสีทองจัด ๆ แบบนี้แล้วมีตาสีฟ้าสดใสเกินมนุษย์มนาทั่วไปแล้วล่ะก็เตรียมจับตัวมาสอบสวนได้เลย บางทีคน ๆ นั้นอาจมีสิทธิ์เป็นร่างที่มีพลังของหวงหลงก็เป็นได้"

     

     

                "แล้วทำไมต้องพาดพิงถึงฉันด้วยเล่าเจ้าบ้าไทจิ!"

     

     

                "โอ๊ะ ๆ .. ก็แววตาเจ้าลิงน้อยของนายมันบอกว่า 'แล้วจะดูยังไงว่าคนไหนเป็นร่างที่มีพลังหวงหลงอยู่น่ะ' ไม่ใช่หรือไงกัน หรือจะปฏิเสธล่ะ.. เจ้า..ลิง..น้อย?"

     

     

                อิกดราชิลมองสองคนแก่(?)กัดกันแล้วอมยิ้มบาง ๆ นัยน์ตาสีฮาเซลแท้มองไปยังไทจิแบบเน้น ๆ แล้วยิ้มหวานจัด โอเมเก้ากับวีที่หันหน้ามาทางอิกดราชิลกันอย่างพร้อมเพรียงเมื่อรู้สึกถึงรังสีแปลก ๆ ถึงกับสะดุ้งวาบหน้าซีดเผือดในความเห็นที่ต่างกัน..

     

     

                'โอ๊ย สายตาเจ้าเล่ห์แบบนั้นอีกแล้ว อิกดราชิลจะทำอะไรอีกเนี่ย เห็นมองไปทางไทจิซะด้วย นายไม่รอดแน่ ๆ ไทจิ...'

     

     

                'รอยยิ้มไม่น่าไว้ใจของอิกดราชิลนี่นา ไทจินายซวยแน่ ๆ เลย ทางที่ดีคงต้องลากไดสึเกะไปไกล ๆ ก่อนแล้วสิเนี่ย...'

     

     

                'เป็นอะไรไปหรือรอยัลไนท์ที่น่ารัก?'

     

     

                น้ำเสียงก้องหูสองดิจิมอนผู้เป็นรอยัลไนท์ คนถูกถามยิ้มเรียบ ๆ ปกปิดไม่ให้คนอื่นจับได้ว่าพวกเขากำลังถูกอิกดราชิลข่มเหงทางคำพูด(?)อยู่

     

     

              'ท่านรู้แล้วยังจะถามอีกหรือครับอิกดราชิล'

     

     

                เป็นวีที่คิดในใจตอบกลับไป.. ใช่แล้วล่ะ นี่เป็นการ 'อ่านใจ' ของอิกดราชิล ความสามารถที่ทำให้ผู้เป็นรอยัลไนท์ยอมสยบแทบเท้าได้นอกจากเรื่องพลังที่มีมหาศาลผิดปกติ(?).. โดยอิกดราชิลจะส่งคลื่นความถี่ที่มีแต่รอยัลไนท์เท่านั้นที่สามารถรับรู้ได้ไปยังคนที่ต้องการจะคุย(?)ด้วย วิธีตอบก็แค่อีกฝ่ายแค่คิดในใจมาก็พอ ถือเป็นวิธีที่น่ากลัวเหมือนกันแหละ เพราะถ้ากำลังคิดอะไรในใจก็ถูกอิกดราชิลอ่านได้หมด 'ทุกเรื่อง' ราวกับเป็นตัวเองเลยล่ะ

     

     

              'แหม.. โหดร้ายจังนะวี ฉันไม่ลากคู่หูนายไปเอี่ยวหรอก ไม่ต้องกลัว'

     

     

              'ถ้างั้นก็จะลากไทจิไปซวยคนเดียวสินะครับ'

     

     

              'ใช่แล้วล่ะ'

     

     

              'เฮ้ยเดี๋ยวสิ! ไหงไทจิซวยคนเดียวเลยล่ะ!?'

     

     

              'เงียบไปเลยโอเมก้า ไม่อย่างนั้นนายนั่นแหละจะซวยไปเป็นคนที่สอง'

     

     

              'ค..ครับ..'

     

     

                ...

     

     

                "นี่ทาเครุ โคจิโร่กับโจบอกฉันว่าครอบครัวเคนจะไปเที่ยวต่างประเทศน่ะ กลับเมื่อไหร่ไม่รู้เหมือนกัน"

     

     

                "จริงหรือครับพี่? ถ้าอย่างนั้นคงต้องไปบอกคุณไทจิแล้วสิ"

     

     

                "ไม่ต้องหรอก ฉันวานโคจิโร่ไปบอกให้แล้ว"

     

     

                "เหรอครับ.."

     

     

                "เฮ้ยไอ้น้องชาย ไหงเสียงอ่อยแบบนั้นล่ะ หรือว่าเสียใจที่จะไม่ได้เจอไดสึเกะ?"

     

     

                "เปล่าหรอกครับ"

     

     

                "น้ำเสียงซังกะตายแบบนั้นมันอะไรกัน เฮ่ย อย่าบอกนะว่าเสียใจที่ไม่ได้เจอฮิคาริน่ะ?"

     

     

                "เปิดเทอมก็เจอครับฮิคาริจังน่ะ บางทีเดี๋ยวเธอก็วิ่งมาหาผมที่ห้องพร้อมลากไดสึเกะมาอีก ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้เจอสองคนนั้นหรอกครับ"

     

     

                "เห อย่างนั้นนายเป็นอะไรกันแน่ทาเครุ สีหน้านายอย่างกับชายหนุ่มไม่สมหวังในรักเลย"

     

     

                "........."

     

     

                "ให้ตายสิน้า น้องชายฉันไปหลงรักใครเข้าแล้วเนี่ย! เอ... เอ๊ะ!?"

     

     

                ".........!?"

     

     

                "ร...หรือว่านายกลัวว่าจะไม่ได้เจอไดอาน่าจังน่ะ!!?"

     

     

                "เอ๊.. ท..ทำไมผมต้องกลัวจะไม่ได้เจอไดอาน่าจังด้วยล่ะครับ?"

     

     

                "อุ๊บ.. นายหน้าเริ่มแดงแล้ว อย่าบอกนะว่าปิ๊งไดอาน่าจังเข้าแล้วอ่ะ?"

     

     

                "เปล่าเสียหน่อย"

     

     

                "โอ้.. หลบตาแบบนี้สิใช่เลย... สงสัยไทจิอกแตกตายก็คราวนี้แหละน้า.. เอ๊ะ หรือหมอนั่นจะดีใจกว่าเดิมกันแน่หว่า?"

     

     

                "หือ? เมื่อกี๊บ่นอะไรเกี่ยวกับคุณไทจิหรือเปล่าครับพี่?"

     

     

                "โห? เปล่านี่"

     

     

                "ไม่หรอก ไอ้เสียงสูง ๆ แบบนี้น่ะ.."

     

     

                "เสียใจ อย่าคิดจะพูดออกมาเชียวว่าฉันชอบไทจิน่ะ บรื๋อ.. ฉันน่ะไม่หลงไปชอบเจ้าคนเต๊าะเด็กแบบนั้นหรอก อย่างฉันต้องเต๊าะเด็กเองสิถึงจะถูก.."

     

     

                "โอ้.. เนี่ยหรือรสนิยมพี่ แบบนั้นคราวหลังผมจะไม่ให้พี่มาค้างที่ห้องผมแล้วล่ะ.."

     

     

                "เฮ้ย! ฉันไม่ได้จะเต๊าะนายเสียหน่อย! มีคนในดวงใจเป็นตัวเป็นตนแล้วเฟ้ย! น่ารักกว่านายเยอะ อ๊าา~"

     

     

                "........." (พร่ำเพร้ออะไรน่ากลัวเชียว น่าสงสารคนที่พี่ยามาโตะชอบจริง ๆ เลย.. ให้ตายเถอะ)

     

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

    +++ 20 Mar 2010 +++

    อ๋า.. มีแต่คนเชียร์ยามาจิ (หัวเราะ) เพราะบทสนทนาท้ายตอนนี่เอง..

    แต่ยัยเนอยากจะแจ้งเพื่อความกระจ่างชัด (แกล้งคนอ่าน)

    ในฟิคตอนนี้ยามะไม่ได้ชอบไทจิ และไทจิก็ไม่ได้ชอบยามะนะจ๊ะ

    เรื่องจริงน้า.. ถึงได้บอกว่ามันมีคู่เซอร์ไพรส์อยู่ 5 คู่ไง (และยามะกับไทจิก็เป็น 2 ใน 5 คู่)

    อ่ะ.. (ยังไม่เลิกแกล้ง) .. มีคู่ ไทจิ x … / ยามาโตะ x … / ... x … / ... x … / ... x …

    เดากันเล่น ๆ ไปเถิดคู่เซอร์ไพรส์.. รีไรท์ใหม่ทั้งทียัยเนไม่ยอมให้สมหวังกันง่าย ๆ แล้ว

    +++ 21 Mar 2010 +++

    ในตอนบอกใบ้คู่เซอร์ไพรส์ของไทจิและยามาโตะแล้ว แถมยังบอกคู่เซอร์ไพรส์อีกคู่ด้วย

    (รู้กันสามคู่แล้วใช่ไหม หุหุหุ..)

    เรียนท่านโย อุปสรรคมีแน่ค่ะ แต่คู่เรียวรูกิอีกนานหน่อย..ก็เรียวอยู่ดิจิตอลเวิร์ลนี่นะ

    อีกอย่าง.. เคน*มิยาโกะเหรอ? ก็น่ารักอยู่แต่คู่นี้คงไม่อนุญาตแหะ (ยัยเนชอบมิยาคาริค่ะ = =’a)

    เรียนท่านบลู เซอร์ไพรส์ 5 คู่จ้า แต่ไม่ต้องห่วง สุดท้ายก็มาลงเอยคู่หลักนั่นแหละ

    เรียนหนูดงบัง ในบรรดาคู่เซอร์ไพรส์มี ชญ 2 คู่ ชช 3 คู่ ไม่มี ญญ ค่ะ

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×