ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fan Fic] Digimon Series : Birdie Sweetheart

    ลำดับตอนที่ #10 : Chapter : 02 .. Meeting - การพบกันที่น่าประหลาดใจเกินคาด

    • อัปเดตล่าสุด 18 มี.ค. 53


     

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

    Title : The (Boys') Marry (1st Episode ; Beginning of Final Sovereign)

    Chapter : 02 .. Meeting - การพบกันที่น่าประหลาดใจเกินคาด

    Author : NaR!eZ-Narilada

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

     

              ช่วงบ่ายของวันจันทร์ที่ 7 สิงหาคม ค.ศ. 2006 เวลาพักของเหล่าพนักงาน

     

     

              ณ หลังร้าน , สถานที่จัดคาเฟ่ขนมหวาน

     

     

                หลังจากเมื่อช่วงก่อนเที่ยงเกิดเหตุการณ์ 'น่ากลัว' ขึ้นนิดหน่อย ช่วงบ่ายก็เลยมีเวลาพักให้สำหรับพนักงานเสิร์ฟเป็นพิเศษ แน่นอนว่าพอมิยาโกะทราบเรื่องที่ว่าน้องสาวของไดสึเกะโดนลวนลามก็รีบเบิ่งมาที่คาเฟ่ขนมหวานทันที แล้วก็เหมือนจะคุยอะไรกันอยู่สักพัก ก่อนจะแจ้งเวลาพักให้กับพวกพนักงานเสิร์ฟในวันนี้...

     

     

                และถึงจะเป็นเวลาพัก แต่หลายคนยอมอยู่เฉย ๆ กันที่ไหน พนักงานเสิร์ฟเกือบร้อยละแปดสิบห้าต่างไปเที่ยวชมงานกันหมด ทิ้งพวกร้อยละสิบห้าเหลือไว้ที่คาเฟ่นี่แหละ และหนึ่งในร้อยละสิบห้านั่นก็คือไดอาน่านั่นเอง

     

     

                ตอนนี้เจ้าตัวมานั่งเล่นกินเค้กของโปรดอยู่ที่โต๊ะหลังร้านกับฮิคาริ แถมนั่งเหยียดแขนเหยียดขาอย่างไม่กลัวสายตาชาวบ้านเท่าไหร่ เพราะหลังร้านนั้นหันหน้าเข้าหากำแพงพอดี แถมบริเวณนี้ต้นไม้พุ่มไม้เยอะได้ใจอีกต่างหาก แทบจะไม่ต้องกลัวใครมาแอบซุ่มมองเลยด้วยซ้ำ ที่สำคัญตอนนี้ทั้งคาเฟ่ก็เหลืออยู่ไม่ถึงสิบคน มีตัวไดอาน่าแล้วคนหนึ่ง อีกคนก็ฮิคาริที่รับอาสาจับตาดูสอดส่องไม่ให้มีใครมาจิ๊จ๊ะกับไดอาน่าได้อีก นอกนั้นก็เป็นพวกมัทซึดะเบเกอรี่อีกสองสามคนที่นั่งแก่วอาสาเฝ้าร้านให้แทนที่จะไปเดินเที่ยวงาน

     

     

                "เหมือนตารางกิจกรรมจะเปลี่ยนเกือบหมดเลย โดยเฉพาะไตรกีฬา แถมมีใบรายชื่อกำกับกันคนหนีหน้าที่อีกต่างหาก กลัวเด็กหนีกิจกรรมกันรึไงเนี่ย?"

     

     

                ไดอาน่ารับเอกสารจากฮิคาริพลางเปิดดูผ่าน ๆ อย่างไม่ค่อยสนใจแล้วส่งคืนให้อีกฝ่ายแล้วหันไปนอนฟุบบนโต๊ะแทน เสียงอู้อี้พูดงึมงำออกมาอย่างเอื่อยเฉื่อย

     

     

                "เอาน่าฮิคาริจัง ถ้ารุ่นพี่มิคิริเป็นคนเปลี่ยนตารางด้วยตัวเองล่ะก็คงมีเหตุผลของเขาอยู่นั่นแหละ แต่เปลี่ยนตารางน่ะก็ดีแล้ว ล่ะ เพราะไตรกีฬาฉันดันเจ๋อไปลงทุกอย่างเลยด้วย ถ้าขืนมันแข่งทุกวันจริง ๆ วีเองก็คงลิ้นห้อย คิดดีแล้วหรือให้หมอนั่นมาปลอมตัวเป็นฉันแทนน่ะ พฤติกรรมที่แสดงออกของฉันกับหมอนั่นมันไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วนะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนยังเนียนไปได้ แต่นิสัย 'ไดสึเกะ' ในปัจจุบันมันต้องอินโนเซนต์สิ มาให้ซาดิสม์แบบนั้นได้ยังไง"

     

     

                "รอยัลไนท์จะมาให้ใสซื่อได้ยังไงกันล่ะจ๊ะ ถ้าขืนทำตัวใสซื่อก็มีน้อยคนแหละที่จะเชื่อฟังรอยัลไนท์ อีกอย่างนะ มีวิธีแก้ไขอันไหนที่ใช้ได้ก็ต้องใช้ไปก่อนแหละจ้ะ หรือจะให้บอกว่าไดสึเกะคุงป่วยล่ะ ขืนพูดแบบนั้นไปก็คงไม่มีใครเชื่อหรอก ขนาดทาเครุคุงกับฮิโตมิคุงตอนที่ได้ยินฉันพูดแบบนั้นยังเหวอเลย"

     

     

                "เหอะ ไอ้พวกนั้นคิดว่าฉันเป็นพระเจ้าหรือไง? มนุษย์มันก็ป่วยเป็นนะเฟ้ย!"

     

     

                น้ำเสียงฮึดฮัดถูกใช้ออกมาเมื่อพูดถึงคู่ปรับและเพื่อนคู่ปรับ เด็กสาวเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลหัวเราะร่า มองเสี้ยวใบหน้าของไดสึเกะในคราบของไดอาน่าแล้วยิ้มหวาน

     

     

                "แต่จะว่าไปก็ไม่คิดเลยนะเนี่ยว่าจะมีโอกาสได้เห็นไดสึเกะคุงในสภาพนี้น่ะ"

     

     

                "ทำไมเหรอ?"

     

     

                ไดอาน่ากลับมานั่งหลังตรงอีกครั้งพลางมองบรรยากาศรอบ ๆ ที่จู่ ๆ ตนเองก็รู้สึกว่ามันเปลี่ยนไป

     

     

                "เปล่าหรอก มันน่ารักดีน่ะ พูดก็พูดเถอะขอถามเรื่องยัย.. เอ่อ มิสโซราโงโตะน่ะ ไดสึเกะคุงคิดยังไงกับเธอหรือ?"

     

     

                "รุ่นพี่มิคิริน่ะนะ? ฮิคาริจังถามเหมือนหึงฉันเลย เหอะ ๆ ล้อเล่นน่ะ .. จะว่ายังไงดีล่ะ ความรู้สึกตอนอยู่กับรุ่นพี่เขาน่ะเหมือนตอนอยู่กับรุ่นพี่ไทจิเลยล่ะ บางทีฮิคาริจังอาจจะไม่เข้าใจก็ได้ว่าทำไมฉันถึงพูดแบบนี้ แต่ว่านะ.. มันเป็นความรู้สึกที่เหมือนได้อยู่ใกล้กับคนที่คุ้นเคยน่ะ ตรงนี้เองฉันก็บอกไม่ถูกเหมือนกันล่ะ แต่ถ้าให้พูดง่าย ๆ .. ก็คงจะบอกได้คำเดียวน่ะว่าพออยู่ใกล้แล้วสบายใจน่ะ"

     

     

                "งั้นเหรอ.. ต่างจากฉันเลยล่ะ ทุกครั้งที่ต้องคุยกันทีไรก็ชอบโดนเสียดสีอยู่บ่อยๆ โดนว่าอยู่บ่อย ๆ แถมยังชอบมองฉันด้วยสายตาไม่ค่อยเป็นมิตรนั่นอีก ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม"

     

     

                เป็นฝ่ายไดอาน่าบ้างที่หัวเราะ ก็นะ.. ตอนนี้ใบหน้าน่ารักของอีกฝ่ายกำลังพองลมด้วยความโมโหนี่นา.. แค่คิดก็หัวเราะเพราะความน่ารักไปแล้ว พอมาเจอของจริงใครจะกลั้นหัวเราะได้

     

     

                "คงมีเหตุผลของเขานั่นแหละ.. อ๊ะ! ฮิคาริจัง..มีคนอื่นอยู่ใกล้ ๆ .."

     

     

                ไดอาน่าสะดุ้งขนลุกวาบพลางสอดส่องสายตาไปรอบ ๆ เมื่อจู่ ๆ ตนก็รู้สึกถึงใครบางคนที่อยู่ใกล้ ๆ แถวนี้ ...ตั้งแต่ตอนที่รู้สึกว่าบรรยากาศรอบ ๆ มันเปลี่ยนไป .. ฮิคาริเองก็มองไปรอบ ๆ เช่นกันก่อนจะไปสะดุดสายตาอยู่ตรงบริเวณพุ่มไม้ที่สั่นไหวผิดปกติ

     

     

                "พุ่มไม้ด้านหลังไดสึเกะคุงมันสั่นอยู่ ทำยังไงดีล่ะ คิดว่าตอนนี้ฝ่ายนั้นเองก็คงเริ่มสะกิดใจที่จู่ ๆ พวกเราก็เปลี่ยนพฤติกรรมแล้วล่ะ ใช้พลังนั่นตรวจสอบดูได้หรือเปล่า?"

     

     

                เสียงกระซิบเบา ๆ ให้ทราบ เด็กสาวผมบลอนด์พยักหน้าก่อนตอบออกมา

     

     

                "พอลองใช้พลังนี่สัมผัสดูก็รู้สึกได้ว่าไอ้หมอนั่นมันไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาน่ะสิ หรืออาจจะไม่ใช่มนุษย์ก็ได้เพราะพลังมันคล้ายกับพลังของซอเวอเรนแต่ไม่ใช่ซอเวอเรน มันเป็นพลังประเภทเดียวกับที่รู้สึกได้ตอนอยู่กับโอเมก้าและวี...."

     

     

                "...อ๊ะ! มีอะไรบางอย่างออกมาจากพุ่มไ...ด...ไดสึเกะคุง!"

     

     

                เสียงแซ่ก ๆ ดังมาจากพุ่มไม้ตรงที่เด็กสาวทั้งสองสังเกตอยู่ ด้วยความตกใจมือที่จับส้อมอยู่ก็หันไปสะบัดใส่บริเวณที่มีคนพุ่งออกมา เสียงปลายส้อมเสียบทะลุพื้นปูนซีเมนต์เบา ๆ ทำเอาต่างคนต่างผงะด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่ต่างกัน

     

     

                คนที่พุ่งออกมาถึงกับหน้าซีดเมื่อเห็นว่าขนาดส้อมโลหะอันเล็ก ๆ ที่ใช้จิ้มเค้กยังสามารถเจาะทะลุพื้นซีเมนต์ตรงหน้าตนได้ราวกับเห็นปูนเป็นเค้กขนมปัง ส่วนฮิคาริก็ได้แต่แปลกใจกับความสามารถใหม่ที่ติดตัวมาหลังจากเปลี่ยนเป็นอีกเพศของไดสึเกะ

     

     

                "มาทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ แถวนี้มีอะไรหรือคะ?"

     

     

                หลังจากเด็กสาวผมบลอนด์ได้สติก็วางมาดถามเสียงเรียบเย็น นัยน์ตาฟ้าสดจ้องมองมาจิก ๆ บังคับให้ตอบคำถาม บรรยากาศน่าอึดอัดเริ่มก่อตัวขึ้นเมื่อต่างฝ่ายต่างจ้องกันไปมา แต่พอฮิคาริมองไปยังอีกฝ่ายดี ๆ แล้วก็ถึงกับเบิกตากว้าง คว้าแขนไดอาน่ากลับมาแล้วบอก

     

     

                "เอ๋!.. อ๊ะ..เอ่อ.. ไม่หรอก นั่นน่ะคุณมัทซึดะไง ที่คุณมิยาโกะบอกว่ามาช่วยทำเบเกอรี่น่ะ"

     

     

                "ห๊า!?"

     

     

                อุทานเสียงแหลมทำท่าทางตกใจเมื่อเพื่อนสนิทบอกว่าไอ้คนในชุดคลุมคล้ายชุดนักสืบแถมใส่หมวกเนี่ยคือหนึ่งในพนักงานของคาเฟ่ขนมหวาน เป็นใครใครจะเชื่อละเธอ..

     

     

                "ไอ้เจ้าคนประหลาดนี่น่ะเหรอ?"

     

     

                "เสียมารยาทจังนะครับคนโอไดบะเนี่ย ว่าคนอื่นเขาฉอด ๆ เลย"

     

     

                ว่าแล้ว 'ไอ้เจ้าคนประหลาด' ก็ถอดหมวกพร้อมชุดคลุมนั่นออก เผยให้เห็นเสื้อสีฟ้าแขนสั้นที่มีฮู๊ดอยู่ด้านหลังและมีชายเสื้อยาวจนเกือบจะสามารถเป็นชุดวันพีซได้ กางเกงยืดธรรมดาสีเทาอ่อนทียาวเลยหัวเข่ามาหน่อยมีเชือกผูกอยู่ที่ชายขากางเกง ถุงเท้าที่ถูกดึงขึ้นจนเกือบจะถึงเข่า กับรองเท้าหนังสีขาว-เขียวดูเรียบ ๆ ..

     

     

                "แหม.. คนทำเบเกอรี่หรือคะเนี่ย แต่งตัวอย่างกับจะไปซ่าที่ไหนเลยนะคะ"

     

     

                พอได้ยินอีกฝ่ายตอบกลับมาแบบนี้ก็อดจะยั๊วะไม่ได้.. ผมจะแต่งตัวแบบไหนมันหนักหัวคุณหรือวะครับ?.. และแน่นอนทาคาโตะไม่ได้พูดประโยคเมื่อครู่ออกไปแน่ ถ้าพูดออกไปคงได้เถียงกันยาว แต่ที่เขาสงสัยคือพลังแปลก ๆ ที่เขาสัมผัสได้ต่างหาก

     

     

                "ผมจะคิดว่านั่นเป็นคำชม เข้าเรื่องดีกว่า ผมไม่อ้อมค้อมเลยนะครับ คุณเกี่ยวข้องกับซอเวอเรนหรือเปล่า?"

     

     

                ไม่ทันไรทาคาโตะก็สร้างความกระทบกระเทือนต่อความลับของพวกไดสึเกะอีกแล้ว.. ฮิคาริยิ้มหวานก่อนจะเดินมาขวางระหว่างไดอาน่าและทาคาโตะ

     

     

                "ไดสึเกะคุง ต่อจากนี้ให้ฉันพูดเองนะ... เมื่อกี๊คุณมาว่าคนโอไดบะเป็นคนเสียมารยาท ถ้าอย่างนั้นคนชินจุกุก็เสียมารยาทพอตัวเหมือนกันนะคะเนี่ย แน่นอนว่าฉันไม่ได้จะมาก่อสงครามน้ำลายกับคุณแน่ เอาล่ะ แนะนำฐานะของตัวเองในโลกดิจิตอลด้วยค่ะ"

     

     

                น้ำเสียงเฉียบขาดและเรียบเย็นนี่ไม่ใช่ว่าจะเห็นกันง่าย ๆ ไดอาน่าเหลือบมองเพื่อนสาวแล้วลดความเกร็งลง แต่สายตาก็ยังไม่ละไปจากอีกฝ่ายอยู่ดี ท่าทางว่าการพบกันครั้งแรกของสองคนนี้จะไม่ราบรื่นแฮะ

     

     

                "ทาคาโตะ.. มัทซึดะ ทาคาโตะ หนึ่งในสี่เทมเมอร์ในตำนาน หนึ่งในสิบสามรอยัลไนท์ภายใต้การควบคุมของอิกดราชิล"

     

     

                พอได้ยินสองสาวถึงกับร้องห๊ะออกมาอย่างพร้อมเพรียง สายตาอันไม่เชื่อในคำพูดลอยมากระทบทาคาโตะ แต่เจ้าตัวก็ไม่ใส่ใจนักหรอก แน่นอน เพราะฐานะรอยัลไนท์เป็นฐานะที่มีอำนาจเป็นรองเพียงอิกดราชิล ถ้าเปรียบเทียบก็เหมือนอิกดราชิลเป็นนายกรัฐมนตรี รอยัลไนท์ก็เป็นรัฐมนตรีในคณะนั่นแหละ

     

     

                แต่ปัญหาคือไอ้คนตรงหน้านี่มันยอมบอกว่าตัวเองเป็นรอยัลไนท์ง่าย ๆ แบบนี้เลย แสดงว่าคงต้องมั่นใจหรือรู้จักพวกไดสึเกะบ้างพอตัวนั่นล่ะ...มั้ง

     

     

                อย่างที่บอกไป รอยัลไนท์มีอำนาจมากและอยู่ภายใต้การควบคุมของอิกดราชิลเท่านั้น พวกซอเวอเรนหรือเซเลสเทียสจึงไม่สามารถมาออกคำสั่งอะไรกับพวกนี้ได้เลย และการที่จะรู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของรอยัลไนท์เป็นใครมาจากไหนก็ถือเป็นกฎข้อห้ามที่ห้ามบอกคนอื่นเหมือนกัน แต่เพราะทาคาโตะเองสามารถสัมผัสถึงพลังของซอเวอเรนได้ จึงไม่แปลกใจที่เจ้าตัวจะบอกแบบนั้น

     

     

                "อ๋อ เบ๊ของน้าสึงุรุสินะ"

     

     

                เสียงร้องอุทานในลำคอของเด็กชายเจ้าของนัยต์ตาสีแดงเลือดบ้างเมื่อเด็กสาวผมบลอนด์ทองพูดแบบนี้ เจ้าตัวเริ่มคิดในใจหวั่น ๆ ว่าเผลอไปเล่นของสูงเข้าหรือเปล่า จริงอยู่ว่ารอยัลไนท์ไม่จำเป็นต้องฟังคำสั่งของซอเวอเรนหรือเซเลสเทียล แต่ก็ใช่ว่าจะไม่กลัวพวกนี้นี่นา แล้วยิ่งเจ้าเด็กผมทองตรงหน้าทาคาโตะดันมีพลังของซอเวอเรนอีก..

     

     

                "อ๊ะไม่ต้องห่วงค่ะ ถ้าคุณมัทซึดะเป็นรอยัลไนท์แสดงว่าคุณเป็นพวกเดียวกับเรา เอาเป็นว่ามานั่งคุยปรับความเข้าใจให้ตรงกันก่อนก็แล้วกันนะคะ ได้ยินมาว่าเทมเมอร์คือกลุ่มคนที่ได้รับพรจากซอเวอเรน ไม่นึกเลยว่าจะได้เจอตัวเป็น ๆ .."

     

     

                "หา? คุณพูดเหมือนคุณรู้จักเทมเมอร์อย่างนั้นแหละ ถ้าอย่างนั้นคุณก็เป็นกลุ่มเดียวกับคนที่มาหาผมเมื่อต้นเดือนสินะ"

     

     

                "ฉันไม่รู้หรอกนะว่าคุณมัทซึดะพูดอะไรอยู่ ส่วนเรื่องที่ว่ารู้จักเทมเมอร์.. คือได้ยินโอเมก้ากับพี่มาซารุพูดถึงบ่อย ๆ น่ะค่ะ อีกอย่างน้าสึงุรุเองก็บอกว่ามีรอยัลไนท์ตนนึงที่เป็นครึ่งมนุษย์อยู่ด้วยน่ะ ไม่นึกเลยว่าจะเป็นคนดังอย่างคุณ"

     

     

                ทาคาโตะหน้าซีดฉับพลัน.. ถึงขนาดเรียกอิกดราชิลว่า 'น้าสึงุรุ' เฉย ๆ นี่มันไม่ธรรมดาแล้วล่ะ ในหมู่รอยัลไนท์ด้วยกันเองยังไม่มีใครสามารถเรียกอิกดราชิลด้วยชื่อจริงได้สักคน เพราะถ้าเรียกเมื่อไหร่จะถูกทำโทษข้อหาลบหลู่เบื้องสูง.. อะไรกันฟะ?

     

     

                "นี่ ก่อนอื่นขอเรียกพวกนั้นก่อนได้มั้ย? พวกที่มาด้วยกันน่ะ พวกเขาเป็นเทมเมอร์เหมือนฉันเนี่ยแหละ"

     

     

                สรรพนามแทนตัวที่เปลี่ยนไปแสดงถึงการยอมรับในตัวอีกฝ่าย ฮิคาริยิ้มหวานที่การเจรจาประสบผล

     

     

                "ตามสบายค่ะ"

     

     

                ...

     

     

              20 นาทีก่อนหมดเวลาพักสำหรับพนักงานของคาเฟ่ขนมหวาน

     

     

                "สรุปก็คือตอนนี้เกิดปัญหาอะไรบางอย่างกับดิจิตอลเวิร์ลจริง ๆ ด้วยสินะ"

     

     

                น้ำเสียงสำเนียงญี่ปุ่นแปร่ง ๆ ดังลอดเด็กชายผิวน้ำผึ้งออกมา ในมือก็พิมพ์แล็ปท็อปต่อกแต่กไป ท่าทางคงจะติดต่อกับพวกเทมเมอร์ที่เหลือ.. มั้ง?

     

     

                "ค่ะ น้าสึงุรุบอกพวกเราว่าตอนนี้มีสิ่งประหลาดเกิดขึ้นในดิจิตอลเวิร์ล ซึ่งนั่นเป็นปัญหาที่ทำให้ระบบเน็ตเวิร์กรวนทั้งหมด เป็นผลให้ดิจิตอลเกททุกรูปแบบปิดตัวฉับพลัน พูดก็คือตอนนี้รีลเวิร์ลกับดิจิตอลเวิร์ลน่ะตัดขาดกันโดยสิ้นเชิง ยังดีที่ระบบคอมพิวเตอร์ของรีลเวิร์ลยังเป็นปกติอยู่ แต่ถ้ายังแก้ไขปัญหาโดยเร็วล่ะก็สองโลกไม่รอดแน่ ๆ "

     

     

                ฮิคาริอธิบายยาวเหยียดที่โต๊ะหลังร้าน ซึ่งตอนนี้มีสมาชิกมานั่งกันแน่นโต๊ะเลย (โต๊ะมันเล็ก) ..

     

     

                "และวิธีแก้ไขที่น้าสึงุรุบอกมามันมีเงื่อนไขสามอย่างค่ะ อย่างแรกคือตามหาพลังของหวงหลงที่เป็นซอเวอเรนตนที่ห้าที่กระจายออกเป็นสามส่วน อย่างที่สองตามหาสิบคนที่ได้รับพลังของคุณซึซึจิจนสลับเพศ และอย่างสุดท้ายคือตามหาเจ็ดคนที่เป็นตัวแทนของโฮลี่สโตนทั้งเจ็ดค่ะ อยากถามอะไรมั้ยคะ? ถามได้ทุกส่วนเลย"

     

     

                "หลังจากตามหาพลังสามส่วนของซอเวอเรนแล้วจะทำยังไงต่อล่ะ?"

     

     

                น้ำเสียงราบเรียบจากดิจิมอนควีนทำให้ฮิคาริยิ้มหวาน แต่ยังไม่ทันได้ตอบไดอาน่าก็เอาของว่างมาเสิร์ฟให้คนในโต๊ะแล้วนั่งลงข้าง ๆ เด็กสาวผมสีน้ำตาล

     

     

                "เมื่อพลังทั้งสามส่วนอยู่พร้อมหน้ากันโดยมีเงื่อนไขที่เหมาะสม พลังนั้นก็รวมเข้าด้วยกันทำให้เกิดเป็นหวงหลงค่ะ สาเหตุคือเพราะหวงหลงเป็นซอเวอเรนที่มีอำนาจมากที่สุด มีอำนาจที่เหนือกว่าอิกดราชิล และอยู่เหนือกฎเกณฑ์เกือบทุกอย่างซึ่งนั่นทำให้หวงหลงสามารถเปิดดิจิตอลเกทด้วยตัวเองได้ค่ะ พูดกันก่อน พลังสามส่วนเนี่ยไม่มีทางรู้ได้ว่าอยู่ที่ใครบ้าง แต่พอพลังสามส่วนนั้นรวมเข้าด้วยกัน คนที่เป็นภาชนะของพลังทั้งสามส่วนจะปลอดภัยค่ะ งานนี้ถ้าไม่มีอุปสรรคก็ไม่มีเหตุนองเลือดหรอก"

     

     

                "คุณซึซึจิที่พูดถึงนี่ใครเหรอคะ?"

     

     

                "กะแล้วเชียวว่าจูริจังต้องถามแบบนี้ คนที่รู้มีแต่ซอเวอเรนค่ะ เรื่องนี้น้าสึงุรุเองก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะวิธีแก้ปัญหาเนี่ยจินหลงเป็นคนฝากน้าสึงุรุมาบอกพวกเราน่ะ และนี่.. เพื่อนที่นั่งข้าง ๆ ฉันก็เป็นหนึ่งในผู้ที่มีพลังส่วนหนึ่งของหวงหลง แถมยังได้รับพลังของคุณซึซึจิจนสลับเพศอีกต่างหาก ส่วนวิธีที่จะทำให้กลับไปเป็นเพศเดิมของตัวเองได้ก็คือต้องให้หวงหลงเป็นคนแก้พลังให้ ส่วนเรื่องตัวแทนโฮลี่สโตนทั้งเจ็ดเนี่ย ต้องอธิบายหรือเปล่าคะ?"

     

     

                หลายคนพยักหน้าหงึกหงัก แม้แต่ไดอาน่าเองยังพยักหน้าไปด้วยเลย

     

     

                "โฮลี่สโตนคือหินทั้งเจ็ดก้อนที่เป็นตัวควบคุมสมดุลของดิจิตอลเวิร์ล ถ้าหินทั้งเจ็ดถูกทำลาย ดิจิตอลเวิร์ลก็ไม่เหลือ และเมื่อสี่ปีก่อน โฮลี่สโตนก็ถูกทำลายไปหกก้อน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกจินหลงต้องสร้างเทมเมอร์ขึ้นมาเพื่อแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าโดยอาศัยความร่วมมือของคุณชิบุมิน่ะ.. แค่ก! แสบคอจังเลย.. "

     

     

                "ฉันพูดต่อเองฮิคาริจัง.. เพราะเด็กที่ถูกเลือกรุ่นพวกเราไม่สามารถแก้ไขปัญหานั้นได้ร้อยเปอร์เซ็น ทำได้แค่ใช้พลังของดิจิไวซ์เพื่อปลูกฝังเมล็ดของโฮลี่สโตนลงไป ณ จุดเดิม แต่ไม่สามารถทำให้มันเติบโตได้ จึงต้องเกิดผู้ช่วยเฉพาะกิจ หรือก็คือเทมเมอร์นั่นแหละครับ และทีนี้หลังจากที่ดิจิตอลเวิร์ลกับรีลเวิร์ลเชื่อมต่อกันโดยอิสระ จึงจำเป็นต้องมีตัวแทนของโฮลี่สโตนอยู่ที่รีลเวิร์ลด้วยเพื่อป้องกันว่าถ้าหากเกิดเหตุร้ายกับโฮลี่สโตน คนที่จะเจ็บปวดหรือได้รับความเสียหายก็คือตัวแทนทั้งเจ็ด"

     

     

                "แบบนั้นโหดร้ายน่าดูเลยนะเนี่ย ถ้าเป็นฉันนะ ฉันคงปลงในชีวิตตัวเองไปแล้วล่ะ"

     

     

                ทาคาโตะหันไปเอาคางเกยไหล่คนผมสีชาดที่นั่งนิ่ง นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มเหลือบมองอีกฝ่ายก่อนจะหันไปมองอีกคนด้วยหางตาและก็ได้เห็นนัยน์ตาสีเขียวเขม่าควันกำลังขุ่นมัวอย่างประหลาด.. ใช่ น่าประหลาดใจสำหรับกรานิแหละ แต่สำหรับพวกเทมเมอร์และคู่หูด้วยกันยกเว้นทาคาโตะกับเจ้าของนัยน์ตาสีเขียวเขม่าควันกลับพากันถอนหายใจอย่างพร้อมเพรียง

     

     

                "เอ๋? เป็นอะไรกันน่ะ ไหงถึงได้ถอนหายใจพร้อมกันแบบนี้ล่ะเนี่ย.. เอาเถอะ ก็เข้าใจว่าเรื่องพวกนี้มันยุ่งยากน่ะ ขนาดฉันเองยังไม่ค่อยชอบเลย แล้วยิ่งต้องมาอายู่ในสภาพแบบนี้อีก.. เฮ้อ.."

     

     

                ไดอาน่าบ่นยาวเหยียด แน่นอนว่าในใจก็คิดขอโทษพวกเทมเมอร์ที่ต้องมาเจอเรื่องพวกนี้.. แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่เลยแหละ ที่พวกเขาถอนหายใจน่ะเพราะพฤติกรรมของพวกเพื่อน ๆ บางคนที่งอนกันเล่นต่างหาก

     

     

                "แต่ว่าโอกาสที่จะเจ็บปวดมันมีน้อยนะคะ เพราะโฮลี่สโตนหนึ่งก้อนจะมีรอยัลไนท์ดูแลอยู่หนึ่งตน การมีตัวแทนไว้ก็เพื่อให้สามารถรับรู้ได้ว่ากำลังเกิดเหตุร้ายกับโฮลี่สโตนและเหตุร้ายนี่ก็เกินความสามารถของรอยัลไนท์น่ะค่ะ นี่คือจุดประสงค์ของการมีตัวแทนไว้ และแน่นอนว่าตัวแทนน่ะจะสามารถรับรู้ได้ทันทีโดยไม่มีข้อยกเว้นค่ะ"

     

     

                ฮิคาริที่ดื่มชาแก้แสบคอหันมาพูดต่อเมื่อเห็นท่าทางของไดอาน่าที่เหมือนปลงตกหรืออะไรสักอย่าง

     

     

                "ไม่มีข้อยกเว้น?"

     

     

                รูกิถามเสียงสูงเป็นเชิงว่าไม่เข้าใจอย่างชัดเจน

     

     

                "ก็คือต่อให้สองโลกตัดขาดกันโดยสิ้นเชิง แต่ตัวแทนก็ยังสามารถรับรู้ได้เมื่อเกิดเหตุร้ายกับโฮลี่สโตนน่ะค่ะ และเพราะเราไม่รู้ว่าตอนนี้ดิจิตอลเวิร์ลจะเป็นตายร้ายดียังไงหลังจากตัดขาดจากรีลเวิร์ล จึงจำเป็นต้องรวบรวมตัวแทนทั้งเจ็ดคนมาเพื่อดูว่าโฮลี่สโตนยังปลอดภัยอยู่หรือเปล่าน่ะค่ะ"

     

     

                "...และปัญหาก็คือพวกเราไม่รู้ว่าใครคือตัวแทนของโฮลี่สโตนนี่แหละครับ"

     

     

                ไดอาน่าปิดท้ายด้วยน้ำเสียงที่หวานไพเราะ..ขัดกับไอ้คำลงท้ายนั่นชะมัดเลย

     

     

                เจ้าของนัยน์ตาสีเลือดถอนหายใจเฮือกแล้วเอียงคอมองไดอาน่าบนไหล่กรานิ

     

     

                "ตอนนี้นายเป็นผู้หญิงก็ช่วยพูด 'ค่ะ' ทีเถอะ พูด 'ครับ' แล้วมันแปลกจนน่ากลัวน่ะ"

     

     

                "ค่า ๆ ทาคาโตะคุง ฉันพูดแบบผู้หญิงก็ได้ค่า~"

     

     

                "เอาล่ะ สรุปเรื่องของพวกนายเนี่ยเก็บไว้เป็นความลับแค่ไดสึเกะคุงกับครอบครัว ฮิคาริจัง คุณไทจิ พวกเราเทมเมอร์ รอยัลไนท์ พวกนักรบในตำนาน พวกซอเวอเรน พวกรุ่นแรก และอิกดราชิลกับครอบครัวเขาสินะ ว่าแต่พวกรุ่นแรกนี่ใครกัน? ถ้าพวกนักรบในตำนานล่ะก็พอจะเคยได้ยินชื่อแต่ไม่เคยเห็นตัวเป็น ๆ "

     

     

                เจ้าของนัยน์ตาสีเขียวเขม่าควันบิดตัวยืดแขนขาแล้วกลับมานั่งนิ่งสงบเหมือนเดิม ฮิคาริดื่มชาจนหมดก่อนตอบออกมา

     

     

                "ไม่มีใครรู้นอกจากซอเวอเรนค่ะ ส่วนพวกนักรบในตำนานเดี๋ยววันนี้พวกคุณก็ได้เจอ.. อย่างที่บอกนะคะ ฉันคิดว่าตอนเย็นพวกคุณมิยาโกะคงจะแนะนำพวกคุณให้พวกเรารู้จัก ตอนนั้นช่วยแสร้งทำเป็นไม่รู้จักพวกเรามาก่อนด้วยนะคะ เพราะเรื่องพวกนี้ฉันกับพี่ไม่อยากให้เพื่อน ๆ มาข้องเกี่ยวกันเยอะน่ะค่ะ.. อ๊ะ หมดเวลาพักแล้วสิ ... ขอความกรุณาเรื่องที่ขอร้องไปด้วยนะคะ"

     

     

                ...

     

     

                "นี่ฮิคาริจัง คือฉันมีความจริงจะสารภาพล่ะ"

     

     

                "อะไรเหรอไดสึเกะคุง?"

     

     

                "ความจริงแล้วฉันสามารถใช้พลังบางส่วนของหวงหลงทำให้ตัวเองกลับมาเป็นผู้ชายได้ล่ะ.."

     

     

                "........."

     

     

                "..อ๊าา~ อย่าโกรธฉันเลยนะฮิคาริจัง ฉันเพิ่งรู้เรื่องนี้เมื่อเช้าเองอ่ะ!"

     

     

                "เปล่าจ้ะ ใครจะโกรธเพื่อนสนิทได้ลงคอล่ะ แต่เรื่องเมื่อกี๊อย่าเอาไปบอกใครเชียวล่ะ"

     

     

                "ทำไมหรือ?"

     

     

                "ฉันจะแกล้งคนอื่น ๆ กับพี่น่ะ ชอบมาโอ๋ไดสึเกะคุงจนเสียคนแบบนี้ยอมได้ที่ไหน.."

     

     

                "เอ่อ.. ฉันแค่อินโนเซนต์เพราะโดนรุ่นพี่ไทจิดูแลตลอดเวลาที่อยู่โรงเรียนเองนะ"

     

     

                "ไม่รู้ล่ะ อยากเอาคืนน่ะ"

     

     

                "อ้อใช่ฮิคาริจัง มีความจริงจะสารภาพอีกอย่างน่ะ"

     

     

                "เหอ?"

     

     

                "...คือความจริงฉันก็ไม่ได้อินโนเซนต์หรอก แค่ทำตัวอินโนเซนต์ต่อหน้าทุกคนเฉย ๆ นั่นแหละ ถ้าไม่ทำอย่างนั้นฉันจะมีคนตามมารังควานเยอะผิดปกติน่ะ ทั้งร่างผู้หญิงและร่างผู้ชายเลย.."

     

     

                "........."

     

     

                "..ไม่โกรธฉันน้าฮิคาริจ๊างงง~~"

     

     

                "ไม่หรอก! แบบนี้ก็ดีเลยล่ะจ้ะ! กะแล้วว่าตัวตนของไดสึเกะคุงจริง ๆ ต้องไม่ได้อินโนเซนต์แน่ ๆ "

     

     

                "หา?"

     

     

                "เอาล่ะ! ความลับนี้พวกเรารู้กันแค่สองคนนะจ๊ะ หุหุหุ .."

     

     

                "........." (เสียงหัวเราะนั่นช่างไม่น่าไว้ใจสิ้นดีเลย)

     

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×