ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บันทึกเด็ก(บ้าน)นอก

    ลำดับตอนที่ #2 : สัมภาษณ์ครั้งแรก ถูกปฎิเสธครั้งแรก

    • อัปเดตล่าสุด 2 ก.ย. 57









    ต่อจากเมื่อตอนเดิม ที่ว่ากันว่าเขาจะนัดให้เด็กตาดำๆอย่างเรา ไปสัมภาษณ์ 





    ณ ตอนนั้น เด็กหญิงเก็กฮวยผู้อ่อนประสบการ์ณ ได้ถือใบนัดสัมภาษณ์เวลา 15.45 ด้วยมืออันเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ เหลียวมองอาคารใหญ่ที่ดูหรูหราอลังการ คับคังด้วยเด็กวัยเดียวกัน...

    โอเคกลับมาสติสตังๆ



    คือตอนนั้นเราก็ว่าจะไปสัมภาษณ์โดยลากพ่อไปรอและให้กำลังใจ คือตอนนั้นเราก็แบบโคตรจะตื่นเต้น หัวใจเต้นระริกๆ มองดูจำนวนเด็กที่มาสัมภาษณ์แล้วแลน่ากลัวอยู่เหมือนกัน ทั้งๆที่ไม่ได้ตัดสินเลยเรื่องจำนวนคนที่จะเรียน 

    ภายในอาคารก็มีเด็กหลากหลายเชื้อชาติ ยืนจับกลุ่มคุยกับเพื่อนที่มาจาก รร เดียวกัน ซึ่งเราไม่มีใครคุยด้วยเลย เพราะเพื่อนไม่มี 555+

    แต่ในขณะที่กำลังหวาดกลัวต่อโลกภายนอก สวรรค์ก็ประทานเพื่อนในวิชาภาษาอังกฤษมาเป็นเพื่อนคุย ซึ่งบทสนทนาก็เป็นไปอย่างตะกุกตะกัก =_= 

    เอาเป็นว่าเราถามอย่างคุณเธอตอบอย่าง 

    เธอถามอย่างเราตอบอย่าง 55555+


    จากนั้นก็มีสตาฟพาไปที่ๆสัมภาษณ์ โดยให้เด็กต่อแถวยาวเหยียดคือแล้วจะนัดมาเวลาเดียวกันเพื่อ ?


    แต่ในระหว่างนั้น ไอ้คนอย่างเราก็พยายามมองหาอาหารสายตาเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา จนไปเจอะเด็กผู้ชายผมยาวเลยไหล่ ผมสีน้ำตาลออกฟู ๆ ในมือถือแฟ้มศิลปะขนาดเท่ากับของเรา ซึ่งมันก็จ้องเราเหมือนกัน 


    มีความเป็นไปได้สูงว่ามันพยายามมองผลงานในแฟ้มของเก็กฮวย แต่ด้วยความที่ฮวยฉลาดคะ จึงซ่อนๆไว้ ซึ่งไอ้หมอนี่มันจ้องเราจนมันไปสัมภาษณ์ ไม่อยากจะเข้าข้างตัวเองซะด้วยสิว่าสวยแปลก 555+


    มองได้แต่อย่าชอบ เพราะมันจะทำให้ใจฉันบอบช้ำ อยากร้องเพลงนี้ขึ้นมาทันที 555+


    รู้สึกว่าจะออกนอกเรื่องไปเยอะ 


    มาต่อ 



    ห้องสัมภาษณ์เป็นห้องขนาดใหญ่ มีผู้ใหญ่หลายคนนั่งอยู่โต๊ะใครโต๊ะมันซึ่งตั้งห่างกันเป็นวา 

    ถึงคิวเราที่นั่งรออยู่ เราก็เดินเก้ๆกังๆไปที่โต๊ะของผู้หญิงร่างท้วม ผมสีแดงเพลิง แบบแดงแจ๊ด 

    เริ่มแรกฮวยโชว์โง่ 



    คุณมาถึงที่นี้ได้อย่างไร 


    ฮวย: พูดอีกครั้งได้ไหมค่ะ (โคตรอายเลย คำถามง่ายๆยังต้องให้ทวน) 

    เธอ : พูดอีกครั้ง พยายามยิ้ม 

    หลังจากนั้นเมื่อเธอรู้ว่าเรามาจากไทยก็เล่าว่าเคยไปสมุย ไรพวกนี้ 


    ซึ่งเราก็เออๆออๆ เพราะฝรั่งที่ไปเที่ยวสมุยเยอะมากกก 


    ต่อมา คุณเธอก็อ่านๆ Personal statement ของเรา 


    ครั้งแรกเหมือนจะสนใจ แต่เมื่อย้ายสายตามาที่เกรด 


    เธอก้พูดเลยว่า ระดับความรู้ภาษาอะไรของฮวยยังไม่พอที่จะเรียน A-level 


    เพราะเกรดวิชาภาษาอังกฤษ คือเกรด E  แต่ผ่านในที่นี้คือ C 


    เธอก็พูดเลยว่าเหลือเวลาอีกไม่กี่เดือนก็จะสอบจริง คิดว่าฮวยอ่ะจะได้เกรด C ทีที่นี้บังคับเหรอ 


    มาถึงตอนนี้เรารู้สึกหน่วงๆที่กระบอกตา เล็บเราจิกเข้าเนื้อแน่นมากเพื่อพยายามห้ามน้ำตา 
    รู้เลยว่าตอนนั้นตาคงเหลือกและแดงมากแน่ๆ แต่ก้ทนฟังต่อกับความจริงยากที่จะปฎิเสธ 



    เธอก็พูดว่าระดับเราน่าจะพอเรียน BTEC SCIENCE LEVEL 3 ไหว แล้วจากนั้นให้เราลงชื่อสมัครบีเทค ยื่นกระดาษปฎิเสธมาไว้ตรงหน้า ไม่คิดจะให้โอกาสได้ลองเลย ทั้งๆที่เกรดพวกนี้ก็มาจากสอบต้นปี 




    จากนั้นเราก็ถามว่าเสร็จแล้วใช่ไหม 


    เธอก็พยักหน้า แล้วมาแนะนำให้เราอ่านหนังสือพิมพ์เยอๆ ซึ่งตอนนั้นเราโคตรรู้สึกโมโหแล้วก็อยากร้องไห้มาก 


    เพราะเราเกลียดเวลาที่คนต้องมาทำท่าเมตตา ดูถูก ถ้าบอกไม่คือไม่ อย่ามาทำอย่างนี้ ไม่ต้องพยายามปลอม เพราะมันเหมือนตบหัวลูบหลัง 


    ถ้าจะดีบอกปฏิเสธแล้วพูดเย็นชาๆ เหมือน Simon จะดีมาก



    จากนั้นเราก็ลากแฟ้มศิลปะออกมาพร้อมกับอารมณ์ที่ใกล้จะระเบิดเพราะความผิดหวัง 




    ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นยังนี้ แต่เรื่องความหวังใครๆก็มีทั้งนั้นแหละ 



    เราเดินวน น้ำตาเริ่มเอ่อเล็กๆ จนมีเด้กผู้หญิงรุ่นเดียวกันมาสะกิดถามว่ารู้ทางออกที่นี้ไหม ตอนนั้นเราหันหลังให้เช็ดน้ำตาก่อนจะพยักหน้าแล้วยิ้มอย่างมั่นใจ 



    เราก็เลยเดินนำเลยทีนี้ ไปๆ มาๆ เราพาเธอหลงไปอีกคน ตอนนั้นไม่มีอารมณ์มาดราม่าแล้ว 




    อยากกลับลงตึกไปหาพ่อที่รออยู่ด้านล่าง 




    จนในที่สุดเธอคนนั้นก็พาเราไปถามทางกับคนที่จะลงตึกพอดี จะเราได้ขึ้นลิฟต์ลงไปด้วยกัน 


    พอลิฟติช์หยุดเราเดินหน้าตั้งไปทาพ่อเลย ไม่ิดจะผูกมิตรอะไรกับใครทั้งนั้น 


    ทันทีที่เห็นหน้าพ่อเราก็รู้สึกเหมือนบ่อน้ำตามันระเบิดอ่ะ เราเดินไปหาแล้วส่ายหน้า น้ำตาก็เริ่มไหล 


    เราเลยเดินนำหน้าออกจากตึกโสโครกในสายตาเราปล่อยให้พ่อเดินตามหลังมาเงียบๆ 



    ก็ยอมรับนะว่าผิดที่เรา เรามันโง่เอง แต่ว่าเราก็มนุษย์คนนึงที่ย่อมจะรู้สึกโกรธเมื่อผิดหวัง ฉะนั้น บัดนี้เราไม่คิดที่จะฟังชื่อ College แห่งนี้อีกเลย 






















    -



    -------------------















    สอบสัมภาษณ์แห่งที่สองเป็นไปด้วยดี เพราะเราโกงเขียนไปในใบสมัครว่าเกรด C ซึ่งตอนนั้นภาษาเราเริ่มดีขึ้นเพราะเราพกความตั้งใจเต็มเปี่ยม หัวใจเริ่มมีภูมิคุ้มกันในด้านการถูกปฎิเสธ 




    5555+ ความจริงเรารู้ว่ายังไงก็ต้องรับเพราะว่า เรามีเกรดครบทุกอย่างเพราะเราโกงนั้นเอง (ไม่ดีๆ แต่ทำไปแล้ว 55+) 


    คนสัมภาษณืเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ ใจดีมากๆ เพราะเห็นว่าภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง เขาเลยถามว่าต้องการความช่วยเหลืออะไรหรือไม่ หากมาเรียนที่นี้อะไรพวกนี้ และครูเขาก้ดูเฟรนลี่ พูดเรื่อยๆ แต่ดูเหมือนเขาจะสับสนกับอนาคตที่เราอยากเป็นเล็กน้อย คือ ตอนนั้นมันปนๆ กันมั่วไปหมด ทั้งหมอ ทั้งเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ แล้วสถาปนิ ซึ่งตอนนี้เราได้คำตอบแล้วนั้นก็คือสถาปนิดนั้นเอง 


    และแล้วการสัมภาษณืก็จบอย่าง Happy ending เราไม่เสียน้ำตาเหมือนเคย แต่เสียเหงื่อแทนเพราะความร้อน 555+



    ----------------



    สัมภาษณ์ครั้งที่สาม 




    เราเลือกสมัคร ของ รร เก่าเรา ซึ่งทำร่วมกับโรงเรียนแถวนี้อีกสามที่เรียก รวมกันเป็น IC6 ซึ่งใครอยากเรียนวิชาอะไรก็ไปที่ รร ที่เด่นวิชานั้นๆ เช่น รร เราเด่นวิชาวิทย คณิต พวกทีเรียนวิชานี้ชอบมาเรียนที่ รร เรา เวลามีเรียนดนตรี ก็เป็น อีก รร ที่เด่นด้านนี้ 


    โอเค ซึ่งวันสัมภาษณ์นั้น คนสัมภาษณ์เราคือครูใหญ่ของ IC
     ทำงานกับ รร ทั้งสี่ เป็นอะไรที่เสียวไส้มากมาเจอระดับ บิ๊กๆ 


    แต่การสัมภาษณ์ก็เป็นไปอย่างราบรื่นๆ ทั้งๆที่เราลางเกรด E  เขาบอกว่าเหลือเวลาอีกหลายเดือน คนขยัน (?) และ  Hard worker อย่างเราคงทำได้แน่ ซึ้่งเป็นการให้กำลังใจที่ทำเอาเราอยากร้องไห้ 


    ซึ่งหลังเสร็จจากนั้นเราก็น้ำตาซึมจริงๆ เป็นอย่างนี้อีกแล้วเวลาคนเชื่อมั่นในตัวเราทั้งๆที่เรายังไม่เชื่อมั่น มันเป็นความรู้สึกที่โคตรซึ้งสำหรับเรา 555+




















    ตอนต่อไป  GCSE results


















     
    :)  Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×