คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : เมืองที่ปราศจากความอบอุ่น
“เฮ้อ!...ที่นี่มันเคยมีแดดมั่งมั้ยเนี่ย” เสียงโอดครวญเบาๆจากเด็กหนุ่มผมสีทอง มือเรียวเล็กถือลังไม้ใบใหญ่ที่เต็มไปด้วยเสื้อผ้าเปียกชุ่ม
“ผ้าไม่แห้งเหรอเฟย์”
“ครับ...ข้างนอกไม่มีแสงแดดเลย”
“แฟรงก์...นายมาดูอะไรนี่สิ” ชายร่างใหญ่พรวดพราดเข้ามาพร้อมกับหน้าตาเหน็ดเหนื่อย แฟรงก์ลุกออกไปทันที ตามไปด้วยร่างบาง ทั้งสามตรงไปยังทุ่งข้าวสาลีท้ายหมู่บ้าน
“มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย” แฟรงก์มองภาพของทุ่งข้าวสาลีที่แห้งเหี่ยวตรงหน้า
“พี่ครับ...ผมคิดว่าที่เป็นแบบนี้เพราะพวกมันขาดแสงหน่ะครับ”
“แฟรงก์ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปข้าคิดว่าพวกเราคงอดตายทั้งหมู่บ้านแน่”
“อืม...ข้าคิดว่าข้าควรออกไปสำรวจเมืองแวมไพน์นี้ดูซักหน่อย...เพื่อว่าจะมีอะไรดีๆ”
“แต่ข้าเกรงว่ามันจะไม่ปลอดภัยนะแฟรงก์”
“แต่ถ้าข้าไม่ทำ...เราทุกคนจะต้องอดตาย และสิ่งที่เราพยายามก็สูญเปล่าหน่ะสิ”
“พี่ครับ...ผมขอไปด้วย” ร่างใหญ่ไม่ตอบเพียงแต่พยักหน้าเบาๆ ตอนนี้เขามั่นใจว่าเฟย์แข็งแกร่งพอที่จะเผชิญสิ่งตรงหน้าแล้ว
“แฟรงก์...ข้าขอไปด้วย”
“ไม่ได้โจฮาน...เจ้าต้องอยู่คุ้มกันเมืองนี้...คุ้มกันทุกคนแทนข้า...”
“ได้แฟรงก์...แล้วพวกเจ้าจะไปกันเมื่อไหร่”
“พรุ่งนี้”
*******************************
ความเหน็บหนาวจากฝนและกลิ่นอับชื้นปลุกให้ร่างบางตื่นจากภวังค์ที่แสนหดหู่ ‘เช้านี้ช่างแตกต่างจากเดิมยิ่งนัก’ร่างบางหายใจเบาๆ ตั้งแต่ที่เขาถูกย้ายมาในเมืองนี้ เขาไม่เคยคิดที่จะสูดอากาศยามเช้าอย่างเต็มปอดเลยสักครั้ง
“เฟย์...พร้อมรึยัง” ร่างบางพยักหน้าเบาๆ มือเรียวหยิบฮู้สสีดำตัวยาวก่อนก้าวเท้าออกไปจากห้อง มีดสั้นเล่มเล็กถูกเก็บซ่อนอย่างมิดชิด ฝนภายนอกที่ตกปรอยๆยิ่งทำให้บรรยากาศมืดครึ้มและแย่ลงกว่าที่มันเคยเป็น มือใหญ่กุมมือเรียวแน่น ชาวเมืองทุกคนออกมารอพวกเขา
“แฟรงก์...เฟย์...พวกนายต้องทำสำเร็จ...พวกนายต้องกลับมานะ” เสียงอันสั่นเครือจากชายร่างสูง
“พวกข้าต้องกลับมาแน่...อยู่ที่นี่เตรียมรับมือให้พร้อมนะ...เพื่อมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นเราจะได้รับมือทัน” โจฮานพยักหน้าเบาๆเขากุมมือแฟรงก์แน่นราวกับอยากให้พลังในตัวเขาถ่ายทอดไปยังแฟรงก์
“พร้อมนะเฟย์...”
“ครับ”
เสียงฝีเท้าของทั้งสองมุ่งหน้าไปสู่ประตูเมือง มือใหญ่กุมมือเรียวแน่น พวกเขาเข้าใกล้ประตูไม้บานใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ ประตูที่เป็นเพียงเส้นกั้นบางๆระหว่างเมืองสองเมือง ร่างบางใจเต้นโครมคราม เขาไม่รู้ว่าภายนอกนั้นจะเป็นอย่างไร ความกังวลกับสิ่งที่ไม่รู้ทำให้เขาเริ่มเกิดความกลัว มือใหญ่เอื้อมมือไปผลักประตูไม้ให้เปิดออก กลิ่นอับชื้นแทรกผ่านช่องประตูมา มันเป็นกลิ่นที่ชวนสะอิดสะเอียดจนร่างบางต้องปิดจมูก พวกเขาเดินข้ามเขตประตูเมืองออกไป ร่างบางมองไปรอบๆ
“พี่ครับ...ทำไมมัน...” ภาพของเมืองที่พวกเขายืนอยู่มันช่างสว่างไสวและสวยงาม บ้านเมืองที่ดูเจริญรุ่งเรือง มีระดับ หรูหราและดูสง่างามนั้นราวกับถูกสรรสร้างด้วยเวทย์มนต์ ขัดกับกลิ่นอับชื้นและเหม็นสาบที่บ่งบอกว่านี่ไม่ใช่เมืองของมนุษย์ สายตานับร้อยจ้องมองมาที่พวกเขา ร่างบางกำมือร่างสูงแน่น
“เจ้าได้กลิ่นมั้ย...กลิ่นมนุษย์หน่ะ”
“ข้ากำลังคิดเหมือนเจ้าเลย...ฮึฮึ” สายตาที่มองพวกเขาดูกระหายเลือดมากขึ้นเรื่อยๆ ฝนเริ่มตกหนักมากขึ้นอีก มันทำให้พวกเขามองเห็นกันและกันไม่ชัด มือใหญ่สะกิดมือร่างบางเบาๆ
“ค่อยๆเดินนะเฟย์” พวกเขาค่อยๆเดินไปตามทางหินช้าๆ ฝนยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นอีกมันทำให้กลิ่นของพวกเขาค่อยๆจางลง ร่างบางเพ่งมองไปรอบๆ และ...
“โอ๊ะ...หนู”ร่างบางดึงมือร่างใหญ่ไปทางเด็กชายตัวเล็กสวมฮู้สสีแดง
“หนูจ๊ะ” ร่างบางทักเบาๆ เด็กชายเงยหน้าขึ้น ดวงตาสีดำสนิดจ้องมองก่อนที่จะกระโดดเข้าสวมกอดร่างบางแน่น
“พี่ชายน่ะเอง...พี่มาทำอะไรที่นี่ฮะ”
“อ๋อ...ไม่มีอะไรหรอกจ๊ะ...แล้วหนูมาคนเดียวเหรอ...” ร่างบางวางเด็กน้อยลง แล้วย่อยตัว
“ฮะ..ผมออกมาเล่นกับเพื่อนหน่ะฮะ...แต่วันนี้คงเล่นไม่ได้แล้วหล่ะเนอะ...”
“นั่นหน่ะสิ...ฝนตกหนักขนาดนี้”
“งั้นกลับบ้านละนะฮะ”
“จ๊ะ...กลับบ้านดีๆนะ”ร่างบางกอดเด็กน้อยอีกครั้ง กลิ่นหอมจางๆจากเส้นผมเกือบทำให้เด็กชายกลั้นใจไม่อยู่ ใบหน้าเล็กขาวซีดซุกไซ้ไปที่ซอกคอขาวเนียนของร่างบาง ริมฝีปากสีแดงอ้ากว้างเผยให้เห็นเขี้ยวคม
“เฟย์...พี่คิดว่าเราควรไปกันต่อได้แล้วก่อนที่จะมืด” ร่างบางหันตามเสียงของร่างใหญ่ เด็กชายได้สติคือมา เขี้ยวคมถูกเก็บกลับไปดังเดิม มือน้อยๆจับที่ผมของร่างบางก่อนที่ปลายเล็บคมจะตัดมันขาดติดมือน้อยๆนั่นมา
“หนูจ๊ะ...พี่ต้องไปแล้วนะ...ไว้เจอกันใหม่นะ” เฟย์ปล่อยมือจากเด็กชาย
“บ้ายบายฮะ...”เด็กชายตัวน้อยวิ่งเข้าไปในตรอกมืดๆแล้วหายไป
“เฟย์...เด็กคนเมื่อกี้เป็นใครกัน”
“อ๋อ...ก็เด็กคนที่ยื่นขวดเลือดให้ผมวันนั้นไงครับ...พี่ครับเราไปกันต่อเถอะครับ” ร่างใหญ่พยักหน้าเบาๆก่อนกุมมือร่างเล็กเดินไปตามทางหิน
******************************
ผมสีทองในมือใหญ่ขาวซีดค่อยๆเปลี่ยนเป็นต่างหูคู่สวย เสื้อโค้ดสีแดงถูกพับเก็บอย่างทะนุถนอม ชายร่างสูงผมสีดำสนิดถือฮู้สสีแดงและตุ้มหูสีทอง เดินไปตามระเบียงหินอ่อนที่หรูหรา เสียงฝีเท้ากระทบพื้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอก่อนที่จะหยุดลงหน้าประตูบานใหญ่
“ข้ามาพบกษัตริย์เชรอน”ร่างใหญ่พูดกับประตูไม้เบื้องหน้า
“รับด้วนเกล้า...เจ้าชายชาล์ล”เสียงเข้มดังออกมาจากประตูก่อนที่แสงสีแดงจะสาดส่องออกมา‘แสงสีแดงรึ...คนที่อยู่ในนั้นต้องไม่ใช่ท่านพี่แน่’ ชาล์ลคิดในใจก่อนเดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่
“เจ้ามาพบข้าด้วยเหตุอันใด...ชาล์ล” เสียงหวานเล็ดลอดออกมาจากผ้าห่มบนเตียงใหญ่กลางห้อง
“ข้ามีสิ่งของมามอบให้ท่าน”
“มีของมามอบให้ข้ารึชาล์ล...แปลก...ร้อยวันพันปีไม่เห็นเจ้าเคยคิดทำ แล้ววันนี้เกิดอะไรขึ้นกับเจ้ากันนะ”
“ข้าขอคุยกับท่านเพียงลำพัง...เพียงลำพัง” ชาล์ลเน้นคำพูด เขามองไปรอบๆห้องที่มีแต่เสื้อผ้าของนางโลม และพวกนางที่นอนเปลือยเปล่าอยู่บนเตียง
“ได้ชาล์ล...หากเจ้าต้องการ...ตามข้าเข้ามาสิ” ร่างบางก้าวลงจากที่นอนใหญ่ ร่างกายขาวเนียนเปลือยเปล่าถูกปกปิดด้วยเสื้อคลุมบางๆ ผมสีเงินยาวสลวยปกคลุมแผ่นหลังเนียน เท้าเรียวก้าวไปตามพื้นหินอ่อนไปยังห้องข้างๆชาล์ลเดินตามไปเงียบๆ สายตาที่ยั่วยวนและเชื้อเชิญจากนางโลมที่เปลือยเปล่าจ้องมองมาทางเขา แต่ชาล์ลกลับมองตอบพวกนางด้วยสายตานิ่งเฉยและเย็นชา มือใหญ่เปิดประตูห้อง ห้องที่มีเพีงแต่เขาและกษัตริย์เชรอนที่อยู่ในเสื้อคลุมบางๆ
“เจ้ามีของสิ่งใดมอบให้ข้ารึ...ชาล์ล”ร่างใหญ่ไม่ตอบเขาเพียงสะบัดเสื้อฮู้สสีแดง
“อื้ม...กลิ่นนี่คุ้นๆนะ...” ร่างบางโผเข้าหาร่างใหญ่ ใบหน้าขาวเนียนซุกไซ้ไปตามส่วนต่างๆตามร่างกายของร่างใหญ่ผ่านเสื้อฮู้สสีแดง
“ข้าจำได้แล้ว...กลิ่นของเด็กหนุ่มผู้นั้น...เจ้าไปพบเขาที่ไหนรึ...ชาล์ล...ข้า...ตุ๊บ!!..” ร่างบางล้มลงไปบนอ้อมแขนใหญ่ที่รอรับอยู่แล้ว ชาล์ลอุ้มร่างบางไปวางที่เตียงใหญ่ มือหนาค่อยๆใส่ต่างหูให้กับร่างบางแต่...
“เอ๊ะ!...” ต่างหูคู่สวยกลับกลายเป็นเส้นผมดังเดิมและไม่นานนักก็สลายไป
‘ใช้ได้แต่กลิ่นรึ’ ชาล์ลคิด เขาอยากลองอีกหลายวิธีก่อนที่เขาจะแน่ใจว่าชายหนุ่มผู้นั้นเป็นบุคคลในตำนานที่เขากำลังตามหามานาน
‘เอ๊ะ!...แล้วมนุษย์มาทำอะไรในเมืองของแวมไพน์กันนะ’
********************************
“เฟย์...นี่ก็เริ่มมืดแล้วพี่คิดว่าเราจะควรกลับกันได้ซักที...”
“เดี๋ยวครับ...ผมว่าผมเจอสิ่งที่เราตามหาแล้วนะครับ” ร่างบางชี้ไปยังร้านๆหนึ่งที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า ป้ายใหญ่เขียนว่า “Red House”
“Red House อย่างนั้นเหรอ” ร่างสูงพูด
“เราเข้าไปดูกันมั้ยครับ...อย่างน้อยมันก็เป็นร้านค้าเพียงแห่งเดียวที่เราเจอ” ร่างใหญ่พยักหน้าเบาๆก่อนจับมือร่างบางเดินเข้าไปในร้าน
“อุ๊บ!!...” ร่างบางปิดจมูกแน่น กลิ่นคาวคลุ้งภายในร้านช่างขัดกับรูปลักษณ์ที่แสนสวยงาม ภายในร้านเต็มไปด้วยขวดที่บรรจุของเหลวสีแดงวางเรียงรายอย่างเป็นระเบียบบนชั้นไม้โอ๊กสีเข้ม ลังไม้มากมายวางอยู่บนพื้นหิน ทุกลังมีป้ายแปะไว้แสดงความเป็นเจ้าของ น้ำพุเลือดที่ตั้งอยู่กลางร้านชวนสะอิดสะเอียนและน่าขนลุก แต่มันคงไม่เท่ากับ...
“แปะ...แปะ...”ของเหลวบางอย่างหยดลงบนใหล่ของร่างบาง มือเรียวเช็ดมันออก
“เลือดหนิ...”ร่างบางพูดพลางหันไปมองด้านบน
“อ๊า!!...” ร่างบางตกใจสุดขีดกับภาพตรงหน้า โคมไฟที่ให้แสงสว่างภายในร้านมันถูกทำขึ้นด้วยอวัยวะของมนุษย์ หัวใจที่ยังเต้นอยู่บ่งบอกว่าคนที่อยู่ข้างบนนั่นยังมีชีวิต ผิดกับรูปลักษณ์ที่เหมือนซากศพที่แตกกระจายเป็นส่วนๆ เลือดสดๆค่อยๆไหลรินลงมา
“พวกเจ้าเป็นใครกัน” เสียงของชายชราดังมาจากหลังชั้นไม้โอ๊ก ทั้งสองตกใจมากพวกเขาเริ่มทำอะไรไม่ถูก
“ข้าถามว่ามาทำอะไร” ชายชราเน้นย้ำในคำพูด แฟรงก์หันไปมองที่ป้ายชื่อบนลังไม้ใบหนึ่ง
“มาดามฟลิกซ์ให้พวกข้ามารับของที่สั่งไว้” ร่างใหญ่พูด
“งั้นเหรอ...” ชายชราเดินเข้ามาใกล้อีก จมูกขาวซีดกำลังสูดดมกลิ่นจากทั้งสอง
“ข้าเพิ่งรู้ว่ามาดามฟลิกซ์มีคนรับใช้เป็นมนุษย์” ชายชราจ้องมองร่างสูงและร่างบางที่อยู่ข้างๆ มือใหญ่กระตุกมือเรียวเบาๆ
“วิ่ง!!...” ร่างใหญ่กระซิบ มือใหญ่กุมมือเรียวแน่น ประตูถูกผลักออกแต่พวกเขาต้องชะงักกับแวมไพน์นับร้อยที่ดักรออยู่ตรงหน้า
“พี่ครับ...พวกเราต้องกลับไปที่เมืองของเรา...พวกเราต้องรักษาสัญญาใช่มั้ยครับ”
“ใช่...เฟย์ ลูกผู้ชายสัญญาอะไรแล้วต้องทำตามที่สัญญาให้ได้”
“ครับ...” ร่างบางพยักหน้าเบาๆ มือเรียวล้วงลงไปในกระเป๋าเสื้อฮู้ส เขากำบางอย่างออกมา...อาวุธที่เขาถนัด...ที่สุด...
สงครามขนาดย่อมกำลังจะก่อกำเนิดขึ้น ท้องฟ้าเริ่มมืดลงแล้ว พวกเขาจะทำอย่างไรเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบเช่นนี้ สัญญาที่พวกเขาให้ไว้...พวกเขาจะรักษามันได้มั้ยนะ...
ความคิดเห็น