ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Malice กบฎที่รัก

    ลำดับตอนที่ #3 : จุดเริ่มการกบฏ

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ค. 52


    แสงแดดอบอุ่นสาดส่องเข้ามาภายในห้องเล็กๆ เสียงนกตัวน้อยร้องขับขานรับกับกลิ่นดอกไม้ที่หอมบางๆในยามเช้า ปลุกให้ชายหนุ่มร่างบางตื่นจากการหลับใหล ผ้าห่มสีขาวสะอาดถูกพับวางไว้อย่างเรียบร้อยบนเตียงที่เรียบสนิด ปลายนิ้วเรียวสัมผัสรอยแผลเป็นบางๆที่หน้าอก สายตาคมจ้องมองรอยแผลผ่านเงาสะท้อนในกระจก
    พ่อครับ...ผมจะให้พวกมันชดใช้ในสิ่งที่มันทำ ร่างบางสวมเสื้อปกปิดรอยแผลเป็น ผมสีทองยาวประบ่าถูกรวบขึ้นอย่างรวกๆ ริมฝีปากบางคาบขนมปังชิ้นใหญ่ เวลานี้จิตใจของเขาไปอยู่ที่ลานกว้างกลางเมืองแล้ว ร่างบางจับอาวุธที่เขาถนัดแล้วออกไปทันที
     
    ณ กลางเมือง
    ย้ากกกกกก.........ตุ๊บ
    ชาลี...ข้าบอกเจ้ากี่ครั้งแล้วว่าอย่าลอบเข้าข้างหลังข้า
    โอ้ย...เท้าเจ้ายังหนักเหมือนเดิมเลยนะเฟย์
    แต่เท้าของข้าก็ไม่เคย ฆ่าเจ้าได้เลยซักที
    นี่เจ้าคิดจะฆ่ากันเลยเหรอ...ไอ่หัวกะหล่ำ
    เจ้าว่าอะไรนะ...ย้ากกกกกกกกกก.... ความชุลมุนขนาดย่อมก็เกิดขึ้น
    แฟรงก์...น้องของเจ้ากับข้าเล่นกันเป็นเด็กๆอีกแล้ว
    สองคนนั่นหน่ะไม่ได้เล่นหรอก...แต่กำลังฝึกการต่อสู้ตัวต่อตัวต่างหาก
     
    ณ Dark Palace
              “ชาล์ล...ระวังให้ดีนะลูก...อย่าให้มันครอบงำตัวเจ้าได้...แม่รักลูกนะชาล์ล
                    ท่านแม่...!!” ชายหนุ่มร่างสูง ผมสีดำสนิด ผิวขาวซีด ริมฝีปากแดงฉาน ตื่นจากภวังค์ เขาฝันร้ายอีกแล้ว ภาพความทรงจำที่เลวร้ายกำลังกลับมาทำร้ายเขา
                    แม่อีกแล้วรึ...ชาล์ล ชายหนุ่มร่างบาง ดูมีอำนาจถามเขา
                    ท่านพี่...ท่านมาหาข้าด้วยเหตุอันใด
                    ข้าบอกเจ้าแล้วไงชาล์ล...อย่าเรียกข้าว่าพี่ข้าไม่ได้มีเลือดต่ำๆของแม่เจ้า
                    เวลานี้ท่านคงไม่ใช่พี่ชายของข้าสินะ..กษัตริย์เชรอน
                    เจ้าเพ้อเจ้ออะไรอีกชาล์ล...ข้าก็คือข้า และข้าก็ไม่ใช่พี่เจ้า คนที่มีเลือดต่ำๆอย่างเจ้าไม่น่าจะมายืนอยู่ตรงนี้ด้วยซ้ำ ชาล์ลกำมือแน่น เขาต้องเก็บความรู้สึกของเขาเอาไว้ เพราะเขารู้ดีว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้คือกษัตริย์เชรอนที่บ้าอำนาจและโหดเหี้ยม ไม่ใช่พี่ชายที่แสนอ่อนโยนของเขา
              “ข้าจะไปรอเจ้าที่ห้อง...รีบมาพบข้าด้วย ร่างบางเดินออกไปจากห้อง ชาล์ลทิ้งตัวลงบนเก้าอี้นวม เขาถอนหายใจเบาๆ ทำไมมันต้องเกิดเรื่องบ้าๆพวกนี้ด้วยนะ...........
                    ชาล์ลมองตัวเองในกระจก เครื่องแต่งกายที่บ่งบอกถึงตัวตนของเขา สถานภาพที่ใครๆก็ต่างใฝ่ฝัน แต่นัยน์ตาที่เศร้าหมองนั่นเป็นเครื่องบ่งบอกว่าเขาเป็นทุกข์มากขนาดไหนที่แบกรับสถานภาพนี้ สถานภาพที่ติดตัวเขามาตั้งแต่กำเนิด สถานภาพที่เขาถูกยัดเยียดให้อย่างไม่เต็มใจ สถานภาพที่พรากคนที่เขารักหลายต่อหลายคนไปจากเขา ชายหนุ่มถอนหายใจเบาๆก่อนเดินออกไปจากห้อง เขาต้องเจออะไรอีกนะ แล้วเขาจะอดทนกับมันได้มากขนาดไหน
                    กษัตริย์เชรอน...ท่านเรียกข้ามาด้วยเหตุอันใด
                    ชาล์ล...พี่เคยบอกเจ้าแล้วไงว่าอย่าเรียกพี่ว่ากษัตริย์ ชายร่างบางผมสีเงินยาวสลวย ดวงตาสีแดงดุจเลือด เงยหน้าขึ้นจากคอของชายที่อยู่บนเตียง หยดเลือดสีแดงสดไหลลงมาจากริมฝีปากบาง ผิวขาวเนียนเปื้อนไปด้วยเลือดของชายที่อยู่บนเตียง
                    ข้ามาพบท่านตามรับสั่ง
                    เอ่อ...ข้าสั่งให้เจ้ามาพบข้ารึชาล์ลพยักหน้า
                    แล้ว...ข้าสั่งให้เจ้ามาพบข้าด้วยเรื่องอะไรหล่ะ ชาล์ลส่ายหน้าเบาๆ
                    ท่านพี่กลับมาแล้วเหรอครับ
                    ข้ากลายเป็นเชรอนใช่มั้ย...ชาล์ล ชาล์ลผยักหน้าอีกครั้ง
                    อีกแล้ว...ข้าแพ้เชรอนอีกแล้ว...พี่ควรทำอย่างไรดี
                    ท่านทำดีที่สุดแล้ว...ท่านพี่เชลลีน ร่างสูงโอบกอดร่างบาง เขาสงสารคนตรงหน้าเหลือเกิน ทำไมคนที่มีจิตใจอ่อนโยนและแสนดีต้องมารับผิดชอบและแบกรับการกระทำที่ชั่วร้ายของคู่กำเนิดด้วย คู่กำเนิดผู้เลวร้ายที่ถูกผนึกไว้ด้วยเวทย์มนต์เก่าแก่ให้ถูกจองจำอยู่ภายในร่างกายที่บอบบางเช่นนี้
     
    ณ   เมืองแห่งทาสและอาหาร
     
                    พี่ฮะ...เกิดอะไรขึ้นฮะ เสียงหวานของชายหนุ่มร่างบาง 
                    เอ่อ...จดหมายจากทางรัฐบาลหน่ะ
                    แล้วพวกตาแก่นั่นส่งมาว่าอย่างไงอีกหล่ะ
                    ก็เรื่องเดิมๆหน่ะโจฮาน
                    อะไรกันอีกหล่ะ...พวกตาแก่นั่นยังไม่ยอมเลิกสั่งห้ามพวกเราอีกเหรอเนี่ย
                    แต่ข้าว่าครั้งนี้พวกเขาเอาจริงนะ
                    เอาจริงเหรอฮะ
                    ใช่...พวกรัฐบาลจะเจรจายกเมืองของเราให้กับพวกแวมไพน์
                    มันเป็นการตัดปัญหาที่จะตามมาหากเราแพ้ใช่มั้ยฮะ
                    พวกขี้ขลาดนั่นทำอะไรเห็นแก่ตัวชะมัด ตั้งแต่ที่ให้เมืองของเราเป็นเมืองแห่งทาสและอาหารแล้วนะ
                    แล้วเราจะเอายังไงดีละครํบ...จะสู้หรือว่าจะหยุด
                    เราจะสู้กันต่อ
                    เจ้ามีแผนอะไรเหรอแฟรงก์
                    ข้าคิดว่า...ถ้าเมืองของเราตกเป็นเมืองของพวกมัน...บางทีพวกเราอาจจะเข้าหาพวกมันได้ง่ายขึ้นนะ
                   
    หลายวันต่อมา...ทางรัฐบาลได้ส่งทูตไปเจราจากับพวกแวมไพน์ ชาวเมืองแห่งทาสและอาหารต่างเฝ้ารอคำตอบรับจากพวกแวมไพน์อย่างใจจดใจจ่อเพราะมันคือคำตอบรับที่จะทำให้อะไรหลายๆอย่างง่ายขึ้น
                    มหากษัตริย์เชรอน เคลาทิกซ์ ที่13 แห่งเมืองแวมไพน์ที่ยิ่งใหญ่ ข้าเป็นทูตจากเมืองอัคคาเทียร์
                    เจ้ามาหาข้าด้วยเรื่องอันใด...พวกมนุษย์ขี้ขลาด
                    ทางรัฐบาลของข้าได้ลงมติตัดสินแล้วว่า...เราจะมอบเมืองทางฝั่งตะวันตกให้เป็นอาณานิคมของท่าน
                    เมืองแห่งทาสและอาหารหน่ะรึ
                    ใช่ขอรับ...แต่ทางเราก็มีเงื่อนไขบางประการ
                    เงื่อนไขอะไร
                    ท่านต้องไม่มายุ่งกับเมืองอัคคาทียร์อีกตลอดกาล
                    ได้...ข้ารับข้อเสนอ...เอาหล่ะนี่คงหมดธุระของเจ้าแล้วซินะ ร่างบางเดนลงจากบัลลังก์มุ่งตรงไปหามนุษย์ตรงหน้า มือเรียวสวยจับที่ต้นคอคนตรงหน้าแน่น
                    ไหนท่านบอกว่าจะไม่ยุ่งกับเมืองอัคคาเทียร์อีกไง
                    ข้าก็ไม่ได้ไปยุ่งกับคนในเมืองของเจ้าซะหน่อย...แต่ตอนนี้...เจ้าอยู่ในเมืองของข้า เขี้ยวคมถูกกดฝังลงที่คอของท่านทูตแน่น เลือดสีเข้มไหลลงมาจากซอกคอเป็นทางยาว
                    ไม่เห็นอร่อยเลย ร่างบางเช็ดริมฝีปากแดงก่อนเดินออกไป
                    เจ้าส่งคนไปบอกข่าวการเจรจาครั้งนี้ให้พวกเขาทราบด้วย เสียงจากชายหนุ่มร่างสูงที่ยืนเงียบๆริมท้องพระโรง
              “รับด้วยเกล้า...เจ้าชายชาล์ล
     
                    การเจรจาครั้งนี้ก็จบลงด้วยการสังเวยชีวิตของเอกคราชทูตเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา แต่มันคงเป็นการเจรจาครั้งสุดท้าย...   ร่างอันไร้วิญญาณของท่านเอกคราชทูตถูกโยนลงไปในถังใบใหญ่ ไม่นานเสียงเครื่องยนต์บางอย่างก็เริ่มทำงาน
     
                    ชาล์ลเดินออกมาริมระเบียงห้องนอน เขาทิ้งตัวลงบนเก้าอี้โยก ชายหนุ่มถอนหายใจเบาๆ ต่อไปนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้างนะ ดวงตาสีดำสนิดจ้องมองไปยังดวงจันทร์ดวงใหญ่ที่ทอแสงสีนวลสว่างไสวไปทั่วท้องฟ้ายามราตรี
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×