ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ข้างไร่...ในเมือง(Y)

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่1

    • อัปเดตล่าสุด 16 ส.ค. 49


    บทที่1

    ต่างฝ่ายต่างมองซึ่งกันและกัน อยู่นานพอสมควร กระทั่งมีเสียงพ่อแม่ของ ภู  ขัดขึ้น

    พ่อวัติหรือ ป่าวลูก โตขึ้นเยอะเลย เป็นหนุ่มหล่อเชียว วัติไม่ได้ตอบไรได้แต่ยิ้มๆ พรางเปิดประตูให้

    หวัดดีวัติทัก ภู ขณะกำลังปิดประตูรั้ว

    เอ่อ...เอ่อ หวัดดีวัติหลังคำทักทายต่างฝ่ายต่างเดินเข้าบ้านไป

    แม่ต้องฝาก ตาภู ด้วยนะลูก มันไม่ค่อยทันคนซักเท่าไหร่แม่ภู พูดพรางหัวเราะเบาๆ

    คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ เดี๋ยวผมดูแลเป็นพิเศษเลยครับวัติไม่เพียงพูด แต่มองไปทางภูด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ ทำให้ ภู ถึงกับเหงื่อซึม

    ยังไงแม่ก็ขอบใจ ตาวัติมากเลยนะ เดี๋ยวแม่คงต้องกลับแล้วล่ะ ไม่อยากทิ้งไร่ไว้นาน แม่ภูพูด ถือกระเป๋า ออกไป

    เดินทางโดยสวัสดิภาพครับ รถยนต์แล่นออก จนหลุดหัวมุมไป ภู จึงละสายตา พร้อมเดินเข้าบ้าน

    ภู คือ เรายังจัดห้องอะไร ไม่....ค่อยเรียบร้อย คือ....นาย..คือ นอนห้องเดียวกับเราไปก่อนนะวัติพูดตะกุกตะกัก ไม่เหลือสายตาเจ้าเล่ห์ที่ทำมาก่อนหน้า

    ได้ๆ แต่ภูขอเสื่อผืนนึงแล้วกัน ภูมีเตรียมหมอนมาเอง

    ไม่ๆๆ  กูเอ๊ย เราจะให้นายนอนบนเตียงเนี่ยแหละ เดี๋ยวเรานอนพื้นเอง

    ได้ที่ไหน ให้เจ้าของบ้านอนพื้น เอางี้นอนบนเตียงด้วยกันเนี่ยแหละ ภู เสนอความคิดเห็น แม้คำพูดภูจะฉะฉาน แต่ตรงข้ามกลับจิตใจที่กำลังเต้นรัว และกลัววัติเป็นยิ่งนัก

    ได้ๆ เออใช่ วันนี้เดี๋ยวพาไปดูมาลัย

    เออ แล้วคืนนี้ เรามาคุยกันเรื่องหน้าที่ในบ้านแล้วกัน

    อืมๆ

    วัติพานั่งซ้อนท้ายมอเตอไซค์ของวัติไปยังมหาวิทยาลัยประจำจังหวัด ใช้เวลาเพียงไม่นานก็ถึง แน่นอนว่ามหาวิทยาลัยประจำจังหวัดย่อมใหญ่โต โอ่อ่า ดูตาภู จะตื่นตาตื่นใจ จนวัติอดแซวไปไม่ได้

    นี่ นาย เป็นอะไร  ปากหวอเชียว

    ป่าวๆ ภูพูดเขินๆ แล้วจึงมองไปทางอื่น

    หิวมั้ย เออนี่ เราขอพูดมึง กู ได้ปะแบบนี้เราไม่ชินเลย

    เฮ้ย ได้ๆ เราไม่ถือหรอก

    งั้นเราไม่กินที่บ้านดีกว่า เดี๋ยวโชว์ฝีมือรับเพื่อนเก่าหน่อยวัติพูดไปยิ้มไป อย่างอารมณ์ดี และเดินไปสตาร์ทรถ

                   แน่นอนการพูดคุยกันย่อมทำให้ภูลดความหวั่นเกรงลงได้บ้าง การหัดลืมเรื่องร้ายๆไปบางครั้งก็เป็นสิ่งจำเป็น เหมือนการมองข้ามรอยแผลเป็น ตรงกันข้ามเพื่อนำเวลามาระวังไม่ให้เกิดรอยแผลใหม่  ทะนุถนอมให้งามตลอดไป

    วัติ เราอยากถามไรนายซะข้อได้มั้ย

    อืมๆได้ ว่าไงอ่ะวัติพูดแต่ตายังกวาดหาน้ำแข็งในกระติก

    ทำไมตอนเด็กๆ นายจึงชอบแกล้งเรา ไม่ยอมเล่นกับเรา ทั้งๆที่นายก็รู้ว่าเราเหงา บทสนทนาเงียบลงในทันใด

    อะ เอ๊ย แหมก็แค่นิสัยเด็กๆหน่า คิดมาก ยังไงตอนนี้ก็เป็นเพื่อนกันแล้ว รู้แค่นี้ก็พอแล้ววัติพูดน้ำเสียงเหมือนจะปกปิดความจริงอะไรบางอย่าง พรางเปลี่ยนเรื่องคุยกันต่อจนดึก ภูจึงขอตัวเข้านอน

    อย่าดูทีวีจนดึกล่ะ วัติ

    อืมวัติพูด ตาจ้องทีวีเขม็ง

                    ไม่รู้ภูผล็อยหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่เมื่อภูตื่นขึ้นมาก็เจอวัติ นอนใส่แต่บ็อกเซอร์อยู่ข้างๆแล้ว

    เป็นเวลากว่า 6 ปีแล้วซิที่เราไม่เคยคุยกัน

     ตั้งแต่พบกัน แม้จะเพียงวันเดียวแต่ภูกลับมีความรู้สึกแปลกๆ แต่เป็นความรู้สึกที่ดีต่อวัติ เพื่อนในอดีตเป็นอันมาก รู้สึกอย่างคุย อย่างเล่น หรือหัวเราะไปพร้อมกับเขา ภูได้แต่ส่ายหัว พรางลบคำว่า รัก ออกจากสมองแล้วเดินไปทำธุระ อย่างเงียบๆ

    ทำไมตื่นแล้ว ไม่ปลุกวัติล่ะ วัติพูดขึ้นเสียงดัง ทำให้ภูที่เดินดุ่มๆมาถึงกับสะดุ้ง

    เราไม่กล้าหนิ กลัวนายโกรธที่ไปรบกวนภูตอบไปเพราะคิดแบบนั้นจริงๆ บางคนไม่ชอบให้ใครรบกวนเวลานอน

    วันหลัง ปลุกเราด้วยรู้มั้ย ถ้านายเกิดเป็นอะไรไป เราจะได้ช่วยทัน

    นี่ เราจะเป็นอะไรได้ ภูพูด ขำๆ

    ใครจะไปรู้ ก็ตอนเด็กๆเห็นเป็นโรคนู้น โรคนี้ เราต้องอุ้มไปส่งที่ไร่ทุกที ภูรู้สึกประหลาดใจที่ วัติจำรายละเอียดของตนในอดีตได้ แม้มันจะล่วงเลยมานานมากแล้วก็ตาม

    วัติ ขอบใจนะ

    เราไม่ปล่อยนายให้ห่างเราอีก ภู ไม่ว่าวันนี้หรือวันไหน เราจะอยู่ข้างนายตอลดไป เราจะไม่ปล่อยนายออกจากอ้อมแขนเราไปอีกแน่นอน

    หิวยางวัติถามอย่างอารมณ์ดีขณะเดินลงมาจากชั้นบน

    ยังอ่ะ เมื่อวานกินไปแยะ แหะๆภูพูดพรางลูบท้อง

    หรอ แต่เราไปเตรียมไว้ก่อนดีกว่าภูมองวัติจนเดินลับตาเข้าห้อวงครัวไป ภูค่อยๆพิจารณาวัติ วัติสูงประมาณ175 เซนติเมตร หน้าตาหล่อเหลา ด้วยตาคมโตสองขั้น เข้ารูปกับคิ้วหนาโค้งตามรูปตา จมูกโด่งเป็นสัน ผิวสีแทนดูชายชาติทหาร เนียนเรียบทว่าดูแข็งแกร่ง นับเป็นประติมากรรมที่พระเจ้าเข้าใจสรรสร้างเสียจริง

    นี่คิดไรอยู่ เรียกไม่ตอบวัติพูด ขณะยื่นหน้ามาจากด้านหลังโซฟา แทบจะชิดติดกับหน้าของภู

    ป่าวๆภูพูดพรางขยับหนีออก

    จะมาบอกว่าถ้าหิวก็ไปกินได้เลยนะ วางไว้อยู่บนโต๊ะน่ะ ถ้าเย็นก็อุ่นเอานะคับ

    เออ วัติว่าวัติจะไม่พูด คำหยาบกับ ภูและ วัติว่ามันไม่เข้ากับภู เดี๋ยววัติไปอาบน้ำก่อนนะ เดี๋ยวเราไปเที่ยวกัน

    เที่ยว เที่ยวไหนอ่ะ

    เดี๋ยวก็รู้ รอแป๊บ

    สักพัก วัติเดินลงมาพร้อมเสื้อตัวเท่ห์ เข้ากันได้ดีกับกางเกงยีนส์สีแก่ กับเป้อีกใบ ดูหล่อไม่เบา

    ปะ

    ไปไหนล่ะ

    ไปดูหนัง

    กว่าจะถึงห้างประจำจังหวัดก็เที่ยงกว่าแล้ว สองหนุ่มกำลังวุ่นอยู่กับรอบหนังบริเวณหน้าที่จำหน่ายตั๋ว

    ปะ เอาเรื่องนี้ วัติชี้ไปยังหนังผีเรื่องหนึ่ง รอบเที่ยงครึ่ง

    ไม่เอา เราไม่ชอบหนังผี

    รู้หน่า แต่ไม่เป็นไรหรอก เราอยู่ทั้งคน นะๆๆๆ เราอยากดู ภูจำต้องอือ ออ ตามวัติทั้งๆที่ไม่เต็มใจ

    แค่ต้นเรื่อง ภูก็นั่งตัวสั่นไปหมดแทบจะคดตัวม้วนตัว ลงไปในเก้าอี้ให้ได้จน

    กลัวจริงหรอเนี่ย ผียังไม่โผล่มาเลย มานี่วัติพูดแล้วจับมือภูไปกุมไว้ ด้วยความกลัวทำให้ภู กุมมือของวัติแน่นไปตลอดทั้งเรื่อง กระทั่งหนังจบภูจึงรู้สึกตัวและแกะมือ ออก

    ทีเมื่อกี้จับซะแน่นเชียวนะภูทำตัวตัวไม่ถูก ได้แต่ยิ้มๆแก้มแดงเดินออกไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×