คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : (1D Zayn)Something never be thw same
Something never be the same
วันนี้นับเป็นวันที่เศร้าที่สุดสำหรับไดเรคชันเนอร์ทั่วโลกก็เป็นได้เมื่อวันไดเรคชั่นไม่ได้มีสมาชิกครบ5คนอีกต่อไป เซน มาลิคประกาศอำลาวงการท่ามกลางความโศกเศร้าของแฟนคลับทั่วโลก สื่อต่างๆพากันประโคมข่าวให้กระพือหนัก บางสื่อเชื่อมโยงข่าวที่ไม่เกี่ยวข้องกันแต่สามารถโยงให้เข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อ แฟนคลับหลายล้านคนต่างมีความรู้สึกขาดที่พึ่งกะทันหัน โลกหมุนเคว้ง สับสนกับเรื่องที่เกิดขึ้น เมื่อตั้งสติได้ก็ร่ำไห้ ทุกคนต้องการอ้อมกอดของคนที่เข้าใจ ต้องการพูดคุย แลกเปลี่ยนความรู้สึก ต่างคนต่างปลอบกันทั้งที่รู้สึกเสียใจไม่ต่างกัน พวกเขาจะรู้ไหมว่ามีอีกห้าชีวิตที่เจ็บปวดไม่แพ้กันกับเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่แน่อาจจะเจ็บกว่าพวกเขาหลายเท่า...
เซน มาลิคนั่งอยู่คนเดียวในห้องกว้าง ในมือเขาถือสมาร์ทโฟน ตักของเขามีแมคบุ๊ค ทั้งสองเครื่องต่างเปิดแอปเดียวกันนั่นคือทวิตเตอร์ ต่างกันตรงแอคเคาน์ โทรศัพท์เปิดแอคจริง แมคบุ๊คเปิดแอครองที่เอาไว้ส่องแฟนคลับ เขาเปิดเมนชั่นที่แฟนๆกระหน่ำส่งมาหาเขาแล้วไล่อ่านด้วยหลากหลายอารมณ์ ดีใจ ที่แฟนคลับหลายคนแคร์ความรู้สึกของเขา เศร้าใจ ที่หลายคนยุติการเป็นไดเรคชันเนอร์เพราะเขาออกจากวง และเสียใจ..ที่ตัดสินใจออกจากวง
แต่ในเมื่อเขาตัดสินใจอย่างนั้นแล้วจะหันหลังกลับไปไม่ได้ เขายอมเสียเงินมากมายเพื่อฉีกสัญญานั่นทิ้ง ไม่ใช่เขาไม่รักวันไดเรคชั่นไม่รักแฟนคลับ คนพวกนั้นถือว่าเป็นชีวิตเขาเลยก็ว่าได้ แต่ที่ตัดสินใจเช่นนั้น เพราะว่าเขาเหนื่อย เหนื่อยจากการถูกจับตามอง เหนื่อยจากการต้องปั้นสีหน้าเหมือนมีความสุข เหนื่อยกับการต้องตระเวนไปที่ต่างๆ บทสัมภาษณ์ซ้ำๆ ปาปารัสซี่หน้าเดิมๆที่คอยจะทำข่าวเหยียบย่ำซ้ำเติมเขาเมื่อเขาพลาดพลั้ง เบื่อกับวงการมายาที่หาความจริงใจไม่ได้ คนพวกนี้จ้องแต่จะหาผลประโยชน์อย่างร้ายกาจและเห็นแก่ตัว ยอมทำทุกอย่างเพื่อเงิน
“เซน พอเถอะ อย่าอ่านเลย ยิ่งนายอ่านนายจะยิ่งรู้สึกแย่นะ”เลียมที่เปิดประตูห้องเซนเข้ามาเห็นเซนนั่งหน้าเครียดพูดขึ้น
“เลียม...ฉัน..”พูดได้แค่นั้นน้ำตาก็พานจะไหลเมื่อเห็นสีหน้าเพื่อนรักที่ทั้งเครียดและสงสารเขา
“ไม่เป็นไรเซน ไม่เป็นไร พวกเราเข้าใจ”เลียมยิ้มให้เซน เป็นยิ้มที่เซนเห็นครั้งใดก็รู้สึกสบายใจ เลียมมีบุคลิกที่สุขุม อบอุ่น จึงไม่ยากที่เซนจะรู้สึกดีเมื่อเห็นรอยยิ้มเลียม
“เราจะยังเป็นเพื่อนกันอยู่ใช่ไหมเลียม”เซนถามคำถามที่เขาหวั่นใจกับคำตอบที่สุด เขากลัว..กลัวอีกสี่คนจะไม่ยอมรับการตัดสินใจนี้แล้วจะเลิกคบเขาเป็นเพื่อน
แต่เลียมกลับเห็นคำถามนี้เป็นคำถามที่ปัญญาอ่อนที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา เลียมหัวเราะเบาๆแล้วตอบ
“แน่นอนสิเพื่อน นายคิดว่าพวกเราจะเลิกเป็นเพื่อนกับนายด้วยเหตุผลแค่นี้? ไม่มีทางซะล่ะ”เลียมส่ายหัวพร้อมๆกับที่ประตูห้องเปิดอีกครั้ง ชายหนุ่มอีกสามคนเดินเข้ามาภายในห้อง
“นายคิดดีแล้วเหรอเซน นายจะทิ้งฉันเหรอเซน”ไนออลพูดพร้อมสูดจมูกที่แดงก่ำจากการร้องไห้ แฮร์รี่ยิ้มร่าแต่ดวงตาและจมูกที่แดงสามารถฟ้องได้ว่าเขาร้องไห้มาก่อน ลูอิสทำหน้าบูดบึ้ง เขาไม่พอใจอย่างมากที่เซนตัดสินใจอย่างนั้น ตอนแรกเขาอาละวาดโวยวายจะไปเอาเรื่องเซนแต่โดนเลียมสกัดเอาไว้ก่อน
“ไนออล..ฉันขอโทษ”เซนก้มหน้าลง
“ฮึก เซน ไม่ไปไม่ได้เหรอ”ไนออลเริ่มสะอึกสะอื้น แฮร์รี่หันไปกอดปลอบไนออล แต่สุดท้ายก็ร้องไห้ซะเอง เซนถอนหายใจ
“ไม่เอาน่าไนออล เซนเครียดอยู่นะ”เลียมปรามไนออล
“ก็..ก็ฉันไม่อยากให้เซนไปนี่”ไนออลเบ้ปากเพื่อสกั้ดกลั้นน้ำตาที่จะไหลอีกระรอก
“นายคิดว่าฉันจะไม่กลับมาหานายเลยหรือไงเจ้าหมูอ้วน”เซนเงยหน้าส่งยิ้มให้ไนออล
“....”
“ถึงฉันจะออกจากวงก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะเลิกเป็นเพื่อนกันเสียหน่อย นายก็ยังสไกป์หาฉันได้ นัดกินข้าวกันได้ นัดไปเที่ยว ไปสวนสนุก เผลอๆฉันอาจจะไปดูพวกนายที่คอนเสิร์ตก็ได้นะ”เซนมองไปยังเพื่อนทั้งสี่คน
“ฉันจะลากนายไปผับให้ได้คอยดู”ลูอิสพูดแล้วพุ่งไปกอดเซน ไหล่เล็กๆสั่นตามแรงสะอื้นของเจ้าตัว
“ฉันจะลากนายไปนันโดส์”ไนออลเข้ามากอดอีกคน
“ฉันจะลากนายไปสัก”แฮร์รี่ตวัดแขนกอด
“ส่วนฉัน..จะลากทุกคนไปทุกที่”เลียมว่าแล้วอ้าแขนกว้างที่สุดเพื่อโอบกอดทุกๆคน
ชายหนุ่มทั้งห้ากอดกันกลมอยู่กลางห้อง ไม่มีเสียง ไม่มีคำพูด ทุกคนต่างซึมซับอ้อมกอดนี้ราวกับมันเป็นอ้อมกอดสุดท้าย
.
.
.
.
.
.
.
“โชคดีนะเซน พวกเรารักนายมากนะ ดูแลตัวเองด้วย”เลียมบอกลารัวๆแล้วกอดเซนอย่างรวดเร็ว
“อย่าลืมโกนหนวดล่ะ”แฮร์รี่พูดแล้วกอด
“กินข้าวเยอะๆนะ นายผอมไปแล้ว”ไนออลมองขึ้นลงสำรวจเซนอย่างรวดเร็วก่อนจะนิ่วหน้าเมื่อเห็นเซนผอมจนเกินไป
“ฮ่ะๆ ได้สิ ว่าแต่นายจะไม่กอดลาฉันหน่อยเหรอ”
ไนออลไม่ตอบแต่ซุกใบหน้าไปที่ซอกคอของเซน สองแขนโอบรัดตัวแน่น เซนเอื้อมมือกอดตอบ
“ไอ้อ้วน นานไปแล้ว ฉันกอดบ้าง”ลูอีท้วง ไนออลจึงยอมผละตัวออกจากเซน
“ไม่มีนายแล้วใครจะเป็นคู่หูนรกกับฉันล่ะไอ้หน้าหนวด”ลูอีพูดแล้วกอดเซนเหมือนกับคนอื่นๆ
“เฮ้ๆ ฉันเป็นให้ได้นะ”ไนออลโบกมือไหวๆ
“อย่าหวังเลยไอ้อ้วน ถ้านายทำงั้นเซนฆ่าฉันตายแน่”ลูอีพูดอู้อี้เพราะหน้าแนบติดกับไหล่เซน
“แน่นอน อย่าให้ฉันรู้นะว่านายพาไนออลเลวน่ะ ฮ่าๆๆ”เซนหัวเราะอย่างที่ไม่ได้หัวเราะมาหลายวัน
“ก็อยากจะยื้อเวลาไว้น่ะนะ แต่ใกล้จะถึงเวลาขึ้นเครื่องแล้ว เจอกันนะเพื่อน”เซนเลือกที่จะไม่บอกลา เพราะเขารู้ดีว่า มิตรภาพของพวกเขาจะไม่มีทางจบลง เซนวิ่งออกจากรถตู้ เหลียวหลังมามองเพื่อนทั้งสี่ที่บัดนี้ไนออลร้องไห้ในอ้อมกอดเลียมเรียบร้อยแล้ว
เซนยิ้มแล้วโบกมือให้เพื่อนๆแล้วรีบวิ่งเข้าสนามบินไป เพราะเขารู้ดีว่าถ้าหากเขายังอยู่ตรงนี้อีกเพียงวินาทีเดียว เขาจะต้องพุ่งกลับไปปลอบไนออลแน่ๆ
“โชคดีนะ เพื่อน”เซนพึมพำแล้ววิ่งเข้าเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวไป
.
.
.
.
.
.
ดวงตาสีมรกตกวาดไปรอบๆบริเวณ ผู้คนมากมายต่างจับจ้องมาที่เขาและเพื่อนๆ บ้างก็ตะโกนเรียกชื่อ บ้างชูป้ายไฟ บ้างชูรูปพวกเขาคนใดคนหนึ่ง แต่มีไม่น้อยที่ชูรูปคนๆนั้น เซน มาลิค
ใบหน้านองน้ำตาของแฟนคลับสะท้อนอยู่ในดวงตาแฮร์รี่ เขาเบือนหน้าหนีเมื่อแฟนคลับร้องไห้หนักกว่าเดิมยามเพลงที่พวกเขาร้องถึงท่อนของเซน แฮร์รี่ยกไมค์ขึ้นเพื่อร้องท่อนต่อไปซึ่งเป็นท่อนของเซน ในใจหวังให้เจ้าของท่อนกลับมาร้องเอง
‘Am I the on--’
เสียงแฮร์รี่ขาดหายไปทันทีที่มีเสียงหนึ่งแทรกขึ้นมา แฟนคลับกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง เขาหันหน้าไปข้างหลัง น้ำตาเริ่มคลอเบ้ากับภาพที่เห็น
เซน มาลิค ยืนอย่างสง่างามบนเวทีท่ามกลางแฟนคลับมากมาย ปากได้รูปขยับร้องเพลง
‘Only believer?’
พวกเขาอีกสี่คนเกือบลืมร้องเพลงแต่มีแฟนคลับอีกนับหมื่นร้องแทน เป็นภาพที่งดงามที่สุดเท่าที่ทุกคนเคยเห็นมาในชีวิตนี้
“สวัสดีครับทุกคน ขอโทษที ผมมาช้าไปนิด”เซนกล่าวหลังเพลงจบลง
“ไม่เป็นไรเพื่อน นายมาทันเสมอ ต่อให้เลทกว่านี้เป็นชาติพวกเราก็จะรอ”แฮร์รี่พูดแล้วเดินไปกอดเซน ตามด้วยไนออล ลูอีและเลียม
“We love you Zayn Malik”แฟนคลับตะโกนพร้อมกันโดยไม่ได้นัดกันมาก่อน
“เห็นไหมทุกคนรอนายนะเซน”เลียมพูดพอให้พวกเขาห้าคนเท่านั้นได้ยิน
แฮร์รี่ยิ้มอย่างเป็นสุขในอ้อมกอดของเพื่อนๆที่เขารักทั้งสี่คน
สิ่งที่เขาหวังไว้สมปรารถนาแล้ว เจ้าของท่อนเพลงกลับมาร้องด้วยตัวเองแล้ว เซนกลับมาหาพวกเขาแล้ว กลับมาหาแฟนคลับ กลับมาหาคนที่รักเซน พวกเขาตั้งใจทำให้คืนนี้เป็นคืนที่ยอดเยี่ยมที่สุดของแฟนคลับทุกๆคน สร้างความประทับใจให้ตราตรึงในใจ
เปลือกตาสีน้ำนมเปิดขึ้น แสงแดดยามเช้าส่องเข้าตาสีมรกต แฮร์รี่ครางงึมงัมในลำคอก่อนจะบิดตัวเล็กน้อย เขาลุกขึ้นนั่งแล้วทบทวนความฝันเมื่อคืนนี้ เขายิ้มแล้วแค่นหัวเราะ
“มันคือความฝันแฮร์โรล เลิกหลอกตัวเองด้วยความฝันงี่เง่านี้ซักที”แฮร์รี่ซุกหน้าลงกับเตียงนอนก่อนที่จะเด้งตัวขึ้นมาแล้วยิ้มกริ่ม มือที่เรียวกว่ามือผู้หญิงคว้าโทรศัพท์บนหัวเตียงขึ้นมาสไลด์ปลดล็อคหน้าจอก่อนจะโทรหาใครบางคน
(ฮัลโหล)เสียงนั้นงัวเงียนิดๆ แหงล่ะ นี่มันหกโมงเช้านะ
“ไง ไปกินข้าวกัน”แฮร์รี่ทำเสียงร่าเริง
(...)
“...”
(ตกลง)
“เจอกัน เซน มาลิค”
สวัสดีทุกๆคนที่หลงเข้ามาอ่านSFกากๆเรื่องนี้ค่ะ
ไม่เคยคิดจะแต่งเรื่องเกี่ยวกับเซนออกจากวงแต่อยู่ดีๆพล็อตก็เข้าหัว ที่คิดตอนแรกก็ดีอยู่นะ พอลงมือเขียนก็เน่าเลย5555
ประมาณว่าแฮร์รี่ฝันว่าเซนกลับเข้าวงคืน
ไม่มีอะไรหรอกค่ะ อยากแต่ง555 ช่วยอ่านหน่อยน้า
ความคิดเห็น