การหายไปเด็กอเวจีนรก
boy of to hell
ผู้เข้าชมรวม
125
ผู้เข้าชมเดือนนี้
10
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เเนะนำตัวละคร
โสนาหรือโนสา หญิงสาวที่เป็นครูหลังจากโดนให้ลาออกด้วยไม่สมเหตุผลอย่างมีใครมาเจตนาสั่งให้เธอทำเเละได้รับสายน้องวันที่ไม่เป็นธรรมมาปั่นป่วนสมองโสนาไว้จะสืบเนื่องจากสิ่งที่จะเผชิญหน้ากับมัน
น้องวัน เด็กชายที่โทรขอความช่วยเหลือจากโสนาเเละได้หายสาบสูญอย่างมีร่องรอยทิ้งไว้กับการอยู่กับการเผชิญกับใครบางอย่าง !?
บทนำ
การเริ่มต้นในการลักพาตัว
Beginning
in the kidnapping
ในความมืดที่หมองมัวมันอยู่ในหัวฉันได้สับสนในชีวิตฉัน พอลืมตาและไป มองที่หลังเด็กที่นั่งแกว่งเสาชิงช้าที่รอบต้นไม้ใหญ่พร้อมกับกำแพงที่มีรูปวาดการ์ตูนที่เต็มไปด้วยหลายอย่างและนึกถึงคำพูดหนึ่งมีคำว่า
“ ไม่มีใครเก่งตั้งแต่เกิด “ นี้คงได้ยินมา
ฉันมองไปด้านหน้าที่ฉันยืนอยู่นั่นโดยที่ไม่ได้ขยับอะไรเลย
สักพักเด็กที่นั่งชิงช้าหยุดแกว่งนั่นหันมามองที่ฉันและใบหน้าที่คุ้นเคยนั่นคือ “ น้องวัน “
แต่ฉันเปลี่ยนแปลงความคิดใหม่ได้เลยว่าได้เจอเด็กคนนี้ที่แปลกและแตกต่างสุดเลยว่าทำไมมันช่างยิ่งกว่าสิ่งที่คุณมอง มานั่นเอง !?
วันที่ 9 ตุลาคม 2015 ( ที่บ้าน )
เช้าแสนอันสดใส่ที่หลับเพลินตา สักวินาทีใบหน้าและซูมดวงตาลืมตาออกมาอย่างช้าๆ
ฉันตื่นมาไร้นาฬิกาปลุกมาไร้เหตุผลฉันคงไม่ควรใช้คำว่า “ ขี้เกียจ “ และทุกวันที่ควรปฏิบัติขึ้นมานะ
ทุกคนต้องทำ 24 ช.ม. ในสิ่งที่เป็นทำทั้งวัน
ทุกครั้งเป็นประจำ
2 เดือนก่อนหน้านี้ ( ในโรงเรียน )
ฉันเป็นครูสอนวิชาสังคมและเดินมาเป็นรอบวนโรงเรียนเพราะฉันเป็นเวรนะ ในเวลาพักเที่ยงของโรงเรียนนะ
โสนาเดินผ่านไปรอบ ๆ ยามชั่วครู่หนึ่ง
ฉันมองไปรอบๆ ระยะหนึ่งว่าสักแวบเดียว
ในด้านหลังโรงอาหารไอ้สิ่งที่ฉัน มองนะ แต่ได้แค่มองนั้นไม่ได้พูดสักกะนิดเดียว
เคยคิดไหมว่ามันคงไม่ผิดที่เด็ก 2 คน
ที่นี้อายุห่างกันตั้ง 10
ปี ไม่ใช่จะมองหน้ากัน
แต่ก็คิดในหัวของฉันอยู่เลยว่าอะไรควรหรือไม่ควรกันแน่ !?
(กลับมาที่ปัจจุบันในบ้าน)
โสนากำลังอาบน้ำเสร็จเอาผ้ามาช็ดตัวให้แห้งไปเป่าผมและแต่งตัว
ฉันอยู่บ้านคนเดียวนะเลยเงียบไปหน่อย แต่คงคิดจะถามว่าครอบครัวนะเหรอ ? แยกกันอยู่มีแค่แม่กับน้องสาวนะ
แม่ฉันเองเสียชีวิตไปนานแล้วล่ะ
ประมาณ 2-3 ปี
ก่อนนะ คิคว่าเป็นอะไรตายนะเหรอ ? คงเรื่องมันยาวนะ
ส่วนน้องสาวฉันนะไปเรียนที่ต่างประเทศนะ แต่เธอไม่ค่อยได้ติดต่อกับฉันเลยนะ
เมื่อก่อนเคยสนิทสนมกันมาตั้งแต่เด็กแล้วที่เปลี่ยนความสนิทสนมกลายเป็นแยกทางกัน เพราะ
คงคิดว่าเป็นความผิดของฉันนะสิ ที่ทำให้แม่ตายไปต่อหน้าน้องสาวนะ ตั้ง 4 ปีตั้งแต่ ได้สอบชิงทุนนะ
น้องสาวฉันชื่อ “ ลิต้า “ ส่วนฉันก็เป็นครูมา 5 ปีแล้วละ ทุกวันฉันก็ทำแบบนี้ อาบน้ำ ,
แปรงฟัน , แต่งตัว ,
หวีผม , กินข้าวออกจากบ้านไปข้างนอกไปที่โรงเรียนที่ฉันสอน
เพื่อไปสอนเด็กนักเรียนเยาวชนที่มีอนาคตเป็นคำพูดที่ได้ยินจากคนอื่นจนก็ได้เตรียมวิชาสอนเลยไม่มีไรมากจะสอนนักเรียน
ที่โรงเรียน
วันนี้ฉันเองก็มาเช้าละสอนปะจำที่สอนมานั่นเองคงไม่ใช่จะสบายใจได้หรอกนะ
“ วันนี้มาเช้านะครับ คุณครูโสนา “ ครูชายหนุ่มพูดชมกับโสนามาโรงเรียนประจำ
คนที่เรียกทักฉันว่านั่นคือคนที่สนิมสนมกับฉันชื่อ “ กิต “ และเป็นคนมาช่วยร่วมสอนนะ มีสิ่งบางที่เขาคือ “ การเล่าเรื่องตลกขบขัน “ นะ ฟังมาแล้วน่าเบื่อนะ บอกตรง ๆ เลย ฉันยังคิดอยู่เลยว่า
กิต เองอยากจะคุยกับฉันประจำวันที่ฉันเพิ่งมาถึงโรงเรียนนะ
เพื่อความตลกขบขันนะที่แสนน่าเบื่อทีฉันคิดนะ แต่มันทำให้ฉันควรรู้สึกเป็นสุข
“ สวัสดีครับ คุณโสนา วันนี้ทำไมทำหน้าแบบนี้ละครับเหมือนอะไรบางอย่างนะครับ
วันนี้ครูโสนาพึ่งมาถึงเหรอครับ ? ขอโทษนะครับ
ที่ทำให้ตกใจนะครับ “
“ สวัสดีค่ะ ครูกิต คือฉันพึ่งมาถึงค่ะและกำลังจะเตรียมสอนเด็กนะค่ะ แต่ครูกิตเองกับไม่ให้เสียงเลยนะค่ะ
มันทำให้ฉันไม่มีสมาธิค่ะ ถ้าครูกิตไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวก่อนนะค่ะ “ โสนารีบไปอย่างเร่งรีบแต่ กิต
รีบคว้าแขนซ้ายโสนาอย่างล่าเหยื่อสัตว์ “ เดี๋ยวก่อนสิครับ !!! “ โสนารู้สึกโดนดึงแขนยังกับจับแยกเศษส่วน
“ อะไรอีกล่ะค่ะ !? ครูกิตทำไมถึงคุณต้องจับแขนฉันค่ะ ? วันนี้ครูกิตเป็นไรไปรึเปล่าค่ะ ? “
“ คือ … “
“ ยังมีอีกเรื่อง ครู ผอ เรียกให้คุณครูไปพบนะครับตั้งแต่เมื่อวานนะครับ
ครูโสนา “ กิตพูดจบ จึงปล่อยแขนโสนา
ครูหญิงสาวที่แทรกเข้ามาในสนทนาโสนากับกิต ด้วยการแต่งตัวแบบไม่เหมาสมกับสถานที่โรงเรียน
“ อ้าว งานเข้า “ ครูหญิงสาวพูดเสร็จและยิ้มให้โสนาอย่างหมั่นไส้ที่จะไล่ออกจากสังคมไปหาพวกไร้ตัวตน
!!!
ก่อนที่จะเข้าห้อง ผ.อ
ในเวลาช่วงเช้าการรีบไปห้อง ผ.อ
ไม่ใช่สิ่งที่จะฟังคำที่โดนอะไรสักอย่างใดอย่างหนึ่งที่รู้ว่าคำตอบว่าอะไร !?
ก่อนที่จะเข้าห้อง ผ.อ ไป โสนาไปเข้าห้องน้ำ
เพื่อจะตั้งสติตัวที่จะตั้งตัวว่าจะโดนคำตอบของ ผ.อ แบบไหน !?
โสนาสำรวจรอบ ๆ ห้องน้ำหญิง
แม้ห้องปัสสาวะโสนาต้องตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อที่จะไม่มีใครมาอยากรู้เรื่องมากนัก
โสนาถอนหายใจอย่างค่อยโล่งใจที่จะระบายอารมณ์ในห้องน้ำโล่งไม่มีใครอยู่โสนาปัดผมหน้าม้าขึ้นและเปิดก็อกน้ำให้มากสุดเอามือทั้งสองข้างมาล้างลูบด้วยกันและสัมผัสล้างทั้งใบหน้าที่รู้สึกไม่ดีที่มาติดตัวคล้ายกาลกินี
โสนาเช็ดหน้าเสร็จมองไปที่กระจกกว้างมองอย่างจะพูดออกมาคล้ายกับสารภาพบาปติดตัวมาที่ทำมาชั่วชีวิต
“ ถึงเวลาแล้วสินะที่จะเผชิญคำตอบที่ฉันจะ…ไม่สิ ฉันไม่ควรพูดแบบนี้เลยสิ โสนา ” โสนากำลังควบคุมสติตัวเอง
“ เอาล่ะ ฉันควรจะปลอบใจตัวเองที่จะ …บ้าจริง !!! ” โสนาพูดจนลืมตัวในการปลอบใจ
“ เราควรจะยอมรับในการเผชิญคำตอบที่จะรับฟังได้สิ่งกำหนดนั่นเอง ” โสนาพูดปลอบใจอย่างเข้าใจเริ่มขึ้น
“ ในการเผชิญคำตอบนั่นมาเอง ”
เสียงนี้โสนาฟังจึงพูดต่อ “ ในการเผชิญคำตอบนั่นมาเอง ” คำพูดซ้ำนี้อาจทำให้โสนารู้สึกตื่นตัวและ งง
ที่คำพูดนั่น มันมาจากไหนทั้งที่โสนาไม่ได้พูดเลย
โสนาหันซ้ายหันขวาจึง
งง ไปหมดเลย โสนาพูดกับตัวเองอยู่แต่เหมือนมีใครมาพูดให้โสนา
โสนารีบออกจากห้องน้ำอย่างเร็วที่สุดจึงออกมานั่นไม่สนใจว่ามันคือเสียงอะไร
!?
โสนารีบเดินอยู่นั่นยังไม่หยุดคิดเลยพร้อมทั้งทำหน้าเหมือนไก่ตาตื่นมานั่นและมากับร่างตัวเล็กที่แสนจะดำสุดมองไม่ออกว่ามันคืออะไร
!? เดินตามห่างหลังโสนาอย่างต่อเนื่องจนไม่มีอะไรสงสัยแม้แต่ในห้องนักเรียนที่กำลังเรียนอยู่นั่นกับไม่มองไปที่โสนากำลังเดินผ่านไปเลยด้วยซ้ำ
แต่โสนากังวลในที่จะเดินไปอยู่นั่นและพูดในใจไป
ฉันเองไม่ซวยมาที่ติองมีถูกเรียกเพราะเรื่องนี้ทั้งทำงานมาเป็นครูมา 2-3 ปีนะ ไอ้ที่โดนก่อนเรียกนั้นคือ “ เยาะเย้ย “ คนนั้นและใบหน้านั้น
“ ยัยเม้า “ มันทำให้ฉันเหมือนคนทำผิดตลอดมาในสายตาที่มองมานั้นและถูกส่งคนในใครบางคน
แต่ฉันทำไม่ได้อะไรเลยคิดได้แค่ “ วันซวย
” เท่านั้นเอง โสนาถึงห้อง ผ.อ แล้วจึงเคาะประตูก่อนเข้าไป
“ ก๊อก
ๆๆ ผ.อ ค่ะ ดิฉันครูโสนาจะเข้าห้องไปแล้วนะค่ะ ” โสนาเข้าไปห้องความรู้สึกโสนาเหมือนโดนกดดันอย่างไม่รู้ตัวโดนที่โสนาทำอะไรไม่มากกว่านั้นยังถอยไม่จึงไปนั่งเก้าอี้ที่อยู่ตรงหน้า
ผ.อ มองอยู่นั้นทำให้โสนาโดนจับมองยังกับ
ผู้ต้องสงสัย เมื่อโสนานั่งลงแล้วจึงแอบกำมัดมือที่สองข้างอย่างแน่นหน่าและมองไปที่
ผ.อ นั่นเอง
“ สวัสดีครับ
คุณครูโสนาผมเองคิดว่าคุณเป็นครูที่ดีมาตั้ง 3 ปี
ที่เคยได้รู้จักกันคุณครูโสนาเปรียบเสมือนครอบครัวผมและทุกคนในโรงเรียนนี่ พูดตรง ๆ
เลย ผมเองก็อยากให้คุณครูโสนาให้ลาออกไปก่อนไม่ใช่จะไล่เหมือนหมูเหมือนหมานะ เพราะ
เศรษฐกิจไม่ค่อยได้ดีเท่าไหร่ คุณครูโสนา “ ผ.อ พูอ
“ เรื่องแบบนี้ ดิฉันทำใจได้ค่ะในสิ่งที่คุณครู ผอ
จะพูดถึงนะค่ะ “ โสนาพูดมาอย่างยอมรับคำพูดนั้น
“ งั้นคุณครูโสนาเองคงไม่เสียใจที่ผมเองก็ไม่อยากจะทำแบบนี้ “ ผ.อ ถามโสนาอยากให้แน่ชัด
“ มันคือสิ่งที่ฉันต้องยอมรับค่ะ ผอ “ โสนาพูดจบ
“ ดีแล้วล่ะ คนเราก็รู้อยู่ละว่าอะไรคือจุดสิ้นสุด “ ผ.อ
ตอบกลับ
“ ขอบคุณค่ะ ผ.อ. ถ้าไม่มีอะไรแล้วดิฉันจะบอกคนอื่นค่ะ “ โสนาพูดอย่างเข้าใจไปส่วนนึง
“ ไม่มีแล้วละ
คุณครูโสนา เรื่องนี้ผมเองบอกคนอื่นแล้วละ
” ครู ผ.อ
พูดจบ
โสนานั่งเงียบไประยะหนึ่งและลุกออกไปจากห้อง
ผ.อ.โดยที่ไม่ได้กล่าวลา
ผ.อ เลย เดินผ่านไปที่ผู้คนมองสายตาที่ออกจากห้องเรียนต่างไปหากลุ่มสนิทสนมและเม้ามอยที่มองไปที่โสนาอย่าง
“ ตัวประหลาด ”
ในความคิดและโลกช่องแคบของโสนา
ไอ้ที่ ผ.อ ที่พูดกับฉันนั่นคือฉันถูกให้ลาออก
แต่ไม่ไล่ออกโรงเรียน แต่นั่นทำให้ฉันคิดเลยจะทำไรสักอย่างที่เราต้องหางานใหม่ทำนี้น่าพูดได้ดีนะ
แต่ทำได้เปล่ายังไม่รู้เลยจริงๆ งาน คือ สิ่งที่ถนัดนั้นเอง
มันคงไม่ใช่ที่จะเป็นได้แค่จิตนาการ
สิ่งที่ฉันถนัด
คือ เขียนนิยาย กับ นักสืบ
แบบนี้นะคงหารายได้สักกี่ร้อยกี่หมื่นพันบาท
โสนาไม่ไปในห้องพักครูแม้ที่จะไม่อยากคุยกับกิต
เรื่องตลกที่จะฟังนั้นคงไม่มีอารมณ์จะฟังเลย
โสนารีบออกจากโรงเรียนให้เร็วที่สุดจะหาอะไรช่วยเหลือโสนาได้บางนอกจากการหางานใหม่ที่ดีสุด
ถือว่ามีความโชคช่วยในการเป็นอยู่ชะตากรรมของโสนาอย่างน้อยที่จะไม่แตกต่างพวกยากจนนั่งขอทานข้างถนน
โสนามองผ่านไปกับไม่อยากจะช่วยคนคนอื่นก่อนช่วยตัวเอง
แต่มันไม่สามารถย้อนกลับไปอีกเหมือนกับ “ เวลา
”
ที่ไหลผ่านไปกับเส้นทางผู้คนที่จะเลือกจะ
ดี หรือ เลว แม้อาจมีคำที่ใช้คำว่า “ ยถากรรม ”
ที่บ้านโสนาในเวลาเที่ยงคืน
23.27 นาที
ในเวลาเที่ยงคืนที่แสนร้อนรนในตัวบ้านโสนานั่น
มีเศษกระดาษไม่ว่าจะเป็นหนังพิมพ์ที่มาพร้อมการสมัครงานหลายที่แม้แต่การทำความเข้าใจในการสมัครงานที่ชั่วโมงของโสนาโดยไม่หลับไม่นอน
ฉันกลับไปบ้าน
คืนนั้นฉันเองว่าจะไม่นอนเพราะฉันหางานสมัครงานเป็นสิ่งที่ต้องทำ
คำถามว่ามันจำเป็นไหม ? “ จำเป็นสิ ” เพราะไม่มีใครอยากตกงานนะสิ ขณะที่ฉันเลือกดูนั้นมีเสียงแทรกเข้ามา คือ
“ มือถือ ”ที่มาขัดจังหวะที่ฉันไม่อยากหยิบมารับเลยสักกะนิด
“ ฮาโหลค่ะ ? ”
โสนาพูดทักอย่างไม่อยากรับสาย
“ สวัสดีครับ คุณครูโสนา…ช่วยผมด้วยครับ ขอร้องนะครับอย่าพึ่งวางสายครับ
ฮือ ๆๆๆๆ ” น้องวันพูดอย่างเศร้า
“ น้องวันเหรอ ?
เป็นไรไปไหม ? เกิดไรขึ้นละน้องวัน
? ทำไมน้องวันต้องร้องไห้มีใครทำร้ายน้องวันเหรอ ? น้องวัน ”
โสนาถามอยากคนเร่งรีบให้คนตอบมา
“ มันมาตามหาผมแล้วครับ ฮือๆ ” น้องวันพูดเศร้าและกลัวบางสิ่งที่มันมาตามหา
“ ใครเหรอ ? ครูไม่เข้าใจเลยสักนิดเลยน้องวัน
” โสนาฟังคำพูดน้องวันอย่างไม่เข้าใจ
“ ผมไม่รู้มันทำให้สร้างปัญหาในชีวิตผมและครอบครัวผม ” น้องวันพูดมาและเริ่มร้องไห้ไปด้วย
“ ใจเย็นๆ นะ
ครูอยากรู้ว่าวันอยู่ตรงไหนแล้วใครอยู่ข้างๆบ้างละน้องวัน ” โสนาพยายามให้น้องวันสงบสติอารมณ์
“ ผม…ผมอยู่ในตูเสื้อผ้าครับ
ผม…ฮือๆๆๆ…อยู่คนเดียวครับ
” น้องวันพูดติดขัดไปมา
“ พ่อแม่…ผมไม่ช่วยผมแล้วครับ
ฮือๆ เขาไม่รักผมแล้วครับ ”
น้องวันร้องวันไห้ดังขึ้นเรื่อย ๆ
“ คุณครูโสนาครับ ผมออกไปไม่ได้แล้วครับ ”
“ มันคงเห็นผมแล้วแน่ๆเลยครับ
ผมทนไม่ไหวแล้วครับ ผมกลัว…ครับ ฮือๆๆ ”
“ น้องวันครูเองก็ช่วยแค่ได้บอกอย่างเดียวนะ
แล้วในตู้ที่น้องวันซ่อนอยู่นั้นนะมีอะไรป้องกันตัวได้รึเปล่าล่ะจะได้ช่วยน้องวันได้นะ
” โสนาพูดได้แค่ให้คำแนะนำที่จะช่วยน้องวันได้
“ มัน…มันไม่ยอมไปไหนเลยครับ
” เสียงน้องวันเริ่มเกรงกลัวอะไรบางอย่าง
“
ผมคงไม่มีอีกแล้วไม่มีโอกาสมี่จะหนีอีกแล้วครับ ” น้องพูดต่อไปโดยไม่ฟังคำพูดของโสนาเลยสักคำ
“ และผมเองไม่อยากทนที่จะมีชีวิตตามอยู่กับปัญหาอีกแล้วครับ
มันเริ่มรู้ตัวแล้วครับ ”
“ โครม ๆๆๆๆๆๆ !!! ตึก ๆๆๆๆ !!! ”
“
อย่า…อย่านะอย่าเข้ามา ไม่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ !!!!!!! ” น้องวันร้องออกมาเหมือนกลัวอะไรบางอย่าง
ที่มันจะเอาตัวไปอย่างน่าสงสัย
“ กรี๊ด ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ !!! ” เสียงนี้ทำให้หูโสนาเริ่มแสบแก้วหูอย่างทรมาณ
จนเอาโทรศัพท์ออกจากหูอย่างแรงอย่างกับมีอะไรมากัดหูโสนาและหยิบโทรศัพท์มารับฟังอีกครั้ง
“ น้องวัน น้องวัน !!! ตอบครูมาหน่อยสิ !!! ”
นั่นคือสายสุดท้ายที่พูดกับน้องวันคงเป็นแบบเสียงค้างคาใจในหัวสมองฉัน
ฉันเลยเรียกร้องของวันให้ตอบกลับมาเรื่อยๆ
“ น้องวัน
น้องวันใช่ไหม ตอบครูมาหน่อย มันไม่ตลกเลยนะ !!! ”
วินาทีฉันยังกำลังฟังอยากเข้าที่เสียงแทรกเข้ามาและหัวเราะอย่างเยาะเย้ยใส่หัวฉัน
.
“ He he +++++++++++ ” มีบางอย่างที่มันหัวเราะใส่โสนา
“ ว้าว !!! วันนี้ได้เจ้าตัวน้อยแล้วมันยังเรียกผูที่เข้ามาเล่นหาเจ้าตัวน้อยแล้วไม่ทราบว่าสนใจไหมครับ
? ”
“ ดูท่าทางเธอเองคงเหงือกแตกนะ
” ฉันขอภาวนาในใจว่าไอ้สิ่งที่มันจะยื่นข้อเสนอมาอย่างไร
?
“ เอาล่ะ
ถ้าเธอคิดอยากเจอเด็กอีกละก็นะ ”
“ มาเล่นเกมล่าคำใบ้สมบัติกัน ”
เสียงหัวเราะนั่นมากระจายรอบในหัวฉันไม่วันสิ้นสุด
He he
+++++++
ผลงานอื่นๆ ของ uioern18219 ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ uioern18219
ความคิดเห็น