ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    U R MY PRINCESS ★ 2 YEAR ANNIVERSARY OF SUJU只十三

    ลำดับตอนที่ #2 : {1} มหาภัย ยัยตัวแสบ BY : MOON

    • อัปเดตล่าสุด 5 ธ.ค. 54



    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    {?} Introduce Part 
    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    MOON PRINCESS'S  STORY

    Present

    'มหาภัย ยัยตัวแสบ'






    Abt. Writer 
    Nickname : Sing
    FACEBOOK
    CiLK
    SUPER FAN OF KANGIN SUNGMIN AND HANGENG ZHI13



    wirter say
    สาวงามนามไพเราะคนนี้เป็นคนมีจินตนาการสูงส่ง(ในทางที่ดี) แต่พูดและบรรยายออกมาไม่เป็น จากที่อ่านจากที่เขียนก็น่าจะพอทราบกันแล้ว เป็นที่ตรง จนบางทีก็ตรงเกิ้น ยังไงก็ขออภัยมา ณ.ที่นี้ด้วยนะคะ คิดไม่ออกไม่ค่อยจะเคยมองตัวเองเท่าไร ถ้าใครเห็นอย่างไรก็ช่วยมาเสริมหน่อยแล้วกันนะ






    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    {?} Story Part 
    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

     “ หยุดเดี๋ยวนี้น้า ยัยตัวแสบ!! ” เสียงตะโกนดังไล่หลัง

    “ คิดหรือไงว่าเค้าจะหยุด ไม่มีทางซะล่ะ แบร่ “ รู้จักฮานึลน้อยไปซะแล้ววววว พ่อจ๋าแม่จ๋า รักพ่อแม่จังที่ให้หนูเกิดมาแขนขายาว กร้ากกกก นี่เป็นเสียงที่ดังเป็นกิจวัติวันล่ะหลายๆครั้ง ถ้าสองสาว เอ้ย! สองหนุ่มสาวคู่นี้อยู่ด้วยกัน ทำไมหน่ะหรอ เคยได้ยินไหม ขิงก็ราข่าก็แรง มันก็ประมาณนั้น ถามว่าทำไมถึงกัดกันบ่อยนัก เอ... จะว่ายังไงดีหล่ะ เรื่องมันยาวนะคะ ถ้าไม่เบื่อกันก่อนเค้าก็จะเล่าให้ฟัง ก็เรื่องมันมีอยู่ว่า

    ฮานึลเป็นคนไทยโดยกำเนิด และได้มีโอกาสดิ้นรนจะได้ไปเรียนที่เกาหลี แล้วนึกออกไหมคะ ที่เด็กคนนึงได้อยู่ไกลบ้านห่างพ่อแม่ มันจะเศร้าสักแค่ไหน... ที่ไหนล่ะคะ ฉันนี่แหละสุดจะดีใจเลย ได้ออกมาจากบ้านไม่ต้องมีผู้ใหญ่มาควบคุม โอ้วววว ไม่อยากจะบรรยายเดี๋ยวหาว่าอกตัญญู มาอยู่เกาหลีทั้งทีก็ต้องมีชื่อเกาหลีด้วย คนที่นี่เรียกฉันว่า ฮานึล ค่ะ

    หลังจากที่ลั้นล้ามาเป็นเวลาหลายเดือน ความลำบากเริ่มเข้ามาแทรก เนื่องด้วยทางบ้านที่เมืองไทยพบภัยเศฐษกิจขั้นรุนแรง จึงส่งเงินมาให้ผลาญเอ้ย ส่งมาให้ใช้ลดลงไปกว่าครึ่ง แล้วคิดไหมคะว่าเด็กคนนี้เด็กที่เกิดมาใช้แต่เงินคนนี้จะเป็นอย่างไร... งานเข้าสิคะ ไหนจะค่าห้องค่าอาหาร ทำไงล่ะทีนี้.. พูดไม่ออกบอกไม่ถูก

    “ แม่ หนูอยากกลับบ้าน ฮือออออ “สาวน้อยคร่ำครวญ น้ำตาไหลอาบสองแก้ม

    “ จะกลับได้ยังไงลูก เงินก้อนสุดท้ายแม่ก็ส่งให้ลูกไปหมดแล้ว ตอนนี้แม่ต้องกลับไปอยู่บ้านยาย พ่อก็ไปบ้านย่าแล้วแม่จะเอาเงินที่ไหนซื้อตั๋วให้กลับมาล่ะคะ อดทนหน่อยนะลูก ลองหางาน  part time ทำไปก่อน อีกไม่นาน.. เชื่อสิอีกไม่นาน  เราต้องกลับเป็นเหมือนเดิมนะคะเด็กดี เชื่อแม่นะ” มารดาอธิบายอย่างใจเย็น พลางพยายามสะกดเสียงสะอื้นไม่ให้สาวน้อยปลายสายได้ยิน

    “ แม่ค๊าา หนูคิดถึง ฮึก..บ้าน อยู่นี่หนูจะทำอะไรจะอยู่ยังไง ฮึก..ค่าห้องหนูก็ยังไม่ได้จ่าย เงินก้อนสุดท้ายก็อยู่ได้ไม่นานเองน้า แม่ แม่จะทิ้งหนูแล้วหรอแม่ ฮือออออ

    “ อย่าคิดแบบนั้นสิลูก เราต้องผ่านไปได้นะ เป็นลูกแม่ต้องอดทนรู้ไหม เป็นลูกแม่ต้องอดทน”

    เป็นลูกแม่ต้องอดทน... เป็นลูกแม่ต้องอดทน  วูบ!  ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยสภาพไม่น่ามองสักเท่าไร ฝัน ..เราฝันเรื่องนี้เป็นรอบที่เท่าไรแล้วเนี่ย  ทำไมยังทำใจไม่ได้นะ ต้องเข็มแข็ง เป็นลูกแม่ต้องอดทนสิ ลูกแม่ ต้องเข้มแข็ง.. แหมะ เหมะ..

    “ ฮือออออออออ ทำไม ทำไม ทำไม ” คืนนั้นฮานึลนอนไม่หลับตลอดคืน

     วันรุ่งขึ้นฮานึลก็ยังคงต้องไปเรียนด้วยสภาพที่ดูก็รู้ว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก ด้วยความหวังว่าจะเรียนให้จบและกลับบ้านซักที

    “ โอ้ย ทำไมมันถึงได้ร้อนนักนะ ” สาวน้อยสบทอย่างอารมณ์เสียพร้อมกวาดสายตาก็มองเข้าไปในร้านกาแฟแห่งหนึ่งหน้ามหาลัย

    เอ๊ะ! นั่นหน้าคุ้นๆ ใครน้า... ใช่แล้วซีวอน กรี๊ดดดดด!!! ” ฮานึลกระโดดด้วยความดีใจสุดขีด เจอไอดอลค่ะ ฮานึลมาเกาหลีตั้งนานก็เพิ่งจะเคยเจอไอดอลตัวเป็นๆ ก็วันนี้แหละ แฟนคลับจำเป็นจะทำไงล่ะคะ ก็วิ่งเข้าไปขอถ่ายรูปน่ะสิ โอ้ยยย! โชคดีเป็นบ้าเลย

    “ ซีวอนคะ ขอถ่ายรูปด้วยหน่อยได้ไหมคะ” ฮานึลวิ่งเข้าไปขอพร้อมทำตาวิงวอนมองศิลปินเหมือนลูกหมาหลงทาง

    “ ได้ครับ” ซีวอนตอบแถมยิ้มกระชากใจมาหนึ่งที อ่าาา~ สวรรค์.. ทำไมถึงมีคนหล่อขนาดนี้ที่นี่ ทำไมไม่มีที่เมืองไทยบ้าง ชั่งไม่ยุติธรรมเสียเลย  เพียงไม่นานภาพถ่ายล้ำค่านี้ก็ขึ้นในหน้าเฟสบุค  เย็นวันนั้น เพื่อนที่ทั้งรู้จักและไม่รู้จัก ต่างทักและเข้ามาพูดคุยกับฮานึลอย่างคับคั่ง

                    รุ่งขึ้นฮานึลค่อยเดินไปมหาลัยอย่างเบิกบานใจแทบจะบินไปเลยทีเดียว วันนี้ต้องเจอดาราให้ได้อีกซักคนนึง ฮี่ฮี่ สาวน้อยพูดขึ้นในใจ ขณะเดินเข้าไปภายในคณะเรียน

                    “ ฮานึลมีคนมาหาเมื่อวานอ่ะรู้ยัง?

                  “ ยังไม่มีคนมาบอกเลยฉันเพิ่งมาถึง ใครมาหรอรู้ปะ? ” ฮานึลถามเพื่อนอย่างอดสงสัยไม่ได้ว่าใครมาหา

    “ เห็นบอกว่าเป็นคุณป้าเจ้าของบ้านนะ ” เพื่อนอธิบายเท่าที่ทราบ

    “ หา! ว่าไงนะป้ามาหรอ.. วันนี้วันที่เท่าไรแล้วเนี่ย? ” ฮานึลตกใจตาโตรีบถามเพื่อนต่อทันที

    “ วันที่ 25 อ่ะทำไมมีอะไรหรอ?

    “ ตายแล้วววววๆๆๆ ฉันยังไม่ได้จ่ายค่าห้องหน่ะสิจะมีอะไรได้ ฉันไปก่อนนะ ถ้าจารย์ถามหาก็บอกว่าป่วยแล้วกันนะ ไปแหละๆๆๆ .... ตายแล้วลืมไปได้ไงเนี่ย แล้วนี่จะเอาเงินที่ไหนไปจ่าย โอ้ย..คิดแล้วจะบ้า ” ฮานึลเดินพูดคนเดียวเหมือนคนบ้า ในตอนที่กำลังรอไฟเขียวเพื่อข้ามถนน

    Rrrrrr Rrrrr…

    “ สวัสดีค่ะ ”

    “ ฮานึลนี่ป้านะคะ คือตอนนี้ป้าอยู่หน้าห้อง ถ้าวันนี้หนูไม่เอาเงินมาจ่ายป้า ก็มาขนของไปเก็บที่อื่นนะลูก ตอนนี้ป้าขนของออกมาไว้นอกห้องเรียบร้อยแล้ว มาไวไวนะคะ เดี๋ยวของจะหายซะก่อน  ตู้ดดดดๆๆ พูดจบก็วางสายทันที

    “ ห๊ะ! ฮัลโหลป้าคะ เดี๋ยวป้า! โหยอะไรวะ! วางไปแล้ว”  ฮานึลสบถอย่างอารมณ์เสีย และรีบวิ่งไปที่ห้องทันที คืนนั้นฮานึลขนของทั้งหมดไปที่สวนสาธารนะในมหาวิทยาลัย อย่างทุลักทุเล

    “ เอาวะคืนนี้ก็นอนมันแถวนี้ไปก่อนแล้วกัน ค่อยไปตายเอาดาบหน้า ” ฮานึลรำพึงกับตัวเอง เวลาก็ล่วงเข้าสี่ทุ่มไปแล้ว พญาธิในท้องก็เริ่มออกมาก่อกวนเป็นครั้งที่ สาม สี่ และห้า... ฮานึลมองไปรอบตัวแต่ไม่มีอะไรให้กินแต่ เอ๊ะ! ตึกนั้นทำไมยังไม่ปิดไฟ แบบนี้มันต้องไปดูสักหน่อย หุหุหุ

    ยิ่งเดินเข้าใกล้ก็เห็นว่าเหมือนจะเป็นงานเลี้ยงที่จัดอย่างหรูหรา มีอาหารตั้งเรียงรายมากมาย เครื่องดื่มทั้งหน้าตา สีสันน่ารับทาน ล..ละ..เลี้ยงรุ่น!! ว้าววว~ หวานปาก โชคดีวุ้ยวันนี้ ได้ของกินฟรี โฮะโฮะ ได้ใช้วิชาหลบหลีกผู้คนแล้ว อิอิคิดพลางแอบย่องเข้าไปในงานอย่างไม่มีคนสังเกต ปึก!  ตึ่ง!  เคร้ง!  เพล้งๆๆ ! โอ้ววววว ไม่นะ... ชิบหายซวยแล้ว หนีก่อนดีกว่า ’   จากนั้นฮานึลก็ใส่เกียร์หมาวื่ง 4x100 กันเลยทีเดียว

      ตึก ตึก ตึก เสียงเหมือนมีคนวิ่งมาจากด้านหลัง  “ อะไรกันเนี่ย ไอ้เด็กนั่เป็นใคร โอ้วววไม่นะ พังหมดแล้ว หนังชั้น. จับให้ได้! ใครปล่อยให้เข้ามาเนี่ย เสียหายหมดแล้ว .. ใครจะรับผิดชอบ! หาตัวให้เจอนะ! “ โปรดิวเซอร์ปาร์คคร่ำครวญอย่างโกรธแค้น

    “ อยู่นี่ครับ ปาร์คพีดี ” สต๊าฟคนนึงเอ่ยขึ้น พลางลากแขนฮานึลเข้ามา

    “ ไหน ใคร มาจากไหน ใครพามา “ ฮานึลงงเป็นไก่ตาแตก มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย มากินของฟรีมันเรื่องใหญ่ขนาดนี้เลยหรอ

    “ เด็กคนนี้แอบเข้ามาครับ ”

    “ ฉันจะหักเงินทุกคนที่ให้คนไม่เกี่ยวข้องเข้ามา! ทุกคนหุบปาก! เลิกกองกลับบ้านโว้ยย.. ส่วนเธอ ชื่ออะไรบ้านอยู่ไหน เธอต้องรับผิดชอบ! ” พีดีปาร์คตะโกนอย่างหงุดหงิด

    “ รับผิดชอบ? ..รับผิดชอบอะไรคะลุง หนูยังไม่ได้ทำอะไรเลย กินไปนิดเดียวเองต้องเสียขนาดไหนกันเชียว ”

    “ หืม.. เธอว่าไงนะ? รับผิดชอบอะไรงั้นหรอ? เหอะเหอะ.. งั้นเธอลองหันกลับไปมองสิ ว่าเธอทำอะไรลงไป!

     ฮานึลค่อยๆ หันกลับไปมองภาพที่เห็นคือภายในงานเศษแก้วกระจายเต็มไปหมด โต๊ะกลมกลางงานตัวสวยล้มไม่เป็นท่า ... นี่มันมีสงครามเกิดขึ้นหรือไง?! ทำไมข้าวของมันถึงได้ตกหล่นเรี่ยราดได้ขนาดนี้เนี่ยไม่จริงม้างงง....

    “ หมายความว่า... ทั้งหมดนี้อย่าบอกนะ... ” ฮานึลเอ่ยขึ้นอย่างไม่เชื่อสายตา

    “ ใช่! ฝีมือเธอทั้งหมด ” ปาร์คพีดีกดเสียงต่ำ

    “ ไม่มีทาง! หนูยังไม่ได้ทำอะไรเลย อย่ามาป้ายสีกันสิคะ ” ฮานึลไม่เชื่อง่ายๆ บอกปฏิเสทเป็นพันละวัน

    “ ไม่ได้ทำอะไร?! ยังพูดออกมาได้นะ เราถ่ายละครกันอยู่ดีๆ เธอก็เข้ามาแล้วก็พังข้าวของจนมันกลายมาเป็นแบบนี้ จะบอกว่าไม่ได้ทำงั้นหรอ?! ฉันมีหลักฐานนะ จะดูไหม?! ” พีดีปาร์คทวนคำเสียงสูงก่อนจะพ่นออกมาเป็นไฟ

    “ ดูค่ะ! หนูอยากเห็น ” ฮานึลยืนยัน

    “ เอ้า! ดูซะให้เต็มตา เห็นไหมว่า นั่น!.. เธอ! และก็ตอนนี้ เห็นไหม?! ความพินาศเกิดขึ้นแล้วเธอก็วิ่งหนี มีอะไรจะพูดอีกไหม?! ” ปาร์คพีดีชี้และบรรยายอย่างละเอียด

    โอ้ววว..จริงอ่ะ?! ไม่นะไม่ๆ ไม่มีทาง ม้ายยยยย  

     “ ห..หน...หนูไม่ได้ตั้งใจจริงนะคะ หนูไม่ได้ตั้งใจนะ หนูไม่มีเงิน ยกโทษให้หนูได้ไหมคะ ” ฮานึลอ้อนวอน

    “ ถ้าเธอไม่มีเงินเธอต้องชดใช้ด้วยร่างกาย ” ปาร์คพีดีพูดพร้อมยิ้มมุมปาก

     “ เอ๊ะลุง?!  คนเลวขนาด คนไม่มีทางไปยังจะคิดอะไรไม่ดีได้อีก! ” ฮานึลตะโกนอย่างตกใจ

    “ หุบปาก! ฉันไม่ได้จะเอาไปขาย พรุ่งนี้เธอต้องไปทำงานที่ออฟฟิส... เจอกันหน้าออฟฟิสตอนเจ็ดโมงตรง

    ห้ามเลทห้ามสาย! ฉันไม่ชอบคนไม่ตรงต่อเวลา ” ลุงยื่นนามบัตรมาให้ “ ที่อยู่ตามนี้ อย่าลืม! เจ็ดโมง ”

    “ ค่า รู้แล้วค่า ”


    7:01 ฮานึลหอบกระเป๋าวิ่งหน้าตาตื่นมาแต่ไกล เมื่อมาถึงหน้าบริษัทก็พบว่าปาร์คพีดียืนอยู่ก่อนแล้ว สาวน้อยค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาจากอาการหอบพีดีก็พูดขึ้นทันที… “ เธอมาสาย ” ฮานึลมองค้อนพีดีวงใหญ่หลังจากนั้นพีดีก็พูดขึ้นว่า

    เธอเข้าไปได้แล้ว สาวน้อยเดินก้มหน้าตามพีดีเข้ามาในออฟฟิสที่เขียนข้างด้านหน้าว่า SM ENTT. ชื่อนี้มันคุ้นๆ ยังไงไม่รุ้สิ ’

    “ ต่อไปนี้ เธอแค่ทำให้ห้องนี้สะอาดเรียบร้อยตลอดเวลาเท่านั้น... นั่นคนที่จะดูแลเธอชื่อไอริส อยู่ตรงด้านโน้น ” พีดี อธิบายสิ่งที่ต้องทำให้ฉันก่อนที่จะชี้ไปที่สไตล์ลิสสาวสวยหน้าตาดี

    ฮานึลมองไปรอบๆ ห้องเสื้อผ้า ทำไมมันถึงได้มากมายขนาดนี้ แต่ก็ไม่เห็นจะเลอะตรงไหน งานนี้หมูสิคะ

    “ รับทราบค่ะคุณลุง ” ฉันตอบรับหลังจากที่พีดีได้ยินประโยคตอบรับก็หันหลังกลับมาแล้วถามด้วยเสียงสูง

    “ เธอไม่รู้จักฉัน?! ไม่ได้อ่านนามบัตรหรือไง ”

    “ อ่านค่ะ แต่ฉันอ่านแค่ที่อยู่น่ะ แหะแหะ ” ฉันตอบแล้วเกาหัวอย่างอายๆ ก่อนที่จะหยิบนามบัตรมาอ่าน ปาร์คหรอ?...... อืม.. อ๋ออ

    “ เรียกฉันว่าเจ้านาย เหมือนที่คนอื่นเรียก อย่ามาเรียกฉันว่าลุง” พีดีปาร์คพูดอย่างตำหนิ

    “ รับทราบค่าเจ้านาย หนูจะพยายามทำงานให้ดีที่สุดค่ะ ” ฮานึลรับคำพร้อมทำท่าตะเบ๊ะอย่างทะเล้น

    “ ดี ชั้นจะคอยดู อย่าคิดว่าจะอู้ได้เพราะฉันให้คนจับตามองเธออยู่ ” แล้วเจ้านายก็เดินออกไป

    อู้ย คุณลุงมหาภัย งานง่ายๆขนาดนี้อะไรมันจะมากมาย ก่อนที่จะมีอะไรทำฮานึลจึงเดินสำรวจออฟฟิส ห้องว่างทำไมมันเยอะนักนะ ถ้าขอมาอยู่เค้าจะให้ไหมน้าาฉันเดินพรางครุ่นคิดก่อนจะหันมาถามพี่สาวสไตล์ลิส

    “ พี่ไอริสคะห้องว่างพวกนี้ฉันขอเข้ามาอยู่ได้ไหมคะ? ” ฮานึลถามเสียงอ่อนเสียงหวาน

    “ ได้สิทำไมจะไม่ได้หล่ะ พี่ก็อยู่ที่นี่แหละ เพราะไม่ค่อยมีเวลาได้กลับบ้านเท่าไร... งานเยอะนะที่นี่หน่ะ มีออกนอกสถานที่บ่อยๆด้วย ” พี่ไอริสตอบพร้อมส่งยิ้มน่ารักกลับมา

    “ งั้นฮานึลขอมาอยู่ที่นี่ด้วยคนนะคะ ”

    “ ได้สิจ้ะ แล้วพี่จะบอกเจ้านายให้นะ ” พี่ไอริสว่าอย่างใจดี

    “ ขอบคุณมากค่ะ ดีจังเดี๋ยวคืนนี้จะขนของมาให้หมดเลย ฮิฮิ ” มีบ้านฟรีอยู่แล้ววุ้ย หุหุ

    ประมานสิบโมงกว่าๆ ก็เกิดความโกลาหลเกิดขึ้นหน้าบริษัท ฮานึลจึงวิ่งไปดู ภาพที่เห็นคือชายหนุ่มหน้าตาดีหลายคนค่อยๆ เดินเข้ามาอย่างช้าๆ พร้อมด้วยรอยยิ้มสดใส เห.. หน่ะ..นะ...นั่นนั่นมัน super junior นี่นา โอ้ยยย.. วันนี้โชคดีอะไรแบนี้เนี่ย ได้ทำงานกับไอดอล แอร้ยยยยย.. .แค่คิดก็เขินแล้ว’  ฮานึลมองชายรูปงามเดินผ่านไปคนแล้วคนเล่า ทุกคนล้วนแล้วแต่มีออร่าที่งดงามบอกไม่ถูก มันเป็นอะไรที่มีแรงดึงดูดมาก แต่อยู่ๆ ก็มีเด็กผู้หญิงคนนึงไม่รู้ว่ามาจากที่ไหน   วิ่งเข้ามากอด แล้วกระโดดหอมแก้มทุกคนและวิ่งจากไป ที่แปลกก็คือ ไม่มีหนุ่มคนไหนตกใจกับการกระทำนั้น ฉันไปสอบถามจากพี่ไอริสก็รู้ว่าเด็กคนนั้น เป็นลูกสาวของเจ้านายเธอชอบ SJ มากเป็นพิเศษจึงมักจะทักทายแบบนี้เป็นประจำทุกวัน ‘ เด็กอะไรมันจะ น่าอิจฉาปานนั้น ’

    “ สวัสดีค่ะ ฉันชื่อฮานึล อายุ 24 ปี จะมาทำงานตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ ”

    เงียบ... เอ่อ.. สงสัยไม่ได้ยิน เอาใหม่

     “ สวัสดะ.... ” เพิ่มระดับเสียงขึ้นอีก

    “ หนวกหู! ได้ยินแล้ว เงียบซะทำงานของเธอไป ” จะเป็นใครไปได้นอกจากคิมฮีชอล ที่เค้าว่ากันว่าเป็นคนสี่มิติ เดาทางเค้าไม่ได้คนนี้ พี่ฮีเป็นคนสวย จะว่าสวยจนพวกเราที่เป็นผู้หญิงต่างต้องอายเมื่อไปเทียบกับพี่เขา

    “ เอ่อ ข..ขอโทษค่ะ “ ฮานึลก้มหัวขอโทษอย่างตกใจ

    “ ทำไมพี่ไปพูดกับฮานึลแบบนี้ล่ะ ยินดีที่รู้จักนะครับฮานึล ผมซีวอน ” ซีวอนพูดพลางส่ายหน้าระอาแบบยิ้มๆ ให้ฮีชอลก่อนจะหันมาแนะนำตัวกับฮานึล ว้าวววววๆ พ่อพระเอก ใจดีมีเมตตามนุสัมพันธ์ดี

    “ คนนั้น พี่ชินดง ทงเฮ ฮยอคแจ เรียวอุค คยูฮยอน พี่เยซอง คิบอม ทางนั้นฮันเกิง ที่แก่หน่อยตรงโน้นก็พี่อีทึกเป็นหัวหน้าวง.. เอ้าพวกนาย น้องคนนี้ชื่อฮานึลจะมาทำงานตั้งแต่วันนี้ ” ซีวอนแนะนำฉันให้เหล่าเมมเบอร์ได้รู้จัก ทีละคน

    ฟุบ.. ทุกสายตาหันมามอง

    “ เอ่อ.. ส.. สวัสดีค่ะ ฮานึลค่ะ ยินดีที่รู้จักนะคะ “ ฉันก้มหัวแนะนำตัวอย่างประหม่า ทำไมเขาช่างเป็นคนดีมากมายขนาดนี้นะ ปลื้มค่ะ วันนี้แม้ฮานึลยังรู้จักไม่ครบทุกคนแต่รอบตัวฮานึลก็มากไปด้วยผู้ชายหน้าตาดี.. สบายใจค่ะ แต่งานจริงๆก็หนักใช่ย่อยเลยนะเนี่ย.. เอาวะ! เพื่อความสุขของตนเองและครอบครัว(เกี่ยว?)ฮานึลต้องอดทน ฮึบ!  ฮ่าๆ


    วันนี้ฮานึลตื่นนอนแต่เช้าเข้ามาทำความสะอาดห้องหลายๆ ห้องในตึก แต่สักพักก็ได้ยินเสียงแปลกๆดังมาจากอีกฟากของตึก ตายล่ะ! เช้ามืดแบบนี้อาจจะโดนผีหลอกหรอเนี่ยตายๆ แต่อยากรู้อ่ะ... ขอไปดูหน่อยแล้วกัน  ‘ ฮานึลพยายามหาที่มาของเสียงแม้จะกลัวอยู่บ้าง เธอค่อยๆเดินไปตามทางเดินที่มืดสลัว เท้าที่ก้าวออกไปแต่ละก้าวยิ่งเพิ่มความกลัวขึ้นจับใจ จนในที่สุดเสียงก็มาหยุดอยู่ที่ห้องซ้อม เธอกลั่นใจก่อนจะแนบหูเข้ากับประตูห้องซ้อม

    “ พี่ครับ อย่าจับตรงนั้นสิ อะ โอ้ยยย! เจ็บนะ! เบาๆ หน่อยสิครับ ”

    “ นายก็อยู่นิ่งๆ สิ ดิ้นไปดิ้นมาอยู่ได้ อยู่นิ่งๆจะได้ไม่เจ็บ ”

    เอาแล้วไงคะ! เสียงนี้... ถ้าจำไม่ผิดนี่สองคนที่ไม่อยู่เมื่อวานนี่นา... งั้นขอดูหน่อยแล้วกันนะ ฮานึลค่อยๆแง้มประตูเข้าไป.... พลั่ว! เธอลงไปกองกับพื้น อายค่ะอาย อยากที่จะแทรกแผ่นดินหนี

    “ เธอเป็นใครมาทำอะไรที่นี่ ” เสียงนุ่มๆ ดังขึ้นเหนือหัวฮานึลอย่างตกใจ

    “ เอ่อ... ฉะ ฉันฮานึลเป็นพนักงานใหม่ของที่นี่ จะมาทำความส...สะ ” ฉันบอกพลางก้มหน้าก่อนที่จะค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมามอง.... ผ.. ผะ.. ผู้หญิงไม่ใส่เสื้อ!.. ผ.. ผะ.. ผู้หญิงไม่มีหน้าอก! ผ.. ผะ.. ผู้ชายนี่นา! ’  

    “ ว้าย ทำไมค..คุณ..ไม่ใส่เสื้อหล..หล่ะคะ?! แล้วเมื่อกี้.. ฮานึลได้ยินเสียงแปลกๆ คุณสองคนกำลังง... ” ฉันพูดพลางปิดตาหน้าแดง

    “ หยุด! เธอไม่ต้องคิดต่อ มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิด และผมก็ไม่จำเป็นจะต้องอธิบายให้เธอฟัง  ถ้าจะทำความสะอาดก็เข้าไปทำ ผมจะไปแล้ว ” แล้วผู้ชายหน้าหวานก็เดินออกจากห้องไปพร้อมกับชายหนุ่มรูปงามอีกคนที่ไม่ใส่เสื้อ ฮานึลมองตามตาค้าง  หน้าตาก็น่ารักแต่คำพูดของเธอช่างบาดจิตใจจริงๆ ซองมินฉันจะไม่ลืมคำพูดเธอของเลย

    ช่วงบ่ายฮานึลต้องไปช่วยพี่ไอริสจัดเสื้อผ้าคอสตูมของหนุ่มๆ SJ

    “ นี่ใครจัดชุดนี้ให้ผมเนี่ย ไม่มีเซ้นท์เอาซะเลย มันต้องแบบนี้ เสื้อสีชมพู กางเกงแดง หมวกชมพู ต้องแบบนี้เห็นไหมเจ๋งจะตาย ” หนุ่มหน้าหวานพูดออกมาก่อนที่จะยิ้มอย่างพอใจกับชุดที่ตนจัด

    “ เนี่ยนะเจ๋ง?! คนบ้ายังไม่อยากจะใส่เลย ” ฉันบ่นอุบอิบ 

    “ ว่าไงนะ?! เธอกล้าดียังไงมาบอกว่าแฟชั่นสุดฮิตของผมไม่ดี เธอ! คนเมื่อเช้านี้ เป็นเด็กใหม่ยังทำเป็นพูดดีอีก ”ซองมินชี้หน้าบ่น

    แหนะ ขนาดบ่นยังจะได้ยินอีก หูดีเป็นบ้า ฉันคิดพลางยกมือขึ้นเท้าเอว

    “ หืม.. มันจะมากเกินไปแล้วนะมาว่ากันได้ไง?! นายไม่รู้ตัวหรือไงว่า นั่น! ที่เรียกว่าเจ๋งของนายอะ มันเป็นอะไรที่ทำร้ายคำว่าแฟชั่นมากกกก ไม่เชื่อนายลองถามทุกคนดูสิ รู้ตัวเองซะบ้างเถอะไม่มีคนบอกเลยไม่รู้ตัวหรือไงกัน คอมมอนเซ้นท์นี่ไม่มีเลยคนอะไร ” ฉันจึงตอกกลับเป็นชุด

    “ เธอออ! กล้าดียังไง?! ผมอายุมากกว่านะทำไมถึงพูดจาแบบนี้ ไม่รู้จักวัฒนะธรรมของคนที่นี่หรือยังไง?!

    “ หยุด!!!! จะเถียงกันทำไมเนี่ย ซองมิน ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ฮานึล ทำงาน!!!!!!” พี่ทึกตะโกนอย่างเหลืออด

    “ ขอโทษค่ะ ” ฉันขอโทษเหล่าเมมเบอร์ก่อนที่จะแจ้นไปทำงาน ฟิ้ว~

    วันนั้นทั้งวันฮานึลได้แต่ตั้งใจทำงาน กลัวโดนดุ ทำตัวดี ทำตัวน่ารักไว้ก่อน

    “ วันนี้งานหนักหน่อยนะ ” เสียงนางฟ้าพูด ฉันจึงช้อนตาขึ้นมอง แลเห็นลักยิ้มนางฟ้าจึงตาพร่าเล็กน้อย

    “ ไม่หรอกค่ะ ฮานึลต่างหากที่ทำให้ลำบาก วันนี้ต้องขอโทษด้วยนะคะ ” ฉันกล่าวพลางก้มหน้า

    “ ไม่ พี่ต่างหากที่ต้องขอโทษ พอดีวันนี้พี่อารมณ์ไม่ดีนิดหน่อยเลยพาลหงุดหงิดใส่เธอ พี่ขอโทษจริงๆนะ ”

    “ โอ้ยทำไมพวกพี่เป็นคนดีกันจัง ขนาดคนบางคนยังไม่มาพูดกับหนูดีดีเลยซักครั้ง ” ฮานึลพูดแขวะหันไปทางชายหนุ่มหน้าหวานที่ตนกำลังพูดถึง ชิ้ง เหมือนสายตาปะทะกันขนเริ่มลุกซู่เหมือนกับตอนที่ถูกผีอำ(ทั้งๆที่ไม่เคย ฮ่าๆ) แล้วซองมินก็สะบัดหน้าหนี

    “ งั้นวันนี้เพื่อเป็นการไถ่โทษ ไปหาอะไรกินกับพวกเรานะ ”

    “ ไม่นะ! พี่ทำไมต้องพายัยนี่ไปด้วยล่ะ ผมไม่ให้ไปนะ! ” ซองมินโวยวายขึ้นทันทีที่ได้ยิน

    “ งั้นนายก็ไปหาอะไรกินเองคนเดียวไม่ต้องไปกับพวกพี่สิ ” พี่ทึกหันไปบอกกับซองมิน ซองมินเจอประโยคนี้ถึงกับอึ้งตาค้างแต่ก็ยอมสงบลงนั่งบ่นอุบอิบให้ดังเป็นระยะ

    “ ค่ะ ” ฮานึลตอบพี่ทึกพร้อมกับยิ้มหวาน แล้วพี่ทึกก็จับแขนพาไปหาเหล่าเมมเบอร์ที่กำลังยืนรออยู่ที่หน้าบริษัท

    พี่ทึกพาฉันไปเลี้ยงหมูสามชั้น มันเป็นอะไรที่สุดยอดมาก เมื่อไปกินอาหารกับหนุ่มหล่อ อะไรมันจะมีความสุขขนาดนี้ ’  ฮานึลก็จัดเต็มและจัดหนัก ทั้งกินทั้งถ่ายรูป ถือโอกาสตีซี้กับทุกคนไปในตัว ฉันถ่ายรูปเล่นนั่นนี่ซะจนเมมเต็ม แล้วฉันก็แอบไปเอามือถือนายซองมินมาถ่ายรูปเล่นด้วย กร้ากกก แก้แค้นเล็กๆ น้อยๆ นี่แหนะเอาเป็นรูปขึ้นวอล์ด้วยเป็นไง  ควันได้ออกหูแน่นายอ้วน หึหึ  หลังจากนั้นคนอื่นๆ ก็กลับบ้าน มีพี่ฮันกับซีวอนไปส่งฉันที่บริษัท เราสามคนคุยกันอย่างถูกคอ

    “ วันนี้ขอบคุณมากนะคะ ฝากขอบคุณทุกคนด้วย ฮานึลแฮปปี้มากเลยค่ะ แล้วเจอกันนะคะ ” ฉันกล่าวขอบคุณก่อนจะส่งเมมเบอร์ทั้งสองที่ขับรถกลับลาลับสายตาก่อนที่จะเดินขึ้นห้อง

    นี่คือจุดเริ่มต้นชองฮานึลที่นี่ค่ะ แล้วนี่ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว หลายๆ คนอาจถามว่าแล้วทำไมยังอยู่ยังใช้หนี้ไม่หมดหรอ? ไม่ใช่หรอกค่ะ แต่มันไม่มีที่ไปต่างหาก ฉันจะอยู่ให้ที่นี่เป็นบ้านเชียวค่ะ


    ปัจจุบัน

    “ หยุดเดี๋ยวนี้น้า ยัยตัวแสบ!! ” เสียงซองมินดังไล่หลัง

    “ คิดหรือไงว่าเค้าจะหยุด ไม่มีทางซะล่ะ แบร่ “ เจ้าของเสียงตะโกนวิ่งไปหลบหลังหนุ่มรูปงามนามว่าฮีชอล

    “ พี่จ๋า ช่วยน้องด้วยนะคะ พี่อ้วนเค้ารังแกหนู หนูแค่เดินผ่านเค้าก็วิ่งไล่หนูแล้ว ” ฮานึลฟ้อง พี่ฮีมองฉันด้วยสายตาที่ติดจะรำคาญหน่อยๆ ฮานึลจึงรีบบอกออกไปว่า

    “ หนูกำลังจะไปหาป๊ะป๋าขา พี่พาหนูไปส่งหน่อยนะคะ นะคะ นะคะ ” ฉันเริ่มอ้อน

    “ วุ่นวายจริงๆไปเองไม่เป็นหรือไง ”  พี่ฮีพูดเสียดัง

    “ พี่ไปส่งหน่อยนะคะ ไม่งั้นพี่อ้วนเค้าต้องตามจิกกัดหนูไปตลอดทางแน่เลยอ่ะ ถ้าพี่ไปส่งเค้าจะซื้อขนมให้กิน พาไปส่งหน่อยนะคะ น้านะนะน้า ” ในเมื่ออ้อนธรรมดาไม่ได้ผลก็ต้องหาของกินมาล่อด้วย

    “ ฉันไม่ใช่ชินดงนะเอาของกินมาล่อเนี่ย ยัยเด็กนี่... เอาช็อกโก้บอลนะ เอามาซักครึ่งโหล เอ้า! ยืนอยู่ทำไม มาเร็วสิ ฉันยังมีงานต่อนะ ชักช้าอยู่ได้”  ฮีชอลบ่นอย่างรำคาญ แต่ก็ยอมตกลง

    “ ค่า มาแล้วค่าพี่ฮีสุดสวย ” ฮานึลรีบวิ่งตามฮีชอลไปก่อนจะหันไปแลบลิ้นปลิ้นตากับร่างอวบ แบร่

    “ ฝากไว้ก่อนเถอะ ” เสียงซองมินบ่นออกมาให้พอได้ยิน

    คิคิ คิดแล้วฉันก็หัวเราะ

    “ เป็นอะไร? ” พี่ฮีชอลถามอย่างสงสัย

    “ ไม่มีอะไรค่ะ แค่อารมณ์ดี อิอิ รักพี่ฮีจังค่ะ กร้ากกกก “ ฉันบอกพี่ฮีชอลก่อนที่พี่จะมองมาแล้วทำหน้าประมาณว่า ยัยเด็กนี่ท่าทางจะบ้า

    “ ป๋าขา ฮานึลมาแล้ว มีอะไรให้รับใช้คะ ” ฉันลากเสียงยาวมาตั้งแต่เปิดประตูเข้ามาในห้อง

    “ หืม ท่าจะอารมณ์ดีมากนะเนี่ย วันนี้เราต้องตามซองมินไปจัดคิสนะ เข้าใจไหม ” ฮันเกิงบอกอย่างอารมณ์ดี

    “ แล้วทำไมต้องเป็นฮานึลล่ะคะ คนอื่นไม่มีแล้วหรอ ” ใบหน้าที่เปื้อนยิ้มของฉันเริ่มสลดลงอย่างช้าๆ

    ” คำสั่งเจ้านาย โอเคไหม ” พี่ฮันย้ำอย่างรู้ทัน

     “ แต่ว่าฮานึลไม่อยาก... “ ฮานึลกำลังจะอ้าปากบอกปฏิเสธ

    “ คืนนี้พี่ไปด้วย เดี๋ยวพี่เป็นโล่ให้ แบบนี้จะไปได้รึยังคะ ” พี่ฮันออกตัวอย่างทะเล้นก่อนที่ฮานึลจะงอแงไปมากกว่านี้

    ไปค่ะ รักป๋าที่สุดเลย ” ฉันกระโดดกอดพี่ฮัน

    โอ้ยยยยยย นี่ก็ปาเข้าไปสามทุ่มแล้ว การนั่งเฉยๆ มันง่วงมากกกกกกกกกกกกกกก เอาไงดีเรา... จะว่าไปตอนทำงานอีตาซองมินก็ดูเทห์ดีนี่นา คิคิ แต่ปากเนี่ย คนสวยรับไม่ได้ค่ะ ไม่เอาๆ เลิกคิดๆ นอนดีกว่า ราตรีสวัสดิ์ค่ะทุกคน ฉันเอนหลังและเริ่มเข้าสู่นิทรา

    คร่อก ZZzzz……….

    งืมมๆ ...มิน ฉันชอบคุณ ”

     เพลง

     

    “ ฮานึล! ฮานึล!! เธอฝันบ้าอะไรของเธอ?! ยัยฮานึล! ตื่นนนนน! ไปกันได้แล้ววววววววววววว ” ซองมินตะโกนกรอกหูพร้อมเขย่าตัวฉัน

    “ ว๊ายอะไรกันเนี่ย!? นายบ้าไปแล้วหรอ จะเอาตายเลยไง อีตาบ้า! ” ฮานึลสะดุ้งตื่นและโวยวายอย่างขวัญเสีย

    “ เธอสิบ้า! ถ้าไม่ลุกจะปล่อยให้นอนตายตรงนี้ซะเลย เลิกงานแล้ว กลับบ้าน ”

    “ หืม.. เสร็จแล้วหรอ เย้! กลับบ้านนอนๆ ง่วงมากเลยอ่ะ ปะปะ รีบไปกันเถอะ... แล้วป๋าล่ะ ป๋าไปไหนอ่ะ ”

    “ หืม.. พี่ฮันเค้าไปห้องน้ำจะตามไปไหมหล่ะ เธอไปรอที่รถโน้น ”

    ฉันจึงเดินไปรอที่รถก่อนพอมาถึงรถก็มุดเข้าไปคนแรก พี่ฮันกับพี่มินค่อยเดินมาพร้อมกัน ทั้งคู่คุยกันกระหนุงกระหนิง เอ๋ มันยังไงๆกันล่ะคู่นี้ จะมาเป็นโล่หรือมาสวีทกันแน่เนี่ย  พี่มินขึ้นรถมาก่อนหวังที่จะนั่งเบาะหน้า แต่พี่ฮันก็ดันมินเข้ามาเบาะที่ฉันนั่งอยู่ ถึงจะไม่ชอบก็ต้องนั่งกันไปก่อน ระหว่างทางกลับบ้าน รถติดมาก ไม่รุ้ว่าจะติดไปไหนนี่ก็ครึ่งชั่วโมงแล้วแต่รถยังไม่ขยับไปไหนเลยฉันจึงตัดสินใจหลับ ระหว่างที่หลังด้วยแรงโน้มถ่วงของโลกก็พาให้ หัวของฉัน และไหล่ของซองมินได้พบกันในที่สุดเพียงไม่นาน หัวพี่มินก็ได้แรงเหวี่ยงของการเลี้ยวโค้งชักนำมาให้พบกับหัวของฉัน คิคิ พี่ฮันยิ้มในใจพร้อมหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปประวัติศาสตร์นี้

    อาทิตย์หนึ่งที่ผ่านมาฉันทำแต่งานจนหัวปั่น บริษัทนี้ใช้คุ้มจริงวุ้ย วันนี้ต้องไปช่วยพี่ไอริสในสตูที่ SJ ถ่ายแบบกับนางแบบสาวสวย แต่สาวมาไม่ได้ ฉันเลยต้องเป็นตัวตายตัวแทน นางแบบจำเป็นมาแล้วววว ฉันโดนพี่ไอริสลากไปแต่งโน้นทานี่อย่างสนุกมือ

    “ ไม่ต้องแต่งมากก็ได้นะพี่ไอริส ยังไงก็ไม่เห็นหน้าฮานึลอยู่แล้ว ” คยูฮยอนที่มีฉายาว่าคิมกูราแห่ง SJ พูดอย่างร้ายกาจ

    “ ไม่ได้หรอกค่ะ ยังไงก็ต้องเนี้ยบไว้ก่อนจะให้พลาดไม่ได้ ไม่มีเวลาแล้ว ” เอ๊ะยังไงเนี่ยนี่คือชม?

    “ โอ้โห นี่ใครเนี่ย ใช่ยัยเปิ่นฮานึลหรอ คนงามเพราะแต่งจริงๆ นะเนี่ย ” พี่หมีคังอินแซวอย่างสนุกสนาน พลางยิ้มกรุ่มกริ่มแบบกวนอารมณ์

     “ พี่อ่ะ! นี่จะชมหรือจะว่าน้องคะเนี่ย ” ฮานึลเอ่ยอย่างงอนๆพลางสะบัดหน้าไปอีกทาง

    บ่ายวันนั้นฉันง่วนกับการถ่ายรูปรวม พอถึงเวลาถ่ายรูปคู่ มีแค่ พี่ฮัน กับพี่มินที่ต้องถ่ายคู่กับฉันสองคน ทั้งคู่แสดงความเป็นมือโปรออกมาให้เห็นการถ่ายแบบจึงเสร็จไปอย่างรวดเร็วแม้จะมีข้อผิดพลาด (ซึ่งส่วนใหญ่เกิดที่ฮานึล) อยู่บ้าง แต่ภาพรวมก็ดูดีมากทั้งสองคน ทำเอาฮานึลหวั่นไหวเลยทีเดียว ต่อไปก็ถึงตาพี่หมีพี่ทึกถ่ายคู่กันเซ็ตคู่นี้เขาซี้กันแปลกๆ จะว่าแฟนเซอร์วิสก็ได้ล่ะมั้ง คนกรี้ดกันน่าดูเลยนี่นา

    “ ผู้หญิงคนเมื่อกี้นั้นใครกันนะ มันจะมากไปแล้ว ออกมาห่างๆ พี่มินนะ! ปล่อยไว้ไม่ได้หรอก คอยดูนะ!

    หลังจากถ่ายแบบเสร็จขณะที่ฮานึลกำลังเดินกลับห้องแต่งตัวก็แอบเห็น คยูฮยอน ยืนคุยกับเด็กผู้หญิงคนนึงตรงทางเดิน ซักพักมีการดึงเข้ามากอดด้วย ว๊าย มาเห็นอะไรเนี่ยฉัน คนถัดมาที่เห็นคือ ฮยอคแจกำลังง้อเด็กผู้หญิงอีกคน คราวนี้ฮยอคแจค่อยๆช้อนมือเข้าไปกอดเธอจากด้านหลัง โอ้ยยยย.. โรแมนติกอย่างกับในหนัง... ไม่เอาแล้วรีบไปดีกว่าเรา ภายในห้องแต่งตัวหญิงขณะที่กำลังเปลี่ยนชุดอยู่ๆก็มีเด็กกลุ่มหนึ่งประมาณสี่คนเข้ามาในห้องแล้วสาดน้ำใส่ฉันอย่างเต็มรัก

    “ ว๊าย! อะไรกันเนี่ยพวกเธอ ทำแบบนี้ทำไม ” ฉันถามอย่างไม่พอใจ เสื้อเชิ้ตสีขาวเมื่อโดนน้ำก็แนบเนื้อราวกับโปรงแสงเห็นถึงส่วนเว้าส่วนโค้งทุกส่วนของร่างกาย ฉันรีบหาผ้ามาคลุมก่อนที่ใครจะเข้ามาอีก

    “ เธอ อยู่ห่างๆจาก SJ อย่ามาเข้าใกล้พี่ๆของพวกเรานะ ” เด็กคนหนึ่งกล่าวออกมาอย่างทะนงตัว

    “ ฉันไปทำอะไรให้พวกเธอ ยัยเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม เธออายุเท่าไรถึงกล้าทำแบบนี้ เล่นไม่ซื่อนี่นา เข้ามาทีละคนเลยดีกว่าไหม พวกหมาหมู่ ” ฉันตะโกนใส่หน้ากลุ่มเด็กอย่างสุดจะทน และเริ่มท้าทายหัวโจกในกลุ่มนั้น ตอนนั้นเองเด็กคนนึงก็ กระโดดโถมตัวใส่ ทั้งตบ ตี ถีบ แต่ฮานึลก็ไม่ได้อยู่เฉย ตอบกลับไปอย่างสาสมเช่นกัน ซักพักเด็กๆเห็นท่าไม่ดีจึงรีบหนีออกไปก่อนที่จะมีคนมาเห็นเหตการณ์ สภาพฮานึลตอนนี้ ฟุบลงกับพื้นผมเผ้ากระเซิง น้ำยังคงหยดจากเสื้อไม่มีทีท่าว่าจะแห้ง หน้าตา เนื้อตัวฟกช้ำหลายแห่ง

    “ อะไรกันเธอเป็นอะไรไปเนี่ยจะไปเล่นหนังที่ไหนถึงได้แต่งตัวแบบนี้”  ซองมินล้อเมื่อเข้ามาเห็นแว๊บแรก “ หืม ทำเนียนนี่เหมือน... เฮ้ย! นี่เธอไปกัดกับหมาที่ไหนมาถึงสภาพเป็นแบบนี้เนี่ยใครทำเธ...... ” นี่คือคำถามสุดท้ายก่อนที่ฉันจะสลบไป ไม่รู้ว่านานเท่าไร ฉันรู้ตัวก็มานอนอยู่ที่ห้องแล้ว รอบเตียงรายล้อมไปด้วยซองมิน คยู ฮยอค ป๋า เจ้านาย และพี่ไอริส

    แหมะ แหมะ.. ฮืออออออ

    “ ฮานึลฟื้นแล้วพี่ ” ฉันได้ยินเสียงคยูฮยอนเรียก

    “ ฮานึลเป็นไงบ้าง?! รู้สึกดีขึ้นหรือยัง? ” ทุกคนพร้อมใจกันถามคำถามนี้กับฉัน

    “ ฉันไม่เป็นไรแล้ว แต่ใครพาฉันมาที่ห้องคะ? ” ฉันถามอย่างจับต้นชนปลายไม่ถูก

    “ ซองมินไปเจอเธออยู่ในห้องแต่งตัว ” พี่ฮันอธิบายให้ฟังคร่าวๆ หลังจากฉันฟื้นทุกคนก็กลับบ้านไปพักผ่อน ประมาณเที่ยงคืน ก็มีข้อความส่งเข้ามาในมือถือฉัน ….

    “ ตั้งแต่พรุ่งนี้ ผมจะเป็นคนดูแลฮานึลเอง ผมชอบเธอ คบกันนะ พรุ่งนี้ผมจะไปฟังคำตอบแต่เช้า ราตรีสวัสดิ์ครับ เจ้าหญิงน้อยของผม ”

    ฮานึลตกใจกับข้อความนั้นมาก รีบย้อนกลับไปดูว่าส่งมาจากไหน..  ซองมิน  เอ๊ะนี่มันยังไงกันเนี่ย?! หรือว่าเรากำลังฝัน เราคงเหนื่อยมากเกินไปจริงๆ วันนี้เจอมาหลายเรื่อง ภาพลวงตาแน่ๆ นอนดีกว่าเราแม้จะข่มตาหลับเท่าไร แต่ในหัวก็ยังคิดถึงเรื่องข้อความทั้งคืนจนแทบจะไม่ได้นอน

                    6:00 ก๊อกๆๆ แอ้ดดดด...

    เสียงเปิดประตูช้าๆ พร้อมกับเสียงการก้าวเดินเข้ามาใกล้ๆของใครบางคน ทำให้สาวน้อยที่แสนจะอ่อนเพลียตื่นจากราตรีอันแสนสั้น

    “ ฮานึล ตื่นได้แล้วนะครับ ผมมาขอรับคำตอบ ” เสียงกระซิบที่ริมหูทำให้สติเริ่มกลับมา ฮานึลลืมตาโพลง เด้งตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว จนทำให้หัวไปโขกกับคางของหนุ่มนิรนาม

    “ โอ้ย! อูยยยยย~ ค่อยๆ ลุกก็ได้ทำไมต้องเอาหัวมาโขกผมด้วยเนี่ย ” ชายหนุ่มโอดครวญ

                    “ ซองมิน ?!!!!!

    ” ใช่ผมเอง คุณจะตอบผมได้รึยังล่ะ คบกับผมนะครับ ” ซองมินนั่งลงตรงข้างๆ ขอบเตียงพร้อมกับกุมมือฉัน

    “ นี่ล้อกันเล่นหรอคะ ทำไมคุณ...? ” ฉันถามออกไปอย่างตกใจไม่คิดว่าเรื่องเมื่อคืนจะเป็นเรื่องจริง

    “ ผมไม่ได้ล้อเล่น ผมจริงจัง ผมไม่อยากเห็นคุณโดนใครทำร้ายเหมือนเมื่อวานอีกแล้ว... ผมจะดูแลคุณเอง ให้ผมเป็นคนดูแลคุณนะครับฮานึล ” ซองมินมองลึกเข้ามาในดวงตาฮานึลอย่างมีความหมาย

    ‘ ไม่ได้ล้อเล่นกันจริงๆนะคะ? ซ่อนกล้องหรือเปล่าเนี่ย จะแกล้งก็รอให้หายก่อนสิตอนนี้เค้าป่วยอยู่นะอย่าเล่นแบบนี้

    ซองมินดึงตัวฉันเข้าไปกอด  “ อ..เอ่อ ...พ... พี่ทำอะไรหน่ะ ”

    “ คบกับผมนะฮานึล ถ้าเธอไม่ตอบตกลงผมจะไม่ปล่อยคุณไปไหน ”

    พ... พี่ ต... ตกลงค่ะ ปล่อยฉันเถอะ คนเยอะแยะ ฉันก้มหน้างุดอย่างอายมากที่สุด เพราะภายในห้องตอนนี้ เต็มไปด้วยเหล่า SJ จะว่าไปก็มากันครบทีมทีเดียว

    เห็นกันแล้วนะฮะ นี่แฟนผม ผมหวง โอเค?! ” ทันใดนั้นความโกลาหลก็เกิดขึ้นทุกคนพากันล้อฉันกับซองมินกันอย่างสนุกสนาน

    .

    .

    .

    มาถึงตอนนี้เรื่องราวของฉันก็มีความสุขมากมายอย่างที่ไม่เคยคิดฝันมาก่อนแล้ว แล้วความรักของพวกคุณล่ะคะ ว่างๆ ลองมาเล่าให้ฉันฟังบ้างนะคะ ^^


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×