โง่แล้วอวดฉลาด.. - นิยาย โง่แล้วอวดฉลาด.. : Dek-D.com - Writer
×

    โง่แล้วอวดฉลาด..

    ผู้เข้าชมรวม

    260

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    260

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  15 พ.ค. 52 / 00:00 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    เปิดผนึกถึง เซียงแห่งผู้จัดการ โง่แล้วมาอวดฉลาดทำไมกัน
    ไอ้หมอนี่มันโง่จริง ไม่เชื่อผมท่านตัดสินใจเอาเอง ในบทความอำลาการเขียนของเซียงไปทำภารกิจลับ เขาเขียนไว้ว่า ระบอบอำมาตรตายไปแล้ว และระบอบทุนการเมืองก็ตายไปแล้ว ระบอบอำมาตรตายเพราะ คมช ส่วนระบบ ทุนการเมืองตายเพราะทักษิณ และที่ตายไปนี่หมายความว่าอะไร เซียงเขาสรุปก็เพราะว่า ตายเพราะคนชั้นกลาง และชนชั้นที่เปิดตัวเอง ต่อข่าวสาร เขาไม่เอาทั้งสองอย่างนั่นแล้ว และ ตอนนี้คนพวกนี้ กำลังค้นหา ทางเดินใหม่ โอยมันจะเป็นเวรเป็นกรรมของไทยไปอีกนานขนาดไหนกัน ที่นักข่าวที่ขึ้นชื่อที่สุดของผู้จัดการ คนที่ฝ่ายพันธมารฟังทั้งเมือง คนที่มีผลกระทบต่อความคิดของคนมากมาย มาอย่างยาวนาน ยังพูดอกมาได้ว่าระบอบอำมาตรมันตายไป เพราะคนชั้นกลางที่เปิดตัวเองแก่ข่าวสาร ผม ไม่ปลื้มไม่เปรมด้วย
    ในทางกลับกันอย่างสิ้นเชิง สิ่งที่เซียงเขียน มันทำให้เห็นได้ชัด ว่าระบอบอำมาตรมันยัง มั่นคงค้ำฟ้า ก็เพราะอะไรหรือครับท่านผู้อ่าน ก็เพราะเซียง พี่แกเล่นเอาอนาคตชาติ และสิ่งที่จะเกิดขึ้น ไปวางไว้บนบันไดของคนชั้นกลางของกรุงเทพอีกแล้ว โง่แรกของเซียง คือลงมันยกย่องคนชั้นกลางกันขนาดนี้นะ ให้มันเหนือคนอื่น แล้วระบอบอำมาตรมันจะตายไปได้ยังไง คือระบอบอำมาตรมันจะตายไป เวลารากหญ้าเป็นใหญ่ในแผ่นดินเท่านั้นพี่เซียง
    โง่สองของเซียง คือถามจริงๆเถอะพี่เซียง คนชั้นกลางในกรุงเทพ ที่เป็นศูนย์รวมข้าราชการไทย และรัฐวิสาหกิจ และการศึกษาในกลุ่มชนชั้นกลางในกรุงเทพนะ มันมีข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ แจมอยู่ด้วยสัก 50%ได้ไหม
    โง่สามของเซียง แล้วมันจะตายไปได้อย่างไร ทางปรัชญานะ ระบอบอำมาตรมันคือระบอบที่แบ่งชนชั้น แล้วให้พวกระดับสูงของสังคมนะ บริหารบ้านเมือง เพราะถือกันว่า รู้ดีที่สุด คือมันไม่ใช่ประชาธิปไตย ที่เห็นทุกคนเป็นเจ้าของประเทศ ไม่มีแบ่งชนชั้น เสียงข้างมาก จะมาจากไหน ปกครองไป แต่นี่พี่เซียงเล่นเอาอนาคตชาติ ทั้งกระบิ ไปวางไว้กับชนชั้นกลาง แบบไม่สนใจรากหญ้า สรุปคืออะไรหรือครับท่านผู้อ่าน
    โง่ที่สี่ของเซียง แล้วแหมขอขอบคุณมากที่อุตสาห์อธิบายให้ฟังว่าระบอบอำมาตรคืออะไร แต่พี่เซียงช่างเลือกเหลือเกินนะ ว่าจะเอาตรงไหน ในตำรานะ ทั้งกระบินะแบบไม่เลือก ที่เขียนมานานแล้วแบบของอาจารย์ปรีดี ท่านบอกว่า ระบอบอำมาตรรวมถึง สมุน คืออำมาตรนะ มีในจำนวนที่น้อยนิด เลยต้องอาศัยพลพรรค คือ สมุน แล้วแบบชนชั้นกลางในกรุงเทพ ที่เส้นสายข้าราชการกันตรึม ที่เซียงยกให้เป็นชนชั้นผู้นำนะ เป็น สมุน ใครส่วนมาก เท่าที่เห็น มันก็สมุนอำมาตรทั้งนั้น แต่ละคน รอคิวรวย รอคิวใหญ่โต รอคิวเป็นอำมาตรทั้งนั้น แทบจะไม่มีเลย ชนชั้นกลาง ที่ไปอีกทาง คือ ลงรากหญ้าแทน เป็นสมุนคนจน
    โง่ที่ห้าของเซียง สรุปคือเซียงยังสลัดคราบของระบอบอำมาตรไม่ได้ โดยตัวเองเลย คือยังยกย่องคนชั้นกลากให้เป็นอภิสิทธิชน เหนือชนชั้นอื่น ซึ่งก็หมายความว่ายังมีคราบของอำมาตรติดตัวอยู่ แล้วยังจะมีหน้ามาวิเคราะห์ โน่นด่าไปถึง ใครต่อใครที่ออกมาต่อต้านเผด็จการ แบบยอมถูกตีหัว ยอมเข้าคุก แบบนปก ว่าเขาพูดถึงระบอบอำมาตรเพราะจะเอามาปลุกผีระบบทุนธนาธิปไตย หรือระบบทุนในประชาธิปไตย นี่มันบ้าหรือเปล่าว่ะ อยู่ไปกล่าวหาคนที่ ยอมถูกทหารกระทืบแล้วไปนอนในคุก เพื่อต่อสู้กับเผด็จการ คมช เลยเถิดถึงกับด่าเขาว่า โจมตีระบอบอำมาตรเพื่อปลุกมันขึ้นมา
    โง่ที่หกของเซียง โถ่พี่เซียง เห็นบ้างหรือเปล่าเอกสารลับ ไม่รู้จะกี่อันของทหาร อ่านบ้างหรือเปล่า กฎหมายความมั่นคง แล้วเห็นไหมคนบอกว่าให้ ใช้ รธน ฉบับ หัวคูณไปก่อน ไม่ต้องไปแก้ไข แล้วไอ้สองสามตัวอย่างที่มันกำลังเกิดขึ้นนี่นะ มันบอกหรือว่าระบอบอำมาตร ตายไปแล้ว
    ผมนะเขียนมาปีกว่าแล้วนะ ว่าภายในปีเดียวคอยดู พันธมารกับ คมช จะ ตีกันเองชนิดมันหยด แล้วไง ก็ตีกันเองจนได้ มาวันนี้ผมก็จะบอกว่า ไอ้ที่เซียงออกมาบอกว่าระบอบอำมาตรมันตายไปแล้วนะ ก็เพราะ อารมณ์โกรธ ของเซียงมันบังตาเซียงอยู่ คือเซียงอยากให้มันตาย เพราะตอนนี้เกลียด คมช เข้าใส้ พอๆกับทักษิณ เลยออกมาส่งมันลงนรกไปเลย ด้วยการบอกว่ามันตาย แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันกำลังจะเกิดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่
    สรุปคือผมตรงกันข้ามกับเซียง ไม่ได้มองว่ามันตาย แต่กำลังจะเกิดอย่างยิ่งใหญ่ และที่ทำให้แผนกำลังจะเกิด อย่างยิ่งใหญ่มันมีปัญหา ก็เพราะคนเขาต่อต้านกันทุกรูปแบบ ไม่ได้เป็นแบบเซียง ที่มาบอกว่าตายไปแล้ว ไม่ต้องไประวังหรือกลัวหรือทำอะไร เหมือนเซียงแนะนำนะ
    สุดท้ายเรื่องทุนธนาธิปไตย ก็คือทักษิณ แน่ใจว่าตายไปแล้วหรือ เห็นผู้จัดการชอบเอาโพลที่สนับสนุนจุดยืนตัวเอง มาอ้างถึงความจริง แต่บังเอิญโพลที่ผู้จัดการไม่เขียนถึง มันก็ออกไปอีกทางหลายอันแล้วนะ คือมันบ่งบอกว่า สมัคร กำลังมาแรง แล้วถามจริงๆเถอะ อ่านข่าวของตัวเอง คือผู้จัดการ เรื่องทุ่มเงินกันขนาดไหนบ้างหรือเปล่าในการซื้อตัวคนกันนะ แล้วใครซื้อส่วนมาก แล้วนโยบายนะ ของทักษิณนะ ที่ด่าว่ามันเป็น ทุนธนาธิปไตยนะ คือทุนซื้อหมดทุกอย่างที่ขวางหน้า มันจะตายไปได้ยังไง เพราะ ทุกพรรคมันเอาประชานิยมหมด แบบนี้ ก็เอาหนึ่งมาบวกหนึ่งดูเอาเองสิ ซื้อตัวสสกันแหลก บวกประชานิยมทุกพรรค แถมมีนอมินี คมช เข้า ปชป กันเป็นแถว แบบนี้มันมีอะไร ตาย บ้าง
    สุดท้าย ก็ดีใจที่บอกว่าทางที่ดีกว่ากำลังเกิดขึ้น คนไทยกำลังมองกันอยู่ ฟังดูดีนิ แต่รากเหง้าของสิ่งนี้นะ มันเห็นได้ตรงไหนหล่ะ จริงๆแล้ว มันไม่มีให้เห็นเลยว่ามันจะเกิด เพระมันไม่มีจริงๆ ทุกพรรคมันเกือบจะเหมือนกันไปหมดทางนโยบาย และการซื้อสสเข้าพรรค มันมีแต่ประวัติศาสตร์เท่านั้น ในการต่อสู้และปรัชญาหลัก ที่แตกต่างกัน แล้วมันก็เห็นว่ามีสองขั้ว ปชป ที่เป็นนักการเมืองมืออาชีพ อะไรก็ได้ทั้งนั้นเผด็จการก็เลีย ประชาธิปไตยก็ได้ถ้าไม่ทำให้ตัวเองมีปัญหา คือขอเป็นรัฐบาลอย่างเดียว แล้วก็ปรัชญา ประชาธิปไตยของ พปช จะทุนธนาธิปไตย หรืออะไรก็ตาม มันก็ยังเป็นประชาธิปไตยมากกว่าของคนอื่น
    โง่ที่เจ็ดของเซียง สรุปคือมันไม่มาร์คโดยมีอำมาตรครอบงำ ก็สมัครและทุนธนาธิปไตย แล้วอย่างนี้มีอะไรตายไปบ้างหล่ะ แล้วแหม คล่องตัวเหลือเกินนะ จากจ้องล้มทักษิณ บอกทักษิณออกไป ปัญหาชาติหมด มาตอนนี้ พุ่งการสร้างเป้าใหม่ ไปที่ ทุนธนาธิปไตย ของอำนาจเก่าเลยนะ แบบจากทักษิณออกไป กลายเป็นทุนธนาธิปไตยออกไป ยอดเยี่ยมในการปรับปรุงตัวให้มันมีศัตรูต่อเนื่องได้รวดเร็วจริงๆนะ
    แต่มันก็อีก สุดงี่เง่าของเซียง บอกอำมาตร และ ทุนธนาธิปไตยตายไปแล้ว แล้วไอ้ผู้จัดการและสมุน ยังออกมาต่อต้านสมัครทำไมกันหละ จริงไหมพี่ มันตายไปแล้ว แสดงว่าสมัครไม่เกี่ยวไม่ใช่ทุนธนาธิปไตย แล้วยังออกมาต่อต้านเขาทำไมกันพี่ คือบอกมาสิว่าสมัครเขาเป็นอะไร เอาถ้าไม่รู้เพราะโง่จริงจะบอกให้ เขารักในหลวงมาก เขารักวัฒนธรรมไทยมาก แบบเด็กต้องเคารพผู้ใหญ่แบบอำมาตรชอบนะ
    โอยเวรกรรมไอ้เพื่อนผมที่บอกให้เข้ามาอ่านเซียงอำลาโลกจริงๆ นึกว่าจะได้อะไร ที่ไหนได้ ครั้งสุดท้ายที่อ่านเซียงเมื่อปีกว่าที่แล้ว กับวันนี้ มันก็ยังโง่เหมือนเดิม อ่านแล้วไม่ได้อะไรเลยจริงๆ
                 คนไทยคนไหนไม่ได้เกิดมาเป็นผู้ใหญ่พอที่จะเข้าใจว่าอะไรกำลังเกิดขึ้นในไทยนั้น น่าเสียดายจริงๆ พวกเราคนที่มีส่วนในการต่อสู้ครั้งนี้ รับรองได้ ผมจะออกมายังไงก็ตาม ลงประวัติศาสตร์ไปแล้ว ว่าเลื่อนไหวอยู่ในช่วง ที่มันเป็น ยักษ์ ของประวัติศาสตร์ จริงๆ มันเป็นสามปรัชญา อันยิ่งใหญ่ที่ต่อสู้กัน ชนิดเอาอณาคตของชาติ อีกเป็นสิบๆปี วางไว้เป็นเดิมพัน สามปรัชญานั่นก็คือ ปรัชญาการเมืองของนักการเมืองมืออาชีพ คือพรรคปชป เผด็จการก็ได้ ประชาธิปไตก็ดี ขออย่างเดียว มีส่วนแชร์อำนาจ และก็มีปรัชญาของเผด็จการอำนาจนิยมอำมาตรนิยม แบบคนรวยมาก่อนและรู้ดีที่สุด แบบแรงๆเข้ามาแจม และปรัชญาสุดท้าย คือปรัชญาของประชาธิปไตย รุ่นใหม่คือรากหญ้ามาก่อน ดีหรือเลวถ้ารากหญ้าได้ประโยชน์เป็นรับได้
    ท่านลองถามตัวเองดูสิว่า ในประวัติศาสตร์ไทย เคยมีช่วงไหน ที่สามปรัชญามันต่อสู้กันรุนแรงขนาดนี้มาก่อน ใครๆก็บอกว่าถ้าจะแน่นอนแล้วว่ามาร์ค ม7 จะเป็นนายกคนต่อไป ก็แสดงว่า นักการเมืองมืออาชีพ จะครองเมือง ถึงส่วนมากจะบอกว่ามาร์ค คงจะอยู่ไม่นาน แต่จริงๆแล้ว มันก็ไม่แน่ แล้วที่บอกกันว่ามาร์คจะทำจนเละไปอีกมาก จริงๆมันก็ไม่แน่นัก พูดง่ายๆ มืออาชีพ ขนาดมาร์ค เขาก็รู้ว่า เดิมพันกันด้วยอะไร ยิ่งเห็น เผด็จการ ปล่อยโอกาส ตีตื้นปรัชญาอื่น ให้เป็นแทบศูนย์แบบนี้ มาร์คคงจะพร้อมเดินเครื่องจักร ปชป ให้ หลุดประวัตศาสตร์การแตกแยกและตีกันเอง ของพลพรรคภายในของปชป แน่นอน แต่แน่นอน แม่ยกและคนรวย คนระดับสูง ทั้งหลาย คงสบายถ้ามาร์คเป็นนายก
    ม้ารองที่ยอมรับกันคือสมัคร ที่ตีตื้นวันดีคืนดี คือยิ่งถูกตีแรงแค่ไหนจากปชปและคมช กลับแรกขึ้นทุกที ก็เพราะยิ่งตียิ่งไปปลุกคนของอีกฝ่ายขึ้นมา ส่วนไอ้กลางๆที่จะหนีมันไม่มัเหลือแล้ว ทุกวันนี้มันมีแต่ Hardcore และ พวก รอให้ปลุกขึ้นมา เข้าฝ่ายเดิม ก็เท่านั้นเอง แล้วถ้าสมัครชนะ รับรองได้ รากหญ้าและคนจนสบาย รวมถึงคนระดับกลางล่าง ส่วนใครมาเป็นรัฐบาล มันก็เหมือนๆกัน ตรงที่จะต้องต่อกรกับกรอบที่ทหารวางไว้ รับรองงานนี้ พลิ้วและต่อรองกันสนุก มีอย่างหรือมาร์ค ถ้าได้เป็นรัฐบาล จะมาลิดรอนพลังที่หนุนตัวเอง ไม่เชื่อคอยดูสิ ถ้าสวสรรหา (แต่งตั้ง) มันออกมาสนับสนุน ปชป แบบสุดเลียปชปและมาร์ค มีอย่างหรือมาร์คจะไป เปลี่ยน รธน พูดง่ายๆ ทหารและป๋า กลับมาเล่นการเมืองแบบชักใยอยู่เบื้องหลัง
    โอยมันเป็นสงครามอันยิ่งใหญ่จริงๆ เมืองไทยแตกเป็นสามส่วน แต่ละส่วนมีและมองผลประโยชน์ของตัวเองเป็นหลัก และมีฐานปชช สนับสนุนกันดิบดี ใช่ครับแน่นอน ทหารและเผด็จการนิยมนั้น มีคนสนับสนุนมากมาย การเมืองอาชีพของปชปก็มากมาย ประชาธิปไตยฉบับประชานิยม ก็มีคนสนับสนุนมากมาย
    ท่านผู้อ่านคงจะสงสัยว่าประเด็นของผมคืออะไร จะลากเรื่องนี้ไปที่ไหน คือท่านที่อ่านผมประจำ คงจะต้องการให้ผมทำเหมือนเดิม คือพาท่านทัวร์เขาไปในดินแดนที่นักเขียนนักคิดคนอื่นไม่ค่อยไปกัน ก็คือแบบ Unseen Thailand ฉะนั้นผมก็ขอเข้าเรื่องเลยนะครับ แต่ก่อนไป Unseen Thailand เสียดายเรื่องรองๆนะครับ เลยจะขอฝากไว้ให้ท่านผู้อ่าน ถ้ามีเวลา ลองคิดดูสักหน่อย นั่นก็คือว่า มันก็แน่นอนว่าประชาธิปไตย คือเลือกตั้งครั้งนี้ ที่กำลังจะกลับมา มันจะไม่สามารถเชื่อมคนไทยเข้าด้วยกันอีกครั้งอย่างแน่นอน คือถ้าสมัครเป็นนายก ผู้ดีคนรวย นอกจากเศรษฐกิจดีเพาะมืออย่างมิ่งขวัญแล้ว และทหารผู้บ้าอำนาจ ก็จะแห้ว สุดๆ หรือถ้า ปชป เข้ามาเป็นรัฐบาล พลังประชาธิปไตยฉบับรากหญ้านิยม ก็จะ แห้วสุดๆ เหมือนกัน เพราะมาร์คแก กะจะแบ่งปันผลประโยชน์ไปให้ Mega-Project หลายต่อหลายอัน แล้วเงินผันไปรากหญ้า มันจะลดลงแน่นอน
    สรุปคือประเด็นรองที่อยากให้ท่านนึกถึง คือมันจะมีแห้วที่ต้องกินกันแน่ๆ แล้ว การเลือกตั้ง มันจะไม่ประสานชาติอะไรเข้าด้วยกันเลย คือ ทางสายกลางที่ทุกคนเดินแล้วชนะ เหมือนในอดีต ที่เขาบอกว่ารัฐบาลมาแล้วไป ไทยเหมือนเดิม ยุคนั้นมันหมดไปแล้ว สิ่งที่มาแทนที่ คือคนไทยต้องแก่งที่จะใจเย็นขึ้นอีกมาก เหมือนฝรั่ง ที่ต้องรอกันเป็นปีๆ กว่ากระแสมันจะเปลี่ยน จนฝ่ายปรัชญาตัวเอง กลับมาชนะเลือกตั้ง ปัญหาของเราคือ มันมีไอ้ตัวกวน แบบสื่อและลิ้ม มากเหลือเกินในไทย ที่มันจะเอาแต่ใจตัวเอง เห็นตัวเองถูกทุกอย่าง ที่ คอยเสี้ยม ให้มันร้อนอยู่เสมอ แต่พอแล้วประเด็นนั้น Unseen Thailand คืออะไรกันแน่
    Unseen Thailand มันคือว่า มีนักจิตวิทยา ออกมาศึกษา คนพอถึงเวลาเกษียร คือแถวๆ 60 ว่ามันแปลก ที่คนที่ทำงานมาทั้งชีวิต งานหนักๆ รับผิดชอบสูงๆ พอถึงวัยเลิกทำงาน แทนที่จะสนุกกับการเล่น Golf หรือ อยู่กับลูกกับหลาน มันดันเกิด Depression หรือการกลุ้มใจ ใหญ่เกิดขึ้น ในคนเกษียร มากมาย แล้วนักจิตวิทยาเขาก็สรุปว่า คนเรานี่หล่ะ มันเหมือนคันธนู ที่การตึกของสายคันธนู มันทำให้เรา มีชีวิตชีวา  คือทำงานมันมีทั้งปัญหา ทั้งความสำเร็จ อาจจะเซ็งๆอยู่บ้าง แต่พอเกษียร สายคันธนูมันไม่ตึง ถูกผ่อนคลายออก คนอายุ 60 ถึง ตกลงไปอยู่ในห้วงของ Depression กันมากมาย ส่วนมากต้องหางานทำกันอีกครั้ง เพื่อใช้สมองอีกครั้ง ให้ธนูมันตึง
     
    แล้วมันเกี่ยวอะไรกับไทย ก็ท่านครับ เราคนไทยโชคดีขนาดไหน เกิดมาในช่วงที่ปรัชญาสามอย่าง มันมาปะทุต่อกรกันอย่างยิ่งใหญ่ จนเราทุกคนกลายเป็น ยักษ์ ทางความคิดทางการกระทำกันไปหมด เคยมีครั้งไหนบ้างที่ คะแนนเสียงของคนไทย มันสำคัญเท่ากับหนนี้ ตอนนี้ เรียกว่าถ้าเป็นสมัยก่อน จับดาบกันแทบทุกคนแล้ว ทุกฝ่ายรู้สึกเหมือนเป็นกองทัพของ ฝ่ายมนุษย์ในหนัง Lords of the Ring ที่กำลังต่อกรครั้งสุดท้ายอยู่กับกองทัพอสูร
    แล้วไงครับ ก็คือว่าหลังจากเลือกตั้ง คันธนูมันจะถูกคลายลงนะสิครับ แล้วอะไรจะเกิดขึ้นกับจิตวิทยามวลชน คือตอนนี้มันเป็นทุกข์กันนิดหน่อยเพราะการเมือง แต่ลองไปดูคนประท้วง หรือฟังปราศรัย ดูสิ "มันตื่นไปหมด" แต่ให้ผมเดา หลังเลือกตั้ง ผมว่า มันจะมี Depression ใหญ่ทางจิตใจเกิดขึ้นทั่วประเทศ จากสาเหตุสองสามอย่าง แรกเลยคือมันจะผ่อนคลายไม่ตึง คนจะรู้สึกว่า การเมืองมันหยุดเป็นประเด็นไปแล้ว หมดการต่อสู้อันยิ่งใหญ่ คือ กลับไปสนใจกับเรื่องของตัวเองเรื่องส่วนตัว เป็นปัจเจกนิยมเหมือนเดิม แล้วรับรอง อารมณ์นี้มันจะถูกเสริมเข้าไปด้วยความรู้สึก แพ้ ของคนเป็นสิบล้าน ไม่กลุ่มไหนก็กลุ่มหนึ่งแน่นอน
    คือง่ายๆ นะครับท่านผู้อ่าน ถ้าท่านติดตามผมมา ผมนี่เขียนแรงๆและอัด คมช และ ปชป มานานมากแล้วนะครับ ตั้งแต่สมัยยังไม่มีใครแทบจะทำเลย หลังเลือกตั้ง ผมจะมีอะไรให้เขียนมากมายนักครับ แล้วถ้า ปชป ชนะ ผมคงจะเซ็งลึกแน่นอน Unseen Thailand ขอจบลงแค่นี้ ด้วยคำถามที่ว่า ท่านคิดว่าอารมณ์ชาติจะเป็นไง ในกรณีมาร์คชนะ ในกรณีสมัครชนะ ในกรณีที่ทหารชักใยได้ต่อไป

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น