ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Indigo Shooting : ที่ยืนข้างๆนี้ยังไงก็ให้นาย! [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #3 : (3) ความแตกต่างของผู้ชายกับผู้หญิง [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 2 ก.ย. 55


     


    (3) ความแตกต่างของผู้ชายกับผู้หญิง






     

    Postcard Part :


    ผมมองตามหลังโคยะ เพื่อนสนิทร่วมภาคเพียงคนเดียวที่ออกวิ่งไปอย่างเร็ว ผมได้บัดดี้ผู้หญิงครับ แฟนผมเองแหละ! =////= เลยไม่ต้องไปตกตระกำลำบากกับพวกถึกนั่น แต่ริวยะ พี่ชายฝาแฝดของโคยะต่างหากที่ซวย ดันจับบัดดี้ได้ผู้ชาย! แถมรู้สึกว่าจะว่ายน้ำไม่เป็น

    ตูม!!

    เฮ้ย! ริวว่ายน้ำไม่เป็นไม่ใช่เรอะ!! = [] =!!

    ผมเห็นเต็มๆตาเลยว่าพี่ไทผลักริวตกสระไปน่ะ! ดีที่คู่บัดดี้ของริวไม่ทิ้งให้เจ้าตัวจมนาน หมอนั่นดึงตัวเพื่อนผม(ที่เพิ่งจะรู้จักกันได้ไม่นาน) ขึ้นมาปฐมพยาบาลได้ทัน เพื่อนๆผู้หญิงหน้าแดงกันเป็นแถบๆเลยครับ เพราะเจ้าไฮเปอร์นั่นติดอันดับหนุ่มหล่อหนึ่งในสามของระดับมัธยมปลายเสียด้วย แน่นอนว่าถ้ามันลงสมัครตำแหน่งเดือนคณะวิศวะก็คงจะไม่พ้นมันนั่นแหละ!

    โคยะรีบพาพี่ชายมันกลับบ้านทันที โชคดีที่บ้านของแฝดคู่นั้นอยู่ไม่ไกลจากมหาลัยเท่าไหร่ ผมน่ะสนิทกับโคยะพอสมควรเพราะว่าเรียนพิเศษเข้าสถาปัตย์ที่เดียวกันส่วนกับริวยะน่ะเพิ่งจะเจอวันนี้ เพราะโคเคยบอกไว้ว่าพี่มันไม่ต้องเรียนพิเศษก็เข้าที่นี่ได้สบายๆ

    ตอนแรกๆผมก็ไม่เชื่อหรอก! แต่พอเห็นผลงานของริวยะที่แขวนอยู่เต็มบ้านแล้วผมก็เชื่อทันทีเลยล่ะ!

    “มะเหมี่ยว! ผมขอไปดูเพื่อนหน่อยได้มั้ย? เธอรออยู่ตรงนี้นะ” ก่อนที่โคจะพาริวกลับบ้านผมขอไปดูซักหน่อยเหอะว่ามันไม่เป็นอะไรมาก ถึงจะเพิ่งเจอหน้ากันวันนี้แต่ผมก็ห่วงมันเหมือนกันนะ!

    “เฮ้ย! ไอ้น้อง! ใครใช้ให้เอ็งแตกแถวห๊ะ!” เสียงเข้มตวาดกร้าวทันทีที่ผมก้าวเท้าออกจากแถวไป ให้ตายเหอะ! ผมก้าวออกไปได้แค่ครึ่งก้าวเองนะ!!

    “ผมจะไปดูเพื่อน! ไอ้คนที่พวกพี่ผลักตกน้ำนั่นแหละ!” ผมเหวี่ยงใส่แบบไม่แคร์สื่อ ความหงุดหงิดก่อนตัวขึ้นมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อพี่แกไม่ยอมหลีกทางให้แถมยังมายืนขวางผมอีก!

    “พวกกูไม่ได้ทำอะไรมัน! เพื่อนมึงอ่อนแอเองมากกว่ามั้ง!

    “เหอะ! สันดานคนมันก็เป็นซะแบบนี้แหละ ปัดความรับผิดชอบกันหน้าด้านๆ เห็นกันอยู่คาตาชัดๆ”

    “หนอย! ไอ้เด็กเวรนี่!!” อีกฝ่ายที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นพี่ปีสองเงื้อหมัดขึ้นทันที อย่างนี้ล่ะนะ แสดงอำนาจของความเป็นพี่ เฮอะ! คิดว่าผมจะอยู่เฉยๆให้ต่อยรึไงกัน!

    หมับ!

    “พวกมึงมีปัญหาอะไรกัน?” เสียงเข้มถามขึ้นเหนือศีรษะผม พร้อมแรงดึงที่หัวไหล่ ร่างของผมเซไปประทะกับอกแกร่งของใครบางคนที่ตอนนี้กำลังโอบผมอยู่!!

    ใครวะ!!

    เกือบจะหันไปต่อยแล้วด้วยความมือไว แต่ผมก็ยั้งหมัดไว้ทันเนื่องจากใบหน้าที่ยื่นมานั้นคือ...

    พี่ระฆัง! (ไอ้)คุณประธานของคณะวิศวะ

    “ประธาน!! ขอโทษครับ! ไอ้เด็กเชี่ยนี่มันปากเสียพวกเราก่อนครับ” รีบฟ้องก่อนกูเลยนะ! ตะกี้ทำท่าจะเข้ามาต่อยกูก่อนแท้ๆ ไอ้กากเอ๊ย!

    “มีอะไรจะแก้ตัวมั้ย? เจ้าปีหนึ่ง”

    “ไม่คิดจะแก้ตัว! แค่พี่ปล่อยผมไปดูเพื่อนที่จมน้ำก็พอ” ผมสะบัดตัวออกจากพี่เขาก่อนจะตั้งท่าเดินไปดูเจ้าริวยะอีกรอบ แต่ก็ไม่วายโดนขวางอีกโดยเจ้าพี่หน้าเหียกคนเดิมที่ตั้งท่าจะมีเรื่องกับผมตอนแรก

    “พอแล้วไอ้ไปซ์! จะไปไหนก็ไปซะไป เดี๋ยวเด็กนี่ฉันจัดการเอง”

    “ค...ครับพี่ระฆัง!” ผมตวัดสายตามองคนพูดอย่างไม่พอใจแต่ก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร เพราะแววตาที่เขามองผมมันให้ความรู้สึกแปลกประหลาดแบบที่ผมไม่อยากเข้าใกล้ซักเท่าไหร่นัก

    “ไอ้น้อง มึงชื่ออะไร?”

    “โปสการ์ดครับ”

    “มึงเป็นเพื่อนกับริวยะหรอ?”

    “ครับ! พี่จะปล่อยผมไปดูหมอนั่นได้รึยังครับ?”

    “ไม่ต้องแล้วล่ะ น้องชายมันเอาตัวกลับบ้านไปแล้ว มึงวิ่งตามมันออกไปตอนนี้ก็ไม่ทันหรอก” เขาตอบเรียบๆกลับมาในระหว่างที่พี่ไทไท ประธานปีสามคณะผมเดินมาชี้แจงรายละเอียดปลีกย่อยก่อนจะปล่อยพวกเรากลับ

    “เพราะความงี่เง่าของไอ้ไทเพื่อนมึงเลยเจ็บตัว ฝากขอโทษด้วยล่ะกัน”

    “ไม่เป็นไรครับ ผมไปได้แล้วใช่มั้ยครับ?”

    “เดี๋ยว! มึง...เอ่อ...”

    “?”

    “กลับดีๆนะ โปสการ์ด” ผมขมวดคิ้วแล้วทำหน้างงกับคำพูดนั้น มารู้สึกตัวอีกทีก็เมื่อมะเหมี่ยวเดินมาดึงแขนให้ไปส่งเธอที่หอ ก่อนเดินออกมาผมหันกลับไปมองยังรุ่นพี่ผู้ที่มีข่าวลือสุดแสนจะน่ากลัวอย่างพี่ระฆังอีกครั้ง แล้วก็เอ๋อไปนิดหน่อยเมื่อเห็นว่าพี่เขามองผมอยู่

    ผมไปทำอะไรไว้รึเปล่านะ? แต่ผมอยู่สถาปัตย์นะ! จะไปมีเรื่องอะไรกับพี่เขาได้วะ?...




     

    RyuYa Part :


    ผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้าแล้วก็พบว่าตัวเองมีไข้หน่อยๆ ผมจำเรื่องไม่วานไม่ได้ทั้งหมด ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองมาอยู่ที่บ้านได้ยังไง แต่โคยะก็ทำหน้าที่น้องชายที่ดีเล่าได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง แถมยังบอกอีกด้วยว่าวันนี้ไปมหาลัยห้ามอยู่ห่างจากมันเด็ดขาด

    พูดผิดรึเปล่าโคเอ๋ย? แกต้องบอกตัวเองว่าอย่างวิ่งพรวดพราดออกไปไกลจากฉันต่างหาก =  =

    “ยังไงพี่ก็ต้องไปขอบคุณไฮเปอร์ล่ะนะ ถ้าไม่มีมัน พี่ได้เข้าโรงพยาบาลจริงๆแน่” หน้าตาพิมพ์เดียวกับผมยื่นออกมาจากในครัว วันนี้คุณแม่ไม่อยู่ครับ และก็คงจะไม่อยู่อีกเป็นเดือนๆเลยทีเดียว ท่านไปต่างประเทศเพื่อประชุมกับบริษัทแม่ที่ท่านสังกัดอยู่ อันนี้พวกผมก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ก็มันเป็นงานของแม่นี่นา

    “หมอนั่นดูเป็นคนดีผิดกับหน้าตาเลยนะ”

    555 อย่าไปพูดอย่างนี้ต่อหน้ามันล่ะ เดี๋ยวโดนต่อยไม่รู้ด้วยนะ! เพื่อนโคเล่าให้ฟังว่าหมอนั่นสมัยมัธยมอ่ะโหดโคตรๆเลย เรื่องต่อยตีงี้ที่หนึ่ง แต่ก็ยังอุตส่าห์ติดอันดับ1ใน3หนุ่มหล่อที่สาวๆอยากได้เป็นแฟนมากที่สุดล่ะนะ” จะว่าไงดีล่ะ? พอฟังจากที่โคเล่าแล้ว ผมรู้สึกว่าคนเราเนี่ย มองแค่หน้าตาไม่สามารถตัดสินได้จริงๆล่ะนะ ว่าข้างในเขาเป็นคนยังไง

     

     

    เราสองพี่น้องมาถึงมหาลัยภายในเวลาสิบนาที ด้วยมอเตอร์ไซค์สุดรักสุดหวงของเจ้าโค แต่ยังไม่ทันที่ผมจะเดินเข้าตึกเรียนไป กลับมีกลุ่มผู้ชายมายืนล้อมหน้าล้อมหลังเต็มไปหมด

    นี่มันอะไรกันเนี่ย = [] =!!!

    “มีธุระอะไร” โคยะรีบลงจากรถมาขวางหน้าผมไว้ทันที คือ...จริงๆแล้วผมก็ไม่ได้อ่อนแอขนาดที่ต้องให้น้องชายมาปกป้องหรอกนะ แต่ถ้าเราอยู่ด้วยกันแล้วผมจะมั่นใจกว่าน่ะ

    “นี่น่ะหรอริวยะคณะสถาปัตย์...เหมือนที่เค้าลือกันจริงๆเลยว่ะ ขาว สวย หุ่นงี้น่าฟัดเป็นบ้า!” ผมแทบจะหัวทิ่มกับคำชม(?) ของพวกมัน นี่เอาอะไรมาคิดเนี่ย! ชมว่าผมสวยเนี่ยนะ! แล้วไอ้น่าฟัดที่ว่าน่ะมันอะไร!!

    “เอ่อ...ขอโทษนะ พวกนายเข้าใจอะไรผิดรึเปล่า? ฉันเป็นผู้ชาย”

    “หึๆ ผู้ชายสิดี ดีสุดยอดเลยล่ะ” ว่าพลางเลียริมฝีปากราวกับกระหายบางสิ่ง ผมกับโคยะเกาะกันแน่นกว่าเดิมด้วยความกลัว

    “เห? หน้าตาเหมือนกันตั้งสองคน จะคนละแบบหรือว่าจะเหมือนกันน้า? ชักอยากจะรู้แล้วสิ?”

    “รู้อะไรหรอ?” เสียงเข้มดังขึ้นข้างหลังผมกับโคยะ ก่อนลูกบาสจากที่ไหนก็ไม่รู้จะหล่นลงมาด้านหน้า เฉียดหัวผู้ชายที่ยื่นหน้ามาหาผมไปนิดเดียวเท่านั้นเอง

    “โอบี!?” ผมเรียกชื่อของชายหนุ่มผู้ที่เข้ามาช่วยเหลือได้ทันเวลาอย่างดีใจ เพราะเขาคือเพื่อนสมัยเด็กที่เอนท์เข้ามาอยู่ในมหาลัยใกล้ๆบ้านเหมือนกัน แต่น่าเสียดายที่มันไปเรียนอยู่คณะวิศวะ

    ผัวะ! ผัวะ!

    “ช้าเป็นบ้าเลยไอ้โอ! ฉันบอกให้แกรีบมารอไม่ใช่รึไงวะ!!” แทนที่จะสำนึกในบุญคุณ เปล่าเลย! โคยะเอากระเป๋าฟาดโอบีไปเต็มๆสองทีก่อนจะสวดใส่ชุดใหญ่ข้อหามันมาช้า

    พวกแกไปนัดกันตอนไหนน่ะ? ทำไมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย?

    เป็นอันว่าผมรอดมาจากเจ้าพวกนั้นได้เพราะโอบี เพื่อนข้างบ้านของพวกผมเอง หนึ่งเพราะโอบีเป็นนักกีฬาบาส ของมหาลัย เจ้าพวกนั้นเลยไม่อยากมีเรื่องด้วยและสอง...

    โอบีสูงร้อยแปดสิบเก้า!! สูงกว่าผมกับโคยะอย่างมหาศาลT^T ไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดีที่มีเพื่อนอย่างมัน!!

    “เมื่อวานตกน้ำมาใช่มั้ยริว? ตัวอุ่นๆนะ ทำไมไม่นอนพักอยู่บ้าน?” เถียงกับน้องชายผมเสร็จก็หันมาจับเนื้อจับตัวผมสำรวจจนพอใจ ก่อนจะตบท้ายด้วยการลูบหัวเบาๆเหมือนทุกครั้ง

    โอบีอ่อนโยนกับผมเสมอครับ ตรงกันข้ามกับโคยะที่เป็นคู่กัดกันตลอด

    “ไม่อยากพลาดน่ะ วันนี้มีดรออิ้งด้วย^__^” ผมยิ้มแกนๆให้เพราะไม่อยากให้เขาเป็นห่วง ยังไงก็อยู่กันคนละคณะด้วย ถ้ามัวแต่มาตามดูแลผมเหมือนแต่ก่อนเขานั่นแหละที่จะแย่ซะเอง

    “เรียนเสร็จแล้วโทรหากูด้วยนะ วันนี้เรียนกี่วิชา?”

    “สอง! ขากลับมึงไม่ต้องมารับหรอกไอ้โอ วันนี้พี่กูจะไปเที่ยวกับแฟน!

    “โคยะ! อรดายังไม่ใช่แฟนฉันนะ” ผมดึงแขนเสื้อน้องไว้เหมือนจะปรามแต่เจ้าตัวดีดูจะยังไม่รู้สึก

    “อีกหน่อยก็ใช่เองแหละ ให้ท่าพี่ซะขนาดนั้นน่ะ”

    “โค! นายพูดแบบนี้อรเสียหายนะ!” เป็นครั้งแรกที่ผมขึ้นเสียงใส่น้องต่อที่สาธารณะอย่างนี้ ก่อนที่ผมจะรู้ตัวสึกตัวว่าพูดแรงไป ผมก็หันไปสบตากับน้องชายฝาแฝดที่อยู่ด้วยกันมาตลอดสิบแปดปี

    ใบหน้าของโคเหมือนเด็กน้อยที่อดกลั้นต่อบางสิ่งบางอย่าง อยากจะร้องไห้แต่ก็ร้องไม่ได้!

    น้องเป็นอะไรไป? ทำไมผมไม่ทันสังเกตเลย!!

    “โค!!” ผมเรียกแล้วตั้งท่าจะวิ่งตามแต่โอบีก็รั้งเอาไว้

    “ปล่อยมันไปคิดอะไรเงียบๆคนเดียวเถอะ อีกซักห้านาทีก็หายเอง” น่าตลกดีเหมือนกันที่ผมซึ่งเป็นพี่ชายฝาแฝดแท้ๆกลับไม่อาจเข้าใจน้องชายของตัวเองได้ดีเท่ากับเพื่อนสนิทข้างๆบ้านอย่างโอบี

    “ไปเรียนเถอะ! ยังไงมันก็ไปเจอนายที่ห้องแน่ๆล่ะ กูไปนะ”

    “อะ...อืม” 




    แล้วผมก็เจอน้องนั่งอยู่ที่ห้องก่อนจริงๆอย่างที่โอบีว่า เจ้าตัวส่งยิ้มแป้นให้ผมเหมือนเรื่องเมื้อกี้เป็นภาพลวงตาเท่านั้น แม้จะสงสัยอยู่บ้างแต่ผมก็ไม่รู้จะเริ่มถามน้องยังไงดี เลยปล่อยผ่านมันไปอย่างนั้น

    โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่า อาการของโคในวันนั้น จะเป็นต้นเหตุของเหตุการณ์หลายๆอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตผม...

    หลังเลิกเรียน... ปัญหาชีวิตก็เกิดขึ้นกับผมอีกหนึ่งรอบ

    “ไง!” ผมเดินลงมาจากตึกเรียนพร้อมกับอร แต่ยังไม่ทันจะก้าวลงบันไดขั้นสุดท้ายเสียงเข้มที่ผมเพิ่งจะคุ้นเคยในวันสองวันนี้ก็ดังขึ้นเหนือศีรษะพร้อมกับแรงดึงกระเป๋าที่ไหล่ของผม

    “ไฮเปอร์ (‘  ‘)?” ผมทำหน้างงใส่เขาที่ยืนพิงราวบันไดตึกอยู่ เมื่อมองไปข้างๆตัวก็พบว่าอรเพื่อนผมกำลังหน้าแดง

    >////<  >>อร

    “วันนี้กูเลิกเร็วเลยมารอ...จะกลับเลยรึเปล่า?”

    “หือ? วันนี้เห็นอรบอกว่าอยากไปดูของขวัญให้เพื่อนน่ะ นายมีอะไรหรอ?” ผมไม่เข้าใจคำถามของเขาเลยซักนิด    =   =? หมอนี่มีธุระอะไรกับผมรึเปล่านะ?

    “จะกลับกี่โมง? แล้วโคยะไม่ได้ไปด้วยหรอ?”

    “โคไปติววิชาภาคกับเพื่อนในภาคเขาน่ะ ตกลงนายมีอะไรกับฉันรึเปล่า?”

    “เปล่า...แค่จะไปส่ง” เสียงพึมพำทำให้ผมเงียบไปด้วยความอึ้ง ในใจสงสัยไปเรียบร้อยแล้วว่า...

    เป็นบัดดี้ เขาต้องดูแลกันดีขนาดนี้เลยหรอ?

    “วันนี้ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวฉันกลับเองนายกลับไปก่อนเลยก็ได้” ผมบอกด้วยความเกรงใจ ยังไงผมก็ต้องไปส่งอรกลับบ้านด้วยอยู่แล้ว จะปล่อยให้เด็กผู้หญิงตัวคนเดียวเดินกลับคนเดียวได้ยังไงกัน

    “ริว! เอ่อ...อรขอไปเข้าห้องน้ำก่อนได้มั้ย? ริวรออรอยู่ตรงนี้นะ”

    “ได้สิครับ ^   ^” ผมยิ้มให้เธอจนตาหยี เลยไม่ทันได้สังเกตว่ามีใครมองมาทางนี้บ้าง พอหันกลับไปก็เจอโอบีเพื่อนสมัยเด็กที่เรียนวิศวะกำลังเดินตรงมาทางนี้เช่นกัน

    “เลิกแล้วหรอริว?”

    “อือ โอบีเลิกเร็วเนอะ แต่วันนี้ฉันจะไปซื้อของเป็นเพื่อนอรน่ะเดี๋ยวกลับเอง นายช่วยไปรับโคยะหน่อยได้มั้ย?” ร่างสูงชะงักไปทันทีเมื่อมองเลยมาด้านหลังผม

    ข้างหลังผม? ก็ไฮเปอร์ยืนอยู่...

    “ไอ้ไฮเปอร์!

    “ว่าไงโอบี” บัดดี้ผมตอบกลับเรียบๆแล้วเดินมายืนอยู่ข้างหลังผม ไม่นึกเลยแฮะว่าสองคนนี้จะรู้จักกัน ดีเลยจะได้ไม่ต้องอธิบายอะไรมาก

    “ริว! จะกลับกี่โมงก็โทรมาแล้วกัน ยังไงกูก็จะไปรับแน่ๆ!” โอบียังคงตื๊อผมไม่เลิก คงเพราะวันนี้ผมมีไข้ด้วยมันเลยเป็นห่วง แต่ผมบอกแล้วไงว่าผมดูแลตัวเองได้น่ะ =   =

    “บอกว่าไม่ต้องไง เดี๋ยวฉันกลับเอง นายไปรับโคเถอะ”

    “ใช่! เดี๋ยวริวน่ะกูไปส่งให้เอง!

    “หา?”



     



     

     

     

    Hyper Part :


    ผมเล่นสงครามจ้องตากับไอ้เหี้ยโอบีอย่างไม่มีใครยอมใคร ผมรู้จักมันครับ โอบี ผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นคู่แข่งของผมเพราะว่ามันเป็นคนเดียวที่อยู่ใกล้ริวที่สุด (ไม่นับเจ้าโคยะ)

    แล้วผมก็ยังสืบรู้มาอีกว่า โอบีชอบริวมาสิบปีเต็มๆแล้ว แถมพอมาวันนี้ดูจากสายตาและท่าทางที่มันทำตัวหวงก้างกับผมทั้งๆที่ยังไม่ได้เป็นอะไรกับริวแล้ว...

    หมั่นไส้แม่งว่ะ!!

    ผมเลยจะขอแหย่ริวเล่นซักหน่อย ไหนก็มาให้เห็นหน้าแล้ว แถมผู้หญิงคนนั้นก็ไม่อยู่ (ยัยอรดาอะไรนั่น)

    “ริว! มึงรู้ตัวมั้ยว่ามึงกำลังโดนเล็งจากพวกหื่นแถวๆนี้อยู่น่ะ”

    “หือ?” (‘   ‘ )(  ‘  ‘)(‘  ‘  ) แหม...ส่ายหัวซะน่ารักเชียว เดี๋ยวกูก็จับก(อ)ดซะหรอก!

    “เล็งเรื่องอะไรหรอ? ฉันไปทำอะไรไม่ดีรึไง?” ถามแบบนี้แสดงว่าไม่รู้ตัวเลยจริงๆแหะ ขนาดโคยะน้องมันยังดูออกเลย คนอะไรวะไร้เดีงสาโคตรๆ

    “ก็เรื่องที่พวกผู้ชายอยาก มีอะไรกับมึงไง!

    O//////O    >>ริวยะ

    “ไอ้เชี่ยไฮเปอร์!!

    “กูอยากจะพูดให้มึงรู้สึกตัวเอาไว้ จะได้ระวังตัวให้มากกว่านี้ คนอะไรวะไม่ระวังตัวเลยให้ตายเถอะ!

    “ละ...แล้วทำไมถึงต้องเป็นฉันล่ะ? ฉันเป็นผู้ชายนะ?” เสียงของเขาเริ่มสั่น ผมสังเกตได้แต่ก็แกล้งเมิน ยังไงก็ต้องให้ตัวมันเองรับรู้ให้ได้ซะก่อนว่าตัวเองน่ะเป็นที่ต้องตาต้องใจเจ้าพวกหื่นนั่นมากขนาดไหน มากกว่าผู้หญิงด้วยซ้ำ!!

    มึงรู้มั้ย? ทำไมผู้ชายมันถึงชอบเอาผู้ชายด้วยกันมากกว่าผู้หญิง?” ผมพูดพร้อมกับแกล้งโน้มตัวลงไปหามัน ร่างเล็กก้าวถอยหลังหนีแต่ก็ดันชนเข้ากับกำแพงด้านหลัง ผมจึงรีบใช้แข็งแกร่งยันผนังไว้ไม่ให้เจ้าตัวหนีออกด้านข้างได้

    O///////O!!!

    เพราะว่าเวลาครางเสียงมันกระตุ้นอารมณ์ได้ดีกว่ายังไงล่ะ แถมหุ่นบางคนยังน่า ฟัดกว่าผู้หญิงอีก มึงระวังตัวไว้ให้ดีเหอะริว!ใบหน้าของริวในตอนนี้ผมแทบไม่อยากให้ใครมองเลยให้ตายเถอะ!! คงเพราะเขามีไข้อยู่ด้วยแล้วหน่อยๆล่ะมั้ง ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนคู่สเน่ห์นั่นถึงได้ชุ่มน้ำตาเล็กน้อย แลดูหยาดเยิ้มเย้ายวนใจ รวมถึงใบหน้าขาวๆที่แดงระเรื่อ จนผมเกือบจะอดใจไม่อยู่

    ผัวะ!

    ไอ้เหี้ย! มึงพูดอะไรให้เกียรติเพื่อนกูด้วยนะไอ้สัดไฮเปอร์!ไอ้เวรโอบีขึ้นเสียงกร้าวพลางกระชากผมออกจากร่างบางๆของริว ผมยกสองมือขึ้นกลางอากาศเหมือนจะยอมแพ้แต่ก็ไม่วายปากเสียกลับ

    กูแค่เตือนริวเท่านั้นไอ้โอบี! มึงมันก็แค่หมาหวงก้าง ไม่ต้องสะเออะมาเห่าใส่กูหรอก!

    ไอ้ไฮเปอร์!!!

    “พอได้แล้วทั้งคู่นั่นแหละ!” ผมเบิกตากว้างขึ้นนิดหน่อยเพราะไม่คิดว่าตัวเล็กๆอย่างริวจะกล้าขึ้นเสียง โอบีเองก็อึ้งไปเหมือนกัน คงไม่เคยเจอล่ะสิท่า =  =

    “ฉันเข้าใจว่านายหวังดีนะไฮเปอร์ เพราะโจรสมัยนี้มันก็ไม่เลือกเพศ แต่ฉันเป็นผู้ชาย! ไม่ใช่ผู้หญิง! ไม่มีตรงไหนเหมือนผู้หญิงซักนิด! เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วง วันนี้พวกนายกลับไปได้แล้ว!” พูดจบมันก็ตั้งท่าจะเดินหนีแต่ผมรีบคว้าแขนมันไว้ซะก่อน

    “เดี๋ยว! ถ้ามึงยังยืนยันที่จะดูแลตัวเองขนาดนั้นกูก็ไม่ขัด แต่ว่า...”

    “อะไร?”

    “เอามือถือมึงมา!

    “หา?” ผมไม่พูดพล่ามทำเพลง คว้าโทรศัพท์มือถือของริวมากดเบอร์ตัวเองแล้วโทรออกทันที มือถือในกระเป๋ากางเกงผมสั่นเป็นอันว่าเสร็จเรียบร้อย!

    เยส! กูได้เบอร์ริวแล้วโว้ย! >O<///  (ไอ้บ้า=   =”)

    “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ที่ไหน เมื่อไหร่ก็แล้วแต่...กูเชื่อใจ มึงว่ามึงดูแลตัวเองได้ แต่ถ้ามันไม่ไหว โทรหากูนะ” ผมรู้ครับว่าริวเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองพอสมควร แต่หมอนี่ก็เป็นพวกปฏิเสธคนไม่เป็นและชอบยอมแพ้อะไรง่ายๆ เพราะฉะนั้นเพื่อไม่ให้เขาดึงตัวเองลงเหวไปมากกว่านั้น ผมควรจะปล่อยให้เขาได้แสดงออกบ้างว่าเขาก็สามารถทำอะไรได้ด้วยตนเอง

    “อะ...เอ่อ....ขอบใจ” หน้าของริวแดงหน่อยๆตอนตอบรับผม แค่นี้ก็ถือว่าเป็นปฎิกิริยาที่ดีมากๆแล้ว กับคนที่เพิ่งรู้จักเขาได้ไม่กี่วันอย่างผมน่ะ ^  ^ โอ๊ย!! มีความสุข!!

    “เฮอะ!” แต่ดูเหมือนเจ้าโอบีจะไม่มีความสุขกับผมนะ ฮ่าๆๆ






    ------------------------------------------------------------------------------------
    ไฮไลท์ตอนหน้า :
    "ไฮ..เปอร์ ช่วยด้วย!! ช่วยฉันด้วย!!"
    "ริว! มึงอยู่ที่ไหนน่ะ! ริว!!"
    "ฮือ!!! ช่วยฉันด้วย! ช่วยฉันด้วย!!"
    "ริว!!" ไอ้เวรตะไลพวกนั้น!! ถ้าริวเป็นอะไรไปล่ะก็ผมไม่เอาพวกมันไว้แน่!!
    แล้วพวกมึงจะได้รู้ ว่าการมาแตะต้องคนของกูน่ะมันเป็นยังไง!!!

     

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×