ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พี่หมอ มศว เล่าเรื่อง (Ultimate Version)

    ลำดับตอนที่ #4 : Zone คำถามยอดฮิต

    • อัปเดตล่าสุด 24 ม.ค. 55




    เรื่องโดย ~หมูสนาม~ MD20

      

    ZoNE คำถามยอดHiT   c(^_^)*

                    Q: พี่ค่ะ หนูอยากเรียนหมอ แต่กลัวเลือด แล้วหนูจะเรียนได้ไหมค่ะ ?

                    GoDGiLaคุง: ใครที่คิดว่าจะเรียนแพทย์ไม่ได้เพราะกลัวว่าจะต้องเห็นเลือด ก็ไม่ต้องกังวลกันนะครับ เรียนกันได้ทุกคน ถ้าน้องไม่ได้เป็นคนที่แค่เห็นเลือดเป็นอันต้องเป็นลมไปซะทุกครา... เรื่องปัญหากลัวเลือดก็ไม่ใช่สิ่งที่น่ากังวลอะไร^_^  
                    อย่างเมื่อตอนที่พี่ไปเจออาจารย์ใหญ่ทีแรกก็ตกกะใจอยู่เหมือนกัน ตอนนั้นพี่กำลังเรียนอยู่ชั้นปี 1 กำลังสดเป็น Freshy สดได้ที่เชียวละ 555 ตอนนี้ก็ยังสดอยู่นะ O_o  อิอิ(แค่ปี 2 เอง) วันนั้นพี่ได้ข่าวมาว่าพี่ปี 2 ณ เวลานั้น จะทำการเอาท่านอาจารย์ใหญ่เข้าสู่ตึกอาคารกายวิภาคศาสตร์ อาคารนี้ก็เป็นอาคารสูง 7 ชั้น  

                    ชั้น 7 ก็จะเป็นห้องประชุมขนาดใหญ่มีระบบแสง สี เสียง เพรียกพร้อมไว้ทำพิธีสำคัญต่าง ๆ 

                    ชั้น 6 เป็นห้องเรียนของนิสิตแพทย์ชั้นปีที่ 2-3

                    ชั้น 5 ห้องเก็บอาจารย์ใหญ่ที่อุตสาห์สละร่างกายและชิ้นส่วนมาให้เราศึกษากัน ซึ่งยังใช้เป็นสถานที่ให้เราเรียนและชำแหละท่านอาจารย์อีกด้วย วิชาชีพแพทย์จะเรียนกับอาจารย์ใหญ่ทั้งตัว ผิดกับทันตะที่จะเรียนแค่ครึ่งบนอย่างเดียว เราจะต้องเรียนทุกระบบของร่างกายมนุษย์ไม่ว่าจะเป็นกระดูก กล้ามเนื้อ สมอง เส้นเลือด แต่ละคนจะได้รับอาจารย์ใหญ่เป็นของตัวเอง อาจารย์ใหญ่ 1 ท่าน ต่อ 1 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งก็ประมาณ 3- 4 คน พอหมดปีร่างของอาจารย์ใหญ่ที่สมบูรณ์ก็จะไม่เหลือกลายเป็นชิ้นๆ แล้วเราก็จะมีพิธีทำบุญให้ท่านเหล่านั้นกัน

                    ชั้นที่ 4 ก็จะเป็นห้องพักของอาจารย์

                    ชั้นที่ 3 จะเป็นห้อง  Lab

                    ชั้น 2 เป็นที่ทำการสำหรับผู้มาติดต่อ และมีพิพิธพันธ์กายวิภาคศาสตร์

                    และชั้นสุดท้ายชั้นที่ 1 เป็นชั้นที่ไว้สำหรับดองอาจารย์ใหญ่ อาจารย์ใหญ่ทุกคนที่เข้ามาจะต้องผ่านการดองในสระฟอมารีนทุกคน 
                    วันนั้นพี่ก็อยากดูอาจารย์ใหญ่จึงเข้าไปช่วย เดินตามพี่ๆเข้าไปในห้องดองจนเห็นสระฟอมารีน พี่ก็ก้มลงไปมองเพื่อจะดูอาจารย์ใหญ่ให้ได้ชัดๆ พี่ก็มองไม่เห็นเนื่องจากมันมืดและท่านอาจารย์ก็จมอยู่ พี่จึงพยายามกวาดสายตาไปทั่วๆเพื่อหาร่างนั้น เอ๋... ขาอยู่ไหนนะ ตรงนี้แน่เลย ว่าแล้วก็ก้มลงไปดู ผลุด.. หัวอาจารย์ใหญ่ผลุดขึ้นมาจากน้ำจากบริเวณที่คิดว่าจะเป็นขา เหอๆ ขวัญกระจายหลอนไปหลายวันเลยล่ะ แต่หลังจากนั้นพอได้เห็นได้อยู่กับท่านอาจารย์ใหญ่บ่อยๆเข้าก็จะชินเองครับน้อง ตอนนี้เห็นก็ไม่กลัวแล้ว หุ หุ ^^
     


                    มีเรื่องอยากระบาย มีอยู่วันหนึ่งพี่เดินผ่านโรงอาหารที่เพ่งสร้างใหม่ มีบอร์ดแผนที่มหาลัยติดอยู่ พี่ก็ดูเล่นไปเรื่อยๆ ตึกศิลปกรรมอาคารมนุษย์ศาสตร์ ตึก15 จนมาถึงอาคารกายวิภาคศาสตร์รู้ไหมมันเขียนว่าอะไร มันเขียนว่า  อาคารดองศพ ฟังแล้วรู้สึก hurt จังเลย แง้วๆ

    ******************************************************************************************************************
                           

                    Q: พี่ค่ะ ถ้าอยากเรียนหมอเเต่ไม่เก่งอังกฤษจะเรียนได้ไหมคะ?

                    GoDGiLaคุง: ไม่เก่งก็เรียนได้นะ แต่อาจจะลำบากหน่อยตอนอ่าน Text เป็นภาษาอังกฤษหมดเลยนะ พี่ว่าขยันวิชานี้ไปก็ไม่เสียหายนะ ได้ใช้ทั้งตอนทำคะแนนENT เข้ามาก็ได้ใช้อีก วิชาอังกฤษสำคัญนะ การเรียนในมหาลัยทุกคณะส่วนใหญ่ sheet ที่อาจารย์ให้ก็มักจะเป็นภาษาอังกฤษหมด ขยันวิชานี้ไว้รับรองอนาคตได้ใช้แน่นอน ^^

    *******************************************************************************************************************


                   Q: พี่ค่ะแล้วเรียนหมอนั้นต้องเรียนอะไรมั่งเหรอ ?                

                    GoDGiLaคุง: การเรียนแพทย์นั้นก็จะแบ่งการเรียนออกเป็น 2 ช่วงนะคราบ

                    ช่วงแรกก็คือ พรีคลีนิก ปี1-2-3 ก็เหมือนจะเป็นการวางรากฐานวิชาแพทย์ให้ก่อน                

                    แต่ปี 1 ไม่น่าจะนับรวมซักเท่าไร  ปี 1 เป็นน้องใหม่ที่ใครๆ ในคณะก็จะจับตามอง เข้ามาแรกๆ น้องจะโดนอัดกระแทกด้วยกิจกรรมมากมายมหาศาลที่เตรียมการมาเป็นเวลาแรมปี ให้กับน้องๆ ตั้งแต่ รับน้อง แนะนำตัว กิจกรรมเชียร์รวม เชียร์คณะ  กีฬาFreSHYฯลฯ  ช่วงสัปดาห์แรกๆ น้องก็จะเหนื่อยไปตามๆ กันถึงหอปุ๊บหลับเป็นตาย ปี 1 วิชาที่เรียนส่วนใหญ่ก็จะคล้ายๆกะที่เรียน ม.ปลาย มีฟิสิกส์ เคมี ชีวะ แต่จะลงลึกมากขึ้นเล็กน้อย ส่วนใหญ่จะไปเรียนกับคณะสายวิทย์อื่นๆ ไม่ยากๆ ช่วงปี 1 นี้เวลาว่างจะเยอะมาก อยากทำอะไรก็ทำไปเลย

                    พอเข้าปี 2-3 ก็จะเริ่มเรียนวิชาคณะกันจริงๆแล้วนะ วิชาที่เรียนก็ได้แก่    

                    GROSS ANATONY

                    ถือเป็นตัวละครเอกของชั้นปี 2 เลยด้วยค่าตัวถึง 5 หน่วยกิจ วิชานี้จะเรียนเกี่ยวกับอวัยวะและโครงสร้างของร่างกายที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า น้องๆจะเจอะหน้าท่านอาจารย์ใหญ่ของน้องๆเป็นครั้งแรก

                   MICROANATOMY (HISTOLOGY)             

                    วิชาว่าด้วยโครงสร้างของร่างกายที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า พวก cell เนื้อเยื่อต่างๆ สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือกล้องจุลทรรศน์คู่กายที่ทางภาควิชาใจดีให้น้องๆยืมกันไปคนละเครื่องเลย โดยพึงระลึกไว้เสมอว่าถ้าพังหรือหายก็..60000 นะคราบ -_-" สิ่งที่สำคัญเลยก็คือสายตาอันคมกริบของน้องๆที่จะ identify สิ่งต่างๆในสไลด์                

                    BIOCHEMISTRY
                    น้องๆจะได้ศึกษาเกี่ยวกับปฏิกิริยาต่างๆที่เกิดขึ้นในร่างกายของสิ่งมีชีวิตทั้งชั้นสูงและต่ำ ส่วนใหญ่จะเน้นในร่างกายมนุษย์มากกว่า 

                     PHYSIOLOGY
                     เป็นวิชาที่เน้นความเข้าใจมากกว่าท่องจำ (เหอๆ แต่จะเข้าใจได้ก็ต้องจำก่อนอยู่ดี) วิชานี้จะเกี่ยวกับการทำงานของแต่ละระบบต่างๆในร่างกายว่ามีความสัมพันธ์กันอย่างไร

                     EMBRYOLOGY
                     วิชาว่าด้วยการเจริญเติบโตของตัวอ่อนตั้งแต่ก่อนปฏิสนธิ จนกระทั่งคลอด เป็นวิชาที่ไม่ยากเกินไปนักถ้าน้องมีจินตนาการอันสูงสง + หน่วยความจำขนาดใหญ่--->ใหญ่มาก เพราะน้องๆจะต้องจำชื่อมากมาย วิชานี้มันส์มากต้องเข้าใจว่าอะไรม้วนไปบิดไปเป็นอวัยวะอะไร ทางที่ดีพกดินน้ำมันเข้าไปอาจช่วยให้เข้าใจอะไรมากขึ้น หรือแย่หนักกว่าเดิม                 

                    PHARMACOLOGY
                    ศึกษาเกี่ยวกับยาที่ใช้รักษาโรคต่างๆ ยาแต่ละตัวแต่ละกลุ่มมีรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆกันไป ทำให้คนป่วยเหมือนกันอาจได้รับยาต่างกันได้ เป็นอีกวิชาหนึ่งที่ต้องอาศัยความจำ และ สมาธิในการอ่านมาก    

                     GENETICS
                     วิชานี้ไม่ต้องนิยามอะไรมากวิชาพันธุศาสตร์นั้นเอง ก็จะเรียนเกี่ยวกับ gene chromosome โรคทางพันธุกรรมต่างๆ และอื่นๆอีกมากมาย
             

                     PATHOLOGY
                     เรียนเรื่องโรคต่างๆสารพัดโรค มากมายก่ายกอง กลไกการเกิดโรค เมื่อเกิดโรคแล้วจะเกิดความผิดปกติอะไรบ้าง?? การรักษาทำอย่างไร อันนี้ต้องอาศัยวิชา Human Anatomy And Physiology เข้ามาเป็นผู้ช่วยในการเรียน


                     NEUROANATOMY
                     เป็นวิชาหนึ่งที่ศึกษาเกี่ยวกับระบบประสาทของร่างกาย โดยจะเน้นศึกษาระบบประสาทส่วนกลาง อันได้แก่ สมอง และไขสันหลัง 

                     การเรียนช่วงที่สองก็คือช่วงคลีนิก ปี4-5-6 การเรียนการสอนจะทำในโรงพยาบาล อันนี้คือของจริงแล้วละคราบน้องๆ คราวนี้น้องจะได้นำความรู้ที่เรียมมาใช้กับคนไข้จริงๆ จากที่เดิมเรียนแต่ทฤษฎี มาลองเจอภาคปฏิบัติดูมั่ง น้องๆจะต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้นไม่ใช่ต่อตัวเองเท่านั้นต่อคนไข้ที่อยู่ในความดูแลของเราด้วย เพราะ คนไข้ก็คือครูของเรานั้นเอง

                     ฝากคำพูดซึ้งๆไว้หน่อย^^  แพทย์เป็นผู้ที่รักษาคนไข้ ไม่ใช่รักษาโรคเพียงอย่างเดียว

                     I Don't want you to be only....a Doctor... but.... I also want you to be a man too...


    ********************************************************************************************************************

                      Q: ขอบคุณพี่มากค่ะ หนูเข้าใจขึ้นเยอะเลย แต่หนูยังมีข้อสงสัยอยู่อีกค่ะ พี่ค่ะ แล้วแพทย์ มศว มีการเรียนการสอนยังไงเหรอค่ะ?

                     GoDGiLaคุง: อ้อ ครับ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ แบ่งการเรียนการสอนออกเป็น 17 ภาควิชา

                     1.ภาควิชากายวิภาคศาสตร์                                  10.ภาควิชารังสีวิทยา

                     2.ภาควิชาชีวเคมี                                               11.ภาควิชาวิสัญญีวิทยา

                     3.ภาควิชาสรีรวิทยา                                           12.ภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม

                     4.ภาควิชาเภสัชวิทยา                                         13.ภาควิชาศัลยศาสตร์

                     5.ภาควิชาพยาธิวิทยา                                         14.ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชศาสตร์

                     6.ภาควิชาจุลชีววิทยา                                         15.ภาควิชาอายุรศาสตร์

                     7.ภาควิชากุมารเวชศาสตร์                                   16.ภาควิชาออร์โธปิดิกส์

                     8.ภาควิชาจักษุ โสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา                 17.ภาควิชานิติเวชศาสตร์

                     9.ภาควิชาจิตเวชศาสตร์  

                     โดยภาควิชา1-6 ก็คือการเรียนชั้นพลีคลีนิกจะอยู่ที่ มศว ประสานมิตร ภาค 7-16 การเรียนชั้นคลีนิก อยู่ที่ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ มศว องค์รักษ์  ส่วนภาควิชาที่ 17 อยู่ที่สถาบันนิติเวชศาสตร์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยในชั้นปีที่ 5-6 นิสิตแพทย์ต้องออกรอบรักษาคนไข้ในโรงพยาบาลที่โคกับคณะคือ โรงพยาบาลตำรวจ โรงพยาบาลโรงงานยาสูบ  แล้วก็วชิระ

    **************************************************************************************************************

                      Q: พี่แบงค์ค่ะ ขออีกสักคำถามน้า.. หมอนั้นทั้งเหนื่อยทั้งเรียนหนัก แถมเรียนนานอีกตั้ง 6 ปี แล้วพี่ไม่ท้อเหรอค่ะ ?                

                          GoDGiLaคุง:ก็หลวมตัวเรียนมาถึงขั้นนี้แล้วก็...... เห้ยๆไม่ช่าย ก็ในเมื่อพี่ตัดสินใจแล้วว่าจะเลือกเดินมายังเส้นทางสายนี้แล้ว พี่ก็ต้องทำให้สำเร็จให้จงได้^^ ขอเพียงมีความพยายาม + ตั้งใจ + อดทน แล้วก็จะพบกับความสำเร็จที่หวังไว้คร้าบบบดั่งกลอน

                      
                      กล้วยไม้ออกดอกช้า                   ฉันใด
                      การศึกษาเป็นไป                        ฉันนั้น
                      แต่ออกดอกคราวใด                     งามเด่น
                      การศึกษาปลูกปั้น                       เสร็จแล้ว แสนงาม       

                                                                                            ม.ล. ปิ่น มาลากุล      

    ************************************************************************************************************
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×