คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เหตุที่ต้องก้าวสู่สนามแอดมิชชั่น
"อยู่มหา'ลัย เอนท์ติดไปแล้ว จะไปสอบทำไมให้เหนื่อยวะ" นี่คือความรู้สึกของหลายๆ คนที่รู้จักกัน เมื่อได้รับทราบว่าผมไปสมัครสอบแอดมิชชั่นกับน้องๆ ม.๖ ด้วย ต่างก็ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจบ้าๆ ของผม
"แกจะซิ่วเหรอ" , "เรียนจุฬาฯ ก็ดีอยู่แล้ว" , "จะไปเรียนนิเทศจริงอ่ะ" หลากหลายคำพูดของหลายๆ คนที่รู้จักกัน โดยที่หลายคนอาจจะไม่รู้เหตุผลที่แท้จริง
เหตุผลแรกที่ไปสอบ เพราะมาทำงานที่ Dek-D.com เนี่ยล่ะ ถ้าใครเคยเห็นเมื่อสมัยก่อนตอนที่ยังเป็นการสอบในระบบเอนทรานซ์ เวบมาสเตอร์ผู้สูงวัยในเวบ ได้ทำการถ่ายรูปและนำวิธีการสมัครทุกขั้นตอนค่อนข้างดีเลย เราเห็นแล้วก็เลยเกิดไอเดีย ทำมั้งดีกว่า โดยค่าสมัครสอบในการลงสนามสอบครั้งนี้ต้องขอขอบคุณ เฮียโน้ต เวบมาสเตอร์ผู้สูงวัยแห่ง Dek-D.com ที่ออกค่าสมัครให้
เหตุผลที่สองที่ไปสอบ เพราะทำรายการวิทยุที่สถานีวิทยุแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในรายการ"เปิดประตู สู่มหาวิทยาลัย" ช่วง"นิสิตกับสังคม" ชื่อของรายการก็บอกอยู่ล่ะว่าเนื้อหารายการเกี่ยวกับการเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา แล้วระบบการสอบแอดมิชชั่นมันก็เป็นการสอบระบบใหม่ ทางที่ดีที่สุดที่เราจะได้ข้อมูลคือเราต้องไปถึงแหล่งข้อมูลเลย(เพราะพี่นัทและพี่เอ้ ผู้ดำเนินรายการหลักก็สูงวัยเกินที่จะไปสอบ) และด้วยความที่เลือดรักจุฬาฯ เต็มที่ ไม่ยอมให้ใครมาดูถูกได้ว่า"ในภาวะวิกฤตทางการศึกษา นิสิตจุฬาฯ มีแต่อยู่บนหอคอยงาช้าง ไม่ลงมาทำอะไรหรอก เอาแต่ให้ตัวเองสบายไปวัน" เลยตัดสินใจมาสอบเพื่อนำเสนอข้อมูลในฐานะตัวแทนของนิสิตจุฬาฯ (แอบภูมิใจ ถึงแม้ทั้งมหาวิทยาลัยจะไม่มีใครรู้) อย่างน้อยเราก็ได้ทำตามคำกล่าวที่ว่า"เกียรติภูมิจุฬาฯ คือเกียรติแห่งการรับใช้ประชาชน"
เหตุผลที่สุดท้ายที่ไปสอบ ก็คือเหตุผลที่เพื่อนๆ เข้าใจกันคือว่าจะซิ่ว แต่เหตุนี้ก็ไม่ได้มีน้ำหนักมากพอที่ทำให้ไปสอบเท่าสองเหตุผลแรก เหมือนเป็นเหตุผลที่เสริมเลยตามเลย(ขี้เกียจอธิบายสองเหตุผลแรกให้เพื่อนๆ ทราบ) แต่ที่เรานึกอย่างซิ่วคงเป็นเพราะเหตุผลย่อยๆ อื่นด้วย เช่น ที่เรียนอยู่มันไม่ใช่เรา , งานทั้งที่เรียนและงานในสาขาค่อนข้างเยอะ , ไม่มีความรู้สึกผูกพันธ์กับเพื่อนในสาขาเลย , สายรหัสก็ไม่เทคแคร์เราเท่าที่ควร ฯ เลยทำให้เราอยากไปจากที่สาขาที่เรียนอยู่
ความคิดเห็น