คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ : แรกพบ
Sotus : พี่ว้ากตัวร้ายกับนายปีหนึ่ง Side story : บทนำ : แรกพบ
“แม่งเซ็งว่ะ! กูยังไม่ทันเอาเลือดออกจากหัวไอ้เด็กปีหนึ่งนั่นเลย มึงไม่น่ามาห้าม”
เปรมหนุ่มหน้าเข้มสไตล์คนใต้เรียนภาควิชาโยธาบ่นด้วยสีหน้าโมโห แต่อาทิตย์ซึ่งเดินฟังกลับตีหน้าเบื่อหน่าย พลางอธิบายเหตุผล
“ขืนมึงไปต่อยกันตรงนั้น ได้มีพยานเป็นร้อย เดี๋ยวคนก็เอาไปฟ้องอาจารย์หรอก คิดบ้างสิวะ!”
“เออ...จริงด้วยว่ะ...แล้วไอ้คนหล่อ ๆ นั่นน้องภาคมึงเหรอวะ ทำตัวแส่ไม่เข้าเรื่อง”
คู่สนทนาเปลี่ยนเรื่องถาม คงเห็นท่าทางของก้องภพที่พูดกับเขาแล้วพอจะเดาได้ ซึ่งเขาก็พยักหน้าตอบรับไปแกน ๆ
“อืม มันเป็นของมันแบบนี้แหละ กูลงโทษจนเบื่อแล้ว”
ทั้ง ๆ ที่อุตส่าห์เตือนไปแล้วว่าอย่าทำตัวเป็นฮีโร่ให้มาก แต่เขาก็เข้าใจว่าครั้งนี้เป็นเหตุสุดวิสัย ถ้ามันไม่พูดขึ้นมา บรรยากาศระหว่างปีหนึ่งกับปีสามก็อาจจะยิ่งแย่ไปมากกว่านี้ก็ได้ โดยเฉพาะมีตัวจุดชนวนเป็นคนปากหมาใจร้อนอย่างเพื่อนเขา
“เหอะ แล้วทำเป็นอวดเก่งอย่างนี้จะรอดเร๊อะ?"
อาทิตย์หยุดเดินทันทีที่ได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยจากคนใกล้ตัว เขารู้ว่าเพื่อนเขาคงอารมณ์เสียค้างมาจากไอ้เด็กปีหนึ่งที่จะหาเรื่องปีนเกลียวตอนแรก เลยพาลเหมารวมว่าเด็กปีหนึ่งทุกคนอวดเก่งเหมือนกันหมด
แต่เขารู้ดีว่ามันไม่ใช่... สำหรับคนอย่างก้องภพ....
“...อย่าดูถูกมัน”
คำพึมพำเบา ๆ ของอาทิตย์ซึ่งอยู่ด้านหลัง ทำให้คนฟังไม่ทันได้ยินจนต้องหันถามซ้ำ
“มึงว่าอะไรนะ”
“เปล่า ว่าแต่มึงเหอะ ทำไมขึ้นง่ายขนาดนั้นวะ กูไม่เคยเห็นมึงจะหาเรื่องกับใครก่อนเลยนี่วะ” อาทิตย์ถามเพื่อนกลับด้วยความสงสัย
เปรมอึ้งไปพร้อมกับคิดหาเหตุผลขึ้นในใจ มันคงเกิดตั้งแต่วันเย็นนั้นที่เค้าได้เห็นเด็กนั่นกับคำบางคำที่ไม่สบอารมณ์..............
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนก่อน.........
“แม่ง! อะไรกันนักหนาวะ นัดน้องก็ต้องนัด นัดสอบก็ต้องสอบ แล้วดันมาเป็นวันเดียวกันอีก จารย์ก็โหดเกิ๊นสอบตั้งแต่ชั่วโมงแรกเลย จะเอาที่ไหนมาผ่านวะ” เสียงบ่นยืดยาวมาจากหนุ่มหน้าตาคมเข้ม ที่กำลังวิ่งเหมือนจะเอาสถิติใหม่จากตึกเรียนไปทางสนามกลางที่นัดน้องปีหนึ่งไว้
“โว๊ยยยย ไม่ทันแน่กู เลาะไปหลังตึกดีกว่า” เท้าไวเท่าความคิดทันทีที่ประโยคจบลงขาก็พาร่างอันสมส่วนลัดเลาะไปตามทางเล็กๆ ซอกตึกซึ่งเป็นทางลัดตัดไปสู่สนาม บริเวณหลังตึกที่ไม่น่ามีคนอยู่ในเวลานี้กลับมีกลุ่มนิสิตชายยืนอยู่ 3 -4 คน เมื่อดูจากการแต่งกายแล้วก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นพวกเด็กปีหนึ่ง ทีแรกก็ว่าจะไม่สนใจแต่หูดันไปได้ยินประโยคที่คุยกันมาแว่วๆ
“เฮ้ย วาด มึงจะไม่เข้ารับน้องจริงๆ เหรอวะ” หนึ่งหนุ่มในกลุ่มนั้นถามขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ไม่ว่ะ พวกมึงไม่ต้องไซโคกูเลย ยังไงกูก็ไม่เข้า” เสียงตอบเด็ดขาดมาจากหนุ่มตี๋ ขาวจัด หน้าตาดีตามสมัยนิยม
ร่างที่กำลังจะวิ่งผ่านชะงักฝีเท้าหยุดหลบอยู่ในเงาตึกเพื่อฟังบทสนทนาต่อไป
“แต่ถ้ามึงไม่เข้ามึงจะโดนเขม่นได้นะเว้ย เดี๋ยวก็ซวยหรอก” หนุ่มแว่นในกลุ่มเตือนเพื่อนด้วยความห่วงใย
“อืม ไม่เป็นไรหรอก ถ้าเป็นกิจกรรมอื่นกูเอาหมดแต่รับน้องนี้กูขอบายว่ะ กูไม่อยากทำให้ผู้หญิงที่กูรักเสียใจ กูไม่อยากผิดสัญญา กูขอโทษด้วยนะโว้ยไอ้นัท ไอ้พีท ไอ้แมนที่ทำให้พวกมึงต้องโดนลงโทษ แต่กูทำไม่ได้จริง ๆ ว่ะ”
“ เอ้อ ไม่เป็นไร กูเข้าใจเหตุผลมึง แต่มึงระวังเหอะ พี่ๆ เค้าไม่เข้าใจแล้วจะมาเล่นมึงข้อหาที่มึงโดดเนี่ยะ” นัท เพื่อนสนิทเขาตั้งแต่สมัยอนุบาลเดินเข้ามาตบไหล่ทำนองอย่าคิดมาก
“กลัวไรวะ เล่นมาก็เล่นกลับ แค่เกิดก่อนไม่ได้หมายความว่าจะทำอะไรก็ได้นะเว้ย สองมือ สองตีนเท่ากัน อย่าเอาความเป็นพี่มาข่ม กูไม่กลัวหรอกว่ะ พวกบ้าอำนาจ ว่าแต่นี่ก็ใกล้เวลาแล้วนี่ พวกมึงไปเหอะ ไม่ทันเดี๋ยวก็โดนทำโทษอีก กูก็จะกลับแล้ว”
จบประโยคเพื่อนๆเขาก็แยกตัวไปทางจุดนัดพบ ทิ้งไว้ให้วาดอยู่ตามลำพัง แต่เจ้าตัวกลับรู้สึกว่ามีสายตาจับจ้องจึงมองหาจนพบว่ามันมาจากสายตาคู่หนึ่งที่อยู่ในเงาตึกจากสีหน้าทำให้เขารู้ว่าอีกฝ่ายคงยืนฟังการสนทนาของพวกเขามาพักใหญ่แล้ว ตาคมที่มองมาจึงคุกรุ่นเต็มไปด้วยอารมณ์ วาดเงยหน้าสบตาอย่างไม่กลัวเกรง เหมือนเวลารอบตัวจะหยุดนิ่งเป็นเวลาเนิ่นนานก่อนที่เจ้าของสายตาคมๆ ที่จ้องมองมาจะถอนหลบไปพร้อมกับเสียงพึมพำได้ยินมาแว่ว “ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้เด็กเวร” ...........
......รม
.....ปรม
“ไอ้เปรม มึงคิดไรอยู่วะ ถามก็ไม่ตอบมึงไปเขม่นอะไรน้องมันวะ มันคนละภาคกับมึงไม่ใช่เหรอ”
“เปล่า” เปรมตอบโดยไม่ให้ความกระจ่างก่อนเดินตามกลุ่มเพื่อนไป
หากในความคิดยังวนเวียนถึงรุ่นน้องปากดีที่ไม่มีท่าทางเกรงกลัวใคร
“แม่งแค่อยากโชว์สาวล่ะวะ”
ความคิดเห็น