คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : :+: บทที่ 5 :+:
บทที่ 5
อารัมภาบทโดย : อิม แจบอม (สักที)
ชเว ยองแจ
เด็กนี่น่าสนใจดีนะครับ เป็นเด็กที่มีความน่าสนใจแบบแปลกๆ เหมือนจะเป็นเด็กธรรมดาแต่ก็ไม่ค่อยจะธรรมดาสักเท่าไหร่ ดูมีอะไรดี
ความจริงผมสังเกตเห็นเด็กคนนี้มาหลายครั้งแล้วละ ไม่ใช่แค่ที่โรงเรียนหรอกนะ ผมว่าผมเคยเห็นเด็กคนนี้ตามงานแฟนไซน์ งานแฟนมีต งานโชว์เคสต่างๆที่ผมต้องไปออก แต่ผมก็ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ หน้าหมอนั่นโหลจะตาย ในเกาหลีมีคนหน้ากลมตาตี่ๆตั้งเยอะตั้งแยะ จัดได้ว่าหน้าแบบเขาสามารถหาได้ตามตลาดเลยด้วยซ้ำ
“อ่า~” ผมทิ้งตัวนอนลงบนโซฟาในห้อง ครูใหญ่เขารู้ใจผมจริงๆเลยนะครับ เขาหาห้องพักได้ถูกใจผมมากๆ ห้องกว้างๆ ใหญ่ๆ ที่ทั้งห้องมีแค่ผมคนเดียว ผมชอบมากเลย การได้อยู่คนเดียวในพื้นที่กว้างๆ รู้สึกเหมือนกับว่าทั้งโลกมีเราคนเดียว ที่แห่งนี้เป็นที่ของเราเราจะทำอะไรก็ได้
แถมห้องพักที่นี่เขาก็ยังบอกว่ามันเก็บเสียงได้ดีเยี่ยมเพราะฉะนั้นถ้าผมจะตะโกนอะไรออกไปก็ไม่มีปัญหา แต่ในทางกลับกันถ้าเกิดผมเป็นอะไรขึ้นมาก็จะไม่มีใครได้ยินหรือมาช่วยผมได้
แต่ช่างมันประไร..
ฟึบ~
กลิ้งไปมาบนโซฟาเพื่อหยิบหนังสือขึ้นมานั่งอ่าน...จริงๆแล้วผมขนของจากบ้านและหอเก่าน้อยมาก ผมขนมาแค่เสื้อผ้าและหนังสือเท่านั้น มีรูปครอบครัวสองสามรูปที่เอามาตั้งไว้เผื่อวันไหนคิดถึง โดยนิสัยส่วนตัวผมแล้วผมไม่ค่อยชอบการทำอะไรให้ยุ่งยากสักเท่าไหร่ ถ้าอะไรที่มันยากก็พุ่งใส่มันตรงๆไปเลย ไม่เหมือนกับไอ้เพื่อนข้างห้องที่ขนของมาเหมือนจะอยู่ที่นี่ตลอดไป ขนมาสามสี่กระเป๋า พอถามว่าจะเอาอะไรมาเยอะแยะก็ตอบว่า
‘ก็เตรียมมาเผื่อนายด้วยนั่นแหละ ฉันรู้ว่านอกจากตัวเสื้อผ้าหนังสือนายก็คงไม่ขนอะไรมาหรอก’
คิดไม่ผิดจริงๆที่เป็นเพื่อนกันมาหลายปี
จินยอง..เอ่อ..จูเนียร์นั่นแหละ แต่ผมชินกับการเรียกเขาว่าจินยองมากกว่าเพราะเรียกกันมาตั้งแต่เด็กๆมันเลยเปลี่ยนยาก อืม จินยองเขาเป็นทั้งเพื่อนและแม่ของผมในเวลาเดียวกันเลยนะ เขาอยู่ข้างผมมาตลอด ไม่ว่าผมมีปัญหาอะไรเขาก็จะเป็นคนที่อยู่ข้างผมเสมอ ให้ความช่วยเหลือผมโดยไม่ต้องพูดอะไร ราวกับกว่าเขาอ่านใจผมออกหมดเลยแหละ
ส่วนผม...ไม่รู้สิ ผมรู้สึกว่าเขามีส่วนที่ผมมองเขาไม่ออกนะ บางทีก็ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่เหมือนกัน
ตึ้งตึ่ง...
อ่าตายยากจริงๆสินะเพื่อนคนนี้ สงสัยว่าจะมาตามไปทานข้าวสินะ
ผมวางหนังสือบนโต๊ะก่อนที่จะลุกไปยังประตู
อ้าว ไม่ใช่จินยองนี่
“จินยองฮยองให้มาตามไปกินข้าวครับ”
ไหงเด็กนี่ถึงมาอยู่นี่ได้ล่ะ
“ผมรู้นะว่าฮยองยืนดูผมอยู่ที่หน้าจอน่ะ ไม่ต้องหลบหรอกออกมาทานข้าวได้แล้ว ผมหิว”
“ฮะ...” ผมหลุดขำนิดหน่อยเมื่อได้ยินประโยคหลงตัวเองของยองแจ ไอ้เด็กนี่มันยังไงนะ แปลกจริงๆเลยให้ตายเถอะ
ผมเปิดประตูออกไป ยองแจเงยหน้ามองผมนิดนึงก่อนจะหันมาจิกตาใส่แล้วเดินนำเข้าห้องจินยองไป
จิกขนาดนี้เป็นไก่ใช่ไหม...
“ไปนั่งรอที่โต๊ะกับยองแจเลยนาย เดี๋ยวฉันตามไป” เพื่อนรักชี้ทัพพีไปทางโต๊ะเป็นการบอกให้ผมไปนั่ง และหันไปตักข้าวใส่จานให้เรียบร้อย
“ไง”
“สวัสดีอีกครั้งครับ”
“จินยองตามนายมาทานข้าวด้วยกันหรือไง?”
“ครับ ผมมาเล่นกับช่วยเค้าทำกับข้าวตั้งแต่เย็นแล้วล่ะ” ตอบคำถามทั้งๆที่ไม่ได้มองหน้าผม ยองแจเอาแต่สนใจแต่การถอดผ้ากันเปื้อน
“มานี่” ผมกวักมือเรียก
“เป๊ปนึง”
“บอกว่าให้มานี่ไง” ผมลุกไปดึงแขนเขามาใกล้ๆ จับตัวเขาหันหลังก่อนจะมองไปที่ปมผ้ากันเปื้อน
ให้ตายเถอะทำไมมันถึงแน่นแบบนี้ เด็กนี่ผูกเชือกเป็นไหมเนี่ย
“นายผูกยังไงของนายเนี่ย”
“ก็เอาเชือกสองด้านมามัดๆ ไว้ถอดได้เดี๋ยวผมสอนมัดให้” ไอ้เด็กนี่มันกวนจริงๆ ถ้าไม่ติดว่าเป็นห้องจินยองผมอาจจะฟาดจานใส่หัวเด็กนี่ก็ได้
“แกะไม่ได้ก็ปล่อยไว้เถอะ เดี๋ยวผมจัดการเอง” ยองแจเอื้อมมือมาจับข้อมือผมไว้ ผมเงยหน้ามองเจ้าของมือ เขาปรายตามองมาเล็กน้อย ไอ้สายตาแบบนั้นหมายความว่ายังไง
“ผมบอกว่าผมทำเองได้” เด็กนี่แกะมือผมออกก่อนจะหันกลับมายืนมองหน้าผมด้วยสายตาเจ้าเล่ห์
“รู้ว่าห่วงแต่ไม่ต้องออกสื่อก็ได้ครับ” พูดเสร็จก็กระตุกปมเชือกออกอย่างง่ายดาย ราวกับว่าเมื่อกี้ปมยุ่งๆนั่นไม่ได้ผูกไว้
“ข้าวมาแล้ว~” เสียงสดใสของจินยองดังมาจากในครัว เขาเดินออกมาพร้อมกับข้าวเยอะแยะ ผมลุกไปช่วยเขาถือแต่ถูกยองแจจัดหน้าและหยิบของออกมาแทน
เด็กนั่นยักคิ้วให้ผมสองทีก่อนจะเลื่อนเก้าอี้มานั่ง
“จะไม่กินหรือไงแจบอม?”
“อ้อ กินๆ หูย นายทำอะไรเยอะแยะเนี่ย”
“พูดเหมือนไม่อยากกิน”
“กินสิกินๆ แหม อย่าน้อยใจสิจินยองนายก็รู้ว่ากับข้าวฝีมือนายน่ะอร่อยสุดแล้ว” ผมตบบ่าเพื่อนเบาๆเมื่อเห็นว่าเขาเริ่มทำหน้ามุ่ยๆใส่
ตลอดการกินข้าว ผมแทบจะไม่ได้คุยกับยองแจและจินยองเลย ไม่ใช่เพราะว่าผมทำตัวไม่ถูกหรือว่าอะไรหรอกนะ ก็ไอ้เด็กนี่เอาแต่อ้อนจินยองให้ทำนู่นป้อนนี่หยิบนั่นให้ตลอดเวลา แล้วคนอย่างจินยองน่ะเหรอจะปฏิเสธ...ผมรู้สึกว่าสองคนนี้เพิ่งจะรู้จักกันวันนี้ทำไมถึงสนิทกันเร็วขนาดนี้นะเด็กนี่มันวางยาจินยองหรือไง
แต่ใช่ว่าผมจะถูกเมินแบบถาวรหรอกนะ จินยองก็จะหันมาชวนผมคุยตักนู่นนี่ให้เป็นช่วงๆ และก็มีสายตาประหลาดจากเด็กนี่นั่งตรงข้ามกับผมส่งมาตลอดเวลา
“นี่ยองแจ นายไม่กินแตงกวาหรือไงไหงบอกว่าชอบแตงกวาไง” จินยองมองเศษซากแตงกวาบนจานของยองแจที่ถูกทอดทิ้งบนขอบจาน
“ผมชอบทุกอย่างที่เป็นแตงกวาแต่ผมไม่ชอบแตงกวาที่ไม่ปลอกเปลือก”
“นายนี่มันอินดี้จริงๆ”
“ผมว่าผมน่ารักมากกว่า” พูดแล้วก็ยักคิ้วหลิ่วตามาทางผม
“แจบอม...ไอ้หมอนี่เป็นน้องชายนายใช่ไหม?”
“หืม??”
“ถ้าไม่ใช่เด็กนี่อาจจะเป็นเนื้อคู่นายก็ได้ นิสัยเหมือนกันเป๊ะ” จินยองส่ายหน้าไปมากับท่าทางของเด็กที่กำลัง..เอ่อ..เต้นควิโยมิกลางโต๊ะกินข้าว
“ฉันไม่เคยทำอะไรแบบนั้น” ผมพูดทั้งๆที่จ้องหน้ายองแจแบบไม่ละสายตา ยองแจเองก็มองมาทางผมเหมือนกัน
“ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้นฉันหมายถึงพวกนายเข้าใจยากไง เป็นพวกโลกส่วนตัวสูง”
“ผมไม่ได้โลกส่วนตัวสูงขนาดนั้นหรอกฮยอง ถ้าฮยองอยากลองมาอยู่ในโลกของผมก็ได้นะ” มองอย่างเดียวไม่พอยังส่งยิ้มหวานมาให้อีก
“เห้ย...นายพูดกับฉันแต่ทำไมเอาแต่มองหน้าแจบอมห้ะ?” จินยองตบหัวเด็กแตงกวาจนหัวกือบกระแทกกับโต๊ะทานข้าว ยองแจลุกขึ้นทำท่าจะทุบจินยองแต่ก็ถูกมือจินยองคว้าไว้แล้วเอาแตงกวายัดเข้าปาก
“อ้ออะอองไอ่อ่ออี่อา” (ก็ฮยองไม่หล่อนี่นา)
“ใครบอก! แฟนๆรักฉันจะตาย ฉันน่ะหนุ่มในอุดมคติของใครหลายคนนะ!”
“แอออมอะอองอ่ออ่าอีก อ๋มออบแอออมออะออง”
“อะไรนะ?”
“ไอ่ออก!” (ไม่บอก)
“แจบอมนายฟังไอ้แตงกวานี่ออกไหมเมื่อกี้อ่ะ?” จู่ๆผมก็ถูกยิ่งคำถามใส่ ถ้าถามว่าผมฟังประโยคเมื่อกี้ออกไหม ผมก็ฟังออกนะแต่..
“ไม่อ่ะ ฉันไม่ได้ฟังฉันกินไก่อยู่”
“โหย บอกฉันมานะยองแจ เมื่อกี้นายว่าฉันใช่ไหม?” จินยองดึงแตงกวาในปากของยองแจออกและเอามาชี้หน้ายองแจหงึกๆ
“ไม่บอก มันสำคัญขนาดที่ฮยองต้องมาเค้นผมหรือไง!?”
“ฉันรู้ว่านายต้องแอบว่าฉันแน่ๆ”
“ก็รู้นี่นา” ยองแจลุกขึ้นไปเก็บจานทันทีที่พูดเสร็จ จินยองก็รีบวิ่งตามเข้าไปในครัว และออกมาหยิบจานไปเก็บตามและไล่ล่าสอบสวนต่อในห้องครัว
แจบอมฮยองหล่อกว่าอีก ผมชอบแจบอมฮยอง
ไอ้เด็กนั่นคงไม่ได้พูดแบบนี้หรอก..ใช่ไหม?
หลังจากทานเสร็จผมก็โดนไล่กลับห้องมาด้วยเหตุผลว่า
“นายอยู่ก็ไม่ช่วยอะไรเท่าไหร่กลับห้องไปนอนก็ได้เดี๋ยวฉันกับยองแจล้างจานเอง”
จินยองติดเชื้อปากร้ายมาจากยองแจใช่ไหม ปกติเค้าไม่เคยจิกกัดผมนะ
ไลน์~
ผมสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือนไลน์ ผมหยิบมือถือขึ้นมาดูก่อนจะถอนหายใจแรงๆ
อ๊ค อ๊คแทคคูล
[LINE CookieRun]
ส่งชีวิตและคะแนนของขวัญ 5 คะแนนให้แล้ว ส่งกลับมาให้ด้วยนะ~ ^^
คุณสามารถตรวจสอบข้อความนี้บนไลน์เวอร์ชั่น iPhone/Android.
ให้ตายเถอะ แทคฮยองส่งคุกกี้รันมาให้ผมตอนนี้เนี่ยนะงานการไม่ทำหรือไงเอาแต่เล่นเกมเนี่ย
ไลน์~
ถ้าคราวนี้ใครส่งคุกกี้รันมาอีกผมจะกีดกันแล้วนะ
คุณนี่ศูนย์หกสองสี่ : แจบอมนายช่วยฮยองคิดหน่อยสิว่าอันนี้มันคำว่าอะไร ฮยองใช้เงินหมดแล้วอ่ะ
อ่า…ไม่ใช่คุกกี้รันก็อีโมจิเนชั่นสินะ ผมว่าประธานจินยองของเราคงปล่อยให้ฮยองเหล่านี้ว่างงานจนเกินไปแล้ว
ไลน์~
เยี่ยม ไลน์เด้งได้เด้งดีสิครับ จะไรอีก มีเกมไหนที่ยังไม่มีใครส่งมาไหม
มกโพยองแจ : ฮยองผมขอใจฮยองหน่อยดิ
หืม อะไร เด็กนี่มีไลน์ผมด้วยหรือไง?
เจบีแจบอม : ฉันไม่เล่นคุกกี้รัน
มกโพยองแจ : ไม่ใช่เกม
เจบีแจบอม : อ้าว อะไรของนายเนี่ย ก็มาขอใจไง ก็ฉันไม่เล่น
มกโพยองแจ : ฮยองนี่โง่จริงๆเลย
เจบีแจบอม : อะไรๆ นี่นายมาว่าฉันโง่ทำไมห้ะ ปกติมีแต่คนบอกว่าฉันหล่อนะ
มกโพยองแจ : ไม่ ฮยองน่ะ กลวง ซื่อบื้อ
เจบีแจบอม : นายนี่มัน ไอ้เด็กแตงกวา!
มกโพยองแจ : ว่าไงครับฮยองกลวง คิกๆ ต่อไปผมเรียกฮยองว่าฮองกลวงดีกว่า
เจบีแจบอม : นาย
มกโพยองแจ : ไม่เอาละๆ ไม่คุยกับฮยองละ ขืนคุยต่อมีหวังผมได้ติดไวรัสกลวงมาจากฮยองแน่ๆ ไปละ
มกโพยองแจ : ส่งสติ๊กเกอร์
“ชเว ยองแจ…นายนี่มันร้ายนักนะ” ผมมองหน้าจอมือถือแล้วยิ้มออกมาเล็กน้อย หึๆ เด็กนี่สนุกดีนะ
คิดว่าฉันจะไม่รู้เลยหรือไงว่าที่นายส่งมานายหมายถึงอะไรกันแน่ แต่ถ้าฉันทำอะไรง่ายๆนายก็จะง่ายๆกลับมา และถ้าเป็นแบบนั้นมันก็ไม่สนุกน่ะสิ
ฉันเริ่มสนใจนายแล้วล่ะ ชเวยองแจ
Talk : น้องอ่อยสุดใจ กรั่กๆๆๆ พี่บีไม่ได้โง่พี่บีแค่แกล้งโง่ ทำไมเราแอบเชียร์ทูยอง ถถถถถ ถ้าตอนจบพลิกเป็นทูยองอย่าตกใจนะคะ 555555555555 ไม่รู้จะจบคู่ไหน เชียร์สองคู่เลยง่ะ 55555555
ขอบคุณที่เม้นท์กับเมนชั่นมานะ ตามอ่านทุกอันเลย ฮิๆๆ ทั้งคนที่อ่านแต่ไม่เม้นท์ คนที่เฟบแต่ยังไม่อ่าน ก็ขอบคุณจริงๆค่ะคิกๆ จะแต่งเต็มที่เลยนะ
#ฟิคแฟนคลับแฟนครับ
ความคิดเห็น