คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : :+: บทที่ 4 :+:
บทที่ 4
อารัมภาบทโดย : ชเวยองแจ
ครืดๆ
“สวัสดีครับ”
/โอ้ ยองแจ ฉันโทรมากวนนายหรือเปล่า?/
“เอ่อ นั่นใครครับ?”
/ฉันจูเนียร์เอง ปาร์คจินยองจูเนียร์/
“ฮยองมีเบอร์ผมได้ยังไงครับ!?”
/ก็ครูใหญ่ให้มาน่ะ ตอนนี้นายยุ่งหรือเปล่า?/
“อ่าไม่ครับๆ ผมเพิ่งทำงานเสร็จพอดี”
/งั้นนายช่วยมาหาฉันที่ห้องทีสิ/
“ตอนนี้เหรอครับ? ถ้างั้นรอเป๊ปนึงนะครับผมขอเก็บของก่อนนะ เดี๋ยวผมไป”
/อื้ม ฉันจะรอนะ/
“ครับ”
ตู๊ดๆ
ช็อคโลกครับ..จูเนียร์ฮยองโทรหาผม... ให้ทายว่าถ้าคนที่โรงเรียนรู้ผมอาจจะถูกเขม่นก็เป็นได้ ผู้หญิงที่โรงเรียนผมน่ะเป็นแฟนคลับของจูเนียร์ฮยองกับเจบีโอป...เอ่อ..ฮยองตั้งเยอะแยะ แถมพวกหล่อนก็ชอบจิกชอบกัดอีกต่างหาก ไม่ไหวเลยครับ ผู้หญิงสมัยนี้ไม่เรียบร้อยเอาซะเลย ไม่เหมือนผมเลยสักนิด
“อ้าวนาย” นี่มันผู้ชายผมแดงสุดหล่อที่เพิ่งเจอนี่นา
“สวัสดีครับ”
“อ้อนายนี่เอง”
“อ่า เรื่องที่ไอ้แจ็คมันล้มทับผมขอโทษด้วยนะครับ”
“ฮ่าๆ ไม่เป็นไรหรอก บังเอิญจังเลยนายออกมาจากห้องพอดี” ยิ้มหล่ออีกแล้ว...ฮอล....หัวใจยองแจเต้นดูกึนดูกึนตึกตักคักคักอึกทึกครึกโครมไม่เป็นจังหวะแล้วนะ
ยองแจละอยากจะละลายเป็นช็อคโกแลตเหลวหน้าห้องจริงๆ
“แล้ว...”
“จะมาหาไอ้หวังมันใช่ไหมครับ มันอยู่ในห้องน่ะ”
“เดี๋ยวสิ” อุ๊ย! มาคว้าแขนเค้าไว้แบบนี้คิดอะไรกับใครหรือเปล่า
“อะ..อะไรครับ?” ยองแจอย่าเสียงสั่นลูก ตั้งสติ อย่าหวั่นไหว ฮึ้บ!
“นายช่วยไปเรียกเพื่อนนายให้หน่อยสิ ถ้าฉันเรียกหมอนั่นไม่ออกมาแน่ๆ”
“อ๋อ ด้วยความเต็มใจเลยครับ!”
จริงๆแล้วแล้วผมไม่ใช่คนง่ายนะครับ ผมแค่มีน้ำใจแค่นั้นเอง
หลังจากทำภารกิจเสร็จผมก็รีบปั่นจักรยานไปที่หอของจูเนียร์ฮยองทันที ไม่ใช่ว่าผมรักษ์โลกอะไรมากมายหรอก ผมขับรถไม่เป็น...แค่ปั่นจักรยานได้ก็เก่งแล้วครับ
“ผงะ!”
“เฮ้ย”
ดวงผมวันนี้คือการเปิดประตูเจอกับคนอื่นใช่ไหมครับ
“อ้าวยองแจ ฮ่าๆ นายอุทานตลกแฮะ...ผงะ ฮ่าๆๆ เข้ามาก่อนสิ”
“อ่า...แล้วเมื่อกี้ฮยองจะออกไปไหนเหรอ?” ผมพูดโดยไม่สบตากับเจ้าของห้อง สายตาผมจับจ้องแต่ของตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์สุดหรูในห้อง พระเจ้า นี่มันคนละชั้นกับหอผมเลย โห..มีจอมอนิเตอร์ไว้ดูว่าใครมายืนหน้าห้องด้วย อยากได้บ้างอ่ะ
“ก็จะออกไปตามนายนั่นแหละ ทำไมมาช้าจัง?”
“อ๋อ พอดีมีคนขอให้ช่วยผมและช่วยเขาเป๊ปนึงน่ะครับ”
“อ้อ...” จูเนียร์ฮยองพยักหน้าหงึกหงักสองสามทีก่อนจะเดินไปนั่งบนโซฟา “มาเล่นเกมกัน”
“ห้ะ!? นี่ฮยองเรียกผมมาเพื่อเล่นเกม?”
“ใช่ ฉันอยู่คนเดียวก็เบื่อเป็น แล้วนายก็เป็นเพื่อนคนแรกของฉันในการมาเรียนที่นี่เลยนะ ถ้าไม่นับไอ้ติสท์ข้างห้องน่ะ”
“แต่ผมเป็นน้องนะ” ยองแจยังไม่แก่นะ บุ่ย!!
“เอาน่า..นายเล่นกับฉันเหมือนเพื่อนได้เลย สำหรับฉันนายก็เป็นเหมือนเพื่อนฉันนั่นแหละ!” กระโดดมากอดคอผมแล้วก็ลากลงมานั่งเกมเพลย์ด้วยกัน
เพราะว่าเกมเพลย์และความสดใดของจูเนียร์ฮยองทำให้เราสนิทกันเร็วกว่าปกติ จูเนียร์เขาเหมือนกับเด็กมากเวลาที่เขาตั้งใจเล่นเกม หน้าตาเอาจริงเอาจังกับเกมแบบนี้ผมไม่เคยคิดว่าจะได้เห็น ไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าคนอย่างจูเนียร์ฮยองจะติดเกม ผมนึกว่างานอดิเรกเขาคือการเย็บปักถักร้อยและการเรียนมารยาทตามแบบฉบับนางในวังหลวงเทือกๆนั้นซะอีก
“เฮ้ย นายขี้โกงใช่ไหมยองแจ! ทำไมชนะฉันตลอดเลย!” คนที่เล่นเกมแพ้โยนจอยทิ้งบนโซฟาก่อนจะหันมาทำหน้ายุ่งใส่ผม
“ไม่รู้สิครับ...อาจเป็นที่ฝีมือ”
“นี่!”
“อย่าเอาหมอนฟาดหน้าสิฮยอง เดี๋ยวผมเสียทรง”
“นี่ฉันเป็นพี่นายนะเนี่ย แพ้ให้หน่อยไม่ได้หรือไง”
“ก็ฮยองบอกเองว่าผมเป็นเพื่อนฮยอง เนอะ”
“ได้ทีก็เอาใหญ่เลยนะนาย” จูเนียร์ฮยองเหล่มองแขนผมที่พาดอยู่ขนไหล่ของเขา ก็เขาบอกเองนะว่าเล่นเป็นเพื่อนได้ ผมไม่ผิด
“นานทีปีหนครับ”
“เหอะ ฉันไม่เล่นแล้ว! เล่นแล้วแพ้ตลอดเลย มีแค่เรื่องหน้าตาสินะที่ฉันชนะนาย”
“อย่าคิดเองครับฮยอง”
“ไอ้เด็กนี่”
ตุ้บ!
เขาขว้างหมอนใส่หน้าผมอีกแล้ว...
ผมเสียทรงด้วยอ่ะ...
“ฮยองนิสัยไม่ดี แพ้แล้วพาล”
“นายทำกับข้าวเป็นไหม?” ทำไมเมินผมละ
“บุ่ยๆ”
“ยองแจ...”
“เป็นครับ!~”
“งั้นมาช่วยฉันทำข้าวเย็นหน่อยสิ”
“บอกว่าไม่ช่วยได้ไหมล่ะ?”
“ไม่”
“แล้วฮยองจะถามทำไมเนี่ย!”
“ก็ถามเป็นพิธีเฉยๆ นายไปหุงข้าวไปแล้วค่อยมาทำซุป เดี๋ยวฉันทอดปีกไก่เอง”
“โห ทำอะไรเยอะแยะอ่ะฮยอง” ผมมองดูวัตถุดิบในห้องครัวแล้วต้องตะลึง ทั้งหมู ไก่ เต้าหู้ สาหร่าย ข้าว บลาๆ เต็มไปหมด นี่จะเลี้ยงทั้งหอเลยไหม?
“ก็กินกันสามคน”
“สาม?”
“นาย ฉัน แล้วก็ไอ้นู่น” พูดแล้วก็ทำปากจู๋ไปทางห้องข้างๆ นิสัยเขาจริงๆสินะครับไอ้ทำตัวเป็นคุณแม่ดูแลสารทุกข์สุกดิบคนอื่นเนี่ย
“อ่า..”
“หรือนายจะไม่กินก็ได้นะ กลับไปได้ละๆ” คุณแม่เอาตะหลิวจิ้มพุงผมเล่นทำไม
“ไม่อ่ะ ผมหน้าด้าน ไล่ก็ไม่ไปหรอก”
“ฮะๆ นายนี่จริงๆเลย”
“น่ารักสินะ โอ๊ย! เอาตะหลิวฟาดหัวทำไมอ่ะ เจ็บนะ!”
“ก็ฟาดให้เจ็บไง อยากโดนอีกไหม?”
“ไม่!”
“ก็ไปทำกับข้าว!!”
“บุ่ยๆ”
“ไม่ต้องมาบุ่ยเลย นายเป็นปลาบู่หรือไง!?”
“ผมไม่ใช่รจนา”
“นั่นมันเรื่องสังข์ทอง!”
“ผมนึกว่าฮยองไม่รู้ซะอีก”
“นายว่าฉันโง่เหรอ!?”
“ก็ไม่รู้สินะ~ อิอิ”
“เด็กอ้วน!”
“ยองแจไม่อ้วนนะครับ”
ผั๊วะ!
คราวนี้ไม่ใช่ตะหลิวหรือหมอนแต่เป็นฝ่ามืออรหันต์ จูเนียร์ฮยองฟาดหัวผมมาเต็มแรงจนหัวผมแทบโขกกับหม้อข้าว นี่ผมไปทำอะไรให้ฮยองเค้าหมั่นไส้? ผมออกจะเรียบร้อยมีสกุล ไม่เคยกวนใครก่อน เค้าทำแบบนี้กับผมมันไม่ยุติธรรมเลยนะครับ บุ่ยๆ
“ฮยอง”
“มีอะไร?”
“ปล่าว เรียกเฉยๆ”
ผั๊วะ!
อีกแล้ว...
ยองแจทำอะไรผิดครับ!!!!!
หลังจากสร้างสงครามขนาดย่อมกับจูเนียร์ฮยองเสร็จก็ตั้งใจทำอาหารเย็นสุดอร่อยให้ว่าที่สา...ว่าที่แฟนทาน กรุบกริบ เจบีฮยองจะมาตอนไหนน๊า~ อยากจะอวดโฉมตัวเองตอนใส่ผ้ากันเปื้อนและทำอาหารจังเลยน๊า~ อยากทานอาหารด้วยกันจังเลยน๊า~
ผมว่าเค้าต้องติดใจในฝีมือของผมแน่นอนคิกๆ
บางทีเค้าอาจจะต้องเอ่ยปากว่า ‘ยองแจอ่า....อยากจะมาเป็นแม่บ้านในครอบครัวฉันไหม’
คิกๆ
“ยองแจเช็ดน้ำที่หกตรงหน้าตู้นั่นให้หน่อยสิ”
แต่ตอนนี้ผมกลายเป็นแม่บ้านเก็บกวาดสำหรับจูเนียร์ฮยองไปแล้วครับ...
!!?
ผมเหลือบไปเห็นกรอบรูปที่ตั้งเรียงกันอยู่บนโต๊ะ เป็นรูปถ่ายของเด็กสองคน ซึ่งถ้าคนที่เป็นแฟนคลับอย่างผมมองก็คงเดาไม่ยากว่าใครเป็นใคร
รูปแรกเป็นรูปเด็กชายแก้มป่องกำลังทานไอติมอย่างอร่อยในอ้อมกอดของเด็กอีกคน
รูปถัดมาเป็นรูปภาพถ่ายครอบครัวแต่ข้างๆเด็กแก้มป่องกลับมีเด็กชายอีกคนที่ไม่น่าจะเป็นพี่น้องกับมาถ่ายรูปด้วยกัน
และรูปสุดท้ายเป็นรูปของเด็กสองคนนั้นหลังจากชนะการประกวดแต่มีเพียงคนเดียวที่ยิ้มให้กับกล้อง เด็กที่ตัวโตกว่าไม่ได้หันมามองกล้องเขามองไปทางเด็กแก้มป่องที่ยิ้มจนตาปิดแล้วยิ้มอ่อนโยนออกมา
ผมรู้นะว่าสองคนนี้รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กก็เลยสนิทกัน...และผมก็ได้แต่หวังว่ายิ้มนั่นคือยิ้มที่เพื่อนมีให้กัน
Talk : น้องยองแจและพี่เนียร์~ ขนาดเจอาร์ออมม่ายังเอายองแจไม่อยู่...เด็กนี่มันร้ายกาจจริงๆนั่นแหละ 3 นาทีก็จูนกับชาวบ้านเค้าติดแล้ว น้องไม่ได้ง่ายแค่อัธยาศัยดี น้องไม่ได้หวั่นไหวน้องแค่มีน้ำใจกับคนหล่อ 55555555 ตอนหน้าจะให้พี่บีอารัมภาบทบ้างละ ตอนนี้พอก่อน บั้ยบุย~
#ฟิคแฟนคลับแฟนครับ
ความคิดเห็น