คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : John/Joan เปลี่ยนเด็กผู้ชายเป็นเด็กผู้หญิง (ฉบับย่อ)
สำหรับเรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา Introduction to Human Behavioral Genetics
ซึ่งเป็นคอร์สออนไลน์ที่ University of Minnesota จัดทำขึ้นมา
เป็นเลคเชอร์แรกๆ เป็นเคสศึกษาแรกของยูนิต 1
ซึ่งเรากดเข้าร่วมไป แต่ดูแล้วไม่น่าจะเรียนจบ เพราะเรางงหลายจุด คือจริงๆเขาไม่สนับสนุนเด็กอายุต่ำกว่า 18 เรียนด้วย (16หย่อนๆ) ต้องมีผู้ปกครองแนะนำ แต่ก็นั่นแหละคะ 5555555+
เนื่องจากว่าเราได้ลองขุดแล้ว ข้อมูลเคสนี้หาเป็นภาษาไทย ไม่เจอเลย
ก็ไม่รู้ว่ามีคนไทยรู้จักมากน้อยแค่ไหน อาจจะเป็นที่รู้จักในวงการเฉพาะหรือเปล่า อันนี้ก็ไม่แน่ใจ ในส่วนนี้เลยต้องการแจ้งให้ทราบก่อนว่า ข้อมูลต่อไปนี้จึงเป็นข้อมูลที่เราสรุปความมาจากเลคเชอร์ บวกกับข้อมูลอื่นเพียงเล็กๆน้อยๆ อาจมีข้อผิดพลาดได้ เต็มใจให้ท้วงติงและแก้ไข รวมทั้งขออภัยไว้ด้วย
ข้อมูลจริงๆมีเยอะมาก แต่เราคงทำเต็มเรื่องไม่ไหว เดี๋ยวช๊อคตายก่อน แล้วก็ไม่แน่ใจว่า จะมีคนทนอ่านเต็มเรื่องได้ซักกี่คน สำหรับฉบับเต็ม ถ้าเราสามารถทำได้ เราก็จะลองทำดู
John Joan Study Case
22 สิงหาคม 1965 Janet Grace Reimer ให้กำเนิดลูกชายฝาแฝดสองคนที่ Winnipeg, Canada เธอและ Ronal Peter Reimerz ผู้เป็นบิดา ตั้งชื่อลูกว่า Brian Henry Reimen และ Bruce Peter Reimen
เมื่ออายุได้ 6 เดือน ทั้งสองมีปัญหาด้านการปัสสาวะ และต่อมาพบว่าเป็นเพราะหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศไม่เปิด (phimosis) พออายุได้เจ็ดเดือน ก็เลยพาไป ‘ตัด’ หนังหุ้มออก
วันที่ 27 เมษายน 1966 วันที่ทั้ง Jenet และ Ron คงไม่ลืมไปอีกตลอดชีวิต พวกเขาพาลูกทั้งสองไปตัด ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคเกี่ยวกับท่อปัสสาวะได้ทำการตัดโดยเปลี่ยนวิธีไปจากปกตินิดหน่อย (พูดง่ายๆก็คือทดลองวิธีใหม่ ซึ่งขณะนั้นยังไม่เป็นที่ยอมรับ) โดยใช้วิธีจี้ให้ไหม้ แต่ขณะทำการรักษาเกิดความผิดพลาดทำให้อวัยวะเพศของBruce ซึ่งเข้ารับการรักษาคนแรกก่อน Brian ไหม้หายไป จากความผิดพลาดนั้นหมอจึงตัดสินใจไม่รักษาBrian และต่อมา Brian ก็หายจากอาการ Phimosis ไปเองโดยไม่ต้องผ่าตัดอะไรทั้งนั้น
RonและJenet กลุ้มใจมาก คิดไม่ออกเลยว่าลูกโตขึ้นมาจะรับได้และมีความสุขได้ยังไงในเมื่อเป็นผู้ชายที่ไม่มีอวัยวะเพศ และขณะที่ทั้งสองกำลังหมดกำลังใจอยู่นั้นเอง โทรทัศน์ก็เปิดรายการ This Hour Has Seven Days, ซึ่งวันนั้นได้ทำการสัมภาษณ์ John Money นักจิตวิทยาที่ศึกษาเรื่องเพศ และนั่นเป็นแสงสว่างแสงเดียวที่ผุดขึ้นมาในใจของทั้งคู่
John Money พูดถึงทฤษฎีเพศเป็นกลางของเขาในบทสัมภาษณ์ ทฤษฎีของเขาเชื่อว่า คนที่เกิดมาจะเป็นเพศหญิงหรือชาย ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดู และการถูกสังคมปฎิบัติ สังคมสั่งให้เชื่อ ว่าเป็นเพศใดเมื่อขณะยังเป็นเด็กอายุได้ไม่เกิน2เดือน เขาเชื่อว่าเพศเกิดขึ้นจากสภาพแวดล้อมไม่ใช่อวัยวะ เขาเชื่อว่าการเลี้ยงดูมีอิทธิพลมากกว่าธรรมชาติ นอกจากนั้นเขายังพูดเรื่องที่ว่า อวัยวะเพศชายนั้นไม่สามารถทำขึ้นมาแทนที่ได้ ในขณะที่รังไข่ของเพศหญิงสามารถทำได้
Ron และ Jenet ตัดสินใจไปหา John Money ที่โรงพยาบาล Johns Hopkins ใน Baltimore
สุดท้ายแล้ว Bruce ได้รับการผ่าอัณฑะออก พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อเป็นแบรนด้า และถูกเลี้ยงดู เป็น ‘ลูกสาว’ ของครอบครัว* แล้วบรูซก็กลายเป็นแบรนด้าไปจริงๆ
*รวมทั้งการรักษาส่วนหนึ่งของ John money ซึ่งค่อนข้างขัดกับวัฒนธรรมทางเพศ ไม่ได้โดนข่มขืนอะไรนะ แต่อ่านแล้วอาจจะจิตตก ขอไม่กล่าวถึงดีกว่า
ขณะนั้น John money ก็เริ่มเขียนเรื่องของบรูซ โดยใช้ชื่อสมมุติว่า John / Joan case ลงตีพิมพ์ เขียนเรื่องการพัฒนาความเป็นหญิงของแบรนด้าไปเรื่อยๆ ถือว่ากรณีศึกษานี้ช่วยสนับสนุนทฤษฎีเขาได้มากโข จนกระทั่ง วันหนึ่ง เขาหยุดเขียนไปโดยปริศนา
แต่ว่าเราก็ยังรู้เรื่องผ่านทางอื่นอยู่ดี
แม้บรูซจะเป็นแบรนด้าและเหมือนทุกอย่างจะดีเข้าที่เข้าทาง แต่จริงๆแล้วปัญหายังไม่หมด แลดูจะเยอะขึ้นด้วย
แบรนด้าอายุ 2 ขวบ เธอฉีกกระโปงตัวเองทิ้งแล้วรู้สึกว่าอยากจะสู้กับพี่ชาย ทุบรถของเล่น
เธอบอกกับพ่อแม่และคุณครูว่า เธอไม่รู้สึกเหมือนกับว่าเธอเป็นผู้หญิง
แบรนด้าในวัย 15 ซึ่งได้รับการฉีดฮอร์โมนเพศหญิงเพื่อให้มีหน้าอกแล้ว เกิดอาการซึมเศร้าอย่างหนัก (แน่นอนว่าเจ้าตัวก็คงไม่รู้หรอกว่าถูกฉีดฮอร์โมน เพราะหมอบอกพ่อแม่ว่าต้องเก็บเรื่องเปลี่ยนลูกชายเป็นลูกสาวไว้เป็นความลับ ไม่อย่างนั้นที่ทำมาทั้งหมดจะสูญเปล่า)
แต่อาการซึมเศร้าของแบรนด้านั้นหนักขึ้นทุกวัน จนถึงขั้นมีภาวะอยากฆ่าตัวตาย
และภาวะอยากตายซึ่งรุนแรงขึ้นทุกวันทุกวัน ทำให้ Jenet และ Ron ตัดสินใจบอกความจริงแก่แบรนด้า
แบรนด้าบอกว่า เธอรู้สึกไม่ดีตลอดเวลาแต่ไม่เคยรู้ว่าความรู้สึกนั้นเกิดขึ้นเพราะอะไร อย่างไรก็ตาม เธอโล่งใจที่ได้รู้ความจริงเรื่องนี้ ในที่สุดเธอก็เข้าใจว่าเธอไม่ได้บ้าที่ร็สึกว่าตัวเองไม่ใช่ผู้หญิง
และแล้วแบรนด้าก็เปลี่ยนชื่อเป็นเดวิด
แล้วใช้ชีวิตแบบผู้ชายอีกครั้ง
เดวิดแต่งงานตอนช่วงอายุได้สามสิบต้นๆ กับแม่ม่ายคนหนึ่งชื่อเจน เขาจึงได้มีลูก(บุญธรรม) และกลายเป็นพ่อไปโดยปริยาย
เขาเริ่มอุทิศตัวเองเพื่อช่วยเหลือคนที่มีปัญหาคล้ายกับเขา
แต่ในขณะเดียวกันเรื่องราวหลอกหลอนในวัยเด็ก การรักษาประหลาดๆก็ตามหลอกหลอนเขา รวมถึงปัญหาชีวิต ปัญหาด้านอารมณ์ พี่ชายเขาตาย ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เขาซึมเศร้าหนักกว่าเก่า ภรรยาที่รับอารมณ์โกรธไม่ทราบสาเหตุ ขึ้นๆลงๆ เขาไม่ไหว เสนอว่าควรจะแยกกันอยู่ซักพักหนึ่งก่อน
วันที่ 5 พฤษภาคม 2004 David peter reimen ใช้ปืนจ่อยิงตัวเองที่ศีรษะ และจากไปในวัย 38 ปี
· ในเลคเชอร์น่ากลัวมากคะ อาจารย์พูดว่าเขาฆ่าตัวตายเมื่ออายุได้ 38 ปี และยังไม่มีใครระบุสาเหตุที่ชัดเจนที่สุดที่ทำให้เขาตัดสินใจฆ่าตัวตายได้
ข้อมูลจาก วิกิพิเดีย และเลคเชอร์ค่ะ
ความคิดเห็น