ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สุดยอดปริศนาที่ยังหาคำตอบไม่ได้

    ลำดับตอนที่ #33 : Tutankhamun คำสาปของฟาโรห์ตุตันคาเมน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.93K
      0
      29 ก.ย. 53

    ว่ากันว่าในสุสานมีเชื่อราชนิดหนึ่งที่สามารถทำให้โลหิตเป็นพิษได้ คนที่บุกเข้าไปก็เหมือนสูดดมของสปอร์ของมันเข้าไป ตายสนิท
    ว่า กันว่าอาถรรพ์ฟาโรห์องค์นี้ทำให้เรือไททานิคล่ม เพราะมีนักโบราณคดีดันเอาศพจากสุสานนี้ใส่ใต้ท้องเรือไปด้วย เรือก็เลยจมด้วยประการฉะนี้


    เรื่องนี้ดังพอสมควรเลยน่ะ (โคตรจะดังเลยดีกว่า)  ในหนังสือการ์ตูนเพียบเลย = = หลายคนน่าจะเคยได้ยินได้อ่านมาบ้างแล้วแหละ แต่ถ้าใครยังไม่เคยอ่านก็ลองอ่านดูแล้วกัน

    .
    .
    .


     

    ทุตอังค์อามุน ประสูติ: 1341 ปีก่อนคริสตกาล, ทิวงคต: 1323 ปีก่อนคริสตกาล) เป็นฟาโรห์อียิปต์พระองค์ที่ 12 แห่งราชวงศ์ที่ 18 เสวยราชย์ระหว่าง 1333-1324 ปีก่อนคริสตกาล

     

    ฟาโรห์ทุตอังค์อามุนได้ครองราชย์ในรัชสมัยของพระองค์ช่วงสั้นๆ ราว 9 ปี ก็สิ้นพระชนม์เสียก่อน การบริหารบ้านเมืองจึงตกอยู่กับวิเซียร์ ไอย์ (Vizier Ay) เป็นเพราะฟาโรห์ทุตอังค์อามุน สิ้นพระชนม์อย่างกะทันหัน วิเซียร์ อัยย์จึงได้สร้างสุสานถวายแบบง่าย ๆ

    ราวสองร้อยปีต่อมา มีการสร้างสุสานของฟาโรห์รามเสสที่ 6 ทับสุสานของ ฟาโรห์ทุตอังค์อามุน ทั้ง ๆ ที่คนงานก็รู้แต่นึกว่าเป็นบุคคลธรรมดาจึงไม่ได้เสนอเบื้องบน จึงทำให้สุสานของฟาโรห์ทุตอังค์อามุนนี้ ปลอดภัยและนับเป็นสุสานที่สมบูรณ์ที่สุด

    ฟาโรห์ทุตอังค์อามุนทรงได้อภิเษกสมรสกับพระนางอันเคเซนามุน พระธิดาพระองค์ที่ 3 จากทั้งหมด 6 พระองค์ในพระนางเนเฟอร์ติติ ซึ่งเป็นมเหสีองค์แรกของฟาโรห์อาเมนโฮเทปที่ 4 เจ้าหญิงจากมิตันนี (Mitanni) ซึ่งเป็นอาณาจักรโบราณแห่งหนึ่งตั้งอยู่บริเวณทางเหนือของดินแดนเมโสโปเตเมีย

    ฟาโรห์ทุตอังค์อามุนสวรรคตอย่างฉับพลันโดยไม่ทราบสาเหตุ ทั้งๆ ที่ยังมีพระชนมายุยังไม่ครบ 19 ชันษา อีกทั้งไม่มีองค์รัชทายาท วิซิเออร์ อัยย์ จึงรีบฉวยโอกาสแต่งกับราชินีม่ายเพื่อจะได้ครอบครองดินแดนอียิปต์ต่อไป

     

    ไม่กี่เดือนหลังจากการเปิดสุสานตุตันคาเมน เปิดเมื่อปี 1922 ผู้ร่วมพิธีเปิดในวันนั้นเสียชีวิตไป 22 คน ด้วยเหตุการณ์ลึกลับและหาคำอธิบายไม่ได้ทำให้เชื่อกันว่า ความตายเหล่านั้นเกิดขึ้นเพราะฤทธิ์คำสาป

    วันที่ 4 พฤศจิกายน 1922 โฮเวิร์ด คาร์เตอร์(Howard Carter) และลอร์ด คาร์นาวอน(Lord Carnarvon) ชาวอังกฤษค้นพบสิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดในโลก พวกเขาเป็นสองคนแรกที่เข้าไปในสุสานของตุตันคาเมนในรอบ 3,000 ปี ในห้องที่พวกเขาพบเต็มไปด้วยทองคำและของมีค่ามากมาย ซึ่งเจ้าของของสิ่งมีค่าเหล่านี้คือฟาโรห์หนุ่มที่มีพระนามว่า "ตุตันคาเมน" นั่นเองและเหนือสุสานนี้มีข้อความอักษรอียิปต์โบราณซึ่งแปลได้ว่า "มัจจุราชจะมาสู่ผู้ซึ่งรบกวนการบรรทมของฟาโรห์"

     
    2ในผู้รบกวนฟาโรห์

    สอง เดือนต่อมาลอร์ดคาร์นาร์วอน ก็ตายเพราะถูกยุงกัดทำให้เป็นนิวมอเนีย แต่ที่น่าประหลาดอย่างยิ่งที่มัมมี่ของยุวกษัตริย์ฟาโรห์ก็มีรอยยุงกัดที่ แก้มซ้าย ซึ่งเป็นจุดเดียวกับที่ ลอร์ดคาร์นาร์วอน ถูกยุงกัดเหมือนกัน หลังจากนั้นไม่นานนัก อาร์เธอร์ แมค นักโบราณคดีอเมริกันซึ่งร่วมทีมกันขุดสุสานครั้งนี้ด้วย ได้อุทธรณ์ว่าเขารู้สึกเหนื่อยอ่อน แล้วทันใดนั้นก็เข้าขั้นโคม่าเขาหมดลมก่อนที่หมอจะมาถึง และทางแพทย์ก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเขาตายด้วยโรคอะไร ต่อมาก็เป็นผู้เชี่ยวชาญไอยคุปต์อีกคนหนึ่ง เขาคือ จอร์จ กูล์ด เพื่อนสนิทของคาร์นาร์วอน ซึ่งได้รีบเดินทางมาอียิปต์หลังจากได้ทราบข่าวมรณกรรมของคาร์นาร์วอน กูลด์ ได้เดินทางไปที่สุสานของฟาโรห์ ในวันต่อมาเขาล้มฟุบลงด้วยเป็นไข้ขึ้นสูง อีก 12 ชั่วโมง ต่อมาเขาถึงแก่กรรม


     
    (สภาพฟาโร ณ ปัจจุบัน = =)

    อาร์ซิบัลด์ เรียด
    นักรังสีวิทยาที่ฉายเอ็กซ์เรย์มัมมี่พระศพฟาโรห์ได้ถูกส่งตัวกลับอังกฤษ เพราะเกินอ่อนเปลี้ยไร้เรี่ยวแรงขึ้นมาเฉย ๆ แล้วก็ถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา, ริชาร์ด เบธเฮลล์ เลขาส่วนตัว คาร์นาร์วอน ในการขุดค้นสุสานครั้งนี้พบว่านอนตายอยู่บนเตียงเนื่องนากหัวใจวาย, โจเอล วูล ซึ่งเป็นแขกเชิญชุดแรกที่ไปดูสุสาน ตายในเวลาถัดมาไม่นานนัก ด้วยไข้ลึกลับที่แพทย์ไม่สามารถวินิจฉัยได้ ภายในเวลา 6 ปีที่มีการขุดสุสานฟาโรห์ตุตันคาเมน ผู้ที่ได้ร่วมขุดค้นได้ตายไปถึง 12 คน และภายใน 7 ปีมีเพียง 2 คนเท่านั้นที่ร่วมในการขุดมีชีวิตอยู่ นอกจากนี้ยังมีผู้ที่เกี่ยวข้อง หรือใกล้ชิดผู้ที่ขุดสุสานจำนวน เกือบ 22 คน ได้ถึงแก่กรรมในเวลาไม่สมควร เช่น เลดี้คาร์นาร์วอน อีกคนหนึ่งทีฆ่าตัวตายด้วย เนื่องจากเกิดเป็นบ้าขึ้นมา มีผู้เดียวที่ร่วมเป็นหัวหน้าในการขุดสุสานฟาโรห์ที่โชคดีมีชีวิตอยู่คือ โฮเวิร์ด คาร์เตอร์ เขาตายตามธรรมชาติ เมื่อปี 1939


     

    ภาพ สแกนทั้งร่างของมัมมี่ฟาโร




    ปิดคดีฆาตกรรม 3,000 ปี "ตุตันคาเมน" ไม่ได้ถูกปลงพระชนม์

    Image Hosted by CompGamer Image Host

    ภาพสแกนแสดงให้เห็นเศษกระดูกในกะโหลกศีรษะ

    เอ เอฟพี-เทคโนโลยีทันสมัยช่วยไขปัญหาคาใจของผู้คนในวงการประวัติศาสตร์และผู้ สนใจเรื่องราวชวนพิศวงของอาณาจักรไอยคุปต์โบราณ เมื่อผลการตรวจสอบโดยใช้แคทสแกนชี้ว่า ยุวกษัตริย์ผู้ปกครองอาณาจักรอียิปต์เมื่อ 3,000 ปีก่อน น่าจะสิ้นพระชนม์เพราะ "ขาหัก" มากกว่าจะถูกปลงพระชนม์ด้วยธนูอย่างที่เชื่อกัน

    ซาไฮ ฮาวาสส์ (Zahi Hawass) ผู้อำนวยการสภาโบราณสถานแห่งอียิปต์ (Egypt's Supreme Council of Antiquities) ผู้นำการศึกษาเผยว่า ฟาโรห์ตุตันคาเมนน่าจะสิ้นพระ ชนม์จากบาดแผลที่ติดเชื้อ โดยผลการตรวจพระศพมัมมี่อายุ 3,300 ปีโดยใช้คอมพิวเตอร์แบบแคทสแกนชี้ว่า พระองค์น่าจะกระดูกหักไม่นานก่อนสิ้นพระชนม์


    แม้คณะทำงานจะมีความเห็นขัดแย้งกันบ้างในรายละเอียดที่ได้จากการตรวจ สอบ สิ่งที่ทุกคนเห็นตรงกันก็คือตุตันคาเมนไม่ได้สิ้นพระชนม์เพราะถูกปลงพระชนม์ ตามที่เชื่อกันมานาน

    ตุ ตันคาเมนหรือ "ตุตันคามุน" (Tutankhamun/Tutankhamen) เป็นฟาโรห์องค์ที่ 12 ในราชวงศ์ที่ 18 ของอียิปต์ ทรงขึ้นครองราชย์ด้วยพระชนมายุเพียง 10 ชันษา ทรงเป็นกษัตริย์อียิปต์โบราณในช่วงปี 1334 - 1323 ก่อนคริสตกาล ก่อนหน้าขึ้นครองราชย์ใช้พระนามว่า ตุตันคาเตนอันหมายถึงเทพอาเตน หรือสุริยเทพอวตารลงมา


    ทั้งนี้ พระราชบิดาของพระองค์คือ เอเมนโฮเทปที่ 4” ซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็นอาเคนาเตนด้วยความศรัทธาใน เทพอาเตนเป็นอย่างมาก โดยยัดเยียดและปฏิรูปศาสนาอย่างถอนรากถอนโคน ซึ่งแต่เดิมนั้นประชากรอียิปต์นับถือพระเจ้าหลายองค์ (พหุเทวนิยม) โดยมีเหล่านักบวช เป็นผู้ดูแลทำพิธีในวิหารต่างๆ



    แต่อาเคนาเตน ได้นำเอาศาสนาพระเจ้าองค์เดียว (เอกเทวนิยม) คือ สุริยเทพอาเตนเข้ามา ซึ่งหลังจากอาเคนาเตนสิ้นพระชนม์ลง ศาสนสถานและชื่อต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ อาเตนจึงถูกลบออกไป รวมทั้งพระนามของ ตุตันคาเตนที่เปลี่ยนมาเป็น ตุตันคาเมน

    ตุ ตันคาเมนสิ้นพระชนม์เมื่อ 18 ชันษาโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่เชื่อกันว่าฟาโรห์หนุ่มองค์นี้ถูกลอบปลงพระชนม์โ

    ดยสังฆราชอัย นักบวชชั้นสูงซึ่งครองตำแหน่งผู้นำทางการทหารด้วย และต่อมาได้สถาปนาตัวเองเป็นฟาโรห์สืบราชสมบัติ



    เมื่อปี 1968 นักโบราณคดีได้เปิดโลงไม้บรรจุพระศพมัมมี่และทำการตรวจสอบ ซึ่งผลเอกซเรย์ครั้งนั้นพบว่ามีเศษกระดูกอยู่ในกะโหลกของพระองค์ ซึ่งทำให้น่าเชื่อว่าพระองค์ทรงถูกปลงพระชนม์ด้วยธนู แต่รายงานล่า สุดหลังมีการเคลื่อนย้ายพระศพฟาโรห์ไปตรวจสอบที่พิพิธภัณฑ์กรุงไคโรเป็น ครั้งแรกยืนยันว่า ไม่มีหลักฐานว่าตุตันคาเมนต้องธนูที่กะโหลกศีรษะด้านหลังและไม่มีหลักฐานของ การทำร้ายร่างกายอื่นๆ

    ตามข้อมูลผลการตรวจสอบกะโหลกศีรษะ กระดูกหน้าอก และกระดูกส่วนอื่นๆ อีก 2 ชิ้น เศษกระดูกในกะโหลกน่าจะเกิดขึ้นในช่วงดองพระศพ โดย "ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะเกิดจากการได้รับบาดเจ็บก่อนเสียชีวิต" นอกจากนี้ยังชี้ว่ารอยแตกที่กระดูกต้นขาด้านซ้ายเป็นหลักฐานว่าขาซ้ายของ ฟาโรห์หักก่อนสิ้นพระชนม์

    "
    แม้ว่าตัวบาดแผลจะไม่เป็นอันตรายถึงตาย แต่ก็อาจมีการติดเชื้อแทรกซ้อน" รายงานระบุ

    อย่างไรก็ตาม นักวิจัยบางคนไม่เห็นด้วยกับทฤษฎีนี้ พวกเขาเชื่อว่ารอยแตกที่กระดูกอาจเกิดขึ้นในภายหลังด้วยฝีมือของนักโบราณคดี ไม่ว่ารอยแตกที่กระดูกนั้นจะเกิดขึ้นเพราะเหตุใด ฮาวาสส์แสดงความมั่นใจว่าตุตันคาเมนไม่ได้ถูกลอบปลงพระชนม์แน่

    "
    คดีนี้ปิดแล้ว เราไม่ควรจะรบกวนพระศพอีกต่อไป ไม่มีหลักฐานว่ายุวกษัตริย์พระองค์นี้ถูกปลงพระชนม์"

    ...............................................................................................
    และ ยังคงขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่าน



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×