อาคมสนธยา (จบ)​

   อัปทุก 3 วัน*

***สำคัญ**** ไม่ใช่นิยายสยองขวัญ​ ไม่ได้เน้นน่ากลัว แต่ไม่สดใส และ มีผีนะครับ******

        ***เนื้อหาในเรื่องมีความรุนแรงแฝงอยู่ในบางตอน โดยเฉพาะพาร์ตสอง***

   ความปรารถนาเป็นสิ่งที่มอบความหวังให้มวลมนุษย์​ แต่บางครั้งมันก็เป็นสิ่งที่ทำลายมนุษย์ด้วยเช่นกัน เมื่อมองไปยังเส้นขอบฟ้าจากแดนสนธยาในยามนี้ ดูเหมือนเส้นบางๆของพวกมันกำลังจะขาดออกจากกัน

          *ในEpisode ที่มีวงเล็บคำว่า Rewrite อยู่ด้านหลัง คือ Episode ที่ถูก Rewrite ใหม่ และด้วยวิธีการเล่าที่ต่างกับฉบับเดิม ทั้งมุมมอง และจังหวะของเนื้อเรื่อง ทำให้ความเร็วในการดำเนินเรื่องอาจจะต่างกันในบางตอน จึงไม่แนะนำให้อ่านฉบับRewrite ต่อด้วยฉบับเก่านะครับ แต่หากใครอ่านไปไกลแล้วสามารถอ่านต่อไปได้เลยครับ เนื้อหาหลัก ๆ ยังเหมือนเดิมอยู่ครับผม 

          *ในEpisode Extra คือตอนพิเศษ เก็บตก เสริมเรื่องราวเพิ่มเติมระหว่างบทผ่านชีวิตประจำวันของตัวละคร ทำให้เนื้อหาในตอนนั้น ๆ อาจจะไม่ต่อเนื่องกัน และอาจสั้นกว่าปกติ เอาไว้อ่านแก้ขัดระหว่างรอบทถัด ๆ ไปครับ สำหรับใครที่ต้องการเนื้อเรื่องเข้มข้น เดินเร็วฉับไว สามารถข้ามไปได้เลยครับ (แต่เนื้อหาที่ปรากฏในตอนพิเศษก็ถือเป็น canon นะครับ) แต่หากใครอยากซึมซับบรรยากาศเพิ่มเติมที่ไม่มีโอกาสได้พักเพื่อสัมผัส หรือกล่าวถึงในบทหลัก อยากรู้จักตัวละครให้มากขึ้น อยากรู้บทสรุปของตัวละครต่าง ๆ ที่หายไป หรืออยากอุ่นเครื่องเพื่อเตรียมพร้อมไปบทถัดไป ก็สามารถเข้าไปอ่านกันได้เลยครับ 

Part 1 ดินแดนอาถรรพ์ (Rewrite)

          อาวุธ เด็กหนุ่มจากเมืองกรุงเดินทางเข้าไปศึกษาในเมืองเล็กๆ ที่ชื่อ บางขุ่น ด้วยเหตุผลบางอย่าง ซึ่งที่นั่น เขาได้ค้นพบว่าตนเองมีความสามารถในการมองเห็นและต่อสู้กับสิ่งลึกลับที่เรียกว่า ผู้หิวโหย พวกมันจ้องเล่นงานมนุษย์ ในขณะเดียวกันก็แลกเปลี่ยนบางอย่างกับคนบางกลุ่มให้พวกเขาสามารถใช้พลังลึกลับเพื่อสนองความปรารถนาได้

          จนอยู่มาวันหนึ่ง ช่วงระหว่างงานที่เขาทำเพื่อหารายได้จากความสามารถนี้นั้น ทำให้เขาได้พบเจอกับปรากฏการณ์ประหลาดที่ดวงไฟทุกดวงบริเวณนั้นเกิดไหววูบโดยไม่ทราบสาเหตุ แสงสว่างโดยรอบมืดลงจนไม่สามารถสู้กับความมืดที่แทรกแซงเข้ามาได้อีกต่อไป และเวลานั้นเอง ราวกับว่ามีบางอย่างจากอีกฟากของขอบฟ้ากำลังพยายามคืบคลานเข้ามาใกล้พวกเขามากขึ้นเรื่อยๆ 

Part 2 เสียงเพรียกยามวิกาล (Rewrite)

ธนพล สารวัตรหนุ่มประจำสถานีตำรวจเมืองบางขุ่น ได้รุดเข้าตรวจสอบเหตุการณ์ผิดปกติที่เกิดขึ้นในฝั่งเมืองใหม่เกี่ยวกับตำนาน “ผีลักซ่อน” เมื่อมีผู้คนสูญหายหรือกลายเป็นศพใน “ยามสนธยา” หลัง“ช่วงเวลาพิธีกรรม” และมีการปรากฏตัวของสิ่งมีชีวิตลึกลับซึ่งถูกเรียกว่า “ปีศาจ”

จากจุดเริ่มต้นที่เหมือนคดีลักพาตัวธรรมดาๆ สู่ภัยร้ายครั้งใหญ่ที่เขาต้องเผชิญ แล้วยิ่งถลำลึกมากเท่าไหร่ ตัวตนกับภารกิจลับของเขาก็ยิ่งถูกเปิดเผย พร้อมกับอันตรายที่เฝ้ารอให้เขาพลั้งพลาดในความมืด    

Part 3.1 เรื่องเล่าใต้ผืนฟ้ายามตะวันคล้อย (Rewrite)

พวกอาวุธตัดสินใจจะใช้ช่วงเวลาที่เหลือในชีวิตมัธยมปลายในการเก็บเกี่ยวความทรงจำร่วมกัน และ ตั้งเป้าสำหรับอนาคต ทว่าช่วงเวลาเหล่านั้นกลับวุ่นวายเสียจนพวกเขาชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันเลยเถิดเกินไปหรือเปล่า

(เดิมเป็นช่วงรวมตอนสั้น Extra ก่อนเข้า Part 3 แต่เมื่อผู้เขียนกลับมาอ่านอีกครั้งจึงพบว่า Part 3 อ้างอิงเนื้อหาจากช่วงนี้เยอะเกินกว่าจะกระโดดข้ามทั้งยวงได้ จึงกลับมาแก้ปรับสำนวน แก้คำผิด และ ระบุใหม่ให้เป็นเนื้อเรื่องสำคัญร่วมด้วย หากผู้อ่านท่านใด เคยอ่านผ่านไปแล้วก็ไม่เป็นไร เพราะเนื้อหาในช่วงนี้จะคล้ายเดิมเกือบ 90% เลยครับ)

Part 3.2 สนธยาคม (Rewrite)

มะปราง ค้นพบบางอย่างอันน่าสะพรึงกลัวภายใต้ความทรงจำต้องคำสาปของเธอ ยิ่งรู้มากเท่าไหร่ ตัวเธอก็ยิ่งอันตรายมากขึ้นเท่านั้น ขณะเดียวกัน ใครบางคนกำลังต้องการตัวเธอ เพื่อแผนการบางอย่าง

Part 3.3 สนธยาคม (Rewrite)

ความโกลาหลครั้งใหญ่ที่สุดในรอบร้อยปีของบางขุ่นกำลังจะอุบัติขึ้น เหล่าปีศาจประจำเริ่มเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ จุดศูนย์กลางของความวุ่นวายกลับเป็นตัวเจ้าปัญหาที่พวกอาวุธคิดว่าพวกเขาจัดการเรียบร้อยไปแล้ว

Q-A

เนื่องจากสภ.บางขุ่นตำรวจน้อยมาก ตำรวจหลายคนจึงทำภารกิจควบ ทั้งธุรการ ทั้งสอบสวน ปราบปราม​ ชุมชน หรือแม้แต่จราจร เช่นธนพลที่แม้ภายหลังชื่อจะย้ายมาอยู่ปราบปราม แต่ต้องควบคุมกำกับทีมสืบสวนด้วย

บางขุ่นเป็นเมืองเล็กๆเมืองหนึ่งในภาคตะวันตก โดยที่นี่มีตัวเมืองหลักๆอยู่สองเมืองซึ่งมีพื้นที่รวมกันขนาดพอๆกับเขตในกทมเพียงสามเขตรวมกันเท่านั้น (ประมาณ บางขุนเทียน หนองจอก ลาดกระบังรวมกัน)​ โดยที่ตัวเมืองหลักๆทั้งสองส่วนอยู่ห่างกันพอๆกับระยะทางตามความยาวของเขตคลองสามวา​ทั้งเขต ทางตะวันออกและตอนเหนือติดกับภูเขา ทางตะวันตกติดกับทะเล

     *วิชาอาคม เวทมนตร์ และพลังต่าง ๆ ในเรื่องนี้ไม่ได้อ้างอิงตามศาสตร์ที่มีอยู่จริง ทำให้พลัง นิยาม หรือหลักเกณฑ์ของมันจะต่างออกไปจากศาสตร์จริง ๆ พอสมควร รวมทั้งสิ่งที่กล่าวอ้างในเนื้อเรื่องไม่เกี่ยวข้อง หรือพาดพิงถึง  สถานที่ เหตุการณ์ หรือบุคคลจริงแต่อย่างใด