ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แก้วจรัสแสง

    ลำดับตอนที่ #5 : แก้วจรัสแสง

    • อัปเดตล่าสุด 19 พ.ค. 55


    ตอนที่ 5

             ณ .ใต้ต้นไม้ใหญ่กลางทุ่งนา


     
        
    "แก้วทำได้   แก้วต้องทำได้...ฉันมั่นใจความสามารถเธอนะแก้ว '' มะลิเพื่อนรัก พูดให้กำลังใจแก้ว  

         "
    ฉันเห็นด้วยนะแก้ว  ฉันว่าเธอชนะแน่เชื่อซิ ใครจะเป็นคู่แข่งเธอไม่ได้หรอก...ฉันจะทำลายมันเอง ''    ติโหน่งพูดไม่ทันจบ เสลา แย้งขึ้น
     
      " ติโหน่งจะไปกัดเขาหรอ '' ติโหน่งหันขวับมาทางเสลาก่อนจะตอบ "อยากโดนกันหรือไง"   แล้วมองหน้ากัน     "นี่พวกเธออย่าทะเลาะกันได้ไหม คนกำลังเครียดกันอยู่

     ''
    มะลิพูดตวาดใส่เพื่อนที่กำลังทะเลาะกันอยู่  ติโหน่งและเสลาต่างหันไปมองแก้วซึ่งนั่งกอดเขาด้วยชุดนักเรียนเก่าๆแล้วเดินไปนั่งข้างๆ  


        
    "แก้วเป็นนักร้องได้นะ แก้วมีความสามารถ  ฉันแอบชอบเวลาแก้วร้องเพลง จำได้ไหมตอนอยู่ชั้นป.2 นะ แก้วยังได้ที่หนึ่งเลย '' ติโหน่งพูดย้อนไปอดีตเมื่อวันวาน แก้วนิ่งเงียบ


           
    "ฉันเห็นแก้วเป็นคนเงียบเรียบร้อยเหมือนคนขี้อายนะ แต่เวลาแก้วจับไมค์ร้องเพลงตอนอยู่ป.3 นะ ฉันไม่นึกว่าเป็นแก้วนะ ..ครั้งนี้ฉันคิดว่าแก้วทำได้ ฉันเชื่อเถอะ"

      
    เสลาพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น โดยมีมะลิและติโหน่ง คอยเชียร์อยู่ แก้วยังเงียบเหมือนเดิม    
      
      "
    แก้ว...เชื่อพวกเราเถอะ'' เพื่อนๆต่างกอดแก้ว เพื่อนรักด้วยความสงสารและเข้าใจ


           
    "ขอบใจพวกเธอมากนะ มะลิ เสลา ติโหน่ง  ที่อยู่เป็นเพื่อนแก้วมาตลอด  ''   แก้วมองเพื่อนๆด้วยความรักความเข้าใจ    " ฉันชอบร้องเพลง ฉันอยากทำชื่อเสียงให้กับโรงเรียน ..แต่ '' 
    แก้วหยุดพูด   

          
    "แต่อะไรเหรอแก้ว..บอกพวกเราได้ เราจะช่วยเธอนะแก้ว '' เพื่อนๆต่างเค้นคำตอบจากแก้วด้วยความสงสาร


                
    แก้วน้ำตาร่วงเผาะก่อนตอบว่า 
    "เพื่อนๆรู้ใช่ไหม ว่าแก้วไม่มีเงิน แก้วไม่อยากรบกวนแม่..ทุกวันนี้แม่แก้วเหนื่อย แก้วอยากช่วยแม่ ''  พูดจบน้ำตาแก้วไหลอาบแก้มเพื่อนๆต่างมองหน้ากันด้วยความสงสารแก้ว


                
    "แก้ว แก้วฟังมะลิ  ..มะลิว่าแม่ของแก้วจะดีใจ ที่ลูกมีความสามารถ ได้รับคัดเลือกเป็นตัวแทนของโรงเรียน..ดูฉันซิ แม่อยากให้เข้าประกวดนางงามเมื่อโตขึ้น แต่ฉันไม่ชอบและไม่ถนัดเลย ''     แก้วหันมามองมะลิด้วยคราบน้ำตาเปื้อนแก้ม


                 
    "แต่มะลิมีครอบครัวที่ดี มีพ่อเป็นหัวหน้าครอบครัว มีแม่ที่แสนดี ไม่ต้องเหนื่อยคอยรับผิดชอบเหมือนแม่แก้ว ทุกบาททุกสตางค์ได้มาจากแม่คนเดียว '' พูดจบน้ำตาไหลอาบแก้ว ติโหน่งตาแดงก่ำอย่างเข้าใจแก้วมากที่สุด..เสลาได้แต่นั่งเศร้าฟังแก้วพูดในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยคิดว่าจะได้ยินจากแก้ว นักเรียนตัวอย่างของโรงเรียน

              --------


                    
    ทุกอย่างตอนนี้ เงียบกริบท่ามกลางทุ่งนาที่เขียวชะอุ่มไปด้วยต้นข้าวที่เขียวขจี เด็กน้อยทั้งสี่คนยังคงนั่งคุยกันอย่างเงียบๆอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงเพลงแว่ว มาแต่ไกล แก้วเช็ดน้ำตาแล้วรีบลุกขึ้นมองไปตามเสียง เพื่อนๆต่างยืนมองไปตามเสียงที่ดังมาแต่ไกล

           
    " น้าแต๋ว..น้าแต๋ว'' เพื่อนๆต่างมองหน้ากันด้วยความแปลกใจ    "ใครหรอแก้ว น้าแต๋ว''
     ติโหน่งเอ่ยถาม   แก้วหันมามองเพื่อนแล้วบอกว่า

         "
    น้าแต๋วเป็นผู้หญิงที่เสียงดีคนหนึ่ง แก้วเคารพน้าเหมือนแม่ ''   น้าแต๋วโบกมือมาที่แก้วเป็นเชิงบอกว่าเห็นแล้ว   แก้วดีใจกระโดดเรียกชื่อน้าแต๋วพร้อมกวักมือ    เพื่อนๆทุกคนต่างช่วยแก้วกวักมือเช่นกัน รอยยิ้มของแก้วสดใส เมื่อเห็นน้าแต๋ว เหมือนไม่เหลือเค้าเรื่องเศร้าไว้อีกเลย

                   ....................................

     
    ณ ใต้ต้นไม้กลางทุ่งนาต้นนั้น


         
              น้าแต๋วรับไหว้ทุกคนอย่างน่าเอ็นดู  ติโหน่งบอกเรื่องที่ แก้วจะได้เป็นตัวแทนไปร้องเพลงของโรงเรียน น้าแต๋ว มองแก้วอย่างมีความหวัง ประกายตาเต็มไปด้วยความจริงจังและความรักหนูน้อยยอดกตัญญูคนนี้   

            
     
    " จริงหรือแก้ว  แก้วได้เป็นตัวแทนโรงเรียนเหรอ น้าดีใจด้วย...ถึงเวลาที่แก้วจะต้องฝึกร้องเพลงอย่างจริงจังแล้ว ''       น้าแต๋วพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความจริงจังและจริงใจ      แก้วยกมือไหว้น้าแต๋ว พร้อมรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ "ค่ะน้าแต๋ว แก้วจะพยายาม ''


     แก้วโผเข้ากอดน้าแต๋วไว้แน่น เพื่อนๆต่างหันมายิ้มให้กัน ด้วยความสุข  น้าแต๋วยื่นมือมาลูบหลังแก้ว ด้วยความเอ็นดู แล้วพูดว่า 

      " ชีวิตคนเราเลือกเกิดไม่ได้นะลูก...ไม่ว่าจะเกิดมาเป็นลูกคนรวยหรือคนจน แต่ค่าความเป็นคนเราเท่ากัน...อย่ามัวเสียใจที่เราขาดในสิ่งที่คนอื่นมี แต่เราต้องเอาสิ่งที่เรามีอยู่ มาใช้ประโยชน์และทำมันให้มีค่าให้ได้...จำไว้นะแก้ว...เราต้องสู้เพื่อต้องอดทน เพราะคนดีไม่ได้เป็นกันแค่วันเดียว"

    แก้วผละออกมาจากน้าแต๋ว " ค่ะ..น้าแต๋ว ต่อไปแก้วจะไม่ร้องไห้อีกแล้ว แก้วจะสู้เพื่อแม่  เพื่อความหวังของแก้วและเพื่อโรงเรียนค่ะ " 

                  
    มะลิ เสลาและติโหน่ง ต่างยิ้มดีใจที่เห็นแก้วยิ้มได้..แก้วหันกลับมาที่เพื่อนๆและมองพวกเขาด้วยความรัก    หนูน้อยทั้งสี่คนต่างจับมือกันด้วยความเข้าใจ  จ้องม้องตากันอย่างมีความสุข

            
    " มะลิ ติโหน่ง เสลา แก้วขอบใจมาก ที่พวกเธออยู่เป็นกำลังใจให้แก้ว แก้วจะสู้''  แก้วพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ  เพื่อนต่างยิ้มให้แก้วอย่างเชื่อใจในความสามารถของแก้ว   

      
    แก้วเรามาเริ่มกันเลยนะ''  น้าแต๋วเอ่ยขึ้น เด็กๆหันมองมาทางน้าแต๋ว.......ก่อนที่จะเริ่มเอื้อนเสียงเพลงไปตามจังหวะของความรักที่ได้เกิดมาท่ามกลางท้องทุ่ง ....

                ท่ามกลางต้นไม้กลางท้องทุ่ง ไม่ได้มีแต่เสียงของสายลม เสียงเพลง เสียงหัวเราะของเด็กๆทั้งสี่คนเท่านั้น หากยังมีอีกเสียงหนึ่งที่มาจากความสุขของหัวใจ คือเสียงแห่งความรัก

    ..........................................................................................................................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×