คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #24 : แก้วจรัสแสง ตอน วังวนแห่งรัก
บทที่ 24
“และอาจจะไม่กลับมาเมืองไทยอีกเลย”
พูดด้วยน้ำตาเต็มเบ้าตา อย่างคนเจ็บปวดเหลือเกิน พจน์ถึงกับเย็นวาบเข้าถึงขั้วหัวใจ ความรู้สึกสับสนระคนกับความไม่เข้าใจในความรู้สึกของตัวเอง สีหน้าที่เคยเข้มกับซีดลงถนัดตา นิ้วมือจับกุมมือของจีน่าด้วยความแรงอย่างไม่เข้าใจนัก
“ทำไม..ทำไมต้องไปแล้วไม่กลับมาที่นี่อีก”
พจน์เอ่ยถามด้วยความห่วงใย สายตามองมายังจีน่าส่อแววรักและห่วงใย จีน่าคงมองไม่ชัดกับความรู้สึกที่ส่งผ่านแววตาของพจน์ น้ำตาไหลลงอาบแก้ม พร้อมๆกับก้มหน้านิ่งเงียบ มีเสียงสะอื้นที่พยายามเก็บเสียงและความรู้สึกเอาไว้ แต่ทว่า เกินกว่าที่จะเก็บมันไว้ได้ พจน์นิ่งเงียบก้มหน้าและมองมายังจีน่าด้วยความสับสน
“จีน่าเป็นห่วงพี่พจน์มาก และมากเกินกว่าที่จีน่าจะอธิบายได้อีก” จีน่าพูดพลางลุกขึ้นเดินห่างจากแววตาคู่นั้นของพจน์ เพราะทรมานเกินกว่าที่ความรู้สึกของหญิงสาวจะทนได้อีกต่อไป ก่อนจะรีบวิ่งไปทันที พจน์ถึงกับอึ้ง พูดอะไรไม่ออก
“จีน่า..เดี๋ยวฟังพี่ก่อนจีน่า”
พจน์เรียกก่อนจะรีบวิ่งตามไปทันที จีน่าข่มความรู้สึกตัวเองไม่ได้อีกแล้ว น้ำตานองหน้า หากแต่ช้าไปเสียแล้ว พจน์จับแขนไว้ทัน ก่อนจะดึงร่างอันบอบบางเข้ามาในอ้อมกอดของตัวเอง ท่ามกลางสวนดอกไม้ มืออันสั่นเทาของพจน์ค้างอยู่นานก่อนจะกอดจีน่าไว้ในอ้อมกอดไม่คำตอบ ไม่มีคำพูด คงมีแต่เสียงสะอึกสะอื้นของจีน่าเท่านั้น พจน์หลับตาแน่น ก่อนจะพูดออกมาเบาๆ
“พี่ขอโทษ.....พี่ขอโทษ”
จีน่ายังคงร้องไห้เหมือนเข้าใจดี กับความรู้สึกของพจน์ พจน์ดึงจีน่าออกจากอ้อมกอดเบาๆ จีน่ายังคงก้มหน้ามีเสียงสะอื้น
“ขอเวลาพี่สักนิด...ให้พี่ได้ทบทวนอะไรบางอย่าง...”
จีน่าผงกศีรษะเหมือนเข้าใจ พลางเงยหน้ามายังพจน์ด้วยน้ำตานองหน้า
“พี่พจน์คะ...จีน่าไม่ได้ขอร้อง และเรียกร้องอะไรจากพี่ จีน่าแค่เป็นห่วงพี่ค่ะ”
จีน่าพูดด้วยเสียงสั่นเครือ พจน์ยังคงนิ่งก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าให้มีความสุขเข้ามาแทน
“อืม..พี่เข้าใจจีน่าดี....อย่าร้องไห้เลย เราก็ยังติดต่อกันได้ใช่ไหม”
พจน์พูดด้วยรอยยิ้ม จีน่ามองหน้าพจน์ด้วยความเข้าใจ ก่อนยกมือขึ้นเช็ดน้ำตา
“ค่ะพี่พจน์.. เรายังติดต่อกันได้ค่ะ”
จีน่าพูดก่อนจะมีรอยยิ้มขึ้นมาอีกที หากแต่ความรู้สึกลึกๆแล้วยังมีมากเกินกว่าที่ผู้ชายอย่างพจน์จะล่วงรู้ได้
......................................
“หึม..อะไรจะเกิดขึ้นอีกในอนาคตของคู่นี้.......”
จักกฤษมองหนุ่มสาวทั้งสองที่ยังคงยืนมองหน้ากันอย่างเข้าใจ ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ในห้องนอนของแก้ว..ลูกสาวผู้ซึ่งเป็นที่รักของพจน์ ก่อนจะสังเกตุไปรอบๆห้อง ภาพวันวานของแก้วยังคงมีให้เห็น จักกฤษยิ้มทุกครั้งเมื่อนึกถึงใบหน้าอันงดงามและนิสัยน่ารักของแก้ว
“อืม..ลูกแก้ว..หายจากพ่อไปเลยนะลูก...” จักกฤษพูดเพียงลำพังในห้องด้วยความคิดถึงแก้ว ก่อนจะเปิดลิ้นชักออกมา
“สร้อย"”
จักกฤษตกใจเมื่อเห็นสร้อยคอเส้นที่แก้วเคยสวมอยู่บ่อยๆด้วยความสงสัย ก่อนจะยกขึ้นมาสังเกตุ
“สร้อยลูกพจน์นี่..”
จักกฤษพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะครุ่นคิดอะไรบางอย่าง พลางเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อทันที
................................................................................................................................................................
“.จีน่ากลับก่อนนะคะพ่อ..หากมีโอกาสจีน่าจะมาเยี่ยมใหม่ค่ะ”
จีน่ายกมือไหว้จักกฤษด้วยดวงตาอันแดงก่ำ พจน์ยืนนิ่งด้วยสีหน้าเรียบๆ
“..พ่อคงคิดถึงลูกแย่เลย ถ้าถึงวันนั้นจริงๆ” จักกฤษพูดด้วยสีหน้าเศร้าๆ
“ อีกสามวัน จีน่าก็จะไปแล้วค่ะพ่อ”
จีน่าพูดด้วยเสียงเศร้าๆ ก่อนจะหันมามองพจน์ด้วยสีหน้าอันเศร้าและหดหู่ พจน์ยังคงยืนนิ่งเหมือนไม่รู้สึกอะไรมากนัก จักกฤษเข้าใจความรู้สึกของจีน่าดี ก่อนพูดว่า
“อืม..คนเราก็มีทางที่จะต้องไป เพื่อความก้าวหน้าของตัวเองทั้งนั้นนะลูก อย่าคิดมาก” พูดพลางหันมามองพจน์
“พี่จะไปส่งที่สนามบินนะ”
พจน์พูดสั้นๆด้วยสีหน้าเรียบๆ หากแววตายังคงส่อแววเจ็บปวดไว้ข้างใน จีน่าเม้มปากเหมือนจะเข้าใจความรู้สึกของพจน์ดี
“ไม่ต้องก็ได้ค่ะพี่พจน์ งานสำคัญกว่า อีกอย่างจีน่าก็ชินกับการที่จะเดินทางคนเดียวแล้วค่ะ” จีน่าพูดก่อนจะหันมายิ้มให้กับผู้เป็นพ่อ
“พ่อคะ..จีน่าขอตัวกลับก่อนนะคะพ่อ” จีน่าพูดพลางยกมือไหว้ พร้อมกับหันมามองพจน์
“เดินทางดีๆนะลูก” จักกฤษพูดพลางหันไปทางนายชิดที่ยืนนิ่งเหมือนจะเข้าใจจักกฤษดี
“ขอบคุณค่ะพ่อ” จีน่าพูดพลางก่อนจะเข้าไปนั่งในรถเก๋งคันงามทันที
เสียงประตูรถปิด จีน่ารู้สึกหดหู่ใจจนบอกไม่ถูก รถค่อยๆเคลื่อนไปทีละนิดผ่านจักกฤษที่ยังคงยืนมองมาในรถ จีน่ามองดูพจน์ด้วยความเจ็บปวดที่สุด ก่อนจะก้มหน้าลงร้องไห้ทันที
นายชิดถึงกับนิ่งเงียบไม่กล้าแม้จะมองมา เพราะเข้าใจความรู้สึกของจีน่าดีความรู้สึกนี้ก็คงไม่ต่างจากแก้ว...คนที่ลุงชิดรัก รถค่อยๆขับออกไปช้า จักกฤษและพจน์ยืนมองจนรถแล่นออกนอกพ้นรั้วคฤหาสน์ไป
จักกฤษหันมามองพจน์ที่ยังคงยืนมองรถนิ่งๆ แม้รถจะแล่นผ่านไปแล้วก็ตาม ผู้เป็นพ่อสังเกตุแววตาอันเศร้าของลูกชายอย่างเข้าใจ ก่อนพูดขึ้นว่า
“ความรัก ถ้าจูนเข้าหากันได้ระหว่างคนสองคนก็ดี จะได้ไม่ต้องทุกข์ใจ แต่ถ้าเป็นได้แค่ฝ่ายเดียว..ก็น่าสงสารนะลูก” พจน์หันมามองผู้เป็นพ่ออย่างเข้าใจความรู้สึกของพ่อที่มีต่อตนดี ก่อนจะมองผู้เป็นพ่อ
“พ่อครับ..แม่ออกไปข้างนอกอีกแล้วหรือครับ” พจน์เอ่ยถามตัดบทเรื่องจีน่าทันที ผู้เป็นพ่อนิ่งเงียบก่อนหันมาพูดว่า
“คงไปตามหา สร้อยอีกละลูก” ก่อนจะสบัดศีรษะอย่างไม่เข้าใจลูกสาวคนนี้นัก
“แล้วเจอบ้างหรือเปล่าละครับพ่อ” พจน์เอ่ยถามในขณะที่ผู้เป็นพ่อเดินขึ้นไปยังบ้าน จักกฤษหันมามองหากแต่เงียบไม่มีคำตอบ
“อืม..พ่อขอตัวพักผ่อนก่อนนะลูก” จักกฤษพูดพลางเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นบนทันที
“ฝันดีนะครับพ่อ” พจน์พูดด้วยความห่วงใย ก่อนจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้ห้องรับแขกเพียงลำพัง
“เออ ลูกพจน์” เสียงเรียกดังขึ้นมา พจน์ถึงกับหันไปมอง พลางรีบเดินไปตามเสียงทันที
“มีอะไรหรือครับพ่อ” พจน์เอ่ยถามเมื่อเห็นพ่อยืนอยู่บนชั้นบน
“ขึ้นมาหาพ่อหน่อยลูก” จักกฤษพูดก่อนจะเดินเข้าห้องไปทันที พจน์ทำหน้างง
“แปลก คืนนี้พ่อเรียกเข้าห้องทำไม” พจน์พึมพำด้วยความแปลกใจก่อนจะรีบขึ้นตามไปทันที
............................
“ลูกพจน์..ได้ข่าวลูกแก้วบ้างไหม”
ผู้เป็นพ่อยิงคำถามขึ้นมาทันที หากแต่คำถามนี้ ทำเอาพจน์ถึงกับนิ่งเงียบความเจ็บปวดเริ่มทวีคูณขึ้นในความรู้สึกลึก ก่อนจะมองมายังพ่อด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก ดวงตาอันแดงก่ำ สบตาผู้เป็นพ่อที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงาน
“ว่าไงลูก..ได้ข่าวแก้วบ้างหรือเปล่า” ผู้เป็นพ่อย้ำคำถามเมื่อเห็นพจน์เงียบไป พจน์ก้มหน้าก่อนจะตอบว่า
“เปล่าครับพ่อ..” พูดพลางนิ่งเงียบไป จักกฤษเดินลุกจากเก้าอี้มายังเก้าอี้นั่งเล่นใกล้ๆกับพจน์นั่งอยู่
“ลูกพจน์..พ่อเป็นห่วงลูกแก้วมาก..ตั้งแต่ลูกแก้วจากที่นี้ไป พ่อเหงาเหลือเกินลูก” จักกฤษพูดออกมาจากความรู้สึกจริงๆที่มีต่อแก้ว พจน์เหมือนจะร้องไห้ออกมาเมื่อได้ยินคำนี้จากผู้เป็นพ่อ หากแต่พจน์ยิ่งเจ็บกว่าหลายเท่าเมื่อนึกถึงวันที่แก้วจากไป
“พ่อ..นอนฝันถึงลูกแก้วเสมอ..แต่พอตื่นขึ้นมา พ่อรู้สึกหว้าเหว่นะลูก..พ่ออยากเจอลูกแก้วเหลือเกิน” ผู้เป็นพ่อพูดความในใจออกมา ก่อนจะยกมือขึ้นแตะไหล่พจน์ที่ยังคงนั่งก้มหน้าไม่ไหวติง
“ลูกช่วยตามหาลูกแก้วให้เจอนะลูก..ฝากบอกด้วยว่าพ่อคิดถึง” จักกฤษพูดพลางตบไหล่ลูกชายเบาๆ..
“พ่อครับ..” พจน์พูดขึ้นหากแต่ยังคงก้มหน้าไม่กล้าเผชิญกับผู้เป็นพ่อนัก
“แก้วคงมีความสุขกับชีวิตใหม่ของเค้าแล้วหละพ่อ..” พจน์พูดออกมาด้วยความรู้สึกขมขื่นยิ่งนัก
“แก้วคงลืม ทุกอย่างหมดแล้วครับพ่อ ผมว่าอย่าไปก้าวก่ายกับชีวิตเขาอีกเลย” พจน์พูดก่อนจะลุกขึ้นยืน
“พ่อครับ..ผมของตัวก่อนนะครับพ่อ” พูดพลางรีบเดินลุกจากเก้าอี้ไปทันที
“ลูกทะเลาะกับลูกแก้วหรือลูก” พจน์ถึงกับหยุดเดินทันที ความเงียบเข้ามาปกคลุมสองพ่อลูก ต่างคนต่างหันหลังให้กัน
“พ่อหมายถึงอะไรครับ” เสียงพจน์ดังขึ้นเหมือนรู้เจตนาของผู้เป็นพ่อดี แสงสลัวในห้องนอนอันหรูของจักกฤษ กลายเป็นมืดไปในทันทีในความรู้สึกของพจน์
“พ่อแค่สงสัย..หากไม่มีก็ไม่เป็นไร...”
จักกฤษพูดด้วยความสงสัย แต่เมื่อพจน์ไม่ตอบจักกฤษก็พอเข้าใจลูกดี
“เก็บไว้ให้ดีนะลูก” พจน์หันมามองที่มือของผู้เป็นพ่อ ก่อนจะถึงกับหน้าซีด
“สร้อย”
พร้อมกับอุทานออกมาอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง
“ใช่ สร้อยคอของลูก” จักกฤษย้ำเมื่อได้ยืนพจน์อุทานออกมา พร้อมกับเดินเข้ามารับไว้
“ขอบคุณครับพ่อ” พจน์รับสร้อยพร้อมกับกล่าวขอบคุณ หากดวงตาคู่นั้นยังคงอยู่กับสร้อยด้วยความรู้สึกเจ็บปวดเหลือเกิน
“พ่อไปบ้านหลังสวนดอกไม้เมื่อตอนบ่าย และเห็นสร้อยเส้นนี้วางอยู่ในลิ้นชัก..พ่อจำได้ว่าเป็นของลูก” จักกฤษพูด
“ อืม..ไปพักผ่อนเถอะลูก พรุ่งนี้ทำงานอีกเดี๋ยวจะไม่สบาย”
จักกฤษพูดด้วยเสียงราบเรียบ พจน์นิ่งเงียบก่อนจะเดินออกจากห้องไปทันที
....................................
“พี่คะ..สร้อยเส้นนี้ คือชีวิตของแก้ว..แก้วรักมากค่ะ....แต่ถ้าวันใดสร้อยเส้นนี้ ไม่อยู่ที่แก้วแล้ว...แก้วก็คงไม่มีชีวิตแล้ว..”
สาวน้อยพูดขึ้นในขณะที่นั่งอยู่ที่ริมสระน้ำ ดวงตาอันกลมโตจ้องมองสร้อยด้วยแววตาอันรักและหวง
“พี่ดีใจจังเลย ที่แก้วรักสร้อยเส้นนี้..แก้วรู้ไหมพี่รักมันมาก”
เสียงของพจน์ดังขึ้นในขณะที่อยู่ในสระน้ำ เด็กทั้งสองยิ้มให้กันอย่างมีความสุข
.......................................................
"กริ๊งๆๆๆๆๆๆ"
ภาพวันวานหยุดลงทันที เมื่อนาฬิกาปลุกดังขึ้น
“อืม....แก้ว....พี่คิดถึงแก้วเหลือเกิน”
พจน์พูดกับตัวเองเพียงลำพังก่อนจะวางสร้อยลงบนรูปเด็กน้อยที่ตั้งอยู่บนเตียงใกล้โคมไฟ
“แก้วคงลืมพ่อ..และลืมพี่แล้วใช่ไหม” พจน์พูดกับรูปถ่ายก่อนจะคว่ำหน้าลงบนหมอนด้วยความเจ็บปวด
ความรัก ความผูกพันธ์ ย่อมแน่นแฟ้นด้วยการพันผูก
หากยังไม่แก้ปมแห่งรัก ก็ยังคงแน่นไปด้วยรักยากนักจะแยกจากกันได้
ความคิดเห็น