ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักนี้...มีไว้เพียงเธอ

    ลำดับตอนที่ #2 : รักนี้...มีไว้เพียงเธอ ตอน ซ่อนเร้นรัก

    • อัปเดตล่าสุด 6 ม.ค. 56



    ��������������������������������������������������������������������� บทที่ 2

    ณ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา โต๊ะอาหารยาวปูด้วยผ้าขาวสะอาดพริ้วไปตามแรงลม บรรยากาศ ช่างสงบร่มเย็นยิ่งนัก ทุกคนต่างมองหน้ากันเมื่อมากันพร้อมหน้า จักกฤษเดินมาตรงโต๊ะอาหารซึ่งเป็นจุดศูนย์กลาง�

    เอาละครับ วันนี้ผมรู้สึกดีใจที่มีงานเลี้ยงรับลูกสาวของผม และต้องขอขอบคุณ คุณนุชซึ่งเป็นคนริเริ่มและจัดการงานในครั้งนี้แทนผมทั้งหมด
    เสียงปรบมือดังขึ้นด้วยรอยยิ้ม�


    คุณนุช คุยอะไรสักหน่อยไหม
    จักกฤษพูดเชิญในขณะที่นุชปัดปฎิเสธ แต่คุณนีรนุชซึ่งยืนอยู่ใกล้ๆสะกิดเบาๆ นุชหันมามอง พลางเดินออกไปยืนใกล้จักกฤษอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้� นุชมองผู้มาร่วมงานด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะหันมาหยุดที่สร้อยเพียงคนเดียว�


    นุชเต็มใจและภูมิใจ ที่จัดงานเลี้ยงเล็กๆตามฐานะการเงินที่นุชมีอยู่ นุชและลูกแก้วเคยเป็นหนี้บุญคุณของคุณพิจิตรารวมถึงพี่จักกฤษและทุกคนในบ้านฟ้าใส

    นุชพูดพร้อมกับหันหน้าไปมองจักกฤษ ด้วยแววตาจริงใจ ก่อนจะถอนหายใจแล้วพูด

    “คุณสร้อย ถึงอย่างไรนุชก็ยังรักและเป็นห่วงคุณสร้อยเหมือนลูกคนหนึ่ง
    �แววตาของนุชมองไปยังสร้อยซึ่งยืนนิ่งมองมายังนุชด้วยความสำนึกผิดในอดีตที่เคยทำกับผู้หญิงคนนี้

    งานวันนี้ตั้งใจจัด ให้คุณสร้อยเพื่อการกลับมาสู้กับชีวิตใหม่อีกครั้ง
    �นุชพูดพลางเช็ดน้ำตาตัวเองด้วยความสงสารสร้อย

    แม่นุชคะ
    �สร้อยเก็บความผิดเอาไว้ไม่อยู่เดินเข้ามากอดนุชด้วยน้ำตา�

    สร้อยขอโทษนะคะ
    เสียงสะอึกสะอื้นดังมาพร้อมกับคำพูดสำนึกผิด จักกฤษตาแดงก่ำ จีน่าปรบมือเป็นคนแรก ก่อนที่ทุกคนจะปรบมือยินดีและต้อนรับการมีชีวิตใหม่ของสร้อยอีกครั้ง

    ..............................

    ���������� งานเริ่มดำเนินไปอย่างสนุกสนาน �สายลมพัดพริ้วพร้อมๆกับไฟที่ถูกก่อขึ้นสร้างบรรยากาศตอนตะวันใกล้พลบค่ำได้ดีทีเดียว จักกฤษ นีรนุช และนุช ตักอาหารแล้วเดินมานั่งใกล้ๆกัน พร้อมกับเสียงพูดคุยอย่างสนุกสนาน

    พี่พจน์ค่ะ วันนี้คุณพ่อและคุณนุชเก่งมากเลยนะคะ
    จีน่าพูดชม พจน์ตักอาหารใส่จานพลางหันมามอง


    อืม พี่ก็ยังอึ้งเลย ไม่นึกว่าแม่นุชจะพูดกินใจ พี่ยังปลื้มแทนน้องสร้อย
    พจน์พูดขึ้น จีน่าหันมายิ้ม�


    อืม พี่พจน์สังเกตอะไรไหม
    จีน่าถาม พลางตักอาหารใส่จาน พจน์หันมายังจีนา


    อืมใครเหรอ น้องสร้อยหรือเปล่า
    พจน์ถามและตอบเอง จีน่ายิ้ม


    �“ใช่แล้วค่ะ จีน่ารู้สึกว่าน้องสร้อยดูห่างเหินกับพี่และคุณพ่อ ไม่เหมือนตอนคุณแม่ยังอยู่
    จีน่าพูดความคิดเห็น พจน์นิ่งเงียบมองไปยังสร้อยซึ่งนั่งทานอยู่คนเดียวเพียงลำพังด้วยสีหน้าเศร้า

    อืม พี่ว่าคงไม่มั้ง สร้อยคงยังคิดถึงแม่ สักพักเดี๋ยวก็คุยจ้อเหมือนเดิมแหละ
    พจน์พูด จีน่ามองพจน์ ด้วยสีหน้าไม่มั่นใจกับความคิดเห็นของพจน์�


    อืม พี่พจน์ไปนั่งกับน้องสร้อยดีกว่า
    จีน่าพูดพลางรีบเดินไปทันที พจน์เดินตามไปด้วยรอยยิ้ม

    �...............................

    ���� อืม คุณจักกฤษ ดูเด็กสองคนนั้นซิ น่ารักทั้งคู่เลยนะคะ
    �นีรนุชพูดขึ้นเมื่อสังเกตเห็นจีน่าและพจน์เดินหัวเราะสนิทสนมกันมาก จักกฤษนิ่งอึ้งมองไปยังพจน์และจีน่า ก่อนจะมองมายังนุชซึ่งมองจักกฤษอยู่ก่อนแล้วอย่างเข้าใจ

    เอ่อ......ก็งั้นแหละครับ
    จักกฤษพูดด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆอย่างไม่เต็มใจนัก

    น้องนุชว่าหรือเปล่าคะ
    นีรนุชเอ่ยถามเมื่อสังเกตนุชนิ่งเงียบไป นุชยิ้มมองมายังจักกฤษด้วยแววตาหนักใจเช่นกัน�


    อืม..ค่ะ ก็เหมาะสมกันดี
    �นุชพูด

    งั้นก็แสดงว่าไม่นานก็จะมีข่าวดีนะสิคะ
    �นีรนุชพูดด้วยรอยยิ้ม มองมายังจักกฤษและนุช

    อย่าลืมส่งการ์ดมาด้วยนะคะ
    �นีรนุชพูดพร้อมกับจับแก้วไวน์ขึ้นมาดื่ม นุชนิ่งมองมายังจักกฤษอีกครั้ง�

    อืม ครับ เมื่อถึงวันนั้น แล้วผมจะเชิญถึงบ้านเลยครับ
    จักกฤษพูดด้วยเสียงหัวเราะเบาๆ นุชนิ่งเงียบ ความรู้สึกปวดร้าวลึกๆเกิดขึ้นทุกที เมื่อนึกถึงความรักของลูกสาวที่มีต่อพจน์และเช่นกันจักกฤษรู้สึกสะอึกทุกครั้งที่นึกถึงความรักของพจน์ที่มีต่อแก้ว หากแต่เพราะความเป็นผู้ใหญ่ที่มีเหตุผล ทั้งสองจึงเก็บเอาไว้อย่างแน่นหนา

    ................................

    ����� น้องสร้อย ห่อหมกอร่อยนะ มีอีกเยอะเลย
    จีน่าพูดชักชวน สร้อยนั่งนิ่งเงียบหันมามอง


    ไม่แล้วค่ะพี่จีน่า สร้อยอิ่มแล้วค่ะ
    �สร้อยพูดปฎิเสธพร้อมรอยยิ้ม�

    อะไรกันน้องสร้อย พี่ไม่เห็นทานอะไรเลย
    พจน์พูดเมื่อสังเกตเห็นในจานว่างเปล่ามีเพียงรอยอาหารเล็กน้อย

    สร้อยอิ่มค่ะพี่พจน์
    �สร้อยตอบ�

    อืม... งั้นพี่ไปคนเดียวก็ได้ ยังไม่อิ่มเลย เอางี้ พี่ทานแทนน้องสร้อยแล้วกัน
    จีน่าพูดด้วยรอยยิ้มพลางรีบเดินลุกไปทันที คงทิ้งให้สร้อยกับพจน์นั่งใกล้กันเพียงสองต่อสอง


    พี่พจน์คะ
    �สร้อยพูดขึ้น พจน์หยุดทานหันมองมายังสร้อยด้วยแววตานิ่งเงียบ


    อืม มีอะไรหรือน้องสร้อย
    พจน์เอ่ยถามด้วยความห่วงใย�


    พี่พจน์รู้สึกเหมือนสร้อยไหมคะ
    �สร้อยถามพร้อมกับมองไปยังแม่น้ำด้วยแววตาอันเศร้าอย่างเห็นได้ชัด พจน์นิ่ง

    ทำไมน้องสร้อยถามพี่แบบนี้ แม่จากไปทั้งคนทำไมพี่จะไม่เสียใจและคิดถึง พี่พูดออกไปไม่เท่ากับความรู้สึกที่พี่เจ็บปวด พี่เลยไม่พูด

    พจน์พูดด้วยสีหน้าจริงจังอย่างเข้าใจสร้อย

    ค่ะ สร้อยเข้าใจ แต่สร้อย
    �สร้อยพูดพร้อมกับก้มหน้านิ่งเงียบ พจน์ขยับเข้ามาใกล้ๆ

    น้องสร้อย อย่าคิดอะไรมาก ทำไมพี่จะไม่รู้ว่าน้องสร้อยคิดอะไร น้องสร้อยคือน้องสาวของพี่ แม่ก็คือแม่ของพี่ ทุกอย่างที่น้องรู้สึกก็คือพี่รู้สึก จำไว้นะ เราเป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกัน
    �พจน์พูด สร้อยหันมาช้า มองหน้าผู้เป็นพี่ชายด้วยแววตามั่นใจ�

    ค่ะ ขอบคุณพี่พจน์นะคะ ที่ยังรู้สึกดีๆกับสร้อย
    สร้อยพูดด้วยน้ำตาเต็มเบ้าตา


    อืม ไม่เอาน่า ดูซิทุกคนมีความสุขที่น้องกลับมา พ่อและแม่นุชไม่เคยมีรอยิ้มมากเกือบสองเดือนแล้วนะ วันนี้ทุกคนมีความสุขเพื่อน้องคนเดียว น้องหันไปมองซิ
    พจน์พูดพร้อมกับหันไปมอง จักกฤษ นุช นีรนุช และจีน่า ต่างนั่งคุยกันอย่างมีความสุข สร้อมมองไปยังทุกคนจากสีหน้าเศร้าๆค่อยๆเปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม


    ค่ะ ทุกคนมีความสุข
    สร้อยพูดขึ้นเบาๆ

    ใช่จ๊ะ ทุกคนมีความสุข พี่ก็อยากให้น้องมีความสุข เพราะยังไงพี่ก็ยังมีพ่อมีแม่นุช และมีพี่อีกคนไง
    พจน์พูด สร้อยหันมายังพจน์พร้อมยิ้มทั้งน้ำตา�


    พี่พจน์ไม่เคย ทิ้งสร้อยเลยนะคะ
    สร้อยพูดน้ำตาไหลอาบแก้ม


    พี่จะทิ้งน้องสาวของพี่ได้ยังไง ก็มีน้องอยู่เพียงคนเดียวให้คิดถึงและเป็นห่วง
    �พจน์พูดด้วยรอยยิ้ม

    ขอบคุณนะคะพี่พจน์
    �สร้อยพูดด้วยรอยยิ้มทั้งน้ำตา พลางเช็ดเบาๆ�

    "อืมพี่ค่ะ

    สร้อยสดชื่นขึ้นมานิด พลางเอยถาม พจน์จิบไวน์เบาๆ พลางวางลง�


    ฮืม มีอะไรหรอนู๋สร้อย
    �พจน์เล่นเสียงกับน้องสาว สร้อยถึงกับยิ้มออกมาเบาๆเห็นไรฟันพองาม

    อืม สร้อยรู้สึกว่า งานนี้สร้อยไม่เห็นแก้วเลยนะคะ
    �สร้อยพูดขึ้นเบาๆในขณะที่ชะเง้อมองไปรอบๆไม่เห็นแก้วอยู่ในงานเลย พจน์นิ่งเงียบ

    พี่พจน์คะ ไม่มีแก้วจริงๆค่ะ
    สร้อยพูดพลางหันมายังพจน์ซึ่งนิ่งเงียบ�


    พี่ก็ไม่เห็นตั้งแต่ตอนที่มาแล้ว
    พจน์พูดเบาๆด้วยสีหน้าเศร้าทันที สร้อยจ้องมองผู้เป็นพี่ชายด้วยความเข้าใจ

    พี่พจน์คะ พี่มีอะไรกับแก้วหรือเปล่า
    �สร้อยพูดถามอย่างตรงไปตรงมาทั้งๆที่รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับความรู้สึกนี้ พจน์นิ่งเงียบ ก่อนหันมามองหน้าน้องสาว

    ไม่มีอะไรจ๊ะ ทำไมต้องคิดว่ามีด้วย
    �พจน์ถามด้วยสีหน้ายิ้ม�

    ถ้าคิดว่าพี่ไม่มีอะไรก็แล้วไปนะคะ แต่ถ้ามีอย่าลืมสร้อยนะคะ สร้อยเป็นน้องพี่พจน์ใช่ไหมคะ สร้อยพูดด้วยท่าทีรู้ทันในใจของพจน์

    อืม จ๊ะ คนเก่ง
    �พจน์พูด สร้อยถึงกับยิ้มออกมาได้เป็นครั้งแรก

    ตี๊ดๆ ตี๊ดๆๆ
    เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาพอดี พจน์ยิ้มพร้อมกับยกโทรศัพท์ขึ้นมาดู

    สวัสดีครับ
    �พจน์พูดพร้อมกับยิ้มดีใจ

    ครับ ตอนนี้เพิงจะเริ่มงานเองครับ ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมจะให้คนขับรถไปรอที่สะพานข้ามแม่น้ำมายังบ้านเกาะเรียนนะครับครับแล้วเจอกันนะครับ พจน์พูดจบส่งยิ้มให้สร้อย

    ใครหรือคะพี่พจน์
    �สร้อยเอ่ยถามเมื่อสังเกตเห็นพจน์สีหน้ายิ้มแย้มดีใจ�

    อ๋อ คุณอรทัยกับน้ากาญจน์ �เรื่องมันยาวเดี๋ยวพี่ค่อยเล่าให้ฟัง พี่ขอตัวไปบอกพ่อกับแม่นุชก่อน
    �พจน์พูดพลางรีบลุกขึ้นเดินไปยังโต๊ะของจักกฤษทันที คงทิ้งให้สร้อยนั่งอยู่คนเดียวเพียงลำพัง�

    อ้าวเป็นไงพ่อหนุ่ม ไม่มานั่งกับพ่อเลยนะ
    ผู้เป็นพ่อแซวลูกชาย พจน์นั่งลงพลางเม้มปาก�


    ว่าไงลูกกับข้าวอร่อยไหม
    นุชเอ่ยถามพลางใช้มือเสยผมซึ่งพลิ้วไปตามแรงลมเบาๆ�


    แหม น้องนุชถามได้ไงแบบนั้น คุณพจน์คงอร่อยไปทุกอย่างแหละค่ะ เพราะมีหวานใจน่ารักอยู่ด้วยทั้งคน
    นีรนุชพูดพร้อมกับมองไปยังจีน่าซึ่งหยุดเคี้ยวอาหารทันทีพลางมองมายังพจน์ด้วยสีหน้าแดงด้วยความเขินอายพจน์เองก็เกิดอาการขึ้นไม่แพ้กัน

    เอ่อ....คือว่า...อร่อยทุกอย่างครับ
    พจน์พูดขึ้นเพื่อปกปิดอาการเขินต่อหน้าผู้ใหญ่�


    คนหนุ่มสมัยนี้ก็ขี้อายนะคะ เหมือนดิฉันสมัยก่อน คุณกรแฟนดิฉันก็อย่างนี้แหละค่ะ ใกล้ชิดกัน จนเหมือนปาท่องโก๋ แต่ไม่เคยจะเอ่ยรักสักคำ ทั้งๆที่รักกันนะคะ กว่าจะพูดคำนี้มาได้ ก็อายุเยอะแล้ว
    �นีรนุชพูดเล่าอดีตรักของตัวเองให้ทุกคนฟัง พร้อมๆกับเสียงหัวเราะของทุกคนที่นั่นร่วมโต๊ะในท่าทีการเล่าของนีรนุช�

    อืม แต่ก็ดีนะ การได้รักใครสักคนเนี่ยะ แต่อย่าช้า เดี๋ยวพ่อแม่ไม่ทันอุ้มหลาน
    �นีรนุชพูดพร้อมมองไปยังพจน์กับจีน่าด้วยสายตายิ้มๆ ทำเอาจีน่ายิ่งเขินอายไปใหญ่�

    เอ่อ ขอโทษนะครับ คือผมจะมาบอกว่า อีกสักครู่น้ากาญจน์กับคุณอรจะมาร่วมงานกับเราด้วยนะครับ
    พจน์พูดมองหน้าทุกคน


    “อ้าว..จริงหรือลูก
    �นุชจำหน้าคุณอรได้ดีในคืนวันงานโชว์เมื่อสองเดือนที่ผ่านมา หากแต่จักกฤษนิ่งเฉยมีเพียงรอยยิ้ม

    ใครหรือคะน้องนุช พี่เคยเห็นหรือเปล่าคะ
    นีรนุชเอ่ยถาม�

    พี่คะ พี่จะจำได้ไหม ผู้หญิงใส่ชุดสีฟ้า ที่เดินเข้ามาตอนงานกำลังจะเริ่ม
    จักกฤษหยุดนิ่งจากการดื่มไวน์ทันที ภาพคืนวันงานผุดขึ้นมาให้เห็นอย่างเลือนลาง ผู้หญิงร่างบางในคืนนั้นช่างคล้ายกับอรทัยอดีตคนรักเหลือเกิน

    อ้าว คุณจักกฤษ นิ่งไปเลยเป็นไรหรือเปล่าคะ
    นีรนุชเอยขึ้นเมื่อสังเกตแก้วค้างอยู่กับที่เป็นเวลานาน

    อ๋อ...ปะ เปล่าครับ ไม่มีอะไร
    จักกฤษรีบปฎิเสธทันทีพร้อมกับหันมายิ้มกับทุกคนเป็นปกติ


    อืม ก็ดีนะลูก แล้วคุณอรจะมาถูกหรือลูก
    นุชเอ่ยถาม พจน์ยิ้ม

    เดี๋ยวจะโทรให้น้าชัยออกไปรับที่สะพานข้ามฝั่งนะครับ
    พจน์พูดพร้อมรอยยิ้ม�


    อืม งั้นผมขอตัวโทรศัพท์สักครู่ครับ
    �พจน์พูดพร้อมกับลุกเดินจากไปทันที

    อืม จีน่าขอตัวไปคุยกับน้องสร้อยสักครู่นะคะ

    ตามสบายนะลูก
    �นุชพูดพร้อมกับรอยยิ้ม

    พี่จักกฤษค่ะ พี่จักกฤษ
    �นุชเรียก หากแต่ไม่มีเสียงตอบกลับ สายตาเหม่อลอยจ้องมองออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยาด้วยความนิ่งเงียบ นีรนุชสะกิดนุชเบาๆ พลางมองหน้ากัน นุชยิ้มเบาๆถอนหายใจเล็กน้อยเป็นการผ่อนคลายความรู้สึก เพราะรู้ความรู้สึกของจักกฤษดี

    .....................................

    ��������� ครับผม ผมน้าชัยคนขับรถให้คุณพจน์เองครับ
    �เสียงนายชัยรับโทรศัพท์�

    ครับผม ตอนนี้ผมรออยู่ที่หัวสะพานแล้วครับ เดี๋ยวขับลงมาเลยนะครับ
    �นายชัยพูดพร้อมกับสังเกตเห็นแสงไฟของรถอยู่อีกฟาก พร้อมกับส่องแสงไฟตอบรับทันที�

    เห็นแสงไฟรถผมหรือยังครับ ครับผม...
    �นายชัยพูดจบปิดโทรศัพท์ทันที พร้อมกับกดเบอร์อีกครั้ง�

    สวัสดีครับน้าชัย เป็นไงบ้าง โอเคครับ ...ได้ครับ อีกประมาณยี่สิบนาทีเหรอ ครับได้ครับ ขอบคุณน้าชัยมากครับ
    �พจน์พูดพร้อมกับรีบเดินมายัง โต๊ะอาหารของผู้เป็นพ่ออีกครั้ง�

    แม่นุชครับ อีกยี่สิบน้าทีก็จะมาถึงแล้วครับ
    �พจน์พูดพร้อมกับมองมายังเก้าอี้ที่ผู้เป็นพ่อนั่งเมื่อสักครู่�

    คุณพ่อของคุณพจน์ โน้นออกไปยืนริมคลองเพียงลำพังค่ะ เหมือนกำลังจะคอยใครอยู่ นีรนุชพูด พร้อมกับมองไปยังจักกฤษซึ่งยืนกอดอกอยู่เพียงลำพังเงียบๆ�

    ������ พจน์ผละสายตาจากพ่อมายังนุชซึ่งเข้าใจดีทุกอย่าง นุชผงกศีรษะเบาๆเป็นเชิงบอกให้เดินไปหาผู้เป็นพ่อ พจน์เม้มปากเล็กน้อยอย่างเข้าใจ�


    คุณนีรนุชครับ ผมขอตัวสักครู่นะครับ
    พจน์พูด


    จ๊ะ
    พูดพลางหันมามองพจน์ด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่พจน์จะผละเดินออกไปยังผู้เป็นพ่อทันที

    อืม คุณพจน์นีหน้าตาหล่อเหลาเอาการนะ มารยาทก็ดีทุกระเบียดนิ้วจริงๆ สาวใดได้เป็นคู่ครอง พี่ว่าโชคดีที่สุดในโลกแล้วหละ
    �นีรนุชพูด นุชยิ้มรับหากแต่ไม่มีคำพูดใดๆออกมา

    ����������������������������������������������������� ความรักบางครั้งไม่ได้อยู่ที่ความเหมาะสม
    ������������������������������������������������� และความรักไม่ได้มีคำกำจัดความและคำนิยาม

    ����������������������������������������������������������������������� .................................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×