ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แก้วจรัสแสง

    ลำดับตอนที่ #2 : แก้วจรัสแสง

    • อัปเดตล่าสุด 3 ก.ค. 65


                                                                     บทที่ 2
    บริเวณงานคืนนี้ผู้คนเยอะแยะแต่งตัวสวยงามออกมาเดินกันขวักไขว่ไปหมดและเป็นครั้งแรกที่แก้วได้มีโอกาสเดินเที่ยวในงานกับแม่ ดูแก้วจะมีความสุขเป็นพิเศษ สองแม่ลูกเดินชมไปตามที่ต่างๆอย่างมีความสุข ขณะที่สองแม่ลูกกำลังเดินชมอยู่นั้น ก็มีเสียงเรียก


    "แก้ว แก้ว แก้ว" แก้วหันไปตามเสียง และยิ้มดีใจที่ได้เจอกับเจ้าของเสียงซึ่งเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนกับแก้ว 


    "โอโห" มะลิ สวยจังเลย แก้วอุทานเมื่อเห็นมะลิเพื่อนสนิทลูกคนมีเงินในหมู่บ้านนี้ มะลิยิ้มและถามแก้ว  แก้วมาด้วยเหรอ แปลกนะไม่เคยเห็นแก้วออกมาเที่ยวงานเลยนะ" แก้วหันไปมองแม่และยิ้ม 


    "จ้าเป็นครั้งแรกที่มานะพอดีว่างด้วยจ้า" แก้วตอบ 

    "แล้วมาซื้ออะไรบ้างหรอ นี่ดูฉันกับพ่อและแม่มาซื้อของเยอะไปหมดเลย " พลางยกของให้ดู 

    "สวยๆทั้งนั้นเลย " แก้วยิ้มให้เพื่อน

    "แก้วพรุ่งนี้เจอกันนะ เดี๋ยวมะลิต้องไปหาอะไรกินก่อนละนะไปด้วยกันไหม" มะลิเอ่ยชวนแก้ว 

    "ไม่หรอกจ้าพอดีแก้วกินข้าวที่บ้านมาแล้วนะแม่ทำแกงให้กินอร่อยมากเลย ไปเหอะ" แก้วพูดพลางบอกให้เพื่อน 

    " จ้างั้นเดี๋ยวเจอกันพรุ่งนี้แก้วไปละ" 

    พลางจูงมือพ่อกับแม่เดินจากไป แก้วหันไปมองเพื่อนที่ดูจะมีความสุข แก้วหันมามองตัวเองคืนนี้ตัวเองแต่งตัวที่คิดว่าเสื้อผ้าใหม่ที่สุดจากตู้แล้ว แต่เมื่อมาเห็นเสื้อผ้าที่มะลิสวมใส่ ก็นึกเศร้าใจนิดๆ พลางเงยหน้าขึ้นมองแม่ ซึ่งมีสีหน้าไม่สบายใจที่เห็นความแตกต่างของลูกน้อยกับเพื่อนร่วมชั้น แก้วส่งยิ้มให้แม่พลางพูด

    "ครูเคยสอนว่ากินอาหารที่ทำเองปลอดภัยกว่านะแม่ ดีนะที่เรากินข้าวกันมาก่อนนะแม่นะ" แม่พยักหน้ารับแต่แววตาบ่งบอกถึงสงสารลูกสาวตัวน้อยจับใจ

    "แม่ๆไปเดินดูของกันต่อนะ" พลางดึงมือแม่ ไปตามทางเดินที่คนกำลังขวักไขว่ไปมา 
     


    ......................

    หน้าเวทีการประกวดเทพีบ้านทุ่งขี้ไก่ ซึ่งจัดประกวดทุกปี "แม่ คนนั้นสวยจังเลยเบอร์ 5 นะ" แก้วชี้นิ้วพลางพูดเสียงดังตามประสาเด็กๆคนหันมามองแก้วเป็นตาเดียวกันแก้วเขินอาย

    "ขอโทษจ้า" แม่กล่าวขอโทษแทนลูกสาวที่พูดดังจนคนหันมามอง แต่ทุกคนยิ้มให้แก้ว

    "แม่ ถ้าหนูโตขึ้นหนูจะประกวดได้ไหม แม่คะ แม่คะ" แก้วถามแม่หลายครั้งแต่ไม่ได้ยินเสียงตอบจากแม่ แก้วเงยหน้าขึ้นมองไปที่แม่ ยามนี้แม่ดูหน้าสดชื่น ยืนยิ้มเหมือนกำลังอยู่ในการประกวดประมาณนั้น แก้วชะงักและไม่พูดอีกเลย
    .........................

    ตอนขากลับแก้วถามแม่หลายอย่างแต่บางครั้งต้องถามหลายครั้งแม่ไม่ได้ยินเหมือนแม่คิดอะไรอยู่ดูสีหน้าแม่แล้วมีความสุขมาก 


    "นุช นุช นุช ใช่คุณนุชเปล่าครับ" แก้วหันไปตามเสียงเรียก เป็นผู้ชายรุ่นราวคราวเดียวกับแม่ แต่งตัวเรียบร้อย แก้วเงยหน้ามองไปที่แม่ แต่เหมือนแม่ไม่ได้ยิน แก้วจึงดึงมือแม่

    " แม่คะ แม่ มีคนเรียกแม่นะ" แม่ตกใจ 

    "ไหนแก้ว" แก้วชี้ไปตามเสียงเรียก แม่หันไปมอง แต่เหมือนไม่รู้จัก จนกระทั้งเจ้าของเสียงเดินเข้ามาใกล้

    "นุชใช่เปล่าครับ นี้ผมพงศ์ไงครับ เพื่อนสมัยเรียนประถมด้วยกันนะ" แม่มองชายคนนั้นด้วยความคิดและสงสัย

    "อ๋อ พงศกร ใช่ไหม " "ครับผม" พงศ์ตอบ 

    "ไม่เห็นหน้านาน สวยเหมือนเดิมเลยนะ ยังคงครองความงามเทพีบ้านทุ่งขี้ไก่เหมือนเดิมเลย"
    พลางเอามือมาลูบศีรษะแก้วเบาๆ

    "พี่พงศ์ก็เกินไปแล้ว สาวชาวนานะไม่มีความสวยหรอกสู้สาวกรุงไม่ได้หรอก แล้วพี่พงศ์ละมาได้งัยละค่ะ นานแล้วนะไม่ได้เจอกัน " นุชถามต่อ 

    "อ๋อ ก็นึกถึงอดีตงัยละเลยต้องมา ดีใจนะที่ได้มาเจอนุชด้วย แล้วพี่ ปราโมทไม่มาด้วยเหรอ" แม่หยุดไปชั่วขณะและก้มมองแก้วก่อนจะพูดต่อไปว่า

    "อ๋อพี่เขาไปดีแล้วละจ้า " นุชตอบและเปลี่ยนเรื่องคุยทันที "แล้วพี่ละ

    "พี่ก็เรื่อยๆจ้า นี้ลูกสาวเหรอ น่ารักนะ" พลางก้มลงมองแก้วซึ่งยืนนิ่งอยู่ ชื่ออะไรจะลูก แก้วตอบ

    "ชื่อแก้วค่ะ" อาชื่อ พงศ์นะเป็นเพื่อนของแม่แก้วจ่ะ เรียกอาแล้วกันนะ ไหนลองเรียกซิ 

    "สวัสดีค่ะอาพงศ์ " อือน่ารักจัง ทานอะไรหรือยัง เดี๋ยวอาพาไปหาอะไรทานนะ" พงศ์ชวนแก้วด้วยความสงสารเด็กน้อย

    "ไม่หรอกค่ะอาพงศ์ หนูกับแม่ทานมาจากบ้านแล้วค่ะ อาหารไม่เป็นพิษด้วย"

    พงศ์เงยหน้ามามองนุชอย่างเข้าใจอะไรๆดีขึ้น นุชดูเปลี่ยนไปผอมเสื้อผ้าดูเก่าๆหน้าตาปราศจากเครื่องสำอาง
    "งั้นพี่ขอซื้อของให้แก้วสักอย่างได้เปล่าครับ"พงศ์อ้อนวอนนุชอย่างเข้าใจ

    "ไม่ต้องค่ะพี่พงศ์แก้วเสื้อผ้ามีอีกเยอะค่ะ" นุชปฏิเสธ

    "นะครับนุช นานแล้วที่พี่ไม่ได้ทำอะไรให้นุชเลยวันนี้ขอสักครั้งนะ" พงศ์ก้มลงมองแก้วซึ่งตอนนี้ยืนนิ่งเหมือไม่เข้าใจอะไรทั้งนั้น

    "แก้วลูกต้องการอะไรบ้างละลูก" พงศ์คะยั้นคะยอแก้วด้วยความรักและสงสารเด็กน้อยเหลือเกิน

    "ไม่ค่ะหนูมีพร้อมแล้วแล้ว" แก้วตอบ

    "ไม่นะ เดี่ยวอาจะซื้อให้นะ ไม่รู้เมื่อไหร่อาจะได้เจอหลานอีก ไปเลือกกับอาแล้วกัน" พงศ์จูงมือแก้วเดินนำหน้าไปในงาน ทิ้งให้นุชยืนมองอยู่จนลับตา………………….


     

     " แม่คะอาพงศ์เป็นคนที่ไหนค่ะ และรู้จักกับแม่ได้ไงค่ะ แก้วไม่เคยเห็นแม่คุยให้แก้วฟังบ้างเลยนะ"
     แก้วพูดพลางเปิดประเป๋าโชว์สิ่งที่ซื้อมาให้ผู้เป็นแม่ดู แม่นั่งมองลูกสาวที่กำลังมีความสุขกับของที่ซื้อมา เสื้อผ้าและของเล่นรวมถึงของกินอีกหลายชนิดที่วางอยู่เรียงรายยามนี้ นุชเสียใจหรือดีใจกันแน่สุดที่จะเดาออก 

    "แม่คะทำไมแม่ไม่ตอบหนูคะ" แก้วถามแม่พลางเข้ามาหนุนตักแม่ นุชลูบศีรษะลูกสาวเบาๆอย่างทะนุถนอมก่อนตอบว่า

    "รู้จักซิจ๊ะลูก อาพงศ์นะเป็นเพื่อนสมัยเรียนกับแม่จ๊ะ อยู่หมู่บ้านเดียวกันด้วย แต่อาพงศ์เขาฐานะดีกว่าแม่เลยได้ไปศึกษาต่อที่ในเมืองนะจ้า" นุชตอบเลี่ยงๆ 

    "อ๋อ งั้นแม่ก็มีเพื่อนอยู่ในเมืองหลายคนใช่ไหมแม่" แก้วเอื้อมมือลูบหน้าแม่อย่างห่วงใย
    "ไม่หรอกลูกแม่ไม่รู้จักใครเลย" แก้วเอ่ยถามพร้อมสงสัย 

    "แม่แล้วพี่ปราโมทละแม่ใครเหรอ ค่ะ หนูได้ยิน อาพงศ์ถามแม่นะค่ะ" นุชนิ่งอึ้ง ไม่มีเสียงตอบแม้แต่ลมหายใจ ก่อนตอบว่า
     "นอนเหอะลูกนะ พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียนไม่ใช่หรือจ๊ะ " พูดพลางหอมแก้วลูกน้อยแล้วจัดการปูที่นอน 
     


    ................................................

    คืนนี้ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดาวที่ส่องแสงระยิบระยับ แต่ไม่ถึงกับเงียบนักเพราะมีเสียงดังจากงานคลายความเงียบได้บ้าง นุชนั่งที่ริมคลองอย่างเงียบๆตามลำพังคนเดียว สายตามองไปที่งาน เห็นแสงไฟระยิบระยับมาแต่ไกล พลางนึกถึงคำพูดของพงศ์ ที่ถามถึง ปราโมท น้ำตาไหลอาบแก้มทั้งสองข้างอย่างเจ็บปวด ก่อนที่จะตามด้วยเสียงสะอื้น 

     นุชยกมือเช็ดน้ำตาทั้งสองข้างด้วยชายผ้าถุงเก่าๆที่สวมอยู่ ด้วยมือสั่นเทา พลางหันไปมองบ้านซึ่งไม่น่าเรียกว่าบ้านเลย ในยามนี้เงียบสงัด ลูกน้อยคงหลับใหลอย่างสบายแล้ว น้ำตายิ่งไหลพร้อมกับเสียงสะอื้นที่พยายามกลั้นไว้ ไม่ให้มีเสียง 
     


     "แก้ว ลูกรัก ถึงแม่จะจน แม่สัญญาจะเลี้ยงลูกของแม่ให้ดีที่สุด"นุชพูดด้วยเสียงที่สั่นเครือออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินเหมือนมีอะไรแอบแฝงมากับความรู้สึกนี้ 

    สายตาผละออกมาจากอาคารบ้านก็หันไปเห็นต้นดอกรักซึ่งขึ้นอยู่ที่ริมลำคลอง ใบพริ้วไปตามกระแสลมที่พัดผ่านมาเบาๆ ดอกรักร่วงที่จากต้นทีละดอกตกลงสู่พื้นดินนุชนั่งมองอยู่นาน ก่อนจะพูดออกมาเบาว่า

    "ตราบใดที่ดอกรัก ยังคงความหอมอยู่ ตราบนั้นชีวิตฉันก็คงไว้ซึ่งความเจ็บปวด ตลอดไป "

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×