ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แก้วจรัสแสง ตอน วังวนแห่งรัก

    ลำดับตอนที่ #13 : แก้วจรัสแสง ตอน วังวนแห่งรัก

    • อัปเดตล่าสุด 21 ก.ย. 55


    �������������������������������������������������������������������
    ����������������������������������������������������������� บทที่13

    ณ ห้องทำงานของพจน์��


    สวัสดีค่ะ..ไม่ทราบว่าห้องทำงานของคุณพจน์อยู่ชั้นไหนคะ
    แก้วในชุดกระโปรงยาวเลยเข่า เสื้อแขนกุดสีฟ้าอ่อน �สอบถามพนักงาน ด้วยรอยยิ้ม พนักงานยิ้มต้อนรับ ก่อนที่นายชิดคนขับรถเดินตามมาถึงพอดี

    คุณแก้วครับ..เชิญทางนี้เลยครับ
    �พนักงานยิ้มเมื่อเห็นนายชิดคนขับรถของคุณจักกฤษแก้วยิ้มให้พนักงานต้อนรับก่อนพูดว่า

    ขอบคุณนะคะแล้วเดินตามนายชิดไปทันที

    เธอว่า.. คุ้นๆ....เคยเห็นผู้หญิงคนนี้ที่ไหนไหม
    พนักงานพูดกับเพื่อนที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ก่อนจะมองไปยังแก้วที่กำลังเดินตามนายชิดไป

    อืม..ฉันก็ว่างั้นแหละ เพื่อสาวตอบในขณะที่หันมาต้อนรับแขกที่เข้ามาสอบถามทันที

    ห้องนี้แหละครับคุณแก้ว..
    นายชิดพูดในขณะที่ยืนนิ่งอยู่ที่หน้าประตูห้องใหญ่ แก้วมองไปข้างในเห็นพนักงานเดินกันวุ่นวาย ก่อนจะหันมมองนายชิด

    ค่ะ..แล้วไม่เข้าไปกับแก้วหรือจ๊ะ
    นายชิดสั่นศีรษะเป็นเชิงปฎิเสธ ก่อนพูดว่า

    เดี๋ยวผมขอไปรอที่ห้องรับแขกชั้นล่างแล้วกันนะครับ นายชิดพูดก่อนจะรีบเดินไปทันที

    แก้วหันกลับมามองยังห้องทำงาน เป็นห้องใหญ่ มีพนักงานใส่ชุดเดียวกันหมดทุกคนแก้ว ตัดสินใจเดินเข้าไปทันที ทุกคนต่างมองมายังแก้ว ด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะรีบทำงานกันต่อไป และต้องหยุดทันทีเมื่อ


    เอ่อ สวัสดีค่ะ
    �เสียงหวานพูดขึ้น...แก้วหันกลับไปมองเจ้าของเสียง ก่อนจะจะยกมือไหว้

    สวัสดีค่ะ คือดิฉันจะมาหาคุณพจน์ค่ะ
    แก้วพูดทันที พนักงานสาวในตำแหน่งเลขาที่เขียนป้ายเล็กๆบอกตำแหน่งที่หน้าอกด้านซ้าย

    อ๋อ ค่ะ..ฉันรู้สึกว่าเคยเห็นน้องที่ไหนสักแห่งนะคะ เลขาพูดก่อนจะมองไปทั่ว แก้วยิ้มอายๆ ก่อนพูดว่า

    พี่คะ แก้วมาที่นี่เป็นครั้งแรกค่ะ
    แก้วพูดหากแต่เลขาคนนี้ดูท่าทางอารมณ ์ดี ก่อนจะเดินไปยังโต๊ะทำงานก่อนจะพูดเสียงดังฟังชัด ว่า

    คุณแก้วคือนางงามที่ลงหนังสือวันก่อนใช่ไหมคะ

    สิ้นเสียงเลขาพนักงานทุกคนต่างหันมามองแก้วเป็นตาเดียวกัน แก้วไม่ได้ตอบ หากแต่ยิ้มด้วยความเขินอาย


    อืมนี่ไง พี่มีหลักฐาน พูดพลางหยิบหนังสือที่เก็บไว้ออกมาให้แก้วดู พนักงานอีกกว่าสิบคนเข้ามาห้อมล้อมดูแก้ว

    อืม..ตัวจริงน่ารักกว่าในรูปอีกนะ เสียงพูดของพนักงานดังออกมา และทุกคนก็ต้องเงียบเมื่อหนึ่งในนั้นพูดขึ้นว่า

    น้องชื่อแก้วใช่ไหมคะ พนักงานสาวหน้าตาดีคนหนึ่งพูดทักขึ้น ทุกคนต่างหันมาที่แก้ว

    ค่ะ..หนูชื่อแก้วพนักงานสาวคนดังกล่าวเดินเข้ามามอง ก่อนพูดว่า

    นี่คุณเลขา..ฉันมีดีให้เธอดู ดีกว่าของเธออีกนะ พูดพลางหยิบหนังสือนิตยสารที่พวกสาวๆชอบอ่านกันออกมาโชว์แก้วถึงกับหน้าแดงด้วยความเขินอาย

    จริงๆด้วย.. พนักงานทุกคนต่างดีใจ

    นี่คือคุณแก้วใช่ไหมคะ เลขาถามขึ้นด้วยความอยากรู้ แก้วยังคงหน้าแดงด้วยความอาย ก่อนตอบว่า

    ค่ะ..แก้วเอง ทุกคนมองหน้ากัน ก่อนที่จะต้องเงียบ

    “พวกคุณทำอะไรกันอยู่

    �เสียงนุ่มดังมากหากแต่ทำเอาพนักงานนิ่งพลางแยกกันออกไปทันที สิ้นเสียง แก้วถึงกับยิ้มออก

    คุณพ่อ

    �แก้วเรียกผู้เป็นพ่อก่อนเดินเข้าไปหา จักกฤษยิ้มรับก่อนเข้ามาโอบกอดแก้ว

    อืม.... เลขา มีอะไรกันหรือครับ ว่างงานกันมากนักหรือวันนี้
    จักกฤษหันมาพูดเป็นเชิงดุ เลขาก้มหน้าเงียบ แก้วยิ้ม ก่อนพูดแก้ตัวให้ว่า

    เปล่าค่ะพ่อ..พี่เลขาและทุกคนน่ารักนะคะ เข้ามาคุยกับแก้ว ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าแก้วเป็นใคร แก้วพูดก่อนจะแอบส่งยิ้มให้เลขาเป็นเชิงเข้าใจ เลขาหันมายิ้ม

    อ๋อ..งั้นไม่เป็นไร ดีแล้วรู้จักไว้ก็ดีแล้ว งั้นพ่อขอตัวก่อนนะลูก จักกฤษพูดก่อนจะยิ้มให้แก้ว พลางหันมาที่เลขา

    ดูแล ลูกแก้วด้วยนะ พูดพลางเดินตรงไปยังห้องทำงานทันที

    ร่างหนุ่มใหญ่เดินเข้าประตูห้องไปแล้ว เลขาเดินตรงมายังแก้วทันที

    ขอบคุณมากค่ะ คุณแก้ว..แล้วไม่ยอมบอกว่าเป็นลูกสาวเจ้าของบริษัท แก้วยิ้มก่อนพูดว่า

    ไม่ใช่หรอกค่ะ..แก้วเป็นแค่ลูกเลี้ยงท่านเอง
    แก้วพูดตรงไปตรงมาก่อนหันมายิ้มให้กับทุกคนที่มองมายังแก้วอย่างชื่นชม

    อืม ว่าแต่ว่า คุณแก้วมาหาคุณพจน์หรือคะ เลขาถามเหมือนจะเข้าใจ

    ค่ะ..หลายวันพี่พจน์ไม่กลับบ้านแก้วกลัวว่าจะไม่สบายค่ะ

    �� เลขาสังเกตุแก้วก็รู้ว่า เด็กคนนี้เป็นเด็กผู้หญิงที่ตรงไปตรงมาซื่อบริสุทธิ์ก่อนยิ้มให้ มองไปยังประตูห้องที่ยังคงปิดอยู่ แก้วมองตาม ด้วยสีหน้าตื่นเต้นนัก

    แต่พี่ว่า ..คงไม่เครียดหรอกค่ะ
    เลขาพูด รอยยิ้มแก้วหายไปทันที่เมื่อเลขาพูดต่อไปว่า

    มีคุณจีน่าอยู่เป็นเลขาส่วนตัวแล้วนี่คะ คนนี้ทั้งเก่งทั้งสวยค่ะ ทุกคนรักเธอทั้งนั้นเลย
    เลขาพูดขึ้นเหมือนรู้จักจีน่าเป็นอย่างดีแก้วก้มหน้านิ่งเงียบ และรู้สึกดีใจที่พี่พจน์มีคนดูแลอย่างใกล้ชิด หากส่วนลึกแล้วเจ็บปวดเกินจะพูดออกมา แต่ต้องแสร้งยิ้มเอาไว้

    อ๋อค่ะ..พี่จีน่าทั้งสวยและเก่งค่ะ
    แก้วพูดเสริมเป็นเชิงเห็นด้วย

    �เดี๋ยวดิฉันจะเคาะประตูให้นะคะ
    พูดพลางรีบเดินไปยังประตูบานใหญ่ทันที แก้วยืนนิ่งก่อนจะเปิดประตูเข้าไปทันที

    .........................................

    ���������������
    �������� "ก๊อกๆๆ"


    �����������เลขาเคาะประตูห้อง ก่อนที่แก้วจะเปิดประตูด้วยความตื่นเต้น�แล้วเดินเข้าไปทันที

    ����
    เป็นเวลาเดียวกันกับที่ จีน่าหันมามองแก้วด้วยอาการมีพิรุธ


    แก้ว..

    พลางเรียกด้วยสีหน้าตกใจ ก่อนจะรีบใส่กระดุมเสื้อที่โผล่ให้เห็นร่องอกอันอวบอั๋นเต็งตึง แก้วยืนนิ่งไม่พูดจาคงมีแต่ความสับสนเสียใจและนึกไม่ถึงเกิดขึ้นบนสีหน้า

    ขอ...ขอโทษค่ะ แก้วพูดด้วยเสียงอันสั่น

    แก้ว..ขอโทษค่ะพี่จีน่า งั้นแก้วขอตัวก่อนนะค่ะ
    แก้วรีบเดินหันหลังกลับทันที แต่ต้องหยุดชะงักเมื่อ

    ใครมาหรือจีน่า
    พจน์เดินออกมาจากห้องน้ำ ก่อนจะมองมายังแก้วด้วยความตกใจนึกไม่ถึง

    แก้ว..

    แก้วมองหน้าพจน์ซึ่งยืนมองมายังแก้วด้วยสีหน้าไม่สู้จะดีนัก

    ค่ะ..ไว้แก้วมาเยี่ยมใหม่นะคะ แก้วลาค่ะ

    �แก้วพูดก่อนหันมามองเจ้าของเสียง �พจน์ยืนหน้าซีดไม่ต่างกับจีน่าที่ยืนยิ้มก่อนจะเดินเข้ามา

    แก้ว ทำไมไม่โทรมาบอกพี่ก่อนละคะ จะได้เตรียมตัวถูก
    แก้วหันมาส่งยิ้มให้จีน่าอย่างเข้าใจ� ถึงแม้ภายในจะสับสนและเสียใจเป็นที่สุดก่อนจะพูดด้วยเสียงปกติ

    ไม่เป็นไรค่ะพี่จีน่า แก้วแค่ผ่านมาทางนี้ เลยแวะมาเยี่ยม
    แก้วพูดด้วยความขมขื่นยิ่งนักก่อนหันไปมองพจน์ที่ยังคงยืนนิ่ง ไม่มีแม้คำพูด

    พี่พจน์ พี่จีน่าแก้วขอตัวก่อนนะคะ พูดพลางรีบเดินออกไปทันที

    ...............................................


    ������� ตลอดระยะทาง แก้วนั่งน้ำตาไหลอาบแก้มตลอดเวลา ก่อนจะยกมือขึ้นเช็ด พลางมองไปยังสองข้างทางหากแต่น้ำตาก็ยังไหล นายชิดถึงกับนั่งเงียบไปอีกคน

    ก่อนจะพูดขึ้นเมื่อได้ยินเสียงแก้วสะอึกสะอื้นอย่างเจ็บปวดขึ้นมา

    คุณแก้ว ถ้ามีอะไรไม่สบายใจ บอกผมได้นะครับ
    นายชิดพูดก่อนจะมองมายังแก้วที่ร้องไห้หนักขึ้นไปอีก

    ผมเองก็เคยรู้สึกแบบนี้ คุณแก้ว..คำว่าเสียใจ มันก็เกิดขึ้นกับทุกคนครับ อย่าร้องเลยครับ
    นายชิดพูดก่อน จะยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาตัวเองอีกคน ไม่มีคำตอบไม่มีเสียงหัวเราะรอยยิ้มของเด็กคนนี้ซึ่งเคยอยู่กับตนมาโดยตลอด นายชิดถึงกับเศร้าด้วยความเข้าใจ ก่อนจะขับรถไปอีกทางทันที

    ...................................


    ��������� ทุกครั้งยามที่ผมไม่สบายใจ สมัยตอนที่พ่อยังอยู่ ผมก็จะมานั่งที่สะพานใกล้แม่น้ำที่นี่แหละครับ

    นายชิดพูดเหมือนรู้จักที่นี่ดี แก้วยังคงนิ่งเงียบก่อนจะเปิดหน้าต่างแล้วมองออกมาจากรถเก๋งคันงาม อีกฟากเป็นบ้านคนที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา ฟากทีแก้วยืนอยู่เป็นเหมือนสวน ก่อนจะเปิดประตูลงมาทันที

    คนเราก็แปลกนะคะ..ดีใจก็ร้อง เสียใจก็ร้อง..
    แก้วพูดในขณะที่มองไปยังแสงทองที่อยู่บนขอบฟ้าเวลาบ่ายใกล้พลบค่ำยามนี้ เรือบรรทุกผู้คนแล่นไปมา นายชิดยังคงนิ่งมองแก้วซึ่งเดินไปริมแม่น้ำก่อนจะนั่งลงเงียบๆเพียงคนเดียวอย่างน่าสงสาร

    อืม..ลุงขอให้แก้วสมหวังนะลูก
    นายชิดเอ่ยขึ้นเหมือนรู้จักแก้วดี โดยเฉพาะความรักและใกล้ชิดระหว่างพจน์ ก่อนนายชิดจะเดินไปที่รถทันที คงทิ้งให้แก้วนั่งปล่อยอารมณ์อยู่คนเดียวท่ามกลางบรรยากาสดีๆในช่วงบ่ายยามนี้

    .................................


    ������ อืม..วันนี้นึกยังไงลับบ้านพร้อมพ่อ
    จักกฤษเอ่ยถามพจน์เมื่อเห็นพจน์ขอติดรถไปด้วย พจน์หันมายิ้มก่อนพูดว่า

    ก็คิดถึงบ้านครับพ่อ อยากกลับบ้านบ้าง พจน์พูดยิ้มๆ ในขณะที่คนขับรถเข้ามานั่งประจำที่ แล้วขับออกจากบริษัทไปทันที

    อืม..ว่าแต่ว่าวันนี้เป็นไงบ้าง ลูกแก้วถามถึงลูกเมื่อคืนสงสัยจะคิดถึงเลย มาเยี่ยมลูกวันนี้

    สิ้นคำพูดของผู้เป็นพ่อ พจน์เหงื่อไหลซึมบนใบหน้าทันที ความรู้สึกเจ็บเริ่มมีขึ้นมาอีกแล้ว ยิ่งเมื่อรู้ว่า แก้วเป็นห่วง

    ลูกพจน์..ลูกพจน์

    จักกฤษเงียบไปก่อนจะหันมามองพจน์ที่ยังคงนั่งนิ่ง

    ครับพ่อ..มีอะไรหรือครับ จักกฤษยิ้มก่อนถามอีกครั้งว่า

    วันนี้เป็นไงบ้าง คุยกับน้องเค้าหรือเปล่าลูก คำถามที่ไม่มีคำตอบ พจน์นิ่งเงียบ ก่อนพูดว่า

    ยังไม่ได้คุยเลยครับพ่อ พูดพลางก้มหน้าทันที

    อะไรนะ..แก้วอุตส่าห์มาเยี่ยมลูกไม่ได้ต้อนรับอะไรน้องเลยหรอ..อืม..เป็นพี่ประสาอะไรกัน

    จักกฤษพูดก่อนจะเงียบไปทันที คงทิ้งให้พจน์ยังคงนั่งเศร้าและรู้สึกผิดขึ้นมาอย่างมหันต์ ภาพในช่วงบ่ายวันนี้ผุดขึ้นมา พจน์ยิ่งรู้สึกเจ็บยิ่งรู้สึกรัก มันทรมานเกินกว่าจะอยู่นิ่งได้อีกต่อไป

    พ่อครับ....ยังอีกไกลหรือครับ กว่าจะถึงบ้าน

    พจน์พูดขึ้นมาก่อนที่ผู้เป็นพ่อจะหันมายิ้ม

    ร้อนใจถึงขนาดนั้นเลยหรือลูก
    พูดพลางยิ้ม คงปล่อยให้พจน์รู้สึกตัวเองขึ้นมาอีกที ก่อนจะยิ้มอย่างอายๆเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อแอบมองมาหาตนในกระจกหน้ารถ�


    ������������� ���� �ความห่วงใย ไม่อาจเกิดขึ้นได้....หากไม่รัก
    �������������������ความรักคือเรื่องของความรู้สึกที่ยากจะเข้าถึง
    �������������������������

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×