ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักนี้...มีไว้เพียงเธอ

    ลำดับตอนที่ #1 : รักนี้..มีไว้เพียงเธอ ตอน รับขวัญ

    • อัปเดตล่าสุด 5 ม.ค. 56


    ��������������������������������������������������������������
    ������������������������������������������������������� ���
    บทที่ 1

    �� ท้องฟ้าสดใส สายลมพัดพริ้วใบไม้เคลื่อนไหวไปมา ท่ามกลางสนามหญ้าริมแม่น้ำเจ้าพระยา นุชและน้ำพร้อมกับหญิงสาวอีกสามคน กำลังกุลีกุจอจัดแจงโต๊ะอาหารพร้อมๆกับคุณนีรนุชเจ้าของร้านเสื้อผ้าชั้นนำต่างประเทศ นั่งแกะสลักผลไม้บนศาลาริมน้ำอย่างมีความสุข�

    ����� อืม ....คุณนีรนุชคะ วางมือบ้างก็ได้นะคะไม่ต้องรีบ
    นุชพูดด้วยรอยยิ้มพลางเดินมานั่งใกล้ๆถาดแกะสลักผลที่เรียบร้อยแล้ว

    ไม่เป็นไรค่ะ สมัยยังสาว คุณย่าให้นั่งเป็นวันๆเลย แค่นี้ไม่พอมือหรอกค่ะ
    นีรนุชพูดด้วยรอยยิ้มหวาน เมื่อนึกถึงอดีต


    อืม น่าอิจฉาชีวิตคุณพี่มากนะคะ
    นุชพูดด้วยรอยยิ้ม

    แหม นุช จะอิจฉาทำไม นั่งเมื่อยจะตายไม่ว่า อยู่แบบน้องดีแล้ว
    นีรนุชพูดพลางวางมีดแกะสลักลงเบา ๆ


    อืม ว่าแต่นี่ก็จะสายแล้ว ยังไม่เห็นใครมาเลย หวังว่าไม่รอเก้อนะ
    นีรนุชพูดพร้อมกับมองดูนาฬิกา

    ตี๊ด ตี๊ดๆ
    เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น นุชหันมามองหน้านีรนุช�


    สงสัยมากันแล้วหละค่ะ
    นุชพูดเบาๆ พลางกดสายรับทันที�


    “สวัสดีค่ะ...ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วค่ะ พี่จักกฤษ ไม่ต้องรีบก็ได้ค่ะ เพราะงานนี้นุชมีพี่นีรนุชมาช่วยด้วยค่ะ..... ค่ะ........เดี่ยวจะบอกให้นะคะ ค่ะ สวัสดีค่ะ
    นุชวางสายด้วยรอยยิ้ม นีรนุชหันมามามองด้วยรอยยิ้มหวาน

    แหม คุยกันอย่างกับคนรักกันเลยนะน้องนุช
    นีรนุชพูดแซวขึ้น ทำเอานุชหน้าแดงด้วยความเขินอาย

    แหม พี่นุช คิดมากอีกแล้ว พี่จักกฤษเปรียบเสมือนพี่ชายแท้ และเปรียบเสมือนพ่อของลูกแก้ว นุชเป็นหนี้บุญคุณพี่จักกฤษทั้งสองแม่ลูกเลยค่ะ นุชเคารพและรักพี่จักกฤษเหมือนพี่ชายแท้ๆค่ะ
    �นุชพูดอธิบายเมื่อนึกถึงวันที่ผ่านมาด้วยใบหน้าอิ่มเอิบใจยิ่งนัก

    �ตั้งแต่วันแรกที่พี่เห็น พี่ก็รู้แล้วว่า คุณจักกฤษเป็นคนดี แต่พี่ยังสงสัยว่า ทำไมต้องทนอยู่กับคนที่ไม่ได้รักนานถึงขนาดนี้
    �นีรนุชพูดด้วยสีหน้าจริงจังเมื่อนึกถึงอดีตของจักกฤษกับพิจิตรา

    นุชว่าพี่จักกฤษอาจรอใครบางคนอยู่ก็ได้นะคะ
    �นุชพูดในฐานะที่อยู่ใกล้ชิดกับจักกฤษมาตลอด นีรนุชนิ่งเงียบมองไปยังนุชซึ่งมองออกไปยังแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยแววตาเศร้าๆ�

    พี่เชื่อไหมคะ ว่าการรอใครสักคน บางครั้งก็มีความสุขนะคะ
    �นุชพูดหากแต่ไม่มีคำตอบจากนีรนุช นุชรีบผละสายตามายังนีรนุชซึ่งจ้องมองมาที่ตนอย่างสงสัย

    นั่นแน่ แอบรอใครอยู่หรือเปล่าน้องนุช
    �นีรนุชพูด ทำเอานุชหน้าแดง

    แหม๋ พี่พูดเข้านุชจะรอใครคะ ไม่มีใครให้รอแล้ว
    �พูดพลางหัวเราะพร้อมๆกัน�

    อ๋อ ลืมไปค่ะ พี่จักกฤษฝากความระลึกถึงพี่ด้วยนะเมื่อสักครู่ เดี๋ยวก็คงมาแล้ว
    นุชพูดด้วยรอยยิ้ม นีรนุชหันมายิ้มตอบ


    พี่คะเดี๋ยวนุชขอตัวไปดูอาหารในครัวแป้บนะคะ เดี๋ยวมาค่ะ
    �นุชพูดพลางรีบเดินออกจากศาลาริมน้ำไปทันที คงทิ้งให้นีรนุชมองนุชด้วยแววตาสงสัยในนุชมากยิ่งขึ้น พลางแกะสลักผลไม้ต่อไป

    ...............................

    �������� ปิ๊นๆ ปี๊น
    เสียงบีบแตรรถดังมาจากรั้วบ้าน น้ำรีบวิ่งออกไปทันที

    สวัสดีค่ะ เชิญค่ะ
    �น้ำรีบเชิญทันทีเมื่อรถคันใหญ่หรูสีครีม �จอดรออยู่ พร้อมกับค่อยขับเข้ามาจอดไว้ริมทางเดิน ประตูรถถูกเปิดออกเบาๆ จักกฤษเดินลงมาด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับรับไหว้น้ำซึ่งยืนมองด้วยความทึ่งในความหล่อแม้จะอายุมากแล้วก็ตาม

    อืม น้ำวันนี้น้าซื้อของมาฝากด้วยนะ
    จักกฤษพูดพร้อมกับรีบเดินไปยังด้านหลังรถโดยมีน้ำเดินตามไปติดๆ

    นี่ไง ใส่คืนนี้ก็ได้ น้าคิดว่าเหมาะกับน้ำ สวยดี
    �จักกฤษพูดด้วยรอยยิ้ม

    ขอบคุณมากค่ะ ดีใจจังเลย
    น้ำสีหน้าสดชื่นมองมายังจักกฤษด้วยรอยยิ้มพร้อมกับยกมือไหว้

    อืม รีบไปลองก่อนก็ได้ะ ถ้าไม่สวยก็ไปเปลี่ยนใหม่ได้
    จักกฤษด้วยรอยยิ้ม


    อ้าว สวัสดีค่ะพี่จักกฤษ
    นุชเดินเข้ามาเมื่อสังเกตุรถจอดอยู่หากแต่ไม่เห็นเจ้าของ

    สวัสดี นุชเป็นไงบ้าง
    จักกฤษหันมามองนุช

    สบายดีค่ะอ้าวน้ำนั่นอะไร
    นุชเอ่ยถามเมื่อเห็นน้ำยืนกอดถุงกระดาษมียี่ห้อเสื้อราคาแพง น้ำยิ้มดีใจ�


    ก็คุณจักกฤษซื้อเสื้อให้น้ำค่ะ สวยด้วยค่ะ
    น้ำพูดด้วยสีหน้าดีใจพลางยื่นให้นุชดู

    อืม ขอบคุณน้าหรือยัง
    นุชพูด จักกฤษยิ้ม


    ไม่เป็นไร ของเล็กๆน้อยๆ
    จักกฤษพูดพร้อมกับมองไปยังบริเวณสนามใกล้ริมแม่น้ำด้วยสีหน้าสดชื่น�


    ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วค่ะ รอทุกคนมาเท่านั้นเอง
    นุชพูดด้วยรอยยิ้ม


    คุณนุชคะ คุณจักกฤษ น้ำขอตัวก่อนนะคะ
    �น้ำพูดพลางรีบเดินจากไปทันที คงทั้งให้นุชและจักกฤษมองหน้ากันด้วยรอยยิ้ม

    นุชคิดว่าลูกพจน์เสียอีกขับรถใหม่คันนี้มา
    นุชพูดเมื่อหันมายังรถคันงามซึ่งนุชไม่เคยเห็นจักกฤษขับมาก่อน

    อืม พี่เพิ่งจะซื้อมาเอง เพราะระยะทางไกล พี่คิดว่าเหมาะกว่าจะมารถเก๋ง เลยซื้อเอาไว้มาบ้านเกาะเรียนโดยเฉพาะ
    �จักกฤษพูดด้วยรอยยิ้ม นุชแอบยิ้มด้วยความขี้เล่นของพี่ชายคนนี้

    แหมพี่ หรือว่า แอบรักใครในรีสอร์ทไว้หรือเปล่าคะ ผู้ชายเนี่ยะ ร้ายทุกคนเลย
    นุชพูดด้วยรอยยิ้ม�


    อืม พี่คะเชิญด้านนี้ดีกว่าค่ะ
    �นุชพูดพร้อมกับเดินนำจักกฤษไปยังศาลาน้ำทันที

    .....................................

    �������� สวัสดีค่ะ คุณจักกฤษ
    นีรนุชยกมือขึ้นไหว้ชายหนุ่มวัยสูงอายุกว่า

    ครับสวัสดีครับ
    จักกฤษยกมือรับไหว้พลางเดินเข้ามาใต้ร่มศาลาริมแม่น้ำเจ้าพระยา

    โอ้โห นี่แกะเองเลยหรือครับ สวยจริงๆ สวยมากครับ
    จักกฤษตะลึงในความสวยงามของผลไม้ที่แกะสลักสดๆอย่างไม่น่าเชื่อ นีรนุชถึงกับยิ้มหันมองมายังนุชซึ่งยิ้มรับ

    แหม พี่จักกฤษค่ะ พี่ก็ลองดูคนแกะสิคะ สวยแค่ไหน ผลงานก็ออกมาสวยสิคะ
    นุชพูดชม จักกฤษเงยหน้าจากผลไม้มองมายังนรีนุชด้วยแววตายิ้ม

    อืม นั่นซิ คนแกะสวยกว่าผลไม้อีกะ
    �จักกฤษหยอดคำหวาน ทำเอานีรนุชยิ้มด้วยความเขินอาย

    อืม เสร็จพอดีเลยค่ะ น้องนุช
    �นีรนุชบอกเมื่อผลไม้ชิ้นสุดท้ายวางลงบนตะกร้า

    ค่ะ เดี๋ยวนุชจะยกไปจัดวางไว้ที่โต๊ะเลยดีกว่านะคะนี่ก็ได้เวลาแล้ว
    นุชพูดพลางรีบกุลีกุจอจัดแจงของทันที


    อืม เดี๋ยวพี่ช่วยยกนะ
    �จักกฤษพูดพลางช่วยยกของออกจากศาลาเดินตามนุชและนีรนุชไปทันที

    ปี้นๆ ปี้นๆ
    เสียงแตรรถดังขึ้น

    อืม พี่จักกฤษค่ะ สงสัยลูกพจน์และลูกสร้อยมาแล้วนะคะ
    นุชพูดในขณะที่เดินถือของออกมาวางไว้บนโต๊ะ น้ำรีบวิ่งไปเปิดประตูรั้วบ้านด้วยรอยยิ้มดีใจ


    อืม นั่นซิ สงสัยมากันพร้อมเลยวันนี้
    จักกฤษพูดด้วยรอยยิ้ม พลางวางของลงบนโต๊ะริมน้ำทันที�


    อืม พี่ไม่เห็นลูกแก้วเลยนะตั้งแต่เข้าบ้านมาเนี่ยะ
    จักกฤษพูดเมื่อของทุกอย่างถูกจัดเข้าที่เข้าทาง นุชหันมามอง�


    ค่ะ ลูกแก้วโทรมาบอก ลาพักร้อนและขอไปดูแลพี่วิวัฒน์นะค่ะ
    นุชพูดด้วยรอยยิ้มหากแต่สีหน้าสลดลงทันที


    วิวัฒน์
    จักกฤษเอ่ยชื่อขึ้นเบาๆตามที่นุชบอก เพราะไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน

    อะไรนะ
    �นุชร้องถามเมื่อได้ยินไม่ชัด พลางยกถาดเพื่อจัดผลไม้

    น้องพูดว่า พี่วิวัฒน์.. นี่ใครเหรอ พี่ไม่เคยได้ยิน
    จักกฤษถามขึ้น ถาดผลไม้ซึ่งในมือของนุชตกลงพื้นทันที�


    โอ๊ะ
    �เสียงร้องตกใจดังออกมาสีหน้าที่เคยสลดกลับซีดขึ้นไปอีก

    อ๋อ...นุชขอโทษค่ะ พอดีกำลังนึกถึงลูกวัฒน์ เลยบอกชื่อผิดไป
    �นุชพูดตะกุกตะกัก พลางปรับสีหน้าด้วยรอยยิ้มไม่สดชื่นนัก

    ลูกแก้วไปดูแลคุณ..จรัลค่ะ
    �นุชพูดพลางก้มลงจัดแจงกับถาดผลไม้ทันที คงทิ้งให้จักกฤษรู้สึกแปลกใจกับท่าทีลับลมคมในของนุชขึ้นมาทุกที

    …………………….

    �� สวัดสีค่ะ คุณพ่อ สวัสดีค่ะน้านุช
    เสียงหวานใสของจีน่า พร้อมๆกับเดินเข้ามาหาทั้งสองซึ่งกำลังยืนช่วยกันจัดโต๊ะอย่างสนิทสนม

    สวัสดีลูก
    �จักกฤษยกมือรับไหว้พร้อมๆกับนุชซึ่งยืนยิ้ม

    เป็นไงบ้างลูกเหนื่อยไหม นั่งรถมาตั้งไกล
    �นุชเอ่ยถาม จีน่ายิ้มเห็นไรฟันพองาม

    ไม่เลยค่ะ นั่งชมวิวมาตลอดทาง สวยดีนะคะ ไม่มาเพียงไม่กี่ปี ที่นี่เปลี่ยนไปมากเลยค่ะ
    �จีน่าพูด พร้อมจ้องมองมายังโต๊ะอาหารซึ่งจัดได้สวยงามมาก

    น้านุชคะ
    �จีน่าเอ่ยปากเรียกนุชอยางสงสัย นุชผละจากการจัดโต๊ะหันมามองจีน่าด้วยรอยยิ้ม�

    มีอะไรหรือคะ
    พร้อมกับมองหน้าจีน่าด้วยรอยยิ้ม


    คือจีน่า สงสัยค่ะ ว่าน้าเรียนการจัดโต๊ะอาหารมาจากที่ไหนคะ เพราะการจัดอย่างนี้คือ ไม่ใช่การจัดธรรมดานะคะ
    จีน่าพูดตรงไปตรงมา นุชนิ่งเงียบชำเลืองมองไปยังจักกฤษซึ่งยืนนิ่งเห็นด้วยกับคำถามของจีน่า นุชนิ่งไปชั่วขณะ พลางตอบว่า

    อืม ไม่เห็นมีอะไรนี่คะ ก็ดูเอาในรายการทีวี��ไม่ได้เรียนที่ไหนหรอกค่ะ
    นุชพูดพลางเช็ดมือตัวเอง เป็นอันเสร็จสิ้น

    เสร็จแล้วหละค่ะ
    นุชพูดขึ้น พร้อมกับชะเง้อมองไปยังตัวอาคารบ้าน

    อืมหนูจีน่าตามสบายนะ น้าขอตัวก่อน เดี๋ยวเจอกัน
    นุชพูด พร้อมกับหันมายังจักกฤษด้วยรอยยิ้ม นุชรีบเดินจากคนทั้งสองไปทันที

    พ่อคะ น้านุชนี่ดูๆ แล้วไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดานะคะ จีน่าสงสัยมานานแล้วค่ะ
    จีน่าพูดด้วยสีหน้าสงสัยเมื่อนุชเดินจากไปแล้ว จักกฤษนิ่งเงียบ พร้อมกับมองไปยังโต๊ะอาหารซึ่งถูกจัดเข้าที่อย่างดีสวยงามไม่มีที่ติ เป็นไปได้หรือที่ชาวบ้านธรรมดาอย่างที่นุชพูดจะจัดได้สวยงามอย่างนี้

    คุณพ่อ คะ...
    �จีน่าร้องทัก เมื่อสังเกตเห็นผู้เป็นพ่อเงียบไป�

    อืม �ว่าไงลูก
    �พร้อมกับหันมายิ้ม

    ไปดูน้องสร้อยกันดีกว่าค่ะ ป่านนี้คงนั่งอยู่ในบ้านแล้ว
    �จีน่าพูดด้วยสีหน้ายิ้มๆ จักกฤษทำตาโต�

    อืม นั่นซิ ลืมนึกถึงลูกสร้อยไปเลย คิดถึงแทบแย่
    พูดพลางรีบเดินไปพร้อมๆกับจีน่าทันที

    .....................................................

    �� สวัสดีค่ะ คุณพ่อ
    สร้อยยกมือไหว้เคารพผู้เป็นพ่อ เมื่อจักกฤษเดินเข้ามาในบ้านซึ่งเป็นมุมห้องรับแขก จักกฤษยิ้มสดชื่นดีใจเมื่อเห็นลูกสาวซึ่งจากไปนาน พร้อมเดินเข้ามาหาแล้วกอดไว้ด้วยความรัก สร้อยนิ่งเงียบไม่มีคำพูดและไม่มีแม้รอยน้ำตา

    เป็นไงบ้างลูกคิดถึงพ่อบ้างไหม
    �จักกฤษพูด สร้อยผละออกมาจากอ้อมกอดเบาๆ เงยมองผู้เป็นพ่อด้วยแววตานิ่งเงียบมีรอยยิ้มเป็นเพียงคำตอบเล็กน้อย�

    สวัสดีครับพ่อ
    �เสียงพจน์ดังขึ้นมา ทำลายความเงียบระหว่างสองพ่อลูกไปในทันที

    อืม สวัสดีลูกพจน์ ทำไมมาช้าะลูก
    �จักกฤษพูดทักทาย พจน์มองนาฬิกาตัวเองด้วยสีหน้างง

    ไม่ได้สายนะครับ มาก่อนเวลาด้วยซ้ำ
    พจน์อธิบาย


    จริงเหรอ สงสัยพ่อคิดถึงลูกสร้อย เลยใจร้อนไปหน่อย
    �จักกฤษณ์พูดพร้อมกับหันมามองสร้อยด้วยรอยยิ้มดีใจ พจน์ถึงกับยื้มในคำพูดของผู้เป็นพ่อ หากแต่สร้อยยังคงนิ่ง

    มัวคุยอะไรกันอยู่ ครอบครัวบ้านฟ้าใส
    �นุชเดินเข้ามาเมื่อเห็นทั้งครอบครัวยืนคุยกันอยู่�

    หิวกันหรือยังคะ ตอนนี้ก็ได้เวลาแล้ว อากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยากำลังสบายค่ะ
    นุชพูดด้วยรอยยิ้ม

    �ผมชักจะหิวแล้วหละ
    จักกฤษพูด พลางรีบเดินนำไปทันที พจน์มองสังเกตสร้อยเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

    น้องสร้อย
    พจน์พูดพร้อมกับสะกิดสร้อยให้เดินตามมาไปทันที

    ���������������������������������������������� เมื่อถึงวันที่ต้องยอมรับความจริง
    ���������������������������������������������� ทุกสิ่งก็ต้องเป็นไปตามกฎเกณฑ์

    ��������������������������������������������������������� ......................................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×