ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แก้วจรัสแสง

    ลำดับตอนที่ #9 : แก้วจรัสแสง

    • อัปเดตล่าสุด 21 พ.ค. 55


     

     

                                                                               บทที่ 9

                  ณ  โรงพยาบาล

     

       นางพยาบาลต่างวิ่งกรูกันเข้ามา ช่วยกันยกนุชขึ้นรถสำหรับผู้ป่วย มุ่งตรงไปยังห้องฉุกเฉินทันที  โดยที่ทั้งสามคนวิ่งตามไปติดๆ แก้วมือเกาะรถไว้แน่นปากเรียกแม่น้ำตาไหลตลอดเวลา


        
    " ขอโทษนะคะ..ญาติผู้ป่วยกรุณารอข้างนอกนะคะ " นางพยาบาลพูดก่อนจะรีบปิดประตู ห้องทันที...


     
    " แม่.....แม่จ๋า....แม่..." แก้วร้องไห้ปานใจจะขาด     สิ้นเสียงร้องร่างกายบอบบางอิดโรยร่วงลงกับพื้นอย่าน่าเวทนายิ่งนัก   

      
    " แก้ว....พ่อครับแล้วสลบไปแล้วพ่อ "   พจน์ตะโกนบอกพ่อด้วยความตกใจ    หนุ่มวัยกลางคน หันหน้ากลับมาจากการยืนชะเง้ออยู่ที่ห้องฉุกเฉิน  แล้ววิ่งเข้ามาอุ้มหนูน้อยไว้ในอ้อมกอดด้วยความตกใจ


     
    " หนู..หนู ....เป็นไงบ้าง .."  ชายหนุ่มวัยกลางคนเรียกหนูน้อยด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะรีบพาร่างแก้ววิ่งไปทันที ปากเรียกพยาบาลอยู่ตลอดเวลา


    ..............


        
    "  คุณ จักกฤษ ใช่ไหมค่ะ  "   พยาบาลเดินเข้ามาในห้องที่แก้วนอนสลบอยู่ จักกฤษ หันมาตามเสียง


     
    " ครับผม ผมจักกฤษครับ.....ไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ  "  จักกฤษ ตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพ ระคนกับความกังวลใจที่แสดงบนใบหน้าอย่างเห็นได้ชัด


         
    " อ๋อ..เปล่าค่ะ เพียงต้องการทราบว่า คุณจักกฤษ เป็นอะไรกับคนไข้ค่ะที่ถูกรถชนค่ะ   " 
    จักกฤษอึ้งไปชั่วขณะด้วยคำถามที่ไม่เคยนึกมาก่อน ก่อนตอบจักกฤษ หันไปมองแก้วที่นอนไร้สติอยู่บนเตียงด้วยความสงสาร ก่อนตอบว่า


         
    "  เป็นน้องสาวผมเองครับ  "  พยาบาลมองคุณจักฤษด้วยความสงสัยก่อนยิ้ม แล้วทำการจดลงในเอกสาร


     
     
    " งั้นดิฉันขอตัวก่อนนะคะ "  พยาบาลสาวยกมือไหว้ก่อนเดินผละจากไป


             
    จักกฤษ หันหน้ากลับมาที่แก้ว แล้วเดินเข้ามาชิดขอบเตียงก้มลงมองหน้าหนูน้อย ก่อนเอามือยกเส้นผมของหนูน้อยด้วยความเอ็นดู


    "
    หนูไม่ต้องกลัวนะ....น้าจะเป็นผู้รับผิดชอบแม่หนูเอง  "  จักกฤษพูดด้วยสีหน้าจริงจัง นัยย์ตาบ่งบอกถึงความสงสารหนูน้อยเหลือเกิน...ก่อนจะหันมามองลูกชาย ซึ่งกำลังหลับอยู่บนเก้าอี้ใกล้ๆหนูน้อยด้วยความอ่อนเพลีย....


         จักกฤษ เดินมาที่หน้าต่างมองลงไปข้างล่างเห็นบริเวณโรงพยาบาลมีคนไข้และญาติๆเดินกันขวักไขว่...และคิดอะไรเพลินๆอยู่นั้น


             
     
    " แม่..แม่คะ...แม่อย่าทิ้งแก้วไปนะคะ  " 

       เสียงลอดผ่านลำคอของหนูน้อย ฟังไม่ได้ศัพท์   พอจับใจความได้  แก้วสั่นศีรษะไปมา บนเตียงนอน จักกฤษ รีบเดินไปที่เตียงพร้อมๆกับที่พจน์ตื่นด้วยความตกใจ ทั้งสองเดินมายืนชิดขอบเตียง มองแก้วอย่างเป็นห่วง   

           
    " แม่คะ..อย่าทิ้งหนูนะคะ..หนูรักแม่  "  จักกฤษรีบคว้ามือหนูน้อยมาจับไว้ แก้วจับมือจักกฤษแน่นน้ำตาไหลไม่หยุด


      
    " น้าจะดูแล..แม่หนูเอง..นอนนะหนู  "  พูดจบหันหน้ามามองลูกชายที่กำลังมองแก้วอย่างสงสารเช่นกัน  เสียงแก้วค่อยๆหยุดนิ่งไป กลับไปสู่สภาพปกติเหมือนเดิม  จักกฤษ ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่ไหลเอ่อให้หนูน้อยก่อนจะเดินออกไป...... 

    " ลูกพจน์...ดูแลแก้วด้วยนะลูก ...เดี๋ยวพ่อกลับมา  "  พจน์พยักหน้าก่อนตอบ  "  ครับพ่อ  "

     

    ..............................

     


           
    "   คุณจักกฤษครับ ผมได้พยายามตรวจอย่างละเอียดแล้วนะครับ ก็คิดว่าคงใช่นะครับ  "
    คุณหมอพูดและอธิบายให้จักกฤษฟังในห้อง ส่วนตัว  จักกฤษไม่เข้าใจดีนักถึงคำพูดของหมอ 

      
    "   ทำไมเหรอครับคุณหมอ ..คนไข้เป็นโรคอะไรเหรอ ครับ ....ผมงงไปหมดเลย  " 

     คุณหมอก้มหน้าดูเอกสารอีกที ก่อนหันมามองคุณจักกฤษด้วยสีหน้าขรึม

      
    " ผมต้องขอโทษนะ ถ้าจะบอกคุณว่า คนไข้เป็นเนื้องงอกในสมอง  "  หมอพูดจบ จักกฤษถึงกับหน้าซีด มือไม้สั่นเหงื่อเริ่มแตกบนใบหน้า   ภาพและเสียงร้องของหนูน้อยผุดขึ้นมาในโสตประสาท ยิ่งเพิ่มความสงสารหนูน้อยเป็นทวีคูณ 

                จักกฤษก้มหน้า ก่อนถามหมอด้วยความหวัง

     
    "คุณหมอครับ..แสดงว่าผู้ป่วยมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานเหรอครับ  "


    จักกฤษถามออกไป..ทั้งๆที่กลัวคำตอบเหลือเกิน   หมอลุกขึ้นยืนและเดินไปที่หน้าต่างก่อนหันมา 

          
    " ผมคิดว่า บางครั้งโชคชะตาอาจไม่โหดร้ายเสมอไปนะครับ..คุณเชื่อปฏิหารย์หรือเปล่าครับ "  คุณหมอพูดด้วยสีหน้า จริงจัง


     
    " ปฏิหารย์.... "  จักกฤษ พูดอยู่ในลำคอ มองหน้าคุณหมอด้วยความสงสัยอะไรอีกมากมาย......

     

    ......................................

     

     ณ ห้องวีไอพี


               
    จักกฤษเดินเข้ามา อย่างเงียบกริบ เห็นร่างที่นอนไม่ไหวติง มีผ้าพันรอบศีรษะ หน้าตาซีดเซียว โครงหน้าแห่งความสวยยังปรากฏให้เห็น สายน้ำเกลือยังคงปักติดที่มือซ้ายของนุช ห้องเงียบกริบเหมือนอยู่คนเดียวในโลก.........


         จักกฤษ เดินเข้ามาชิดขอบเตียง..ก่อนก้มลงมองนุชด้วยความสงสารเธอเป็นที่สุด.....ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้ ยังคงชัดเจนอยู่ในโสตประสาทอยู่ตลอดเวลา

     

      "  ผมสัญญา...จะช่วยคุณจนสุดความสามารถ ......ปฏิหาริย์จะต้องเกิดขึ้นกับคนดีๆอย่างคุณ  "  
    จักกฤษพูดด้วยแววตาแห่งความหวัง....สายตามองหน้านุชด้วยความสงสารก่อนจะนั่งลงใกล้ๆ.......


    "
    ผมยังสงสัย...ทำไมผมต้องรู้สึก....เป็นห่วงคุณกับลูกคุณอย่างนี้  "


    ...................
     

        "   ก๊อกๆๆ     " เสียงเคาะประตูดังขัดจังหวะขึ้น จักกฤษลุกขึ้นไปเปิดประตู

      
    " ขอโทษที่รบกวนนะคะ ขอตรวจคนไข้หน่อยค่ะ......  " 

        
    พยาบาลกล่าวแล้วส่งยิ้มให้ แล้วเดินไปที่เตียงคนไข้  จักกฤษเดินตามไปดูด้วยความห่วงใย

      
    " พยาบาลครับ คนไข้มีอาการเป็นไงบ้างครับ  "  จักกฤษถามด้วยความกังวลใจ

       "  
    ตามที่ตรวจดูเป็นครั้งที่สามแล้ว คนไข้ไม่มีอะไรมากค่ะ ...มีเพียงแต่สมองเท่านั้นนะค่ะที่โดนกระแทกกับพื้น คิดว่าทุกอย่างไม่มีปัญหาค่ะ 
    " 

      จักกฤษ ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ ที่นุชไม่เป็นอะไรมาก

      
    " แล้วต้องใช้เวลาพักฟื้นนานแค่ไหนเหรอครับ  "  จักกฤษถามด้วยความกังวลใจ 

    " ก็คงอีกสักอาทิตย์หนึ่งนะคะ..คิดว่าคงออกจากโรงพยาบาลได้ค่ะ  "  นางพยาบาลส่งยิ้มให้คุณจักกฤษ

      
    " งั้นดิฉันขอตัวก่อนนะค่ะ..สบายใจได้แล้วค่ะ คนไข้ดีขึ้นค่ะ  "  พูดจบแล้วเดินจากไป  ทิ้งให้จักกฤษมองนุชด้วยความหวังที่สดชื่นขึ้น

     

                     .........................

     

       "    ตุ้ดๆๆ ๆๆ ๆๆ   "  เสียงโทรศัพท์  ดังขึ้น ขณะที่จักกฤษ  เดินจะไปห้องของแก้ว

       
    " คุณจักกฤษค่ะ..ผอ.จากบริษัทต่างประเทศต้องการทราบข้อมูลของบริษัทเราเพื่อการประสานงานค่ะ 

    "  จักกฤษถึงกับเครียดไปชั่วขณะทำไมเหตุการณ์ถึงได้มาชนกันอย่างนี้


    "
    คุณสุรัญ ช่วยบอกเลื่อนนัดคุยกันวันอื่นได้เปล่าครับ...ผมมีธุระที่ต่างจังหวัดยังเคลียร์ไม่เรียบร้อยเลยครับ  " จักกฤษพยายามเลี่ยงวันนัด  

    " คุณจักกฤษคะ ...ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองแล้วนะคะ ที่ทางบริษัทเราเลื่อนการพบค่ะ ซึ่งดิฉันคิดว่า บริษัทรายนี้สำคัญกับบริษัทเรามากนะคะ ยังงัยก็อยากให้คุณกลับมาค่ะ พรุ่งนี้ เวลาหนึ่งทุ่มตรงที่โรงแรมริมน้ำนะคะ  "  

    สิ้นเสียงเลขาสาวจากบริษัท จักกฤษถึงกับนิ่งไปชั่วขณะ ก่อนจะเงยหน้าด้วยการตัดสินใจในสิ่งที่จะทำต่อไป..แล้วเดินไปยังห้องแก้วในทันที

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×