คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : แก้วจรัสแสง
��
���������������������������������������������������������������������������� บทที่ 7
������เสียงไก่ขันยามเช้าตรู่ ...ปลุกให้นุชตกใจตื่น..หันไปมองแก้วที่นอนอยู่ใกล้ๆ .. ไม่มีแก้ว.....มีแต่หมอนข้างของแก้วที่วางอยู่ใกล้ตน และผ้าห่มที่ห่มให้นุชอย่างเรียบร้อย �นุชอมยิ้ม...
�
������ ลุกขึ้นไปเปิดหน้าต่าง มองออกไปข้างนอก���� อากาศยามเช้าเย็นสบาย� ต้นข้าวเขียวขจีเหมือนเช่นทุกวัน��เห็นลุงดำเดินจูงควายอยู่กลางทุ่งนา �นุชเดินลงมาจากบ้าน เพื่อเตรียมของไปขายในตลาด� แต่ก็ต้องแปลกใจ
����� วันนี้ทุกอย่างได้จัดไว้เรียบร้อย แก้วหันมองไปทั่วบริเวณบ้านที่ดูสะอาดผิดไปกว่าทุกวัน��นุชก็ได้ยินเสียงแปลกๆ�� นุชเดินไปตามต้นเสียง� และยิ้มอย่างภูมิใจ
���
�� “ โอ.... อู ....อี.... อือ.... โอ ’’� �แก้วในท่าขัดสมาธิอยู่ข้างจอมปลวก นั่งหลังตรง พร้อมกับสูดลมและเปล่งเสียงยาวเป็นระยะๆ �บ่อยครั้งที่สูดลมเต็มปอดและหยุดหายใจ......
� นุชมองลูกรักด้วยความสงสัย แล้วเดินกลับไปบ้านโดยที่แก้วไม่ทันสังเกต���
�� “แก้วเป็นอะไรไปนะหมู่นี้ดูแปลกๆทุกวัน’’��� นุชพึมพำกับตัวเอง แล้วจัดแจงเตรียมตัวออกจากบ้านไปตลาด แต่ทันใดนั้นก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงเรียก
“ แม่คะ..วันนี้แก้วขอไปช่วยแม่ขายของด้วยค่ะ ’’�
� นุชหันไปตามเสียงแก้ว� แล้วยิ้มให้แก้วอย่างห่วงใย �นุชสังเกตุเหงื่อท่วมตัวแก้ว ก่อนตอบว่า�
�� �“ไม่ต้องหรอกลูก� วันหยุด พักผ่อนบ้างก็ได้ �เดี๋ยวแม่ไปขายเองได้จ๊ะ �’’
แก้วเข้ามายกมือไหว้แม่ ก่อนบอกว่า��� �“ น้าแต๋วบอกหนูว่า นอกจากเราเรียนหนังสือแล้วเราต้องมีสังคมด้วยค่ะแม่ ’’�
นุชอึ้งที่ได้ยินคำพูดประโยคนี้จากปากลูกสาว ก่อนตอบว่า��
�� �“อืม งั้นก็แล้วแต่แก้วนะ แต่ห้ามบ่นว่าเหนื่อยแล้วกัน� ’’ นุชพูดและยิ้มให้ลูกสาว เป็นเชิงบอกว่าเหนื่อยแน่นอน�
�“สู้ตายค่ะแม่ ’’�� นุชยิ้มให้ลูก� แล้วยื่นมือไปลูบศีรษะแก้วเบาๆ� สองแม่ลูกก็มุ่งไปสู่ตลาดทันที...
--------
��������แก้วและนุชก้าวลงจากรถสองแถวที่นั่งมาจากหมู่บ้าน แก้วหันไปมองรอบๆ ก่อนจะถามแม่ว่า
� “ แม่คะ ..ไหนตลาดที่หนูเคยมากับแม่เมื่อก่อนล่ะคะ��’’
��นุชมองหน้าแก้วแล้วอมยิ้มเหมือนเคย ก่อนตอบว่า��� �“ ก็นั่นไงลูก� ’’
พร้อมๆกับชี้ไปที่ตลาดซึ่ง ตอนนี้กลายเป็นอาคารใหญ่�โต� มีที่นั่งขายของเรียบร้อย มีทางเดินเยอะไปหมด แก้วมองด้วยความงุนงง ก่อนนุชอธิบายให้ฟังว่า����
����
�� �“� เมื่อปีที่แล้วตลาดยังเป็นชนบทมีการขายของกันตามพื้นดินนะลูก จำได้ไหม แต่ตอนนี้มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงรูปแบบใหม่จ๊ะ ’’ แก้วพยักหน้ารับรู้ตามที่แม่เล่าให้ฟัง
“ นุช ..นุช ’’ เสียงเรียกดังมาจากตลาด นุชและแก้วต่างหันไปตามเสียงเรียก��
“ สวัสดีค่ะ ป้าปุก ’’� นุชยกมือไหว้ผู้สูงวัยกว่าด้วยความเคารพ พลางบอกแก้วว่า�
“ แก้วไหว้ยายซิลูก� ’’���� �แก้วยกมือไหว้����� �“สวัสดีค่ะยาย ’’
ป้าปุกเดินเข้ามาหาเด็กน้อยก่อนพูดว่า �“ไหว้พระเถิดหนู แหมน่ารักไม่แพ้แม่เลยนะ� ’’
�ป้าปุกกล่าวชมแก้ว แล้วหันมาพูดกับนุช�
� “เป็นอะไรไปเหรอนุช�� ดูหน้าตาเหมือนคนไม่ได้พักผ่อนเลยนะ ไม่สบายเหรอ ’’
ป้าปุกพูดด้วยความเป็นห่วง เห็นสีหน้านุชซีดเซียว นุชยิ้มก่อนพูดว่า�
��“ ไม่มีอะไรนี่คะป้าปุก นุชสบายดีค่ะ ’’ ป้าปุกมองด้วยความเป็นห่วงแล้วพูดว่า
������“อืม ยังงัยก็พักผ่อนบ้างนะเดียวเป็นลมเป็นแล้งไปอีกหรอก ’’
����� พูดจบแล้วเดินไปประจำที่ในตลาดซึ่งตอนนี้ก็มีคนมาซื้อของกันบ้างแล้ว นุชหันมามองแก้ว แล้วยิ้ม ก่อนบอกแก้วว่า
“ป้าปุก เป็นคนดีและเป็นห่วงแม่เสมอ ทุกวันก็จะพูดแบบนี้แหละ ’’ พูดจบนุชจูงมือแก้วให้เดินตามเข้าไปในตัวอาคารตลาด��� คำพูดยายปุกที่พูดเมื่อครู่ ยังคงดังอยู่ในโสตประสาทของแก้วซ้ำไปซ้ำมา�� “เดียวเป็นลมเป็นแล้งไปอีกหรอก��� ’’
...................
����� “ผักบุ้งกำละ 5� บาทค่ะ ’’ นุชบอกราคากับลูกค้าด้วยร้อยยิ้มที่จริงใจ
���"วันนี้ผักสดกว่าทุกวันนะ..อืม ฉันซื้อ�3 กำแล้วกัน ’’��� ลูกค้าพูดพลางยื่นเงินให้นุช 20 บาท�
� “เงินทอนค่ะ ขอบคุณที่ช่วยอุดหนุนนะคะ ’’ พูดจบแล้วยิ้มให้ลูกค้า
�แก้วนั่งดูแม่ตัวเองอย่างสนใจ หลายครั้งที่แม่ยกมือขึ้นปาดเหงื่อที่ไหล แล้วหันมายิ้ม
“เป็นไงบ้างแก้ว หิวแล้วยัง เดี๋ยวแม่ไปซื้อขนมมาให้นะ รอแม่แป๊บ’’�
แก้วสั่นศีรษะ ก่อนพูดว่า�� “ไม่ค่ะแม่ แก้วยังไม่หิว� ยังอิ่มอยู่เลยค่ะแม่ ’’�� �นุชหันมายิ้ม “งั้นแม่หิวเองแล้วกัน...รอแม่เดี๋ยวนะเดี๋ยวแม่มา ’’
����� พูดจบ นุชเดินมุ่งตรงไปที่ร้านขนมที่อยู่อีกฟากหนึ่งของตลาด �แก้วมองดูแม่ด้วยความห่วงใย�
“ หนูจ๊ะ.. ผักขายไง ...อ้าวแล้วแม่ค้าไปไหนล่ะ’’� �แก้วยกมือไหว้ก่อนพูดว่า�� �“สวัสดีค่ะ แม่ไปซื้อขนมค่ะ...เดี๋ยวมา ป้าคะ ผักบุ้งกำล่ะ 5 บาทค่ะ แก้วพูดยิ้มๆ ’’
�� ลูกค้าหันมายิ้มก่อนพูดว่า “ ..งั้นป้าซื้อ 3 กำจ๊ะ ’’�� �พูดจบพลางส่งเงินให้แก้ว��
“ มาช่วยแม่ขายหรือจ๊ะหนู�... �ดีนะเป็นเด็กเป็นเล็กขยันช่วยแม่ทำงาน ..ดีกว่าลูกป้าอีก วันๆไม่ทำอะไรเลย ’’���� พูดพลางทำหน้าโมโห ��แก้วตั้งใจฟังแต่ไม่ได้ตอบ�
�“ป้าคะ เงินทอน 5 บาทค่ะ ขอบคุณค่ะที่ช่วยอุดหนุน ’’ แก้วพูดด้วยรอยยิ้ม แล้วหันมาดูเงินที่ตัวเองรับมา อย่างมีความสุข
���� �
................................
���
หลายชั่วโมงผ่านไป
������
��� � แก้วหันไปดูนาฬิกาบอกเวลา บ่ายโมงครึ่งแล้ว แต่แม่ยังไม่กลับมา��� แก้วชะเง้อมองหาแม่ไปทั่ว มีคนเดินจ่ายตลาดกันขวักไขว่ แต่ไร้วี่แววของแม่จะกลับมา�
�� “หนูจ๊ะ ขอแตงกว่า 2 กิโล ’’ แก้วชะเง้อหาแม่ ก่อนตอบ�� “ได้ค่ะป้า..10 บาทค่ะป้า� ’’� แก้วรับเงินและส่งยิ้มให้ลูกค้า แต่ทว่าหัวใจหนูน้อยเริ่มกังวลที่แม่ยังไม่กลับมา
������� “ลูกแก้ว...ลูกแก้ว...ลูกแก้ว มานี่หน่อยลูก ’’��
��� เสียงตะโกนของป้าปุก ดังมาแต่ไกล� แก้วหันไปมองด้วยความตกใจ เงินทอนตกลงบนผักโดยไม่สนใจ�� รีบกระโดดลงจากที่ขายของ วิ่งตรงไปที่ยายปุก ด้วยหน้าซีดเซียวและตกใจ�
�� ��“ยายคะ.. มีอะไรหรือค่ะ ยายเห็นแม่หนูหรือเปล่าค่ะ ’’ แก้วถามยายปุกด้วยความกังวลใจที่สุด� ยายปุกหน้าซีดเหงื่อท่วมตัว �ได้แต่�พยักหน้า ก่อนตอบว่า
�� “แม่แก้วถูกรถชน’’����
����� คำตอบที่ได้ยินทำหนูน้อยหน้าซีดเผือด อย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน� แก้วน้ำตาไหลออกมาอย่างไม่ตั้งใจ มือไม้สั่นเทา �“แม่หนูถูกรถชน............ แม่หนูถูกรถชน’’ แก้วพูดในลำคออย่างไม่เชื่อ...�
ป้าปุกรีบดึงมือแก้ว ไปที่เกิดเหตุ ก่อนที่อะไรจะสายไปกว่านี้...หนูน้อยเอาวิ่งตามยายปุกไปด้วยความห่วงใย......." แม่............แม่"��
......................................
ความคิดเห็น